จำเป็นต้อง"ดูบอลโลกครบทุกคู่" ไหม กับราคาตั้ง "1300 ล้านบาท"
ถ้าดูซัก 70-80% ของทั้งหมด โดยเลือกคู่ที่สำคัญและเป็นที่นิยมของคนไทย ในช่วงรอบแรก -- จากนั้นในรอบที่ 2 ก็เลือกเฉพาะคู่ดังๆ และเป็นคู่ที่คนไทยชอบ -- รอบควอเต้อร์อาจดูทุกคู่ หรือเลือกเฉพาะบางคู่ -- จากนั้นดูทุกคู่ในเซมิไฟนอล และ ไฟนอล
โดยขอลดราคาเขาลงมาเหลือซัก "800 ล้านบาท" ซึ่งน่าจะเป็นไปได้ (อินโดนีเซีย ต่อรองได้"ไม่ถึง 1000 ล้านบาท"แล้ว ทั้งที่ประชากรของเขามากกว่าเราเกือบ 2 เท่าครึ่ง)
โดยที่ราคาขนาดนี้ ทางรัฐบาลช่วยซัก 40-50% และภาคเอกชนแบ่งที่เหลือกันไปตามช่องต่างๆที่จะมาร่วมถ่ายทอด ช่องละประมาณ 10-15%
สัดส่วนแบบนี้และราคาแบบนี้ คนไทยที่เสียภาษีคงจะไม่มีใครมาต่อว่า"รัฐบาล"ได้ (เพราะได้แบ่งความรับผิดชอบกับภาคเอกชนไปแล้ว โดยไม่ต้องอุ้มไว้ทั้งหมด) ขณะเดียวกัน"ภาคเอกชน"ของทีวีแต่ละช่องก็รับภาระกันแบบเฉลี่ยค่าใช้จ่ายกันไป ไม่เป็นภาระทั้งทางด้านการลงทุนและการหาสปอนเซ่อร์มาช่วยเป็นค่าโฆษณา
แบบนี้ "คนไทยก็จะได้ดูบอลโลกกันได้แล้ว -- โดยไม่พลาดคู่สำคัญๆที่คนไทยชอบดูกันเลย" (เราคงจะไม่ไปสนใจคู่ที่ไม่มีความสำคัญกับคนไทยหรอกนะ)
จำเป็นต้องดูบอลโลกครบทุกคู่ไหม กับราคาตั้ง 1300 ล้านบาท
ถ้าดูซัก 70-80% ของทั้งหมด โดยเลือกคู่ที่สำคัญและเป็นที่นิยมของคนไทย ในช่วงรอบแรก -- จากนั้นในรอบที่ 2 ก็เลือกเฉพาะคู่ดังๆ และเป็นคู่ที่คนไทยชอบ -- รอบควอเต้อร์อาจดูทุกคู่ หรือเลือกเฉพาะบางคู่ -- จากนั้นดูทุกคู่ในเซมิไฟนอล และ ไฟนอล
โดยขอลดราคาเขาลงมาเหลือซัก "800 ล้านบาท" ซึ่งน่าจะเป็นไปได้ (อินโดนีเซีย ต่อรองได้"ไม่ถึง 1000 ล้านบาท"แล้ว ทั้งที่ประชากรของเขามากกว่าเราเกือบ 2 เท่าครึ่ง)
โดยที่ราคาขนาดนี้ ทางรัฐบาลช่วยซัก 40-50% และภาคเอกชนแบ่งที่เหลือกันไปตามช่องต่างๆที่จะมาร่วมถ่ายทอด ช่องละประมาณ 10-15%
สัดส่วนแบบนี้และราคาแบบนี้ คนไทยที่เสียภาษีคงจะไม่มีใครมาต่อว่า"รัฐบาล"ได้ (เพราะได้แบ่งความรับผิดชอบกับภาคเอกชนไปแล้ว โดยไม่ต้องอุ้มไว้ทั้งหมด) ขณะเดียวกัน"ภาคเอกชน"ของทีวีแต่ละช่องก็รับภาระกันแบบเฉลี่ยค่าใช้จ่ายกันไป ไม่เป็นภาระทั้งทางด้านการลงทุนและการหาสปอนเซ่อร์มาช่วยเป็นค่าโฆษณา
แบบนี้ "คนไทยก็จะได้ดูบอลโลกกันได้แล้ว -- โดยไม่พลาดคู่สำคัญๆที่คนไทยชอบดูกันเลย" (เราคงจะไม่ไปสนใจคู่ที่ไม่มีความสำคัญกับคนไทยหรอกนะ)