มีใครเคยมีความฝันบ้าง…..ว่าในชีวิตนี้ อยากเป็นนักเรียนทุนแลกเปลี่ยนต่างประเทศสักครั้งในชีวิต…

สวัสดีค่ะทุกคนนน ตามหัวข้อกระทู้เลย วันนี้จะมาแชร์ให้ฟังว่าการได้เป็นนักเรียนทุนแลกเปลี่ยนระยะสั้นมันดีอย่างงี้นี่เอง เริ่ม..
ต้องขอเท้าความก่อนนะคะว่า…. ตอนเด็กๆเราไฝ่ฝันมาตลอด คือ เราอยากเป็นนักเรียนทุนไปเรียน ไปดูงานต่างประเทศ เพราะว่าฐานะทางบ้านเราไม่ได้มีเงินสนับสนุนพอที่จะส่งไปเรียน และไปเที่ยวเองทั้งหมด และเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีโอกาสเข้ามาหาเรา ขอเกริ่นก่อนว่าในทุกๆปีจะมีทุนมากมายจากทางรัฐบาลญี่ปุ่นและสถาบันต่างๆในประเทศญี่ปุ่นมาในสถาบันเรา ซึ่งเราเรียนที่สถาบันเทคโนโลยีไทยญี่ปุ่น (Thai-Nichi Institute of Technology-TNI) สาขา International Business ปี2 แต่ต้องบอกก่อนว่า เราไม่ใช่คนที่เรียนเก่งอะไร เกรดเราไม่ได้สูง ตอนนี้ GPAX ร่วงมา 3.21 ในฐานะที่เป็นคนรักษามาตรฐาน ( NO F ) เราเลยคิดว่าการสมัครทุนมันโคตรรรท้าทายคนอย่างเรา และนี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการสมัครเป็นนักเรียนทุนครั้งนี้……
ทุนของเราเป็นโครงการของ Osaka Prefecture University - Sakura Science Plan 2017 ตั้งแต่ 16 พ.ย.-25 พ.ย. 2560 เป็นเวลา 10 วัน ที่ Osaka ต้องบอกก่อนว่า ทุนของเราเป็นทุนสำหรับเรียน ดูงานแลกเปลี่ยนระยะสั้น เป็นทุนเปล่า ซึ่งฟรีทุกสิ่งอย่างตั้งแต่ค่าตั๋วเครื่องบิน อาหาร ที่พัก ประกัน แถมมี pocket money ให้อีก คุ้มเกินคุ้มมากเลย
เรื่องที่ต้องเตรียมมากๆเลยก็คือ เรื่องของภาษาค่ะและในการชิงทุนครั้งนี้ได้มีเงื่อนไขการสมัครคือ…
1. สำหรับนักศึกษาที่ไม่เคยไปญี่ปุ่นมาก่อน (ในส่วนนี้เราคิดว่าเค้าน่าจะให้โอกาสคนที่ไม่เคยไปนะ)
2. ผลคะแนนสอบTOEIC 600 คะแนนขึ้นไป
3. ESSAY ในหัวข้อ "Next-Generation Innovative Human Resource and Research Development from Diversity Technology Experiments" จำนวน 150 -200 คำ แน่นอนว่าเราเป็นเด็กบริหาร หัวข้อแบบนี้ Adapt กับเนื้อหาที่เรียนล้วนๆค้า
*** แถมๆๆ มีสัมภาษณ์ด้วยนะ 3 ภาษานะเอออ ก็คัดแต่เมพขิงๆอะนะ
และแน่นอนว่า การไปครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเรา ซึ่งตื่นเต้นมากก เพราะไปในช่วงที่เริ่มเข้าสู่หน้าหนาว การเตรียมเสื้อผ้าก็จะต้องจัดเต็มนิดนึงงงง >.< แต่การไปครั้งนี้ เราไม่ได้ไปคนเดียวนะ เราไปกับรุ่นพี่ร่วมสาขาซึ่งทุกคนก็เก่งมากๆ อังกฤษเก่งๆ ญี่ปุ่นเน้นๆ เฮ้ย ยังไม่พออ ยังมีพี่ๆปี3และ4 คณะไอทีไปด้วยนะ เฮ้ยยย ยังอี๊กกก มีพี่ป.โท ไปด้วย ซึ่งบอกได้เลยว่า เราเป็นนักศึกษา หรือน้องคนเล็กสุดนั่นเองง!!! แต่ไม่เป็นไร มีอาจารย์ที่น่ารักไปด้วยตั้งสองท่าน แค่นี้ก็อุ่นใจมาก
มาเริ่มเลยดีกว่า DAY 1
วันนี้ เป็นวันเดินทางของเรา โดยเราเริ่มเดินทางจาก สนามบินสุวรรณภูมิ ไปยัง สนามบินคันไซ เมืองโอซาก้า เครื่องบินเราดีเลย์ เลยทำให้ไปถึงญี่ปุ่น ตอน 5 โมงเย็น และก็มีรุ่นพี่คนไทยซึ่งมารับที่สนามบิน ( ภาพไม่ได้แต่งนะคะ พอดีเราใช้กล้องฟิล์ม สีเลยเป็นเช่นนี้…. )

จากนั้นก็นั่งรถไฟไปเชคอินที่โรงแรม Comfort Hotel Sakai เป็นโรงแรมที่ดีมากกกกก ก ไก่ล้านตัว จะกระซิบบอกว่านอนคนละห้องนะ สะดวกมากๆ มีอ่างอาบน้ำ Wi-Fi เร็วลื่นหัวแตกไปอีก และที่สำคัญพนักงานพูดอังกฤษชัดดี แต่เราก็มักจะสื่อสารด้วยญี่ปุ่นอยู่บ่อยๆ แหะๆ แหม่!! เรียนมามันก็ต้องใช้สิเนอะ
DAY 2
ตื่นเช้ามาพบว่าวันนี้เป็นวันที่เราต้องไปมหาลัย นั่นก็คืออออ Osaka Prefecture University จากโรงแรมเดินทางไปมหาลัยใช้เวลาไม่นาน เราเดินทางโดยรถบัส (ย้ำอีกทีว่า...ค่าเดินทางทั้งหมดทางโครงการออกให้หมดเลยนะคะ)

และแล้วก็มาถึง ในความรู้สึกเป็นมหาลัยที่สวยยยมากก อากาศดีมาก น่าเรียนสุดๆ

เห็นอาจารย์บอกว่า ถ้ามาในช่วงซากุระบาน จะสวยมากกว่านี้ แต่เราไปในช่วงใบไม้แดงก็ไม่แย่นะ ว่าไปแล้วก็แชะซะหน่อย

ในวันแรกเป็นการ Orientation, แนะนำตัว , present แลกเปลี่ยนวัฒนธรรรม, แจก Pocket money รวมถึงการทำประกันด้วย ในตอนบ่าย ได้ไปชม Plant ซึ่งเป็นการปลูกผักแบบ Hydroponic โดยที่ใช้ระบบ IT ในการควบคุมดูแลทั้งหมด ซึ่งเค้าได้วิจัย ทำ และขายเองเลย ในวันที่เราไปเค้าลดราคาด้วยนะ เหลือ 100 เยนเองง ประมาณ 30 บาท แน่นอนว่าผักแบบนี้ พี่เค้าบอกว่าทานได้เลย ไม่ต้องล้าง นอกจากที่เค้าจะวิจัยเรื่องพืชผักแล้ว เค้าวิจัยเรื่อง การทำงานของคนงานด้วยนะ เช่น วิธีการนั่งทำงานยังไงให้ไม่เมื่อย คือแบบ....ใส่ใจสุดๆ

หลังจากดูงานเสร็จ ในช่วงเย็นก็มี Welcome Party ตามธรรมเนียมของญี่ปุ่น ซึ่งคล้ายกับ ice breaking เล็กๆ ในมื้อนี้ เป็นมื้อที่รวมทั้งนักศึกษา TNI และ OPU ไม่ใช่มีแค่นักศึกษาญี่ปุ่นเท่านั้นนะ ยังมีคนจีนอีก เป็นนักเรียนป.โทแลกเปลี่ยน บอกได้เลยว่าสนุกมากก ส่วนใหญ่จะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร แต่หลังๆ เราเริ่มอยากฝึก ญี่ปุ่น ก็พูดไปด้วยเลย สนุกดีปนๆกันไป ฮ่าๆ
DAY 3
วันนี้เป็นวันเสาร์ ได้เป็นวันพักผ่อนหย่อนใจสินะ อาจารย์เลยพาทัวร์รอบโอซาก้า โดยการเดินทางทั้งหมดจะใช้ Osaka Amazing Pass เป็นบัตรที่ให้เราเดินทางโดยไม่จำกัดรวมทั้งการเข้าสถานที่ส่วนใหญ่ด้วย
สถานที่แรกที่ไปก็คือ Osaka City Museum of Fine Arts ปกติข้างใน Museum ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปนะคะ

แต่ภายนอกก็สวยไม่แพ้กันนะ><

จากนั้นก็เดินทางไปสวนสัตว์ Tennoji Zoo ซึงเป็นสวนสัตว์เล็กๆที่อยุ่ใกล้กับ Osaka City Museum of Fine Arts ข้างในบรรยากาศดีมากนะคะ


จากที่นี่ จะเห็น Tsutenkaku ตัวหอคอยนั้นใช้หอไอเฟลของฝรั่งเศสเป็นแม่แบบในการสร้างนั่นเอง

ในตอนเที่ยง ก็ได้หาข้าวกินและ ได้เดินผ่านไปทางย่าน Shiseikai สำหรับเราที่รักกล้องฟิล์ม ก็ชอบย่านนี้มากๆ และเก็บภาพแบบจัดเต็มนิดนึง


สถานที่ต่อไปก็คือ Osaka Castle Museum และเนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์คนก็เลยเยอะเป็นพิเศษ

( เพิ่มเติมค่ะ ระหว่างทางที่เดินมา เราเก็บภาพสวยๆมาตลอดทาง แต่เสียดายที่ฟิล์มในกล้องดันค้าง เลยต้องเปิดห้องฟิล์ม ภาพในส่วนนี้ก็หายไปเลย แต่อย่างน้อยก็มีอีกภาพที่ชอบ)

ต่อมาสถานที่สุดท้ายของวันนี้ก็คือ HEP FIVE Ferris Wheel เป็นชิงช้าสวรรค์สีแดงอันใหญ่ บนห้าง พอขึ้นไปก็จะเห็นวิวโอซาก้าทั้งเมืองเลยล่ะ


**ต้องขออนุญาตใส่แท็กภาพถ่ายฟิล์มนะคะ เพราะส่วนใหญ่เราใช้กล้องฟิล์มในการถ่ายค่ะ(เป็นมือใหม่หากผิดพลาดประการใดขออภัยค้าา)**
[รีวิวทุน] Sakura Science Exchange Program เมื่อฉันอยู่ปี 2 แต่เขาให้ไปดูงานญี่ปุ่น 10 วัน แบบฟรี ๆ
ต้องขอเท้าความก่อนนะคะว่า…. ตอนเด็กๆเราไฝ่ฝันมาตลอด คือ เราอยากเป็นนักเรียนทุนไปเรียน ไปดูงานต่างประเทศ เพราะว่าฐานะทางบ้านเราไม่ได้มีเงินสนับสนุนพอที่จะส่งไปเรียน และไปเที่ยวเองทั้งหมด และเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีโอกาสเข้ามาหาเรา ขอเกริ่นก่อนว่าในทุกๆปีจะมีทุนมากมายจากทางรัฐบาลญี่ปุ่นและสถาบันต่างๆในประเทศญี่ปุ่นมาในสถาบันเรา ซึ่งเราเรียนที่สถาบันเทคโนโลยีไทยญี่ปุ่น (Thai-Nichi Institute of Technology-TNI) สาขา International Business ปี2 แต่ต้องบอกก่อนว่า เราไม่ใช่คนที่เรียนเก่งอะไร เกรดเราไม่ได้สูง ตอนนี้ GPAX ร่วงมา 3.21 ในฐานะที่เป็นคนรักษามาตรฐาน ( NO F ) เราเลยคิดว่าการสมัครทุนมันโคตรรรท้าทายคนอย่างเรา และนี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการสมัครเป็นนักเรียนทุนครั้งนี้……
ทุนของเราเป็นโครงการของ Osaka Prefecture University - Sakura Science Plan 2017 ตั้งแต่ 16 พ.ย.-25 พ.ย. 2560 เป็นเวลา 10 วัน ที่ Osaka ต้องบอกก่อนว่า ทุนของเราเป็นทุนสำหรับเรียน ดูงานแลกเปลี่ยนระยะสั้น เป็นทุนเปล่า ซึ่งฟรีทุกสิ่งอย่างตั้งแต่ค่าตั๋วเครื่องบิน อาหาร ที่พัก ประกัน แถมมี pocket money ให้อีก คุ้มเกินคุ้มมากเลย
เรื่องที่ต้องเตรียมมากๆเลยก็คือ เรื่องของภาษาค่ะและในการชิงทุนครั้งนี้ได้มีเงื่อนไขการสมัครคือ…
1. สำหรับนักศึกษาที่ไม่เคยไปญี่ปุ่นมาก่อน (ในส่วนนี้เราคิดว่าเค้าน่าจะให้โอกาสคนที่ไม่เคยไปนะ)
2. ผลคะแนนสอบTOEIC 600 คะแนนขึ้นไป
3. ESSAY ในหัวข้อ "Next-Generation Innovative Human Resource and Research Development from Diversity Technology Experiments" จำนวน 150 -200 คำ แน่นอนว่าเราเป็นเด็กบริหาร หัวข้อแบบนี้ Adapt กับเนื้อหาที่เรียนล้วนๆค้า
*** แถมๆๆ มีสัมภาษณ์ด้วยนะ 3 ภาษานะเอออ ก็คัดแต่เมพขิงๆอะนะ
และแน่นอนว่า การไปครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเรา ซึ่งตื่นเต้นมากก เพราะไปในช่วงที่เริ่มเข้าสู่หน้าหนาว การเตรียมเสื้อผ้าก็จะต้องจัดเต็มนิดนึงงงง >.< แต่การไปครั้งนี้ เราไม่ได้ไปคนเดียวนะ เราไปกับรุ่นพี่ร่วมสาขาซึ่งทุกคนก็เก่งมากๆ อังกฤษเก่งๆ ญี่ปุ่นเน้นๆ เฮ้ย ยังไม่พออ ยังมีพี่ๆปี3และ4 คณะไอทีไปด้วยนะ เฮ้ยยย ยังอี๊กกก มีพี่ป.โท ไปด้วย ซึ่งบอกได้เลยว่า เราเป็นนักศึกษา หรือน้องคนเล็กสุดนั่นเองง!!! แต่ไม่เป็นไร มีอาจารย์ที่น่ารักไปด้วยตั้งสองท่าน แค่นี้ก็อุ่นใจมาก
มาเริ่มเลยดีกว่า DAY 1
วันนี้ เป็นวันเดินทางของเรา โดยเราเริ่มเดินทางจาก สนามบินสุวรรณภูมิ ไปยัง สนามบินคันไซ เมืองโอซาก้า เครื่องบินเราดีเลย์ เลยทำให้ไปถึงญี่ปุ่น ตอน 5 โมงเย็น และก็มีรุ่นพี่คนไทยซึ่งมารับที่สนามบิน ( ภาพไม่ได้แต่งนะคะ พอดีเราใช้กล้องฟิล์ม สีเลยเป็นเช่นนี้…. )
ตื่นเช้ามาพบว่าวันนี้เป็นวันที่เราต้องไปมหาลัย นั่นก็คืออออ Osaka Prefecture University จากโรงแรมเดินทางไปมหาลัยใช้เวลาไม่นาน เราเดินทางโดยรถบัส (ย้ำอีกทีว่า...ค่าเดินทางทั้งหมดทางโครงการออกให้หมดเลยนะคะ)
DAY 3
วันนี้เป็นวันเสาร์ ได้เป็นวันพักผ่อนหย่อนใจสินะ อาจารย์เลยพาทัวร์รอบโอซาก้า โดยการเดินทางทั้งหมดจะใช้ Osaka Amazing Pass เป็นบัตรที่ให้เราเดินทางโดยไม่จำกัดรวมทั้งการเข้าสถานที่ส่วนใหญ่ด้วย
สถานที่แรกที่ไปก็คือ Osaka City Museum of Fine Arts ปกติข้างใน Museum ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปนะคะ
**ต้องขออนุญาตใส่แท็กภาพถ่ายฟิล์มนะคะ เพราะส่วนใหญ่เราใช้กล้องฟิล์มในการถ่ายค่ะ(เป็นมือใหม่หากผิดพลาดประการใดขออภัยค้าา)**