เมื่อช่วงต้นปีที่แล้วเรามีโอกาสได้ไปเที่ยวเชียงใหม่อยู่ประมาณ 3วัน2คืน ไปคนเดียวแต่ไปเจอกับเพื่อนที่เป็นคนเชียงใหม่ที่นั่น แต่ตอนจองที่พักเราเองก็ได้จองแบบเข้าพัก2คนไว้ เพราะไม่อยากมีปัญหากับที่พักถ้าเกิดเราพาเพื่อนเข้าไป แต่ปัญหาก็เริ่มเกิดตั้งแต่วันแรกที่เข้าพักที่นั่น เราเอากระเป๋าเข้าไปฝากไว้ตอนเช้าแล้วกลับเข้ามาเช็กอินในช่วงบ่าย ที่ๆเราพักตั้งอยู่ใกล้ห้างเมญ่าเดินไปนิดเดียวถึงเลย เรากับเพื่อนก็เข้าที่พักกันปุ๊บ เอาข้าวของไรวาง กำลังจะไปอาบน้ำ ไม่ถึง5นาที มีเสียงเคาะประตูจากทางที่พัก เราไม่ได้เอะใจอะไรเพื่อนเราก็เดินไปเปิด เจอคนที่น่าจะเป็นแม่บ้านหรือเจ้าของเราไม่แน่ใจ โผล่หน้ามาถามเราว่าน้องได้เอารถจอดไว้ด้านหน้าที่พักหรือป่าว มีรถลูกค้าจะออกเขาออกไม่ได้ เราก็งง รถอะไร เพราะเราไม่มีรถเรามาแบบแบคแพค เราก็มองหน้ากับเพื่อนๆ เราบอกว่าไม่มีนะคะ ตอนแรกเราไม่ได้สังเกตอะไร พอเขาลงไปเพื่อนเราบอกว่าสงสัยมาสืบว่าเราเข้ากันมากี่คน เพราะพี่เขามองแบบกวาดตามองรอบห้องตอนที่ถามเรา เราก็แบบไรวะมีงี้ด้วยหรอ หลังจากนั้นคิดว่าไม่มีไรละ อีกวันนึงช่วงเย็นเราเดินไปซื้อเคเอฟซีจากเมญ่ามากินที่ห้องกับเพื่อน ก่อนขึ้นเราไปขอถุงดำใส่ขยะจากคนที่ดูแลซึ่งเป็นลูกจ้างอีกที เขาพูดกับเราว่า ถุงขยะใส่แล้วให้เอาออกมาวางไว้ให้พี่เขาหน้าห้อง แล้วเขาจะขึ้นไปเก็บเอง เราก็โอเค ทานเรียบร้อย แต่วันนั้นเพื่อนเราไม่ได้ค้างที่ห้องด้วยกัน เพราะงานเสร็จพอดี เพื่อนเลยกลับไปพักบ้านเขา เราก็เก็บไก่ที่กินเรียบร้อยใส่ถุงดำ มัดปากอย่างดีวางไว้หน้าห้อง ระหว่างนั้นเราก็ออกไปเข้าห้องน้ำ เจอสามีฝรั่งของเจ้าของที่พักเข้ามาเช็กความเรียบร้อยอยู่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนพอเราเข้าไปที่ห้องแป๊บนึง ก็ได้รับโทรศัพท์จากทางเจ้าของโทรมาด้วยน้ำเสียงใส่อารมณ์หน่อยๆ ว่าน้องได้เอาถุงขยะไว้หน้าห้องหรือป่าว ลูกค้าห้องข้างน้องเขาบอกว่ามันเหม็น เราก็แบบงงดิ ห้องข้างๆเรามันมีคนพักที่ไหนล่ะ คนที่พักอีกคนอยู่ห้องถัดไปอีกต่างหาก และตอนนั้นคนห้องนั้นก็ไม่ได้อยู่เรามั่นใจ จะมีก็แต่ผัวนางที่เป็นฝรั่งนั่นแหละที่เราเห็น เราก็บอกไปว่า เอ้า ก็พี่ผู้หญิงคนนั้นบอกให้หนูเอาวางไว้หน้าห้องแล้วเขาจะขึ้นมาเก็บเองนิ่ นางก็แบบสตั้นแล้วก็แบบ เหรอน้องเขาบอกแบบนั้นหรอ เราก็บอกใช่ค่ะ แล้วนางก็วางไป คือเราเองก็คนซื่อนะเขาบอกไงเราก็ทำแบบนั้นแหละ ตอนแรกเราจะเอาลงไปทิ้งเองด้วยซ้ำ แต่มองไปหน้าที่พักแล้วเราไม่เจอถังขยะนี่สิเลยไม่รู้จะไปทิ้งไหน เราก็กลับมากทมด้วยความไม่ประทับใจเท่าไหร่แล้วตอนนั้น แต่ที่ชอบคือที่พักเขามันสะดวกและติดห้าง มีเซเว่นเดินไปไม่ถึงห้าสิบเมตร
จนกระทั่งเมื่อช่วงเกือบปลายปี เราก็จะไปอีก ก็กะว่าจะเลือกที่พักเดิม เพราะมันสะดวกทุกอย่างจริงๆ ไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่ผ่านมาเท่าไหร่ เพราะคิดว่าไปพักผ่อนและทำงานไปในตัวด้วย ซึ่งเราพักจริงๆ นะไม่ค่อยได้ออกไปไหน จะมีก็แค่เดินไปเมญ่าหาอะไรทานและก็กลับมาห้องเท่านั้น และทีนี้เรากะจะจองช่วงกันยาพอดี เราก็เลยไลน์ไปทักกับพี่เจ้าของคนนั้น ซึ่งเราเมมเบอร์เขาไว้เลยมีไลน์พอดี เราก็ทักไปว่าจองห้อง ตอนแรกนางก็ทักทายกลับมาแบบน้องนั่นน้องนี่บลาๆๆ เขาก็ถามเราว่าจะจองช่วงไหน เราก็บอกไปว่าช่วงประมานกันยา ทีนี้นางเงียบไปสักพัก ก่อนจะตอบกลับมาว่า พอดีพี่จะปิดแล้วนะ ช่วงสิงหา ทีนี้คนสตั้นคือเรา นางก็ให้เหตุผลมาว่า สุขภาพไม่ดีจะพักหนึ่งปี ด้วยความซื่อเราก็เออออไป แถมให้กำลังใจแกไปอีก แต่ทีนี้ทริปนั้นก็ยกเลิกไปด้วยเพราะเรายุ่งๆปัญหาส่วนตัว แต่เราก็ได้บอกเพื่อนนะ ว่าทีพักนี้มีปัญหาแบบนี้ ผ่านไปสักพักเราเพิ่งเริ่มมาเอะใจ คุยกะเพื่อนว่า กูว่าที่พักมันไม่ได้ปิดหรอก กูยังเห็นลงให้คนจองอยู่ในแอปอยู่เลย ก็จริงนะเราลองแกล้งเข้าไปกดดู ปรากฏว่าหลังจากช่วงเดือนสิงหาที่นางบอกจะปิด เรามากดดูช่วงธันวานี่ แบบกดเรียลไทม์ของวันนั้นเลย ผรากฏว่าห้องพักนางยังมีคนจองเต็มอยู่เลยจ้า คืออัลไล ถถถถถถถถถถถถ เราก็ไปบอกเพื่อน กูว่าไม่ใช่ละ เขาคงไม่อยากให้เราพักมากกว่า เพื่อนก็บอกเออไง กูผ่านไปเมื่อไม่กี่วันก่อนยังเห็นเปิดอยู่เลย 55555 อะไรครับท่านผู้ชม เรานี่งงมาก เราไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดีหรือเสียงดังเลยนะ อย่าว่างั้นงี้เลย ในสายตาเราๆว่าพี่เจ้าของนี่ไม่ปกติสักเท่าไหร่ เพื่อนเรายังบอกว่าเขาดูหวงที่พัก อาจจะเป็นเพราะช่วงที่เราไป เราไม่ค่อยได้ออกไปไหน เลยเปิดแอร์เกือบทั้งวัน อาจจะเปลืองไฟเขามั้ง ใครเคยมีประสบการณ์แบบเรามั่ง มาแชร์กันได้
ปล. ที่ๆเราพัก ตกแต่งค่อนข้างดี ส่วนใหญ่เป็นห้องพักเดี่ยว มีห้องติดระเบียงสองชั้น
สุดท้ายเพื่อนเราเลยแนะนำว่าครั้งหน้า หาที่พักใหม่ซะ TT
รู้สึกแย่กับโฮสเทลแห่งหนึ่งในเชียงใหม่
จนกระทั่งเมื่อช่วงเกือบปลายปี เราก็จะไปอีก ก็กะว่าจะเลือกที่พักเดิม เพราะมันสะดวกทุกอย่างจริงๆ ไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่ผ่านมาเท่าไหร่ เพราะคิดว่าไปพักผ่อนและทำงานไปในตัวด้วย ซึ่งเราพักจริงๆ นะไม่ค่อยได้ออกไปไหน จะมีก็แค่เดินไปเมญ่าหาอะไรทานและก็กลับมาห้องเท่านั้น และทีนี้เรากะจะจองช่วงกันยาพอดี เราก็เลยไลน์ไปทักกับพี่เจ้าของคนนั้น ซึ่งเราเมมเบอร์เขาไว้เลยมีไลน์พอดี เราก็ทักไปว่าจองห้อง ตอนแรกนางก็ทักทายกลับมาแบบน้องนั่นน้องนี่บลาๆๆ เขาก็ถามเราว่าจะจองช่วงไหน เราก็บอกไปว่าช่วงประมานกันยา ทีนี้นางเงียบไปสักพัก ก่อนจะตอบกลับมาว่า พอดีพี่จะปิดแล้วนะ ช่วงสิงหา ทีนี้คนสตั้นคือเรา นางก็ให้เหตุผลมาว่า สุขภาพไม่ดีจะพักหนึ่งปี ด้วยความซื่อเราก็เออออไป แถมให้กำลังใจแกไปอีก แต่ทีนี้ทริปนั้นก็ยกเลิกไปด้วยเพราะเรายุ่งๆปัญหาส่วนตัว แต่เราก็ได้บอกเพื่อนนะ ว่าทีพักนี้มีปัญหาแบบนี้ ผ่านไปสักพักเราเพิ่งเริ่มมาเอะใจ คุยกะเพื่อนว่า กูว่าที่พักมันไม่ได้ปิดหรอก กูยังเห็นลงให้คนจองอยู่ในแอปอยู่เลย ก็จริงนะเราลองแกล้งเข้าไปกดดู ปรากฏว่าหลังจากช่วงเดือนสิงหาที่นางบอกจะปิด เรามากดดูช่วงธันวานี่ แบบกดเรียลไทม์ของวันนั้นเลย ผรากฏว่าห้องพักนางยังมีคนจองเต็มอยู่เลยจ้า คืออัลไล ถถถถถถถถถถถถ เราก็ไปบอกเพื่อน กูว่าไม่ใช่ละ เขาคงไม่อยากให้เราพักมากกว่า เพื่อนก็บอกเออไง กูผ่านไปเมื่อไม่กี่วันก่อนยังเห็นเปิดอยู่เลย 55555 อะไรครับท่านผู้ชม เรานี่งงมาก เราไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดีหรือเสียงดังเลยนะ อย่าว่างั้นงี้เลย ในสายตาเราๆว่าพี่เจ้าของนี่ไม่ปกติสักเท่าไหร่ เพื่อนเรายังบอกว่าเขาดูหวงที่พัก อาจจะเป็นเพราะช่วงที่เราไป เราไม่ค่อยได้ออกไปไหน เลยเปิดแอร์เกือบทั้งวัน อาจจะเปลืองไฟเขามั้ง ใครเคยมีประสบการณ์แบบเรามั่ง มาแชร์กันได้
ปล. ที่ๆเราพัก ตกแต่งค่อนข้างดี ส่วนใหญ่เป็นห้องพักเดี่ยว มีห้องติดระเบียงสองชั้น
สุดท้ายเพื่อนเราเลยแนะนำว่าครั้งหน้า หาที่พักใหม่ซะ TT