คำตอบที่ได้จากไทเป… เปิด Topic มาเยี่ยงซีรี่ย์เกาหลีกันเลยทีเดียว
หนี่ห่าว !! พบกับผม “นายทิวเมฆ” อีกซักกระทู้ รีวิวนี้ผมลุยเดี่ยวอีกครั้งในรอบปีกว่าๆ เป้าหมายคือ ประเทศไต้หวัน หรือสามารถเรียกได้ว่าที่นี่เป็น “ลิตเติ้ลเจแปน” นั่นเอง
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการเดินทาง (เล็กน้อยจริมๆแหละ)
สกุลเงินที่ใช้ : ดอลลาร์ไต้หวัน NT (1 ดอล = 1.13 บาท ณ ที่ผมแลก)
ปลั๊กไฟ : 2 ขาแบบแบน
ขับรถ : พวงมาลัยซ้าย
ภาษาประจำชาติ : จีนกลาง, จีนฮกเกี้ยน (อังกฤษ พอพูดกันได้บ้าง)
สภาพอากาศ : ส่วนใหญ่อากาศเย็น มีฝนตกปรอยๆ และมีลมแรง
แผนการเดินทาง



การเดินทางไปไต้หวันในครั้งนี้ทำการบินโดย สายการบินฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ ผู้ใช้สโลแกนว่า “หัวใจแห่งฟิลิปิโน่” เป็นยังไงบ้าง? อ่านได้จากที่ผมรีวิวไว้เลยครับ
ภาพถ่ายรีวิวนี้ถ่ายโดย
กล้อง OLYMPUS OM-D EM10 MARK II ใช้เลนส์ 3 ตัว สลับตามใจฉัน
- OLY M.Zuiko Digital ED 14-42mm f/3.5-5.6 EZ
- OLY M.Zuiko Digital ED 40-150mm f/4.0-5.6 R
- Panasonic Leica DG Summilux 25mm f/1.4 Asph
2. มือถือ Huawei P10
4 Dec 2017 9:50 AM @Taoyuan International Airport
เยื้องย่างออกจากเครื่อง พร้อมกับลมโกรก สัมผัสได้ว่าลมข้างนอกต้องหนาวเย็นแน่นวลล เดินฉับๆไม่สนใจโลกมองตามป้ายสู่ ตม. แถวค่อนข้างยาวพอสมควร ครึ่งนึงเต็มไปด้วยชาวญี่ปุ่นจนต้องถามตัวเองอีกครั้งว่า “เราไม่ได้มาผิดประเทศแหม่นบ่”
ผ่าน ตม. ฉลุยไม่ถามไถ่ไรตรูซักคำ แบบฟอร์มก็ไม่ต้องกรอกอะไร ว่าแล้วก็เดินมารอรับกระเป๋าเป้แบ๊คแพ็คเพื่อนยาก เมินร้านขายซิม เพราะผมใช้งาน Sim2Fly จากไทย และเดินลงมาชั้นล่างไปที่ MRT Airport สายสีม่วงเพื่อเข้าเมือง
แค่ความรู้สึกแรกก็หลงรักประเทศนี้เข้าแล้ว ไม่ใช่เจอสาวสวยหรืออะไรหรอกครับ มันคือเจ้าป้ายบอกทางซึ่งมีอยู่ค่อนข้างถี่มาก พอๆกันกับห้องน้ำ คือแม้แต่คนที่ชอบหลงทาง ก็สามารถเดินตามป้ายมาได้ง่ายๆเลย
Taoyuan Airport MRT เป็นรถไฟฟ้าสายสีม่วงจากสนามบินเข้าเมือง สนนราคา 160 NT ซึ่งการเดินทางในไต้หวันผมจะใช้บัตร Easy Card ใบนี้เป็นหลัก เพราะเมื่อคำนวนดูแล้วคุ้มค่ากว่าซื้อพาส เพราะมันใช้ได้ทุกอย่าง ทั้งรถไฟ รถไฟฟ้า รถเมล์ แถมจ่ายเงินในร้านสะดวกซื้อพวกเซเว่นได้ด้วย

บัตร Easy Card สามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ของ Taoyuan Airport MRT เลย ภาษาจีนเค้าจะเรียก “โยวโหยวข่า” ดูตามใบเสร็จของผมนะครับ ค่าบัตรทั้งหมด 500 NT (แบ่งเป็นค่าซื้อบัตร 100 อีก 400 เป็นเงินที่มีในบัตร) ผมยังไม่เติมเพิ่ม ไว้ค่อยไปเติมเอาข้างหน้าดีกว่า
ได้บัตรเสร็จก็เอาไปแตะเข้า Airport MRT แบบหล่อๆเยี่ยงชาวไต้หวันได้เลยจ้าา เมื่อลงมาที่ชานชาลาดูให้ดีนั่งรถฝั่งที่ไป Taipei Main
Taoyuan Airport MRT ค่อนข้างใหม่เพราะเพิ่งเปิดบริการกันไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ในขบวนรถจะมีพื้นที่วางสัมภาระอยู่บริเวณใกล้ประตูรถ นั่งกันประมาณ 35 นาทีก็มาถึง Taipei Main Station
4 Dec 2017 11:20 AM @Taipei Main Station
แพลนของผมคือต่อไป Jiufen ดังนั้น ผมจึงต้องเดินตามป้าย MRT Bannan Line สายสีน้ำเงิน และเนื่องด้วย Taipei Main Station มีขนาดที่ใหญ่โตมโหฬาร สำหรับใครที่กลัวหลงเมื่อมาถึงที่นี่ผมจึงรู้ว่ามันเป็นเรื่องง่ายเอามากๆ เพราะจะมีป้ายบอกทางอยู่ถี่ยิบ รวมไปถึงห้องน้ำ 2-3 ก้าวก็ถึงแล้ว
ด้วยความที่ใกล้เที่ยง (เวลาไต้หวันเร็วกว่าเรา 1 ชั่วโมง) ผมแวะกินข้าวที่ Yoshinoya ในไทเปเมน ค่าเสียหายประมาณ 140 NT ระหว่างทางที่เดินไปรถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงิน ระยะทางจากที่เราลงรถไฟฟ้าสนามบินมาก็ประมาณ 800 เมตรเห็นจะได้
การไปจิ่วเฟิ่นนั้น ไปได้ 2 รูปแบบด้วยกัน
1. ไปรถไฟธรรมดา TRA ลงที่สถานี Ruifang 50 นาที และต่อรถเมล์สาย 788, 1062 20 นาที
2. นั่งใต้ดินไปลงสถานี Zhongxiao Fuxing 10 นาที และต่อรถเมล์สาย 1062 60 นาที
ซึ่งในที่นี้ผมเลือกไปด้วยทางที่ 2 และกลับด้วยทางที่ 1 เมื่อเราถึงสถานี Zhongxiao Fuxing แล้วให้ออกทางออกที่ 2 ออกปุ๊บเลี้ยวขวามุมถนนเลยจะเจอกับป้ายรถเมล์มีคนนั่งเต็ม “รู้เลยรอสายเดียวกันหล่ะสิ” นอกจากนั้นก็มีแท็กซี่ที่ตะโกนเรียกลูกค้าไปจิ่วเฟินด้วยเช่นกัน
รถเมล์สาย 1062 มาแล้ว ขึ้นกันเลยจ้าาา
ข้อควรรู้ในการขึ้นรถเมล์ไต้หวัน

ขึ้นรถปุ๊บแหงนหน้ามองบนดูป้ายไฟเหนือหัว ถ้าไฟแดงติดที่ตัวนี้ 上 แตะบัตรตอนขึ้น, ถ้าไฟแดงที่ตัวนี้ 下 แตะบัตรตอนลง
ในกรณีที่นั่งรถไกลๆ รถจะข้ามเขตกันจึงต้องแตะทั้งตอนขึ้นและลง สังเกตได้จากเมื่อเราขึ้นรถ ไฟแดงตัว 上 ติด พอเราจะลงตัว 下 จะติด
*** รถไปจิ่วเฟินเราต้องแตะทั้งขึ้นและลง เพราะจิ่วเฟินค่อนข้างไกลจากไทเป ดังนั้น รถต้องวิ่งข้ามเขต ตอนแตะขึ้นผมสังเกตว่า ขึ้นจอจ่าย 15 NT แล้วพอถึงแตะลงมันขึ้นจอ 80 NT ดังนั้น ค่ารถเมล์ไปจิ่วเฟินคือ 95 NT นาจาาาา ***
ลงป้ายนี้แหละ Jiufen Old Street มองเห็นหลังคาวัดสีส้ม ไม่ต้องไปกลัวหลงคนแห่กันลงยกคัน เพราะต่อไปอีกแค่ 1 ป้ายเป็นเหมืองทองคำจินกวาสือ (Jinguashi) ใครสนใจก็ไปเที่ยวได้ตามอัธยาศัยครับ



เป้าหมายแรกของผมคือ เอาสัมภารกไปเก็บที่พัก โดยที่พักของผมที่จิ่วเฟินคือ My Story Inn Jiufen Hostel นั่นเอง จากป้ายรถเมล์ต้องเดินลงเขาไปแบบนี้ จริงๆไม่ไกลนะแต่มันเดินลงเขาเลยดูว่าไกล
4 Dec 2017 14:00 PM @Jiufen
ได้เวลาออกสำรวจจิ่วเฟินกันแล้ว ผมเดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยใกล้ๆที่พัก แล้วก็เดินย้อนขึ้นไปทางเก่าเพื่อไปที่ป้ายรถเมล์ เพราะทางเข้าถนนโบราณอยู่ตรงนั้น







ตรงนี้จะมีเซเว่นเข้าไปซื้อน้ำกักตุนไว้เสียหน่อย ผู้คนเยอะหน้าทางเข้าถนนโบราณจิ่วเฟิน ได้ยินเสียงประชาชนชาวไทยมาบ้างประปราย


ผมเดินเก็บบรรยากาศและดูลู่ทางไปก่อน 1 รอบ เนื่องจากช่วงนี้คนแน่นมาก ร้านรวงบางร้านแทบจะแหวกฝูงชนเข้าไปไม่ได้เลยครับ



แล้วก็เดินกลับที่พักไปนอนเอาแรงเสียหน่อย เมื่อคืนจังหวะทรานสิทเครื่องที่ฟิลิปปินส์ไม่ได้นอนเลย ข้างตึกที่พักเป็นร้านค้าธีมแมวน่ารักๆ
4 Dec 2017 17:00 PM @Jiufen
ตั้งนาฬิกาปลุกตื่นมา อากาศครื้มฟ้าครื้มฝนนอนหลับสบายดีจริงๆ คราวนี้ผมเดินขึ้นทางบันไดข้างๆที่พักเลยครับ ก็จะผ่านหน้าร้านน้ำชาอาเม่ย มีเด็กนักเรียนญี่ปุ่นกลุ่มใหญ่มว๊ากกกเดินสวนทางลงมา


ของกินที่เวลามาที่นี่จะพลาดไม่ได้ โรตีไอติมถั่ว, ขนมบัวลอย, หยวนโร่ว (แป้งดึ๋งๆข้างในใส่หมูแดงกับผักดอง), ซุปลูกชิ้นรวมมิตร

ร้านไอติมสอดไส้ขนม และไส้กรอกร้านคุณป้า แกจะมีพร็อพจัดเต็ม แต่งหน้าเหมือนแป๊ะยิ้ม ใส่วิกหัวฟูๆ ใส่แว่นตาใหญ่ๆ เท่าที่ผมดูไส้กรอกแกขายราคาถูกกว่าเจ้าอื่น 5 NT

บรรยากาศร้านรวงในถนนคนเดินโบราณจิ่วเฟิน


ถ้าเราเดินขึ้นไปทางเส้นสีน้ำเงินตรงนั้นก็มีจุดที่ถ่ายวิวหมู่บ้านได้ทั้งหมดครับ แต่ผมลองขึ้นไปแล้วกลางคืนไม่น่าเดิน มืดพอสมควรและไม่รู้ทิศทางด้วย เอาเป็นว่าไปเก็บวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนเดินมาสุดทางตรงนี้เลยดีกว่าที่ผมกากบาท จะมีจุดชมวิวเล็กๆ ผู้คนบางตาลงแล้ว จับขาตั้งกล้องตั้งไว้บนขอบปูนแล้วถ่ายเอา



บริเวณหน้าร้านน้ำชาอาเม่ยจะมีร้านน้ำชาร้านนี้อยู่ พอดีผมไม่ได้จำชื่อ ถ้าใครอยากได้วิวร้านอาเม่ยจากมุมสูง สามารถเข้าไปสั่งชามาดื่มและเก็บภาพวิวได้ครับ ค่าเสียหายก็ประมาณกาละ 300-400 NT แพงหน่อยแลกกับบรรยากาศเอา

ส่วนผมลองๆถ่ายดูจากหน้าร้าน จุดนี้เป็นมุมมหาชนครับ นักท่องเที่ยวกำลังยืนถ่ายรูปกันเต็ม เอ้ออ...พอไหวอยู่ไม่เสียตงเสียตังค์มันล๊ะ แล้วฉากในการ์ตูน Spirited Away ก็เข้ามาอยู่ในกล้อง


บรรยากาศที่พักเป็นล็อกๆละ 4 คนมีม่านกั้น น่าจะมีประมาณ 4 ล็อก ห้องน้ำรวมแยกชายหญิง ค่าที่พัก 655 บาท แต่จิ่วเฟินส่วนใหญ่คนไม่ค้างคืน สามารถไปกลับวันเดียวได้ มันก็เลยโล่งๆหน่อย อย่างล็อกผมนอนกันแค่ 2 เตียง ล็อกอื่นก็เหมือนกัน
[CR] “ 6 Days in Taiwan ” เพียงแค่ได้รู้จัก...ก็รักหมดทั้งใจ
หนี่ห่าว !! พบกับผม “นายทิวเมฆ” อีกซักกระทู้ รีวิวนี้ผมลุยเดี่ยวอีกครั้งในรอบปีกว่าๆ เป้าหมายคือ ประเทศไต้หวัน หรือสามารถเรียกได้ว่าที่นี่เป็น “ลิตเติ้ลเจแปน” นั่นเอง
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการเดินทาง (เล็กน้อยจริมๆแหละ)
สกุลเงินที่ใช้ : ดอลลาร์ไต้หวัน NT (1 ดอล = 1.13 บาท ณ ที่ผมแลก)
ปลั๊กไฟ : 2 ขาแบบแบน
ขับรถ : พวงมาลัยซ้าย
ภาษาประจำชาติ : จีนกลาง, จีนฮกเกี้ยน (อังกฤษ พอพูดกันได้บ้าง)
สภาพอากาศ : ส่วนใหญ่อากาศเย็น มีฝนตกปรอยๆ และมีลมแรง
แผนการเดินทาง
การเดินทางไปไต้หวันในครั้งนี้ทำการบินโดย สายการบินฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ ผู้ใช้สโลแกนว่า “หัวใจแห่งฟิลิปิโน่” เป็นยังไงบ้าง? อ่านได้จากที่ผมรีวิวไว้เลยครับ
ภาพถ่ายรีวิวนี้ถ่ายโดย
กล้อง OLYMPUS OM-D EM10 MARK II ใช้เลนส์ 3 ตัว สลับตามใจฉัน
- OLY M.Zuiko Digital ED 14-42mm f/3.5-5.6 EZ
- OLY M.Zuiko Digital ED 40-150mm f/4.0-5.6 R
- Panasonic Leica DG Summilux 25mm f/1.4 Asph
2. มือถือ Huawei P10
4 Dec 2017 9:50 AM @Taoyuan International Airport
เยื้องย่างออกจากเครื่อง พร้อมกับลมโกรก สัมผัสได้ว่าลมข้างนอกต้องหนาวเย็นแน่นวลล เดินฉับๆไม่สนใจโลกมองตามป้ายสู่ ตม. แถวค่อนข้างยาวพอสมควร ครึ่งนึงเต็มไปด้วยชาวญี่ปุ่นจนต้องถามตัวเองอีกครั้งว่า “เราไม่ได้มาผิดประเทศแหม่นบ่”
ผ่าน ตม. ฉลุยไม่ถามไถ่ไรตรูซักคำ แบบฟอร์มก็ไม่ต้องกรอกอะไร ว่าแล้วก็เดินมารอรับกระเป๋าเป้แบ๊คแพ็คเพื่อนยาก เมินร้านขายซิม เพราะผมใช้งาน Sim2Fly จากไทย และเดินลงมาชั้นล่างไปที่ MRT Airport สายสีม่วงเพื่อเข้าเมือง
แค่ความรู้สึกแรกก็หลงรักประเทศนี้เข้าแล้ว ไม่ใช่เจอสาวสวยหรืออะไรหรอกครับ มันคือเจ้าป้ายบอกทางซึ่งมีอยู่ค่อนข้างถี่มาก พอๆกันกับห้องน้ำ คือแม้แต่คนที่ชอบหลงทาง ก็สามารถเดินตามป้ายมาได้ง่ายๆเลย
Taoyuan Airport MRT เป็นรถไฟฟ้าสายสีม่วงจากสนามบินเข้าเมือง สนนราคา 160 NT ซึ่งการเดินทางในไต้หวันผมจะใช้บัตร Easy Card ใบนี้เป็นหลัก เพราะเมื่อคำนวนดูแล้วคุ้มค่ากว่าซื้อพาส เพราะมันใช้ได้ทุกอย่าง ทั้งรถไฟ รถไฟฟ้า รถเมล์ แถมจ่ายเงินในร้านสะดวกซื้อพวกเซเว่นได้ด้วย
บัตร Easy Card สามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ของ Taoyuan Airport MRT เลย ภาษาจีนเค้าจะเรียก “โยวโหยวข่า” ดูตามใบเสร็จของผมนะครับ ค่าบัตรทั้งหมด 500 NT (แบ่งเป็นค่าซื้อบัตร 100 อีก 400 เป็นเงินที่มีในบัตร) ผมยังไม่เติมเพิ่ม ไว้ค่อยไปเติมเอาข้างหน้าดีกว่า
ได้บัตรเสร็จก็เอาไปแตะเข้า Airport MRT แบบหล่อๆเยี่ยงชาวไต้หวันได้เลยจ้าา เมื่อลงมาที่ชานชาลาดูให้ดีนั่งรถฝั่งที่ไป Taipei Main
Taoyuan Airport MRT ค่อนข้างใหม่เพราะเพิ่งเปิดบริการกันไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ในขบวนรถจะมีพื้นที่วางสัมภาระอยู่บริเวณใกล้ประตูรถ นั่งกันประมาณ 35 นาทีก็มาถึง Taipei Main Station
4 Dec 2017 11:20 AM @Taipei Main Station
แพลนของผมคือต่อไป Jiufen ดังนั้น ผมจึงต้องเดินตามป้าย MRT Bannan Line สายสีน้ำเงิน และเนื่องด้วย Taipei Main Station มีขนาดที่ใหญ่โตมโหฬาร สำหรับใครที่กลัวหลงเมื่อมาถึงที่นี่ผมจึงรู้ว่ามันเป็นเรื่องง่ายเอามากๆ เพราะจะมีป้ายบอกทางอยู่ถี่ยิบ รวมไปถึงห้องน้ำ 2-3 ก้าวก็ถึงแล้ว
ด้วยความที่ใกล้เที่ยง (เวลาไต้หวันเร็วกว่าเรา 1 ชั่วโมง) ผมแวะกินข้าวที่ Yoshinoya ในไทเปเมน ค่าเสียหายประมาณ 140 NT ระหว่างทางที่เดินไปรถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงิน ระยะทางจากที่เราลงรถไฟฟ้าสนามบินมาก็ประมาณ 800 เมตรเห็นจะได้
การไปจิ่วเฟิ่นนั้น ไปได้ 2 รูปแบบด้วยกัน
1. ไปรถไฟธรรมดา TRA ลงที่สถานี Ruifang 50 นาที และต่อรถเมล์สาย 788, 1062 20 นาที
2. นั่งใต้ดินไปลงสถานี Zhongxiao Fuxing 10 นาที และต่อรถเมล์สาย 1062 60 นาที
ซึ่งในที่นี้ผมเลือกไปด้วยทางที่ 2 และกลับด้วยทางที่ 1 เมื่อเราถึงสถานี Zhongxiao Fuxing แล้วให้ออกทางออกที่ 2 ออกปุ๊บเลี้ยวขวามุมถนนเลยจะเจอกับป้ายรถเมล์มีคนนั่งเต็ม “รู้เลยรอสายเดียวกันหล่ะสิ” นอกจากนั้นก็มีแท็กซี่ที่ตะโกนเรียกลูกค้าไปจิ่วเฟินด้วยเช่นกัน
รถเมล์สาย 1062 มาแล้ว ขึ้นกันเลยจ้าาา
ข้อควรรู้ในการขึ้นรถเมล์ไต้หวัน
ขึ้นรถปุ๊บแหงนหน้ามองบนดูป้ายไฟเหนือหัว ถ้าไฟแดงติดที่ตัวนี้ 上 แตะบัตรตอนขึ้น, ถ้าไฟแดงที่ตัวนี้ 下 แตะบัตรตอนลง
ในกรณีที่นั่งรถไกลๆ รถจะข้ามเขตกันจึงต้องแตะทั้งตอนขึ้นและลง สังเกตได้จากเมื่อเราขึ้นรถ ไฟแดงตัว 上 ติด พอเราจะลงตัว 下 จะติด
*** รถไปจิ่วเฟินเราต้องแตะทั้งขึ้นและลง เพราะจิ่วเฟินค่อนข้างไกลจากไทเป ดังนั้น รถต้องวิ่งข้ามเขต ตอนแตะขึ้นผมสังเกตว่า ขึ้นจอจ่าย 15 NT แล้วพอถึงแตะลงมันขึ้นจอ 80 NT ดังนั้น ค่ารถเมล์ไปจิ่วเฟินคือ 95 NT นาจาาาา ***
ลงป้ายนี้แหละ Jiufen Old Street มองเห็นหลังคาวัดสีส้ม ไม่ต้องไปกลัวหลงคนแห่กันลงยกคัน เพราะต่อไปอีกแค่ 1 ป้ายเป็นเหมืองทองคำจินกวาสือ (Jinguashi) ใครสนใจก็ไปเที่ยวได้ตามอัธยาศัยครับ
เป้าหมายแรกของผมคือ เอาสัมภารกไปเก็บที่พัก โดยที่พักของผมที่จิ่วเฟินคือ My Story Inn Jiufen Hostel นั่นเอง จากป้ายรถเมล์ต้องเดินลงเขาไปแบบนี้ จริงๆไม่ไกลนะแต่มันเดินลงเขาเลยดูว่าไกล
4 Dec 2017 14:00 PM @Jiufen
ได้เวลาออกสำรวจจิ่วเฟินกันแล้ว ผมเดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยใกล้ๆที่พัก แล้วก็เดินย้อนขึ้นไปทางเก่าเพื่อไปที่ป้ายรถเมล์ เพราะทางเข้าถนนโบราณอยู่ตรงนั้น
ตรงนี้จะมีเซเว่นเข้าไปซื้อน้ำกักตุนไว้เสียหน่อย ผู้คนเยอะหน้าทางเข้าถนนโบราณจิ่วเฟิน ได้ยินเสียงประชาชนชาวไทยมาบ้างประปราย
ผมเดินเก็บบรรยากาศและดูลู่ทางไปก่อน 1 รอบ เนื่องจากช่วงนี้คนแน่นมาก ร้านรวงบางร้านแทบจะแหวกฝูงชนเข้าไปไม่ได้เลยครับ
แล้วก็เดินกลับที่พักไปนอนเอาแรงเสียหน่อย เมื่อคืนจังหวะทรานสิทเครื่องที่ฟิลิปปินส์ไม่ได้นอนเลย ข้างตึกที่พักเป็นร้านค้าธีมแมวน่ารักๆ
4 Dec 2017 17:00 PM @Jiufen
ตั้งนาฬิกาปลุกตื่นมา อากาศครื้มฟ้าครื้มฝนนอนหลับสบายดีจริงๆ คราวนี้ผมเดินขึ้นทางบันไดข้างๆที่พักเลยครับ ก็จะผ่านหน้าร้านน้ำชาอาเม่ย มีเด็กนักเรียนญี่ปุ่นกลุ่มใหญ่มว๊ากกกเดินสวนทางลงมา
ของกินที่เวลามาที่นี่จะพลาดไม่ได้ โรตีไอติมถั่ว, ขนมบัวลอย, หยวนโร่ว (แป้งดึ๋งๆข้างในใส่หมูแดงกับผักดอง), ซุปลูกชิ้นรวมมิตร
ร้านไอติมสอดไส้ขนม และไส้กรอกร้านคุณป้า แกจะมีพร็อพจัดเต็ม แต่งหน้าเหมือนแป๊ะยิ้ม ใส่วิกหัวฟูๆ ใส่แว่นตาใหญ่ๆ เท่าที่ผมดูไส้กรอกแกขายราคาถูกกว่าเจ้าอื่น 5 NT
บรรยากาศร้านรวงในถนนคนเดินโบราณจิ่วเฟิน
ถ้าเราเดินขึ้นไปทางเส้นสีน้ำเงินตรงนั้นก็มีจุดที่ถ่ายวิวหมู่บ้านได้ทั้งหมดครับ แต่ผมลองขึ้นไปแล้วกลางคืนไม่น่าเดิน มืดพอสมควรและไม่รู้ทิศทางด้วย เอาเป็นว่าไปเก็บวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนเดินมาสุดทางตรงนี้เลยดีกว่าที่ผมกากบาท จะมีจุดชมวิวเล็กๆ ผู้คนบางตาลงแล้ว จับขาตั้งกล้องตั้งไว้บนขอบปูนแล้วถ่ายเอา
บริเวณหน้าร้านน้ำชาอาเม่ยจะมีร้านน้ำชาร้านนี้อยู่ พอดีผมไม่ได้จำชื่อ ถ้าใครอยากได้วิวร้านอาเม่ยจากมุมสูง สามารถเข้าไปสั่งชามาดื่มและเก็บภาพวิวได้ครับ ค่าเสียหายก็ประมาณกาละ 300-400 NT แพงหน่อยแลกกับบรรยากาศเอา
ส่วนผมลองๆถ่ายดูจากหน้าร้าน จุดนี้เป็นมุมมหาชนครับ นักท่องเที่ยวกำลังยืนถ่ายรูปกันเต็ม เอ้ออ...พอไหวอยู่ไม่เสียตงเสียตังค์มันล๊ะ แล้วฉากในการ์ตูน Spirited Away ก็เข้ามาอยู่ในกล้อง
บรรยากาศที่พักเป็นล็อกๆละ 4 คนมีม่านกั้น น่าจะมีประมาณ 4 ล็อก ห้องน้ำรวมแยกชายหญิง ค่าที่พัก 655 บาท แต่จิ่วเฟินส่วนใหญ่คนไม่ค้างคืน สามารถไปกลับวันเดียวได้ มันก็เลยโล่งๆหน่อย อย่างล็อกผมนอนกันแค่ 2 เตียง ล็อกอื่นก็เหมือนกัน