เนื่องจากปีที่ผ่านมามีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรม Workshop ของ Nikon School ในหัวข้อ Sport Photography ซึ่งจัดขึ้นที่ SCG Stadium ของสโมสร Muangthong United ค่ะ เอามาเล่าช้าไปหน่อยคงไม่ว่ากันเนาะ
(ช้าจนคุณเจ ชนาธิป ย้ายไปคอนซาโดเล่ซัปโปโรจนจบฤดูกาลแล้วอะนะ....
)
โดยหลังจากการบรรยายต่างๆ ก็ได้เปิดโอกาสให้ลงพื้นที่ดูการทำงานจริงของช่างภาพกีฬา รวมถึงถ่ายภาพในเกมระหว่าง Muangthong United vs. Ubon UMT ด้วย
งานนี้เลยอยากแวะมาแบ่งปันประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ ค่ะ
=============
หลังการบรรยาย ช่วงก่อนที่เกมจะเริ่มราวสามชั่วโมง ก็ได้มีการพาผู้ร่วมกิจกรรมไปทัวร์รอบสเตเดี้ยม ตั้งแต่ร้านค้า Official Store ไปจนถึงห้องพักนักเตะ ซึ่งยังไม่มีนักเตะมา (จริงๆ มีมาแล้วคนนึง ฮา)
เมื่อได้เวลาประมาณหกโมงครึ่ง ก่อนเริ่มเกมนิดหน่อย สต๊าฟก็พาลงไปลุยสนามจริง ทีมงานมีเลนส์ Supertele กระบอกยาวๆ อย่าง 300 f4 และ 400 f2.8 ให้ยืมทดลองใช้ด้วยค่ะ แต่นี่ก็เอา Tamron 150-600 ของตัวเองไปด้วย
ลองไปยก D5 + 400 + Monopod ของพี่ๆ ช่างภาพมาแล้ว ปรากฏว่ายกด้วยมือเดียวแทบไม่ขึ้น สองมือยังลำบากเลย แต่ขณะเดียวกันก็มีช่างภาพบางท่านถือ D5 + 400mm เดินร่อนไปมาเหมือนถือ 50 fix เห็นแล้วรู้สึกว่าตัวเองบอบบางขึ้นมาทันที 555
จุดที่ช่างภาพนั่งจะอยู่ขอบสนามด้านกว้าง ใกล้กับมุมธงค่ะ ห่างจากเส้นขาวประมาณสองก้าวใหญ่ๆ บางทีก็อาจจะมีลูกบอลพุ่งมาหา ต้องคอยระวังดีๆ แต่ห้ามไปยุ่งอะไรกับบอลที่อาจเกี่ยวกับการเล่น อย่างเช่นผลักบอลเข้าสนามค่ะ
ถามว่าตอนถ่ายเป็นยังไง
เวลาถ่ายจริงจะรู้สึกว่าตามเกมแทบไม่ทันเลย คือไม่ใช่ว่าเราไม่รู้เลยว่าบอลจะไปที่ไหนต่อนะ แต่เวลาแพนกล้องถ่ายจริงๆ มันไม่ทัน แล้วยังต้องคิดอีกว่าควรจะกดชัตเตอร์จังหวะนี้ดีมั้ย เพราะส่วนใหญ่มักจะเป็นจังหวะที่ไม่ได้สำคัญอะไร แต่ก็นั่นแหละ บางทีอยู่ๆ ก็อาจจะเกิดจังหวะสำคัญๆ แบบ การปะทะกัน อะไรงี้ขึ้นมาเหมือนกัน
แล้วภาพแนวนี้เขาจะเน้นภาพจังหวะสำคัญอย่างจังหวะทำประตู จังหวะปะทะในเกม แบบเต็มๆ เฟรม ซึ่งหลายอย่างมันก็ต่างจากปกติที่เคยถ่ายพอสมควร ไม่เคยถ่ายแนวนี้มาก่อน เลยรู้สึกว่ายากน่าดูค่ะ ฮา แถมสป็อตไลท์ก็แรงมากๆ ด้วย
เอาเข้าจริง จังหวะทำประตู 5 ลูกในเกม แทบจะถ่ายมาไม่ได้เลยค่ะ
ได้มาจริงๆ สองจังหวะคือตอนยิงลูกโทษ (ฮา) กับจังหวะโหม่งลูก 2-3 ของคุณธีรศิลป์ แต่ก็เป็นจังหวะที่ทำประตูกันอยู่อีกฟากทั้งคู่ สองรูปที่เห็นนี่คือคร็อปหนักมากๆ ค่ะ 555
ส่วนจังหวะทำประตูอื่นๆ วืดเกือบหมดเลย บางอันถ่ายไม่ทันแบบสิ้นเชิงเลย บางอันถ่ายเกือบทัน แต่ดันโฟกัสวืดบ้างอะไรบ้าง บอลไม่อยู่ในเฟรมบ้าง เละเทะไปหมดเลยค่ะ
แถมนิดหน่อย จังหวะเดือดในเกม คือตอนนั้นบอลอยู่ข้างๆ เราก็พยายามแพนกล้องตามบอลอะไรงี้ ก็กดๆ ชัตเตอร์มา เลยติดมาด้วยเฉยเลยค่ะ ฮา
จากภาพอาจจะไม่เห็นจังหวะทุ่มเพราะชัตเตอร์ทำงานไม่ทัน (เราโง่เอง หลังกลับบ้านถึงเพิ่งเห็นว่าตัวเองดันเปิดโหมด Quiet ไว้ ชัตเตอร์มันเลยจะทำงานช้ากว่าปกติ T_T) แต่ถามว่าเห็นมั้ย คือเห็นชัดมาก แฟนบอลข้างหลังก็ตะโกนใหญ่เลย พี่อุ้ม ใจเย็นๆ หน่อย 555555555
อันนี้เป็นจังหวะประตูอีกอัน แต่เบลอเละเทะ แง 555
ภาพเพิ่มเติมเล็กๆ น้อยๆ และจังหวะท้ายเกม จนถึงช่วงที่นักเตะเดินมาขอบคุณแฟนบอลค่ะ
ก็นับเป็นประสบการณ์ที่สนุก แปลกใหม่ดีค่ะ (ถึงภาพที่ถ่ายมาจะเละเทะมากก็เถอะ ฮา) ถ้ามีโอกาสก็อยากจะลองไปทำกิจกรรมแนวนี้อีก แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าสป็อตไลท์ในสนามแรงมากๆ เรียกว่าหลังเกมจบนี่ปวดหัวตาลายกันไปค่อนวันเลย
พี่สต๊าฟเอาใจใส่ดีทีเดียวค่ะ อาจจะเพราะคนไม่เยอะด้วยทำให้ดูแลได้ทั่วถึง เหมือนจะมีพี่สต๊าฟบางท่านคิดว่าหนูอาจจะยังไม่เคยดูบอลด้วย เรียกว่าถึงกับมานั่งอธิบายกติกา ตำแหน่งนักเตะอะไรงี้ให้ฟังกันเลยทีเดียว
จริงๆ กระเป๋าเป้สะพายหลังที่เอาไปด้วยก็ห้อยพวงกุญแจกลัดบัคอยู่นะ แต่ไม่มีใครสังเกตเลย 5555555555
สำหรับใครที่ใช้กล้อง Nikon DSLR แล้วสนใจไป Workshop ถ่ายภาพแบบนี้ ก็ลองติดตามข่าวสารได้ในเพจ Nikon นะคะ เขาจะมีอัพเดทเรื่อยๆ แต่ Sport Photography จะเต็มค่อนข้างเร็ว และมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย ประมาณ 200 กว่าบาทค่ะ (จำรายละเอียดไม่ได้ค่ะ ขออภัย)
ใครที่อยากดูภาพเพิ่มเติมตามไปที่ลิ้งได้เลยค่ะ แต่ในอัลบั้มออกจะลงปนๆ กันไว้หน่อยทั้งภาพที่ดีและไม่ดี
https://tinyurl.com/mtutdvsubonumt
นั่งอัพทุกรูปลงพันทิปไม่ไหวจริงๆ 555
ขอบคุณค่ะ
==== แชร์ประสบการณ์ถ่ายภาพฟุตบอลติดขอบสนามกับ Nikon School ====
เนื่องจากปีที่ผ่านมามีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรม Workshop ของ Nikon School ในหัวข้อ Sport Photography ซึ่งจัดขึ้นที่ SCG Stadium ของสโมสร Muangthong United ค่ะ เอามาเล่าช้าไปหน่อยคงไม่ว่ากันเนาะ
(ช้าจนคุณเจ ชนาธิป ย้ายไปคอนซาโดเล่ซัปโปโรจนจบฤดูกาลแล้วอะนะ....
โดยหลังจากการบรรยายต่างๆ ก็ได้เปิดโอกาสให้ลงพื้นที่ดูการทำงานจริงของช่างภาพกีฬา รวมถึงถ่ายภาพในเกมระหว่าง Muangthong United vs. Ubon UMT ด้วย
งานนี้เลยอยากแวะมาแบ่งปันประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ ค่ะ
=============
หลังการบรรยาย ช่วงก่อนที่เกมจะเริ่มราวสามชั่วโมง ก็ได้มีการพาผู้ร่วมกิจกรรมไปทัวร์รอบสเตเดี้ยม ตั้งแต่ร้านค้า Official Store ไปจนถึงห้องพักนักเตะ ซึ่งยังไม่มีนักเตะมา (จริงๆ มีมาแล้วคนนึง ฮา)
เมื่อได้เวลาประมาณหกโมงครึ่ง ก่อนเริ่มเกมนิดหน่อย สต๊าฟก็พาลงไปลุยสนามจริง ทีมงานมีเลนส์ Supertele กระบอกยาวๆ อย่าง 300 f4 และ 400 f2.8 ให้ยืมทดลองใช้ด้วยค่ะ แต่นี่ก็เอา Tamron 150-600 ของตัวเองไปด้วย
ลองไปยก D5 + 400 + Monopod ของพี่ๆ ช่างภาพมาแล้ว ปรากฏว่ายกด้วยมือเดียวแทบไม่ขึ้น สองมือยังลำบากเลย แต่ขณะเดียวกันก็มีช่างภาพบางท่านถือ D5 + 400mm เดินร่อนไปมาเหมือนถือ 50 fix เห็นแล้วรู้สึกว่าตัวเองบอบบางขึ้นมาทันที 555
จุดที่ช่างภาพนั่งจะอยู่ขอบสนามด้านกว้าง ใกล้กับมุมธงค่ะ ห่างจากเส้นขาวประมาณสองก้าวใหญ่ๆ บางทีก็อาจจะมีลูกบอลพุ่งมาหา ต้องคอยระวังดีๆ แต่ห้ามไปยุ่งอะไรกับบอลที่อาจเกี่ยวกับการเล่น อย่างเช่นผลักบอลเข้าสนามค่ะ
ถามว่าตอนถ่ายเป็นยังไง
เวลาถ่ายจริงจะรู้สึกว่าตามเกมแทบไม่ทันเลย คือไม่ใช่ว่าเราไม่รู้เลยว่าบอลจะไปที่ไหนต่อนะ แต่เวลาแพนกล้องถ่ายจริงๆ มันไม่ทัน แล้วยังต้องคิดอีกว่าควรจะกดชัตเตอร์จังหวะนี้ดีมั้ย เพราะส่วนใหญ่มักจะเป็นจังหวะที่ไม่ได้สำคัญอะไร แต่ก็นั่นแหละ บางทีอยู่ๆ ก็อาจจะเกิดจังหวะสำคัญๆ แบบ การปะทะกัน อะไรงี้ขึ้นมาเหมือนกัน
แล้วภาพแนวนี้เขาจะเน้นภาพจังหวะสำคัญอย่างจังหวะทำประตู จังหวะปะทะในเกม แบบเต็มๆ เฟรม ซึ่งหลายอย่างมันก็ต่างจากปกติที่เคยถ่ายพอสมควร ไม่เคยถ่ายแนวนี้มาก่อน เลยรู้สึกว่ายากน่าดูค่ะ ฮา แถมสป็อตไลท์ก็แรงมากๆ ด้วย
เอาเข้าจริง จังหวะทำประตู 5 ลูกในเกม แทบจะถ่ายมาไม่ได้เลยค่ะ
ได้มาจริงๆ สองจังหวะคือตอนยิงลูกโทษ (ฮา) กับจังหวะโหม่งลูก 2-3 ของคุณธีรศิลป์ แต่ก็เป็นจังหวะที่ทำประตูกันอยู่อีกฟากทั้งคู่ สองรูปที่เห็นนี่คือคร็อปหนักมากๆ ค่ะ 555
ส่วนจังหวะทำประตูอื่นๆ วืดเกือบหมดเลย บางอันถ่ายไม่ทันแบบสิ้นเชิงเลย บางอันถ่ายเกือบทัน แต่ดันโฟกัสวืดบ้างอะไรบ้าง บอลไม่อยู่ในเฟรมบ้าง เละเทะไปหมดเลยค่ะ
แถมนิดหน่อย จังหวะเดือดในเกม คือตอนนั้นบอลอยู่ข้างๆ เราก็พยายามแพนกล้องตามบอลอะไรงี้ ก็กดๆ ชัตเตอร์มา เลยติดมาด้วยเฉยเลยค่ะ ฮา
จากภาพอาจจะไม่เห็นจังหวะทุ่มเพราะชัตเตอร์ทำงานไม่ทัน (เราโง่เอง หลังกลับบ้านถึงเพิ่งเห็นว่าตัวเองดันเปิดโหมด Quiet ไว้ ชัตเตอร์มันเลยจะทำงานช้ากว่าปกติ T_T) แต่ถามว่าเห็นมั้ย คือเห็นชัดมาก แฟนบอลข้างหลังก็ตะโกนใหญ่เลย พี่อุ้ม ใจเย็นๆ หน่อย 555555555
อันนี้เป็นจังหวะประตูอีกอัน แต่เบลอเละเทะ แง 555
ภาพเพิ่มเติมเล็กๆ น้อยๆ และจังหวะท้ายเกม จนถึงช่วงที่นักเตะเดินมาขอบคุณแฟนบอลค่ะ
ก็นับเป็นประสบการณ์ที่สนุก แปลกใหม่ดีค่ะ (ถึงภาพที่ถ่ายมาจะเละเทะมากก็เถอะ ฮา) ถ้ามีโอกาสก็อยากจะลองไปทำกิจกรรมแนวนี้อีก แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าสป็อตไลท์ในสนามแรงมากๆ เรียกว่าหลังเกมจบนี่ปวดหัวตาลายกันไปค่อนวันเลย
พี่สต๊าฟเอาใจใส่ดีทีเดียวค่ะ อาจจะเพราะคนไม่เยอะด้วยทำให้ดูแลได้ทั่วถึง เหมือนจะมีพี่สต๊าฟบางท่านคิดว่าหนูอาจจะยังไม่เคยดูบอลด้วย เรียกว่าถึงกับมานั่งอธิบายกติกา ตำแหน่งนักเตะอะไรงี้ให้ฟังกันเลยทีเดียว
จริงๆ กระเป๋าเป้สะพายหลังที่เอาไปด้วยก็ห้อยพวงกุญแจกลัดบัคอยู่นะ แต่ไม่มีใครสังเกตเลย 5555555555
สำหรับใครที่ใช้กล้อง Nikon DSLR แล้วสนใจไป Workshop ถ่ายภาพแบบนี้ ก็ลองติดตามข่าวสารได้ในเพจ Nikon นะคะ เขาจะมีอัพเดทเรื่อยๆ แต่ Sport Photography จะเต็มค่อนข้างเร็ว และมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย ประมาณ 200 กว่าบาทค่ะ (จำรายละเอียดไม่ได้ค่ะ ขออภัย)
ใครที่อยากดูภาพเพิ่มเติมตามไปที่ลิ้งได้เลยค่ะ แต่ในอัลบั้มออกจะลงปนๆ กันไว้หน่อยทั้งภาพที่ดีและไม่ดี https://tinyurl.com/mtutdvsubonumt
นั่งอัพทุกรูปลงพันทิปไม่ไหวจริงๆ 555
ขอบคุณค่ะ