30 ธ.ค. 2560 ออกจากตัวเมืองพะเยา ผ่านอำเภอจุน มุ่งหน้าไปอำเภอเชียงคำไปตามเส้นทางหมายเลข 1021 และ 1148 เส้นทางเดียวกับ "วัดนันตาราม" ขับต่อไปตามป้ายบอกทางเลย มุ่งหน้าสู่ "วัดพระเจ้านั่งดิน"
ป้ายหน้าวัดใหญ่มาก มองเห็นชัดเจน ด้านตรงข้ามเป็นสถานีตำรวจพระเจ้านั่งดิน ชื่อเหมือนวัดเลย พอเข้าไปบริเวณวัด มีรถจอดอยู่แล้วจำนวนมาก แสดงว่าเป็นวัดยอดนิยม เห็นมีโบสถ์ใหญ่สะดุดตาอยู่เพียงหลังเดียว หน้าโบสถ์มีป้ายประวัติของพระนั่งดิน
เข้าไปในโบสถ์ พระเจ้านั่งดินองค์จริง อยู่ด้านหลังกระจก ห่มผ้าเหลืองเรียบร้อย
เห็นแล้วก็เกิดความศรัทธา เลื่อมใสขึ้นมาทันที ลึกๆในใจก็คิดว่า ...ทำไมท่านถึงดื้อนัก
ไม่ยอมขึ้นตั่ง (ฐานชุกชี) ที่ชาวบ้านทำให้... ...แต่ก็เพราะเหตุนี้ จึงได้ทำให้เกิดความศรัทธาจากคนทั่วไป...
ประวัติพระเจ้านั่งดิน ตามที่จารึกไว้
"ตามตำนานเล่าว่า พระยาผู้ครองเมืองพุทธรสะ ได้ค้นพบประวัติ (ตำนานเมื่อนมจตุ จุลศักราช 1213 ปีระกา เดือน 6 แรม 3 ค่ำ วันจันทร์) พระพุทธเจ้าได้เสด็จออกเมตตาสรรพสัตว์รอบโลกโดยทางอภินิหาร พอพระองค์เสด็จมาถึงเวียงพุทธรสะ อำเภอเชียงคำในปัจจุบัน พระองค์ได้เสด็จประทับอยู่บนดอยสิงกุตตระ พระธาตุดอยคำปัจจุบัน ทรงแผ่เมตตาและประสาทพร
ตรัสสั่งพระยาคำแดง เจ้าเมืองพุทธรสะในขณะนั้น ให้สร้างรูปเหมือนของพระองค์ไว้ยังเมืองพุทธรสะนี้ พอสัพพัญญูเจ้าตรัสจบ ก็ปรากฏว่ามี พระยาอินทร์องค์หนึ่ง พระยานาคตนหนึ่ง พระฤาษี 2 รูป และพระอรหันต์ 4 องค์ ช่วยกันเนรมิตเอาดินศักดิ์สิทธิ์จากเมืองลังกาทวีปมาสร้างรูปเหมือนของพระพุทธองค์ โดยใช้เวลาสร้างหนึ่งเดือนกับเจ็ดวัน จึงแล้วเสร็จ
ครั้งเมื่อพระองค์ได้เสด็จโปรดสัตว์ทั่วถึงแล้ว จึงเสด็จเข้าสู่เมืองพุทธรสะอีกครั้งทรงเห็นรูปเหมือนที่ทรงให้สร้างนั้นเล็กกว่าองค์ตถาคต จึงตรัสให้เอาดินมาเสริมให้ใหญ่เท่าพระองค์ แล้วพระสัพทัญญูเจ้าได้แผ่รัศมีออกครอบจักรวาล
รูปปั้นจำลองจึงเลื่อนลงจากฐานชุกชีแท่น มากราบไหว้พระสัพทัญญูเจ้า พระองค์ได้ตรัสเทศน์กับรูปเหมือนที่ให้สร้างนั้นว่า "ขอให้ท่านจงอยู่รักษาศาสนาของกูตถาคตให้ครบ 5,000 พระวรรษา" เทวรูปเหมือนนั้นได้กราบน้อมรับเอา แล้วประดิษฐานอยู่บนผืนดินนั้น พระรูปเหมือนดังกล่าวคือ พระเจ้านั่งดินในปัจจุบันนี้เอง
เป็นที่น่าสังเกตุว่า พระเจ้านั่งดินองค์นี้ ไม่ได้ประทับบนฐานชุกชีเหมือนกับพระพุทธรูป ในอุโบสถวัดอื่นๆ มีผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า เคยมีชาวบ้านพากันสร้างฐานชุกชี แล้วอัญเชิญพระเจ้านั่งดินขึ้นประทับ แต่มีเหตุปาฏิหารย์เกิดฟ้าผ่าลงมาที่อุโบสถถึง 3 ครั้ง พุทธบริษัททั้งหลายจึงอาราธนาลงมาประดิษฐานบนพื้นดินดังเดิม ตราบเท่าทุกวันนี้
ภายในโบสถ์ มีตู้เสี่ยงเซียมซี กล่าวคือ ให้เราทำบุญหย่อนเงินในช่องที่กำหนดตามกำลังศรัทธา จะมีไฟหมุนไปตามหมายเลขต่างๆ แล้วไปหยุดอยู่ตัวเลขใดตัวเลขหนึ่ง ขณะที่ตัวเลขหมุนนั้น ก็มีเสียงเทศน์อวยพรของพระ จนเราต้องยกมือพนมรับพรจากตู้ดังกล่าว พอเสียงเทศน์จบลง แสงไฟก็หยุดหมุนที่ตัวเลขหนึ่ง เราก็ไปหยิบกระดาษมาอ่าน ถ้าทำนายดีก็นำมาเก็บไว้ ถ้าทำนายไม่ดี ก็เอากระดาษทำนายวางไว้ที่เดิม ...555...
ที่ใกล้ๆกัน ก็มีช้างทำนาย อยากได้สิ่งใดให้ไปนั่งข้างๆช้าง ซ้ายหรือขวาก็ได้ แล้วใช้นิ้วเกี่ยวช้าง ผู้ชายให้ใช้นิ้วก้อย ผู้หญิงให้ใช้นิ้วนาง จะเป็นด้านซ้ายหรือด้านขวาก็ได้เช่นกัน (อันนี้เราต้องวางแผน) ครั้งที่1 อธิษฐาน ถ้าเป็นไปตามที่อธิษฐาน ขอให้นิ้วเกี่ยวช้างขึ้น ครั้งที่2 อธิษฐาน ถ้าเป็นไปตามที่อธิษฐาน ขอให้นิ้วเกี่ยวช้าง ไม่ขึ้น ...ในคำอธิบาย เขียนไว้อย่างนี้จริงๆ...
...มนุษย์เรานั้น เข้าข้างตัวเองอยู่แล้ว เกี่ยวครั้งที่ 1 ออกแรงเต็มที่ ทำให้เกี่ยวช้างขึ้น เกี่ยวครั้งที่ 2 ออมแรงหน่อยๆ ทำให้เกี่ยวช้างไม่ขึ้น ...555... คำอธิษฐานเป็นจริง...
ด้านข้างโบสถ์ มีร้านขายเสื้อผ้าพื้นเมือง ขนม เครื่องดื่มต่างๆ
ห้องน้ำ สะอาดมาก
ด้านหน้าวัด มีการจัดตกแต่ง ให้คนไปถ่ายรูปเล่น โดยเฉพาะวัยรุ่นชอบมาถ่ายรูปมุมนี้มาก
วัดพระเจ้านั่งดิน ...ความมหัสจรรย์ของพระพุทธรูป...
ป้ายหน้าวัดใหญ่มาก มองเห็นชัดเจน ด้านตรงข้ามเป็นสถานีตำรวจพระเจ้านั่งดิน ชื่อเหมือนวัดเลย พอเข้าไปบริเวณวัด มีรถจอดอยู่แล้วจำนวนมาก แสดงว่าเป็นวัดยอดนิยม เห็นมีโบสถ์ใหญ่สะดุดตาอยู่เพียงหลังเดียว หน้าโบสถ์มีป้ายประวัติของพระนั่งดิน
เข้าไปในโบสถ์ พระเจ้านั่งดินองค์จริง อยู่ด้านหลังกระจก ห่มผ้าเหลืองเรียบร้อย
เห็นแล้วก็เกิดความศรัทธา เลื่อมใสขึ้นมาทันที ลึกๆในใจก็คิดว่า ...ทำไมท่านถึงดื้อนัก
ไม่ยอมขึ้นตั่ง (ฐานชุกชี) ที่ชาวบ้านทำให้... ...แต่ก็เพราะเหตุนี้ จึงได้ทำให้เกิดความศรัทธาจากคนทั่วไป...
ประวัติพระเจ้านั่งดิน ตามที่จารึกไว้
"ตามตำนานเล่าว่า พระยาผู้ครองเมืองพุทธรสะ ได้ค้นพบประวัติ (ตำนานเมื่อนมจตุ จุลศักราช 1213 ปีระกา เดือน 6 แรม 3 ค่ำ วันจันทร์) พระพุทธเจ้าได้เสด็จออกเมตตาสรรพสัตว์รอบโลกโดยทางอภินิหาร พอพระองค์เสด็จมาถึงเวียงพุทธรสะ อำเภอเชียงคำในปัจจุบัน พระองค์ได้เสด็จประทับอยู่บนดอยสิงกุตตระ พระธาตุดอยคำปัจจุบัน ทรงแผ่เมตตาและประสาทพร
ตรัสสั่งพระยาคำแดง เจ้าเมืองพุทธรสะในขณะนั้น ให้สร้างรูปเหมือนของพระองค์ไว้ยังเมืองพุทธรสะนี้ พอสัพพัญญูเจ้าตรัสจบ ก็ปรากฏว่ามี พระยาอินทร์องค์หนึ่ง พระยานาคตนหนึ่ง พระฤาษี 2 รูป และพระอรหันต์ 4 องค์ ช่วยกันเนรมิตเอาดินศักดิ์สิทธิ์จากเมืองลังกาทวีปมาสร้างรูปเหมือนของพระพุทธองค์ โดยใช้เวลาสร้างหนึ่งเดือนกับเจ็ดวัน จึงแล้วเสร็จ
ครั้งเมื่อพระองค์ได้เสด็จโปรดสัตว์ทั่วถึงแล้ว จึงเสด็จเข้าสู่เมืองพุทธรสะอีกครั้งทรงเห็นรูปเหมือนที่ทรงให้สร้างนั้นเล็กกว่าองค์ตถาคต จึงตรัสให้เอาดินมาเสริมให้ใหญ่เท่าพระองค์ แล้วพระสัพทัญญูเจ้าได้แผ่รัศมีออกครอบจักรวาล
รูปปั้นจำลองจึงเลื่อนลงจากฐานชุกชีแท่น มากราบไหว้พระสัพทัญญูเจ้า พระองค์ได้ตรัสเทศน์กับรูปเหมือนที่ให้สร้างนั้นว่า "ขอให้ท่านจงอยู่รักษาศาสนาของกูตถาคตให้ครบ 5,000 พระวรรษา" เทวรูปเหมือนนั้นได้กราบน้อมรับเอา แล้วประดิษฐานอยู่บนผืนดินนั้น พระรูปเหมือนดังกล่าวคือ พระเจ้านั่งดินในปัจจุบันนี้เอง
เป็นที่น่าสังเกตุว่า พระเจ้านั่งดินองค์นี้ ไม่ได้ประทับบนฐานชุกชีเหมือนกับพระพุทธรูป ในอุโบสถวัดอื่นๆ มีผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า เคยมีชาวบ้านพากันสร้างฐานชุกชี แล้วอัญเชิญพระเจ้านั่งดินขึ้นประทับ แต่มีเหตุปาฏิหารย์เกิดฟ้าผ่าลงมาที่อุโบสถถึง 3 ครั้ง พุทธบริษัททั้งหลายจึงอาราธนาลงมาประดิษฐานบนพื้นดินดังเดิม ตราบเท่าทุกวันนี้
ภายในโบสถ์ มีตู้เสี่ยงเซียมซี กล่าวคือ ให้เราทำบุญหย่อนเงินในช่องที่กำหนดตามกำลังศรัทธา จะมีไฟหมุนไปตามหมายเลขต่างๆ แล้วไปหยุดอยู่ตัวเลขใดตัวเลขหนึ่ง ขณะที่ตัวเลขหมุนนั้น ก็มีเสียงเทศน์อวยพรของพระ จนเราต้องยกมือพนมรับพรจากตู้ดังกล่าว พอเสียงเทศน์จบลง แสงไฟก็หยุดหมุนที่ตัวเลขหนึ่ง เราก็ไปหยิบกระดาษมาอ่าน ถ้าทำนายดีก็นำมาเก็บไว้ ถ้าทำนายไม่ดี ก็เอากระดาษทำนายวางไว้ที่เดิม ...555...
ที่ใกล้ๆกัน ก็มีช้างทำนาย อยากได้สิ่งใดให้ไปนั่งข้างๆช้าง ซ้ายหรือขวาก็ได้ แล้วใช้นิ้วเกี่ยวช้าง ผู้ชายให้ใช้นิ้วก้อย ผู้หญิงให้ใช้นิ้วนาง จะเป็นด้านซ้ายหรือด้านขวาก็ได้เช่นกัน (อันนี้เราต้องวางแผน) ครั้งที่1 อธิษฐาน ถ้าเป็นไปตามที่อธิษฐาน ขอให้นิ้วเกี่ยวช้างขึ้น ครั้งที่2 อธิษฐาน ถ้าเป็นไปตามที่อธิษฐาน ขอให้นิ้วเกี่ยวช้าง ไม่ขึ้น ...ในคำอธิบาย เขียนไว้อย่างนี้จริงๆ...
...มนุษย์เรานั้น เข้าข้างตัวเองอยู่แล้ว เกี่ยวครั้งที่ 1 ออกแรงเต็มที่ ทำให้เกี่ยวช้างขึ้น เกี่ยวครั้งที่ 2 ออมแรงหน่อยๆ ทำให้เกี่ยวช้างไม่ขึ้น ...555... คำอธิษฐานเป็นจริง...
ด้านข้างโบสถ์ มีร้านขายเสื้อผ้าพื้นเมือง ขนม เครื่องดื่มต่างๆ
ห้องน้ำ สะอาดมาก
ด้านหน้าวัด มีการจัดตกแต่ง ให้คนไปถ่ายรูปเล่น โดยเฉพาะวัยรุ่นชอบมาถ่ายรูปมุมนี้มาก