หากใครที่เคยได้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นมาบ้างแล้วก็คงจะต้องคุ้นตากับโลโก้รูปแมวดำคาบลูกที่อยู่ตามมุมร้านสะดวกซื้อหรือโรงแรมทั่วไปในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งโลโก้แมวดำนั่นแหละครับคือสิ่งที่ผมจะมาแชร์ประสบการณ์การใช้บริการให้ทุกๆคนได้อ่านกันครับ


KURONEKO YAMATO หรือที่เราคนไทยเรียกกันว่า ขนส่งแมวดำ เป็นบริการขนส่งสินค้าและพัสดุของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็จะคล้ายๆกับไปรษณีย์ไทยบ้านเราเนี่ยแหละครับ แต่แตกต่างกันที่เจ้าแมวดำเนี่ยจะมีบริการพิเศษรูปแบบนึงที่เรียกว่า “TA-Q-BIN” หรือบริการขนส่งกระเป๋าเดินทางจากสถานที่นึงไปยังอีกสถานที่นึง เช่น จากโรงแรมในเมืองนึงไปยังโรงแรมอีกเมืองนึง หรือ จากโรงแรมไปยังสนามบิน ซึ่งบริการนี้ถือว่าสะดวกมากสำหรับผู้ที่วางแผนเที่ยวไปยังหลายๆเมืองในประเทศญี่ปุ่น ลองคิดดูซิครับว่าถ้าหากคุณวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นโดยเริ่มตั้งแต่เมืองโอซาก้าขึ้นไปจนถึงเกาะฮอกไกโดโดยจะต้องมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ติดตัวคุณไปด้วยตลอดการเดินทางเนี่ยจะเหนื่อยขนาดไหน
ผมเองก็พึ่งจะมีประสบการณ์ในการใช้แมวดำเป็นครั้งแรกเหมือนกันครับ และก็เป็นประสบการณ์ที่รู้สึกประทับใจในการบริการนี้เป็นอย่างมากด้วย ซึ่งตัวผมเองได้มีโอกาสไปเที่ยวเกาะฮอกไกโดมาเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาครับซึ่งเป็นช่วงที่หิมะกำลังตกพอดีเลย ผมเองได้วางแผนเที่ยวเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ดังนั้นกระเป๋าเดินทางที่ผมเอาไปด้วยตอนนั้นคือกระเป๋าเดินทางล้อลากขนาด 28 นิ้ว (กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่นั่นแหละครับ) ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดไว้หรอกครับว่าจะใช้บริการขนส่งแมวดำ แต่พอตอนที่ต้องลากกระเป๋าเดินทางไปมาในรถไฟใต้ดินจากสถานีซัปโปโรไปยังสถานีซูซูกิโนะและต้องลากต่อไปที่โรงแรมพร้อมกันกับเพื่อนๆอีก 10ชีวิต ผมจึงลองจินตนาการเล่นๆว่าถ้าจะต้องลากกระเป๋าแบบนี้ท่ามกลางหิมะด้วยเนี่ยคงจะไม่สนุกแน่ๆ นั่นแหละครับคือจุดเริ่มต้นที่ผมจะต้องหาหนทางที่จะต้องส่งสัมภาระของผมและเพื่อนๆไปยังจุดหมายถัดไปนั่นคือสกีรีสอร์ตที่นิเซโกะ

โดยปกติแล้วบริการขนส่งแมวดำนั้นจะมีอยู่ทั่วไปตามโรงแรมในประเทศญี่ปุ่นและตามร้านสะดวกซื้อครับ ซึ่งอาจจะต้องมองหาโลโก้แมวดำคาบลูกกันหน่อย ส่วนการใช้บริการนั้นก็ไม่มีอะไรมากครับ ถ้าหากใครที่จะใช้บริการแมวดำตามโรงแรมก็สามารถสอบถามที่แผนกต้อนรับของโรงแรมได้เลยครับ อย่างตอนที่ผมใช้บริการในตอนนั้น ทางโรงแรมจะวางแบบฟอร์มเอาไว้ที่เคาเตอร์เลยครับ เจ้าแบบฟอร์มที่ว่าเนี่ย ณ ตอนที่ผมใช้บริการมันเป็นแบบฟอร์มภาษาญี่ปุ่นซึ่งก็ทำเอาผมงงๆอยู่เหมือนกัน แต่โชคดีครับที่เจ้าหน้าที่โรงแรมเค้าบอกวิธีการกรอกข้อมูลมาให้เรียบร้อยเลยทำให้สะดวกขึ้นเยอะครับ

รูปที่ผมลงไว้เนี่ยแหละครับคือหน้าตาของแบบฟอร์มในการกรอกข้อมูล โดยที่ข้อมูลหลักที่จะต้องกรอกนั้นก็ไม่มีอะไรซับซ้อนครับโดยหลักๆแล้วก็จะเป็น ชื่อผู้ส่ง, จุดหมายปลายทางพร้อมที่อยู่ที่จะส่งไป, สิ่งของที่อยู่ด้านในกระเป๋าเดินทาง และ วันเวลาที่จะให้กระเป๋าเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทาง และเมื่อกรอกข้อมูลเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลาในการคำนวนเรทราคาในการจัดส่งละครับ
การคำนวณราคาค่าขนส่งนั้นสิ่งแรกที่ต้องคำนวนคือขนาดกับน้ำหนักของกระเป๋าเดินทางหรือสัมภาระเพื่อให้เรารู้ว่าสัมภาระเรานั้นอยู่ในกลุ่มขนาดไหนครับ จากนั้นจึงค่อยมาดูว่าเราจะส่งสัมภาระจากที่ไหนไปที่ไหนครับ ซึ่งการคำนวนขนาดของสัมภาระนั้นง่ายมากครับเพียงแค่เอาตลับเมตรมาทำการวัด ความกว้าง, ความยาว และความสูงของสัมภาระ แล้วนำตัวเลขที่วัดได้ของทั้งสามค่ามาบวกกันครับ แต่ปกติแล้วทางเจ้าหน้าที่ที่จุดบริการเค้าจะเป็นคนทำการวัดขนาดกระเป๋าเราเองครับ แต่เผื่อคนไหนที่อยากรู้เรทราคาคร่าวๆก็สามารถลองคำนวนเองก่อนได้เลยครับจะได้รู้ว่าต้องเตรียมค่าใช้จ่ายไปเผื่อประมาณเท่าไหร่

ยกตัวอย่าง กระเป๋าเดินทางขนาด 28นิ้ว มีขนาดความกว้าง, ยาว, สูง อยู่ที่ 47, 29, 64 cm ตามลำดับ จากนั้นนำตัวเลขที่ได้มาบวกกันซึ่งจะได้ 140 พอดีครับ นั่นหมายความว่ากระเป๋าเดินทางใบนี้อยู่ในกลุ่มไซส์ 140 เว้นแต่ว่าน้ำหนักของกระเป๋านั้นเกินจากน้ำหนักที่กำหนดไว้ของไซส์ 140 ครับ เช่น เมื่อนำกระเป๋าใบเดิมไปวัดน้ำหนักแล้วได้ 25 kg. หมายความว่ากระเป๋าใบนี้จะต้องโดนคำนวณที่ไซส์ 160 แทนครับ แต่ตอนที่ผมไปใช้บริการนั้นทางเจ้าหน้าที่โรงแรมเค้าก็ไม่ได้ชั่งน้ำหนักกระเป๋าครับ อาจจะเป็นเพราะว่าส่งจากโรงแรมรึเปล่าเลยไม่เคร่งครัดเท่าไหร่ ฮ่าๆๆ ส่วนราคาค่าส่งนั้นผมขอยกตัวอย่างจริงตอนที่ผมส่งแล้วกันนะครับ ซึ่งตอนนั้นกระเป๋าเดินทางขนาด 28นิ้ว ของผมอยู่ในกลุ่มไซส์ 140 และผมส่งจากซัปโปโรไปที่นิเซโกะ ซึ่งสถานที่ส่งกับสถานที่ปลายทางนั้นก็อยู่ในเกาะฮอกไกโดเหมือนกันครับทำให้ค่าขนส่งที่ผมโดนไปตอนนั้นอยู่ที่ 1,714 เยน ครับ ถ้าเป็นเงินไทยก็น่าจะประมาณ 500 กว่าบาท หากใครที่อยากรู้เรทราคาเพิ่มเติมสามารถหาข้อมูลเพิ่มได้ตามลิงค์ที่ผมแปะไว้ให้เลยครับ แต่ว่า!! เป็นภาษาญี่ปุ่นนะครับ แนะนำว่าให้ใช้ google translate แปลอีกทีครับ
http://date.kuronekoyamato.co.jp/date/Main?LINK=TK
เมื่อทำการส่งเรียบร้อยแล้วทางโรงแรมหรือทางจุดบริการจะให้เราเก็บต้นฉบับแบบฟอร์มไว้ครับเพื่อที่จะใช้เป็นหลักฐานในการรับของที่ปลายทางครับ ขอย้ำ!!! ห้ามทำต้นฉบับหาย เก็บให้ดีๆนะครับ กลับมาต่อที่ประสบการณ์ครับ ตอนนั้นผมส่งกระเป๋าไปตอนเช้าวันที่ 6 ธ.ค. และนัดให้กระเป๋าไปถึงที่โรงแรมนิเซโกะตอนช่วงบ่ายวันที่ 7 ธ.ค. เมื่อส่งกระเป๋าไปเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาเที่ยวอย่างสบายใจ จนวันรุ่งขึ้นที่ต้องเดินทางไปนิเซโกะนั้นพวกผมก็เดินทางกันแบบสะดวกสบายมาก ไม่ต้องมาลากกระเป๋าไปมาหรือต่อคิวขึ้นลงลิฟท์ในรถไฟใต้ดินให้เสียเวลา และเมื่อเดินทางถึงโรงแรมที่นิเซโกะประมาณ 10.30 สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจก็มาถึงพร้อมผมพอดี กระเป๋าเดินทางที่เราส่งจากซัปโปโรนั้นมาถึงพร้อมพวกผมพอดีครับ กำลังเช็คอินกับเพื่อนๆหันไปเห็นเจ้าหน้าที่กำลังแบกกระเป๋าเดินทางของพวกผมเข้ามาในโรงแรมพอดีและมากไปกว่านั้นกระเป๋าของพวกผมทุกใบถูกบรรจุอยู่ในกล่องลูกฟูกอย่างเรียบร้อยจนไม่ต้องห่วงเลยครับว่ากระเป๋าเดินทางหรือของข้างในจะเสียหาย ขนาดเพื่อนผมที่ซื้อกล่องดนตรีมาจากเมืองโอตารุแล้วแบกมาเองเพราะว่ากลัวเสียหาย ยังบอกเลยครับว่ารู้งี้ส่งมาพร้อมกระเป๋าเดินทางน่าจะปลอดภัยกว่า ฮ่าๆ

สรุปว่าบริการขนส่งแมวดำนั้นเหมาะมากครับสำหรับขนที่เดินทางไปหลายๆเมืองและไม่อยากแบกกระเป๋าเดินทางไปมา รวมไปถึงใครที่เดินทางกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ อย่างเช่นพวกผมตอนนั้นที่ไปกัน 11คน ถ้าต้องลากกระเป๋ารอกันไปมาก็น่าจะทำให้พลาดรถไฟหรือเสียเวลาในการเดินทางไปเยอะ แล้วถ้าเทียบกับราคาค่าขนส่งกับความสะดวกสบายและบริการแล้วผมถือว่าคุ้มครับ หากใครที่มีโอกาสไปญี่ปุ่นก็ลองไปใช้บริการกันดูนะครับหรือที่ใครที่เคยใช้บริการแล้วก็ลองมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันนะครับ
หากใครอยากศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสามารถไปตามลิงค์นี้ได้เลยครับ:
http://www.kuronekoyamato.co.jp/en/personal/ta_q_bin/
[CR] รีวิวการใช้ “แมวดำ” บริการส่งกระเป๋าเดินทางในประเทศญี่ปุ่น
KURONEKO YAMATO หรือที่เราคนไทยเรียกกันว่า ขนส่งแมวดำ เป็นบริการขนส่งสินค้าและพัสดุของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็จะคล้ายๆกับไปรษณีย์ไทยบ้านเราเนี่ยแหละครับ แต่แตกต่างกันที่เจ้าแมวดำเนี่ยจะมีบริการพิเศษรูปแบบนึงที่เรียกว่า “TA-Q-BIN” หรือบริการขนส่งกระเป๋าเดินทางจากสถานที่นึงไปยังอีกสถานที่นึง เช่น จากโรงแรมในเมืองนึงไปยังโรงแรมอีกเมืองนึง หรือ จากโรงแรมไปยังสนามบิน ซึ่งบริการนี้ถือว่าสะดวกมากสำหรับผู้ที่วางแผนเที่ยวไปยังหลายๆเมืองในประเทศญี่ปุ่น ลองคิดดูซิครับว่าถ้าหากคุณวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นโดยเริ่มตั้งแต่เมืองโอซาก้าขึ้นไปจนถึงเกาะฮอกไกโดโดยจะต้องมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ติดตัวคุณไปด้วยตลอดการเดินทางเนี่ยจะเหนื่อยขนาดไหน
ผมเองก็พึ่งจะมีประสบการณ์ในการใช้แมวดำเป็นครั้งแรกเหมือนกันครับ และก็เป็นประสบการณ์ที่รู้สึกประทับใจในการบริการนี้เป็นอย่างมากด้วย ซึ่งตัวผมเองได้มีโอกาสไปเที่ยวเกาะฮอกไกโดมาเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาครับซึ่งเป็นช่วงที่หิมะกำลังตกพอดีเลย ผมเองได้วางแผนเที่ยวเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ดังนั้นกระเป๋าเดินทางที่ผมเอาไปด้วยตอนนั้นคือกระเป๋าเดินทางล้อลากขนาด 28 นิ้ว (กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่นั่นแหละครับ) ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดไว้หรอกครับว่าจะใช้บริการขนส่งแมวดำ แต่พอตอนที่ต้องลากกระเป๋าเดินทางไปมาในรถไฟใต้ดินจากสถานีซัปโปโรไปยังสถานีซูซูกิโนะและต้องลากต่อไปที่โรงแรมพร้อมกันกับเพื่อนๆอีก 10ชีวิต ผมจึงลองจินตนาการเล่นๆว่าถ้าจะต้องลากกระเป๋าแบบนี้ท่ามกลางหิมะด้วยเนี่ยคงจะไม่สนุกแน่ๆ นั่นแหละครับคือจุดเริ่มต้นที่ผมจะต้องหาหนทางที่จะต้องส่งสัมภาระของผมและเพื่อนๆไปยังจุดหมายถัดไปนั่นคือสกีรีสอร์ตที่นิเซโกะ
โดยปกติแล้วบริการขนส่งแมวดำนั้นจะมีอยู่ทั่วไปตามโรงแรมในประเทศญี่ปุ่นและตามร้านสะดวกซื้อครับ ซึ่งอาจจะต้องมองหาโลโก้แมวดำคาบลูกกันหน่อย ส่วนการใช้บริการนั้นก็ไม่มีอะไรมากครับ ถ้าหากใครที่จะใช้บริการแมวดำตามโรงแรมก็สามารถสอบถามที่แผนกต้อนรับของโรงแรมได้เลยครับ อย่างตอนที่ผมใช้บริการในตอนนั้น ทางโรงแรมจะวางแบบฟอร์มเอาไว้ที่เคาเตอร์เลยครับ เจ้าแบบฟอร์มที่ว่าเนี่ย ณ ตอนที่ผมใช้บริการมันเป็นแบบฟอร์มภาษาญี่ปุ่นซึ่งก็ทำเอาผมงงๆอยู่เหมือนกัน แต่โชคดีครับที่เจ้าหน้าที่โรงแรมเค้าบอกวิธีการกรอกข้อมูลมาให้เรียบร้อยเลยทำให้สะดวกขึ้นเยอะครับ
รูปที่ผมลงไว้เนี่ยแหละครับคือหน้าตาของแบบฟอร์มในการกรอกข้อมูล โดยที่ข้อมูลหลักที่จะต้องกรอกนั้นก็ไม่มีอะไรซับซ้อนครับโดยหลักๆแล้วก็จะเป็น ชื่อผู้ส่ง, จุดหมายปลายทางพร้อมที่อยู่ที่จะส่งไป, สิ่งของที่อยู่ด้านในกระเป๋าเดินทาง และ วันเวลาที่จะให้กระเป๋าเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทาง และเมื่อกรอกข้อมูลเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลาในการคำนวนเรทราคาในการจัดส่งละครับ
การคำนวณราคาค่าขนส่งนั้นสิ่งแรกที่ต้องคำนวนคือขนาดกับน้ำหนักของกระเป๋าเดินทางหรือสัมภาระเพื่อให้เรารู้ว่าสัมภาระเรานั้นอยู่ในกลุ่มขนาดไหนครับ จากนั้นจึงค่อยมาดูว่าเราจะส่งสัมภาระจากที่ไหนไปที่ไหนครับ ซึ่งการคำนวนขนาดของสัมภาระนั้นง่ายมากครับเพียงแค่เอาตลับเมตรมาทำการวัด ความกว้าง, ความยาว และความสูงของสัมภาระ แล้วนำตัวเลขที่วัดได้ของทั้งสามค่ามาบวกกันครับ แต่ปกติแล้วทางเจ้าหน้าที่ที่จุดบริการเค้าจะเป็นคนทำการวัดขนาดกระเป๋าเราเองครับ แต่เผื่อคนไหนที่อยากรู้เรทราคาคร่าวๆก็สามารถลองคำนวนเองก่อนได้เลยครับจะได้รู้ว่าต้องเตรียมค่าใช้จ่ายไปเผื่อประมาณเท่าไหร่
ยกตัวอย่าง กระเป๋าเดินทางขนาด 28นิ้ว มีขนาดความกว้าง, ยาว, สูง อยู่ที่ 47, 29, 64 cm ตามลำดับ จากนั้นนำตัวเลขที่ได้มาบวกกันซึ่งจะได้ 140 พอดีครับ นั่นหมายความว่ากระเป๋าเดินทางใบนี้อยู่ในกลุ่มไซส์ 140 เว้นแต่ว่าน้ำหนักของกระเป๋านั้นเกินจากน้ำหนักที่กำหนดไว้ของไซส์ 140 ครับ เช่น เมื่อนำกระเป๋าใบเดิมไปวัดน้ำหนักแล้วได้ 25 kg. หมายความว่ากระเป๋าใบนี้จะต้องโดนคำนวณที่ไซส์ 160 แทนครับ แต่ตอนที่ผมไปใช้บริการนั้นทางเจ้าหน้าที่โรงแรมเค้าก็ไม่ได้ชั่งน้ำหนักกระเป๋าครับ อาจจะเป็นเพราะว่าส่งจากโรงแรมรึเปล่าเลยไม่เคร่งครัดเท่าไหร่ ฮ่าๆๆ ส่วนราคาค่าส่งนั้นผมขอยกตัวอย่างจริงตอนที่ผมส่งแล้วกันนะครับ ซึ่งตอนนั้นกระเป๋าเดินทางขนาด 28นิ้ว ของผมอยู่ในกลุ่มไซส์ 140 และผมส่งจากซัปโปโรไปที่นิเซโกะ ซึ่งสถานที่ส่งกับสถานที่ปลายทางนั้นก็อยู่ในเกาะฮอกไกโดเหมือนกันครับทำให้ค่าขนส่งที่ผมโดนไปตอนนั้นอยู่ที่ 1,714 เยน ครับ ถ้าเป็นเงินไทยก็น่าจะประมาณ 500 กว่าบาท หากใครที่อยากรู้เรทราคาเพิ่มเติมสามารถหาข้อมูลเพิ่มได้ตามลิงค์ที่ผมแปะไว้ให้เลยครับ แต่ว่า!! เป็นภาษาญี่ปุ่นนะครับ แนะนำว่าให้ใช้ google translate แปลอีกทีครับ
http://date.kuronekoyamato.co.jp/date/Main?LINK=TK
เมื่อทำการส่งเรียบร้อยแล้วทางโรงแรมหรือทางจุดบริการจะให้เราเก็บต้นฉบับแบบฟอร์มไว้ครับเพื่อที่จะใช้เป็นหลักฐานในการรับของที่ปลายทางครับ ขอย้ำ!!! ห้ามทำต้นฉบับหาย เก็บให้ดีๆนะครับ กลับมาต่อที่ประสบการณ์ครับ ตอนนั้นผมส่งกระเป๋าไปตอนเช้าวันที่ 6 ธ.ค. และนัดให้กระเป๋าไปถึงที่โรงแรมนิเซโกะตอนช่วงบ่ายวันที่ 7 ธ.ค. เมื่อส่งกระเป๋าไปเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาเที่ยวอย่างสบายใจ จนวันรุ่งขึ้นที่ต้องเดินทางไปนิเซโกะนั้นพวกผมก็เดินทางกันแบบสะดวกสบายมาก ไม่ต้องมาลากกระเป๋าไปมาหรือต่อคิวขึ้นลงลิฟท์ในรถไฟใต้ดินให้เสียเวลา และเมื่อเดินทางถึงโรงแรมที่นิเซโกะประมาณ 10.30 สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจก็มาถึงพร้อมผมพอดี กระเป๋าเดินทางที่เราส่งจากซัปโปโรนั้นมาถึงพร้อมพวกผมพอดีครับ กำลังเช็คอินกับเพื่อนๆหันไปเห็นเจ้าหน้าที่กำลังแบกกระเป๋าเดินทางของพวกผมเข้ามาในโรงแรมพอดีและมากไปกว่านั้นกระเป๋าของพวกผมทุกใบถูกบรรจุอยู่ในกล่องลูกฟูกอย่างเรียบร้อยจนไม่ต้องห่วงเลยครับว่ากระเป๋าเดินทางหรือของข้างในจะเสียหาย ขนาดเพื่อนผมที่ซื้อกล่องดนตรีมาจากเมืองโอตารุแล้วแบกมาเองเพราะว่ากลัวเสียหาย ยังบอกเลยครับว่ารู้งี้ส่งมาพร้อมกระเป๋าเดินทางน่าจะปลอดภัยกว่า ฮ่าๆ
สรุปว่าบริการขนส่งแมวดำนั้นเหมาะมากครับสำหรับขนที่เดินทางไปหลายๆเมืองและไม่อยากแบกกระเป๋าเดินทางไปมา รวมไปถึงใครที่เดินทางกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ อย่างเช่นพวกผมตอนนั้นที่ไปกัน 11คน ถ้าต้องลากกระเป๋ารอกันไปมาก็น่าจะทำให้พลาดรถไฟหรือเสียเวลาในการเดินทางไปเยอะ แล้วถ้าเทียบกับราคาค่าขนส่งกับความสะดวกสบายและบริการแล้วผมถือว่าคุ้มครับ หากใครที่มีโอกาสไปญี่ปุ่นก็ลองไปใช้บริการกันดูนะครับหรือที่ใครที่เคยใช้บริการแล้วก็ลองมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันนะครับ
หากใครอยากศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสามารถไปตามลิงค์นี้ได้เลยครับ:
http://www.kuronekoyamato.co.jp/en/personal/ta_q_bin/