สวัสดีค่ะ

ตอนนี้คุณแม่เครียดมาก เพราะมีหมายเรียกจำเลยจากศาล นัดให้ไปไกล่เกลี่ย ให้ความ และสืบพยาน เรื่องหนี้บัตรเครดิตของคุณพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว รวมยอดเงิน 117,341 บาทค่ะ


คุณพ่อเสียชีวิตเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2559 ตอนที่คุณพ่อเสียชีวิต ไม่ได้ทิ้งมรดกอะไรไว้ให้ภรรยาและลูกเลย ไม่มีที่ดิน บ้าน หรือทรัพย์สินอะไรให้ค่ะ


หลังจากพ่อเสียได้ไม่กี่วัน ทางธนาคารก็โทรมาทวงถามหนี้ ซึ่งคุณแม่ได้แจ้งว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว แต่ทางธนาคารก็ยังคงโทรมาตามทวงหนี้ และส่งเอกสารทวงหนี้ต่างๆ มาที่บ้านคุณแม่


ทั้งนี้ คุณพ่อมีลูก 3 คน คือ พี่สาวคนโต เรา และน้องชายคนเล็กอายุ 7 ขวบ ซึ่งคุณพ่อได้ทำประกันชีวิตไว้ โดยลงชื่อน้องชายคนเล็กให้ได้รับเงินคนเดียวหากคุณพ่อเสียชีวิต คุณแม่เลยนำเงินที่ได้มาให้เราจัดการฝากธนาคารเป็นชื่อเราทั้งหมด เพื่อให้เราบริหารค่าใช้จ่ายส่วนนี้ในการเลี้ยงดูแม่และน้องชาย

ปล. หมายเรียกจำเลย ได้ฟ้อง คุณแม่เป็นจำเลยที่ 1 และเราเป็นจำเลยที่ 2 (ส่วนพี่สาวคนโตไม่โดนฟ้องค่ะ) สาเหตุน่าจะเป็นเพราะว่าคุณแม่ย้ายมาอยู่ในทะเบียนบ้านเรา ที่เราเป็นเจ้าบ้าน


ก่อนหน้าพ่อจะเสียหลายเดือน เราและแฟนได้ทำเรื่องกู้ซื้อบ้าน โดยในโฉนดเป็นชื่อเราและแฟน บ้านหลังนี้คุณพ่อไม่มีชื่อหรือส่วนเกี่ยวข้องในการกู้ใดๆ ส่วนที่เจ้าบ้านเป็นชื่อเรา เพราะจะใช้สิทธิให้น้องจับฉลากในโรงเรียนใกล้บ้าน เลยให้คุณแม่และน้องชายย้ายมาอยู่ในทะเบียนบ้านหลังนี้ค่ะ


อยากจะสอบถามว่า

1. หนี้นี้เราต้องรับผิดชอบจ่ายใช่ไหม เพราะเขาฟ้องมาแล้ว เข้าใจถูกต้องไหมคะ ใจจริงคือไม่ต้องการจ่ายเพราะเป็นหนี้สินที่คุณพ่อใช้เอง ไม่เกี่ยวกับเรา (คุณพ่อไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วย พ่ออยู่ต่างจังหวัดกับภรรยาอีกคนที่ไม่ได้จดทะเบียนค่ะ)


2. เขาสามารถเรียกเอาเงินประกันชีวิตที่ได้มาเอาไปจ่ายหนี้ได้ไหม หรือสามารถมาเรียกเอาทรัพย์สินของคุณแม่หรือของเราได้ไหม (ทรัพย์สินพวกนี้เราจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นชื่อคนอื่นหรือเอาชื่อเราออกไหมคะ)

ทรัพย์สินคุณแม่ – มีที่ดินจากมรดกครอบครัวคุณแม่ โดยเป็นชื่อคุณแม่คนเดียว ไม่มีชื่อคุณพ่อเกี่ยวข้องใดๆ

ทรัพย์สินเรา – บ้านที่กู้ซื้อกับธนาคาร โดยกู้ร่วมกันสามี ในโฉนดเป็นชื่อเราและสามีค่ะ


3. เราจำเป็นต้องถอนเงินประกันชีวิตในบัญชีออกมาไหมคะ เพราะหลายคนบอกว่าเขาจะตามสืบดูเงินในบัญชีเราว่ามีเท่าไหร่ ทั้งนี้เงินส่วนนี้เราแบ่งฝากหลายบัญชี มีสลากออมสิน ฝากประจำ และฝากสำหรับถอนมาใช้จ่ายค่าเทอมน้อง และค่าใช้จ่ายรายเดือนให้คุณแม่

ปล. คุณแม่เป็นแม่บ้าน ไม่มีรายได้หรือทำงานใดๆ เงินประกันที่ได้มาทั้งหมด ตั้งใจว่าจะใช้เป็นทุนการศึกษาให้น้องชายค่ะ เพราะคุณแม่ไม่มีรายได้ ส่วนเราก็มีค่าผ่อนบ้านทุกเดือน และค่าใช้จ่ายต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เลยอาจจะช่วยซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายของแม่และน้องได้ไม่มาก


4. เคยอ่านเจอว่า ธนาคารต้องฟ้องภายใน 1 ปี คือไม่ทราบว่าเข้าใจถูกต้องไหมว่า ต้องฟ้องภายใน 1 ปีที่คุณพ่อเสีย หรือยังไง เพราะคุณพ่อเสียวันที่ 9 ธันวาคม 2559 ส่วนหมายฟ้องที่มีมาคือลงวันที่ 21 ธันวาคม 2560 ค่ะ ถ้าแบบนี้แสดงว่ามีผลยังไงคะ



5. วันที่ไปศาล จำเป็นต้องมีทนายไปด้วยกับเราไหมคะ



6. ขอคำแนะนำดีๆ สำหรับเรื่องนี้ เพราะถ้าบอกตามตรงคือ เราไม่อยากจ่ายให้ธนาคารค่ะ เพราะหนี้นี้เป็นหนี้ของคุณพ่อ เราและแม่ไม่ได้เกี่ยวข้องในการใช้จ่ายด้วยเลย จะมีวิธีพูดยังไงให้ชนะบ้างคะ รบกวนด้วยนะคะ



ขอบคุณพระคุณมากๆ ค่ะ