ลุงตู่อยากช่วยเหลือคนขายลูกหมาพันธุ์แท้บางแก้ว พิษณุโลก ก็เลยซื้อน้องหมา 3 ตัวด้วยเจตนาดี
แต่นักการเมืองบ้าหนัก ทั้งบ้าจี้ ใช้กฎเหล็ก 3000 บาท มาฟาดฟันลุงตู่ ในเรื่องไม่น่าเป็นเรื่องใหญ่เอามากระจายเสียใหญ่โต
อ่านข่าวนี้แล้วก็น่าเวทนานักการเมืองบ้าจี้คนนี้ค่ะ
"เจี๊ยบ"ยกบั้นปลายชีวิตนักการเมืองทรราชสอน"บิ๊กตู่"
http://www.thaipost.net/?q=node/40118
ดิฉันว่า..หมวดจอจานใช้ดี้ดีคนนี้ เป็นนักการเมืองนกแก้วนกขุนทอง ดิฉันขอกากบาทค่ะ ไม่มีคุณสมบัตินักการเมืองที่ดี มีแต่การพูดส่อเสียดบิดเบือนใส่รัฐบาลลุงตู่ จนถูกฟ้อง ไปไม่ถึงฝั่งฝันที่จะได้เป็นนักการเมืองดีๆ มีแต่รับใช้พรรคเพื่อเป็นนักการเมืองใบตองแห้ง หมดอนาคตที่จะไปได้สูงกว่านี้ ถ้าไม่ปรับปรุงวาจามารยาทในการวิจารณ์ ประชาชนเอือมระอาว่ากันทั้งบ้านเมือง ไม่มีใครตักเตือนเลยหรือไงคะ..?
ไปอ่านเจอข่าวเก่านี้มา น่าจะเป็นสมัยคุณอภิสิทธิ์ ว่าไว้ดังนี้ 👇👇👇👇👇
"พวกที่เอากฎหมายไปเล่นทางการเมือง ร้องเข้ามาเพื่อให้เป็นข่าว แล้วเอาข่าวไปเล่นการเมืองกัน ที่จริงไม่ควรทำเลย ไม่ควรร้องเข้ามาโดยมีเบื้องหลัง คือต้องตรงไปตรงมา ผมเห็นว่าฝ่ายที่ถูกกลั่นแกล้งสามารถเอาคืนได้ โดยการฟ้องกลับได้ บ้านเมืองที่เสียหายเวลานี้มาจากนักการเมืองทั้งนั้น เพราะว่านักการเมืองเล่นงานกันเองไปมาอย่างพร่ำเพรื่อ ที่จริงคนที่เป็นนักการเมืองต้องเสียสละในการทำงานทางการเมือง แต่ทุกวันนี้พวกที่ทำงานการเมืองเอาผลประโยชน์ตัวเองเป็นหลัก ดังนั้นสิ่งที่ปรากฏเป็นข่าวทุกวันนี้ ล้วนแต่ทำให้บ้านเมืองเสียหายทั้งนั้น ทั้งที่เป็นผู้ใหญ่ โตๆ กันแล้ว"
ศ.ดร.เกริกเกียรติ พิพัฒนเสรีธรรม อดีตกรรมการ ป.ป.ช.ชุดแรก ซึ่งเป็นผู้ออกประกาศเกี่ยวกับเรื่อง 3,000 บาท เริ่มแสดงความเห็น
จากนั้นเริ่มอธิบายถึงที่มาที่ไปของประกาศฉบับนี้ว่า ประกาศฉบับนี้ได้ออกเมื่อปี 2543 โดย ป.ป.ช. มองว่า งานทำบุญประเพณี ใส่ซองกฐิน หรืองานแต่งงาน งานศพ มีการใส่ซองให้กันประมาณ 1,000-2,000 บาท ซึ่งถือว่าเงินจำนวนดังกล่าวไม่มาก เป็นเรื่องปกติ จึงเป็นที่มาของการห้ามรับเงินเกิน 3,000 บาท
แต่ถ้าเห็นว่าเงินจำนวน 3,000 บาท ปัจจุบันมันต่ำไปแล้วก็แก้ไขเปลี่ยนแปลงได้
แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่ควรเปลี่ยน เงิน 3,000 บาท ควรเป็นตัวตั้งอยู่เหมือนเดิม แม้ว่าค่าเงินมันจะลดลงก็ตาม"
"แต่ถ้าสิ่งของที่รับมานั้นมีค่าเกิน 3,000 บาท หากรับมาแล้วก็ทำได้ 2 ทาง คือ ส่งคืนให้แก่ เจ้าของไปหรือแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบว่าได้รับของขวัญมา แล้วให้ลงทะเบียนเป็นของราชการไป ในกรณีที่เป็นนายกรัฐมนตรีหากไม่ส่งคืนเจ้าของ ก็แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลที่รับผิดชอบเรื่องนี้ทราบเพื่อลงทะเบียนเป็น "ของหลวง" อย่างกรณีที่นายกฯ รับแหวนทองราคาเกิน 3,000 บาท หากคืนไปก็จบ ไม่ใช่รับแหวนมาก็ถือเป็นความผิดสำเร็จแล้ว
ซึ่งก็เหมือนกับสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ ที่เพื่อนร่วมรุ่นทำสร้อยคอให้ ป.ป.ช. ก็บอกว่าถ้ารู้ว่าเกิน 3,000บาท คืนให้เจ้าของไปก็จบ"
http://www.komchadluek.net/news/politic/40083
จะหานักการเมืองดีๆในอุดมคติมาเป็นตัวอย่าง ก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร เพราะการเป็นนักการเมือง
ไม่ต้องมีคุณสมบัติอะไรมาก
มีอุดมการณ์นักการเมืองแล้วแต่พรรคจะสั่งให้พูด แต่ถ้าสามารถด่าว่าฝ่ายตรงข้ามได้มากเท่าไหร่ก็มีคะแนนจากพรรคเพิ่มอาจได้เป็นโฆษกพรรค
จากการอ่านความคิดเห็นของอดีตป.ป.ช.สรุปได้ว่า...
-รับแล้ว สามารถคืนได้ด้วย ไม่ผิด
-รับแล้ว ไม่คืนก็นำไปลงทะเบียนเป็นของราชการ
-แก้ไขให้มีราคา 3000 บาท ให้สูงขึ้นได้ตามค่าของเงินที่ลดลงไป แต่ส่วนตัวในปี 2552 ท่านไม่เห็นด้วย นี่ปีอะไรแล้วล่ะ
- เรื่องแบบนี้ในสมัยทักษิณก็มีด้วย เพื่อนร่วมรุ่นคนไหนที่เป็นนักการเมืองทำสร้อยคอ ให้ป.ป.ช.
ดิฉันก็เพิ่งทราบค่ะ...แล้วคนในพรรคเพื่อไทยไม่ทราบเลยหรือคะ
อุตส่าห์เป็นโฆษกพรรคนกแก้วนกขุนทอง..😉😉😉
🐶~มาลาริน~เมื่อนักการเมืองบ้าหนัก บ้าจี้ ใช้กฎเหล็ก 3 พัน นำมาเล่นงานลุงตู่
แต่นักการเมืองบ้าหนัก ทั้งบ้าจี้ ใช้กฎเหล็ก 3000 บาท มาฟาดฟันลุงตู่ ในเรื่องไม่น่าเป็นเรื่องใหญ่เอามากระจายเสียใหญ่โต
อ่านข่าวนี้แล้วก็น่าเวทนานักการเมืองบ้าจี้คนนี้ค่ะ
"เจี๊ยบ"ยกบั้นปลายชีวิตนักการเมืองทรราชสอน"บิ๊กตู่"
http://www.thaipost.net/?q=node/40118
ดิฉันว่า..หมวดจอจานใช้ดี้ดีคนนี้ เป็นนักการเมืองนกแก้วนกขุนทอง ดิฉันขอกากบาทค่ะ ไม่มีคุณสมบัตินักการเมืองที่ดี มีแต่การพูดส่อเสียดบิดเบือนใส่รัฐบาลลุงตู่ จนถูกฟ้อง ไปไม่ถึงฝั่งฝันที่จะได้เป็นนักการเมืองดีๆ มีแต่รับใช้พรรคเพื่อเป็นนักการเมืองใบตองแห้ง หมดอนาคตที่จะไปได้สูงกว่านี้ ถ้าไม่ปรับปรุงวาจามารยาทในการวิจารณ์ ประชาชนเอือมระอาว่ากันทั้งบ้านเมือง ไม่มีใครตักเตือนเลยหรือไงคะ..?
ไปอ่านเจอข่าวเก่านี้มา น่าจะเป็นสมัยคุณอภิสิทธิ์ ว่าไว้ดังนี้ 👇👇👇👇👇
"พวกที่เอากฎหมายไปเล่นทางการเมือง ร้องเข้ามาเพื่อให้เป็นข่าว แล้วเอาข่าวไปเล่นการเมืองกัน ที่จริงไม่ควรทำเลย ไม่ควรร้องเข้ามาโดยมีเบื้องหลัง คือต้องตรงไปตรงมา ผมเห็นว่าฝ่ายที่ถูกกลั่นแกล้งสามารถเอาคืนได้ โดยการฟ้องกลับได้ บ้านเมืองที่เสียหายเวลานี้มาจากนักการเมืองทั้งนั้น เพราะว่านักการเมืองเล่นงานกันเองไปมาอย่างพร่ำเพรื่อ ที่จริงคนที่เป็นนักการเมืองต้องเสียสละในการทำงานทางการเมือง แต่ทุกวันนี้พวกที่ทำงานการเมืองเอาผลประโยชน์ตัวเองเป็นหลัก ดังนั้นสิ่งที่ปรากฏเป็นข่าวทุกวันนี้ ล้วนแต่ทำให้บ้านเมืองเสียหายทั้งนั้น ทั้งที่เป็นผู้ใหญ่ โตๆ กันแล้ว"
ศ.ดร.เกริกเกียรติ พิพัฒนเสรีธรรม อดีตกรรมการ ป.ป.ช.ชุดแรก ซึ่งเป็นผู้ออกประกาศเกี่ยวกับเรื่อง 3,000 บาท เริ่มแสดงความเห็น
จากนั้นเริ่มอธิบายถึงที่มาที่ไปของประกาศฉบับนี้ว่า ประกาศฉบับนี้ได้ออกเมื่อปี 2543 โดย ป.ป.ช. มองว่า งานทำบุญประเพณี ใส่ซองกฐิน หรืองานแต่งงาน งานศพ มีการใส่ซองให้กันประมาณ 1,000-2,000 บาท ซึ่งถือว่าเงินจำนวนดังกล่าวไม่มาก เป็นเรื่องปกติ จึงเป็นที่มาของการห้ามรับเงินเกิน 3,000 บาท
แต่ถ้าเห็นว่าเงินจำนวน 3,000 บาท ปัจจุบันมันต่ำไปแล้วก็แก้ไขเปลี่ยนแปลงได้
แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่ควรเปลี่ยน เงิน 3,000 บาท ควรเป็นตัวตั้งอยู่เหมือนเดิม แม้ว่าค่าเงินมันจะลดลงก็ตาม"
"แต่ถ้าสิ่งของที่รับมานั้นมีค่าเกิน 3,000 บาท หากรับมาแล้วก็ทำได้ 2 ทาง คือ ส่งคืนให้แก่ เจ้าของไปหรือแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบว่าได้รับของขวัญมา แล้วให้ลงทะเบียนเป็นของราชการไป ในกรณีที่เป็นนายกรัฐมนตรีหากไม่ส่งคืนเจ้าของ ก็แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลที่รับผิดชอบเรื่องนี้ทราบเพื่อลงทะเบียนเป็น "ของหลวง" อย่างกรณีที่นายกฯ รับแหวนทองราคาเกิน 3,000 บาท หากคืนไปก็จบ ไม่ใช่รับแหวนมาก็ถือเป็นความผิดสำเร็จแล้ว
ซึ่งก็เหมือนกับสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ ที่เพื่อนร่วมรุ่นทำสร้อยคอให้ ป.ป.ช. ก็บอกว่าถ้ารู้ว่าเกิน 3,000บาท คืนให้เจ้าของไปก็จบ"
http://www.komchadluek.net/news/politic/40083
จะหานักการเมืองดีๆในอุดมคติมาเป็นตัวอย่าง ก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร เพราะการเป็นนักการเมือง
ไม่ต้องมีคุณสมบัติอะไรมาก
มีอุดมการณ์นักการเมืองแล้วแต่พรรคจะสั่งให้พูด แต่ถ้าสามารถด่าว่าฝ่ายตรงข้ามได้มากเท่าไหร่ก็มีคะแนนจากพรรคเพิ่มอาจได้เป็นโฆษกพรรค
จากการอ่านความคิดเห็นของอดีตป.ป.ช.สรุปได้ว่า...
-รับแล้ว สามารถคืนได้ด้วย ไม่ผิด
-รับแล้ว ไม่คืนก็นำไปลงทะเบียนเป็นของราชการ
-แก้ไขให้มีราคา 3000 บาท ให้สูงขึ้นได้ตามค่าของเงินที่ลดลงไป แต่ส่วนตัวในปี 2552 ท่านไม่เห็นด้วย นี่ปีอะไรแล้วล่ะ
- เรื่องแบบนี้ในสมัยทักษิณก็มีด้วย เพื่อนร่วมรุ่นคนไหนที่เป็นนักการเมืองทำสร้อยคอ ให้ป.ป.ช.
ดิฉันก็เพิ่งทราบค่ะ...แล้วคนในพรรคเพื่อไทยไม่ทราบเลยหรือคะ
อุตส่าห์เป็นโฆษกพรรคนกแก้วนกขุนทอง..😉😉😉