
ใกล้จะสิ้นปีแล้ว มีใครยังนั่งทำงานอยู่บ้าง ยกมือขึ้น...
ต้องมีซักคนล่ะที่ยังไม่หยุด..เที่ยว เอ้ย หยุดทำงานเช่นเรา เหมือนทุกๆครั้งเราขึ้นมาทำงานที่เชียงใหม่ในช่วงหน้าหนาวใกล้สิ้นปี อากาศหนาวๆที่ใครๆต่างพากันมาเที่ยวแต่เราพาตัวเองมาทำงาน
หลายต่อหลายครั้งที่ขึ้นมาทำงานที่เชียงใหม่ในทุกๆปี ปีละหลายๆครั้ง เราพาตัวเองไปที่นู้นที่นี่เต็มไปหมดแต่ยังไม่สักครั้งเลยที่เราจะไปที่นี่ "ม่อนแจ่ม"

ครั้งนี้เลยขอพาตัวเองไปนอนชิวๆสักหน่อย เราเลยอยากชวน คุณ คุณ คุณ ไปนั่งโง่ๆกันที่ม่อนแจ่มใกล้ๆตัวเมืองเชียงใหม่นี้แหละ ตามไปชิวแบบไร้แพลนกับเรากัน

การเดินทางมาเชียงใหม่ก็แล้วแต่ความชอบนะ รถยนต์ส่วนตัว รถไฟ รถมอเตอร์ไซค์ รถทัวร์ หรือเครื่องบิน ส่วนการเดินทางในตัวเมืองก็มีให้เลือกอีกเหมือนกันตามระดับสตางค์ในกระเป๋า จนหน่อย ตังค์หมดไปกับตั๋วรถหมดแล้ว เหลือตังค์พอแค่กินข้าวก็เดิน ทุกที่ไปถึงได้ด้วยสองเท้าของเรา ฮึบ ฮึบ รวยขึ้นมาหน่อยก็นั่งรถแดง สองแถวแอร์ธรรมชาติแถมคนขับ มีตังค์ขึ้นมาอีกนิดก็เช่าจักรยาน เช่ามอเตอร์ไซค์ขี่กันไป
แต่ถ้าคุณอยากจะไปไกลจากตัวเมืองและคูเมืองของเชียงใหม่เราแนะนำเช่ารถยนต์ส่วนตัว มีทั้งของต่างประเทศ และของในประเทศให้เลือกสรร แต่ถ้าคุณต้องการการบริการเต็มรูปแบบเราแนะนำรถยนต์เช่าพร้อมคนขับ อยากไปไหนแค่บอก นั่งแกว่งขา ชิวๆ ถึงที่หมายโดยไม่ต้องออกแรง แค่ออกตังค์

พูดเรื่องวิธีเดินทางหมดแล้ว อันนี้มาพูดเรื่องแพลนดีกว่า เช้าวันเสาร์เราจะออกเดินทางจากนิมมานตอน 10 โมงเช้าแวะกินข้าวที่ร้าน the ironwood ก่อนจะไปนั่งโง่ๆ ฟังเสียงนก กระดกเบียร์ เกลี่ยหมูลงเตา เมาใต้แสงจันทร์ ฝันกลางคืน ตื่นใต้แสงดาว ที่ม่อนแจ่มว้าว อ้าวก่อนจะไปไกลกว่านี้ หิวแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ

THE IRONWOOD เป็นร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ท่ามกลางธรรมชาติที่ตั้งอยู่ย่านแม่ริม วิธีการเดินทาง ขับรถออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ด้วยทางหลวงหมายเลข 121 จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1096 แม่ริม-สะเมิง ตรงไปเกือบ 5 กิโลเมตรก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยน้ำตกแม่สา 8 จากนั้นตรงไปในซอยลดเลี้ยว ถนนขรุขระนิดหน่อย เกือบ 1 กิโลเมตร

แล้วก็จะพบร้านอาหารหน้าตาดี มีความอบอุ่น ร้านเปิดตอน 11 โมง ตัวร้านแต่งสไตล์สวนหลังบ้าน เหมาะกับการนัดพูดคุย เมนูมีทั้งคาว หวาน น้ำชา กาแฟ ให้เลือกกัน


แต่ถ้าใครกะจะมาทานข้าวแบบจิงจังที่นี่คงไม่เหมาะเท่าไหร่ เพราะรายการอาหารไม่ได้มีเยอะขนาดนั้น แต่บอกไว้ก่อนนะถึงเมนูจะไม่เยอะ แต่การันตีความอร่อยทุกจานนะ



นอกจากเป็นร้านอาหาร ที่นี่เค้ามีบริการห้องพักด้วยนะเออ ใครสนใจก็ลองติดต่อกันดู


สำหรับร้านนี้เราว่าการตกแต่งร้านให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง เหมือนมากินอาหารที่บ้าน บวกกับอาหารที่กินเข้าไปให้ความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านเลย ยังไงถ้าผ่านมาทางนี้ก็อย่าลืมมาลองกัน



เติมพลังเสร็จก็ออกเที่ยวได้ ระหว่างทางไปม่อนแจ่มมีที่ท่องเที่ยวมากมาย ใครอยากลองขี่ช้างเชิญปางช้างแม่สา แต่ถ้าสายโหดอยากถ่ายรูปกับเสือเชิญtigerkingdom ใครสายฮิปเตอร์ก็ลองแวะถ่ายรูปกับกระบองเพชรในเรือนกระจกที่สวนพฤกษศาตร์ ใครชอบหวาดเสียวก็มีโป่งแยงซิบไลน์ rollercoster เชียงใหม่สไตล์ เราเคยลองมาแล้วรอบนี้เลยขอผ่านละกันนะ

แต่ถ้าใครขี้เกียจหน่อยแบบเรา อยากยืดตัวเอนลงงีบบนยอดดอยแล้วละก็ เชิญตามเรามาเลยจ้า

ม่อนแจ่ม คืนนี้เราพักกันที่บ้านพักท่าจัน ที่พักมีให้เลือกทั้งบ้านพักและเต้นท์ มีน้ำอุ่นบริการทุกห้องนอน ตัวบ้านเป็นลักษณะบังกะโลยื่นเข้าหาหุบเขา ทางที่พักมีห้องให้บริการประมาณ 8 หลัง ใครสนใจก็จองกันแต่เนิ่นๆเด้อ

มาถึงม่อนแจ่มก็เวลาประมาณบ่ายโมงนิดๆ ได้เวลาเช็คอินพอดี ลากตัวลากกระเป๋าเข้าห้อง จากนั้นก้เอนตัวลงบนเตียงกะจะงีบซะหน่อยตื่นมาอีกทีห้าโมงครึ่งเห็นจะได้ ภายในห้องพักมีหน้าต่างบานกว้าง พอดีระดับสายตาที่จะได้เห็นท้องฟ้ายามเย็นสีทไวไลท์ หยิบกล้องสิรออะไร มาตั้งไกล(ได้ข่าวว่า 1 ชั่วโมงจากตัวเมืองเชียงใหม่)จะมานอนอยู่เฉยๆได้ไง

ถึงเวลามื้อค่ำเด็กหนุ่มชาวดอยเดินมาถามว่าจะรับหมูกระทะเลยมั๊ย ใช่แล้วมื้อเย็นกลางเขา อะไรจะเหมาะไปกว่านี้ หมูกระทะ 1 ชุดบวกหมูเพิ่มอีกครึ่งกิโล มันช่างดีต่อใจจริงๆ หนังท้องตึง หนังตาหย่อน เปล่าฉันยังไม่นอนหรอก หลังจากกินอิ่ม เราก็นั่งคุยกันต่ออีกหน่อยแล้วถึงแยกย้ายเข้าห้อง

บรรยากาศหนาวในยามค่ำคืนของที่นี่ประกอบกับ ดาวดวงเล็กที่แข่งกันส่องแสงระยิบระยับทำให้บบรรยากาศโดยรอบโรแมนติกขึ้นมาเบาๆชวนให้นึกถึงเพลงนี้ในหัวเลย ปีแสง(11) ของ jetset’er เข้ากันดีอย่างบอกไม่ถูก
‘บนท้องฟ้ามีดวงดาวนับล้าน
จักรวาลแสนกว้างใหญ่
จะมีไหมใครสักคน
ที่รู้สึกเหมือนกันตอนนี้
หากมีแรงแห่งความเหงา
ดูดดึงเราเข้ามาใกล้
เหวี่ยงให้หัวใจได้ผูกพัน
กับใครคนนั้น ชีวิตฉัน
ก็คงไม่เหงาอีกต่อไป’
ราตรีสวัสดิ์

เช้าวันรุ่งขึ้น 6.30 น่าจะได้ ลืมตาแบบสะลึมสะลือ เห็นวิวนอกกระจกบานใหญ่บานเดิม แสงเช้า ฉันรีบลุกจากที่นอนคว้าเสื้อ jacket กล้อง แล้วออกไปถ่ายรูป เช้านี้อากาศก็เย็นเช่นเคย ไร้ซึ่งร่องรอยของทะเลหมอก คงเพราะวันนี้ฟ้าเปิด


ช่างเถอะไปสำรวจรอบๆที่พักกันเถอะ ข้างๆบ้านพักมีสวนสตรอเบอร์รี่เล็กๆอยู่ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูป เด็ดชิม ขยับไปอีกนิดมีดงดอกหญ้าให้ถ่ายรูปชิคๆ ร้านกาแฟ ร้านอาหารเช้าเริ่มเปิดให้บริการ เวลาผ่านไปเร็ว พระอาทิตย์โผล่พ้นภูเขาซะแล้วได้เวลากลับห้อง กินข้าวเช้า อาบน้ำแต่งตัว แล้วกลับนิมมาน เชียงใหม่ ซะที


ครั้งนี้นับเป็นการเดินทางด้วยแพลนที่โล่งมาก เรียบง่ายมาก ธรรมดามาก แต่ก็ได้พักผ่อนเต็มที่มาก ก่อนจะไปพบกับเช้าวันจันทร์ที่เหน็ดเหนื่อยอีกครั้ง ถ้าใครที่อยากรีแล็กตัวเองแบบไม่เหนื่อยมาก ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ที่นี่ก็เป็นอีกที่นึงที่อยากแนะนำทุกคนให้มากัน สบายๆไม่ต้องคิดไรให้มากมาย

เข้ามาพูดคุย สอบถามการเดินทางกับเราได้ตามนี้เลยนะเอยย
ดูรีวิวอื่นๆได้ที่
https://www.gotravelgoal.com/
ชมภาพสวยๆได้ที่ ig :
https://www.instagram.com/gotravelgoal/
หรือจะเข้ามาเม้ากันก็ได้นะเอยที่ FB :
https://www.facebook.com/gotravelgoal/
[SR] จากตัวฉัน..ถึงม่อนแจ่ม
ต้องมีซักคนล่ะที่ยังไม่หยุด..เที่ยว เอ้ย หยุดทำงานเช่นเรา เหมือนทุกๆครั้งเราขึ้นมาทำงานที่เชียงใหม่ในช่วงหน้าหนาวใกล้สิ้นปี อากาศหนาวๆที่ใครๆต่างพากันมาเที่ยวแต่เราพาตัวเองมาทำงาน
หลายต่อหลายครั้งที่ขึ้นมาทำงานที่เชียงใหม่ในทุกๆปี ปีละหลายๆครั้ง เราพาตัวเองไปที่นู้นที่นี่เต็มไปหมดแต่ยังไม่สักครั้งเลยที่เราจะไปที่นี่ "ม่อนแจ่ม"
ครั้งนี้เลยขอพาตัวเองไปนอนชิวๆสักหน่อย เราเลยอยากชวน คุณ คุณ คุณ ไปนั่งโง่ๆกันที่ม่อนแจ่มใกล้ๆตัวเมืองเชียงใหม่นี้แหละ ตามไปชิวแบบไร้แพลนกับเรากัน
การเดินทางมาเชียงใหม่ก็แล้วแต่ความชอบนะ รถยนต์ส่วนตัว รถไฟ รถมอเตอร์ไซค์ รถทัวร์ หรือเครื่องบิน ส่วนการเดินทางในตัวเมืองก็มีให้เลือกอีกเหมือนกันตามระดับสตางค์ในกระเป๋า จนหน่อย ตังค์หมดไปกับตั๋วรถหมดแล้ว เหลือตังค์พอแค่กินข้าวก็เดิน ทุกที่ไปถึงได้ด้วยสองเท้าของเรา ฮึบ ฮึบ รวยขึ้นมาหน่อยก็นั่งรถแดง สองแถวแอร์ธรรมชาติแถมคนขับ มีตังค์ขึ้นมาอีกนิดก็เช่าจักรยาน เช่ามอเตอร์ไซค์ขี่กันไป
แต่ถ้าคุณอยากจะไปไกลจากตัวเมืองและคูเมืองของเชียงใหม่เราแนะนำเช่ารถยนต์ส่วนตัว มีทั้งของต่างประเทศ และของในประเทศให้เลือกสรร แต่ถ้าคุณต้องการการบริการเต็มรูปแบบเราแนะนำรถยนต์เช่าพร้อมคนขับ อยากไปไหนแค่บอก นั่งแกว่งขา ชิวๆ ถึงที่หมายโดยไม่ต้องออกแรง แค่ออกตังค์
พูดเรื่องวิธีเดินทางหมดแล้ว อันนี้มาพูดเรื่องแพลนดีกว่า เช้าวันเสาร์เราจะออกเดินทางจากนิมมานตอน 10 โมงเช้าแวะกินข้าวที่ร้าน the ironwood ก่อนจะไปนั่งโง่ๆ ฟังเสียงนก กระดกเบียร์ เกลี่ยหมูลงเตา เมาใต้แสงจันทร์ ฝันกลางคืน ตื่นใต้แสงดาว ที่ม่อนแจ่มว้าว อ้าวก่อนจะไปไกลกว่านี้ หิวแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ
THE IRONWOOD เป็นร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ท่ามกลางธรรมชาติที่ตั้งอยู่ย่านแม่ริม วิธีการเดินทาง ขับรถออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ด้วยทางหลวงหมายเลข 121 จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1096 แม่ริม-สะเมิง ตรงไปเกือบ 5 กิโลเมตรก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยน้ำตกแม่สา 8 จากนั้นตรงไปในซอยลดเลี้ยว ถนนขรุขระนิดหน่อย เกือบ 1 กิโลเมตร
แล้วก็จะพบร้านอาหารหน้าตาดี มีความอบอุ่น ร้านเปิดตอน 11 โมง ตัวร้านแต่งสไตล์สวนหลังบ้าน เหมาะกับการนัดพูดคุย เมนูมีทั้งคาว หวาน น้ำชา กาแฟ ให้เลือกกัน
แต่ถ้าใครกะจะมาทานข้าวแบบจิงจังที่นี่คงไม่เหมาะเท่าไหร่ เพราะรายการอาหารไม่ได้มีเยอะขนาดนั้น แต่บอกไว้ก่อนนะถึงเมนูจะไม่เยอะ แต่การันตีความอร่อยทุกจานนะ
นอกจากเป็นร้านอาหาร ที่นี่เค้ามีบริการห้องพักด้วยนะเออ ใครสนใจก็ลองติดต่อกันดู
สำหรับร้านนี้เราว่าการตกแต่งร้านให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง เหมือนมากินอาหารที่บ้าน บวกกับอาหารที่กินเข้าไปให้ความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านเลย ยังไงถ้าผ่านมาทางนี้ก็อย่าลืมมาลองกัน
เติมพลังเสร็จก็ออกเที่ยวได้ ระหว่างทางไปม่อนแจ่มมีที่ท่องเที่ยวมากมาย ใครอยากลองขี่ช้างเชิญปางช้างแม่สา แต่ถ้าสายโหดอยากถ่ายรูปกับเสือเชิญtigerkingdom ใครสายฮิปเตอร์ก็ลองแวะถ่ายรูปกับกระบองเพชรในเรือนกระจกที่สวนพฤกษศาตร์ ใครชอบหวาดเสียวก็มีโป่งแยงซิบไลน์ rollercoster เชียงใหม่สไตล์ เราเคยลองมาแล้วรอบนี้เลยขอผ่านละกันนะ
แต่ถ้าใครขี้เกียจหน่อยแบบเรา อยากยืดตัวเอนลงงีบบนยอดดอยแล้วละก็ เชิญตามเรามาเลยจ้า
ม่อนแจ่ม คืนนี้เราพักกันที่บ้านพักท่าจัน ที่พักมีให้เลือกทั้งบ้านพักและเต้นท์ มีน้ำอุ่นบริการทุกห้องนอน ตัวบ้านเป็นลักษณะบังกะโลยื่นเข้าหาหุบเขา ทางที่พักมีห้องให้บริการประมาณ 8 หลัง ใครสนใจก็จองกันแต่เนิ่นๆเด้อ
มาถึงม่อนแจ่มก็เวลาประมาณบ่ายโมงนิดๆ ได้เวลาเช็คอินพอดี ลากตัวลากกระเป๋าเข้าห้อง จากนั้นก้เอนตัวลงบนเตียงกะจะงีบซะหน่อยตื่นมาอีกทีห้าโมงครึ่งเห็นจะได้ ภายในห้องพักมีหน้าต่างบานกว้าง พอดีระดับสายตาที่จะได้เห็นท้องฟ้ายามเย็นสีทไวไลท์ หยิบกล้องสิรออะไร มาตั้งไกล(ได้ข่าวว่า 1 ชั่วโมงจากตัวเมืองเชียงใหม่)จะมานอนอยู่เฉยๆได้ไง
ถึงเวลามื้อค่ำเด็กหนุ่มชาวดอยเดินมาถามว่าจะรับหมูกระทะเลยมั๊ย ใช่แล้วมื้อเย็นกลางเขา อะไรจะเหมาะไปกว่านี้ หมูกระทะ 1 ชุดบวกหมูเพิ่มอีกครึ่งกิโล มันช่างดีต่อใจจริงๆ หนังท้องตึง หนังตาหย่อน เปล่าฉันยังไม่นอนหรอก หลังจากกินอิ่ม เราก็นั่งคุยกันต่ออีกหน่อยแล้วถึงแยกย้ายเข้าห้อง
บรรยากาศหนาวในยามค่ำคืนของที่นี่ประกอบกับ ดาวดวงเล็กที่แข่งกันส่องแสงระยิบระยับทำให้บบรรยากาศโดยรอบโรแมนติกขึ้นมาเบาๆชวนให้นึกถึงเพลงนี้ในหัวเลย ปีแสง(11) ของ jetset’er เข้ากันดีอย่างบอกไม่ถูก
จักรวาลแสนกว้างใหญ่
จะมีไหมใครสักคน
ที่รู้สึกเหมือนกันตอนนี้
หากมีแรงแห่งความเหงา
ดูดดึงเราเข้ามาใกล้
เหวี่ยงให้หัวใจได้ผูกพัน
กับใครคนนั้น ชีวิตฉัน
ก็คงไม่เหงาอีกต่อไป’
ราตรีสวัสดิ์
เช้าวันรุ่งขึ้น 6.30 น่าจะได้ ลืมตาแบบสะลึมสะลือ เห็นวิวนอกกระจกบานใหญ่บานเดิม แสงเช้า ฉันรีบลุกจากที่นอนคว้าเสื้อ jacket กล้อง แล้วออกไปถ่ายรูป เช้านี้อากาศก็เย็นเช่นเคย ไร้ซึ่งร่องรอยของทะเลหมอก คงเพราะวันนี้ฟ้าเปิด
ช่างเถอะไปสำรวจรอบๆที่พักกันเถอะ ข้างๆบ้านพักมีสวนสตรอเบอร์รี่เล็กๆอยู่ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูป เด็ดชิม ขยับไปอีกนิดมีดงดอกหญ้าให้ถ่ายรูปชิคๆ ร้านกาแฟ ร้านอาหารเช้าเริ่มเปิดให้บริการ เวลาผ่านไปเร็ว พระอาทิตย์โผล่พ้นภูเขาซะแล้วได้เวลากลับห้อง กินข้าวเช้า อาบน้ำแต่งตัว แล้วกลับนิมมาน เชียงใหม่ ซะที
ครั้งนี้นับเป็นการเดินทางด้วยแพลนที่โล่งมาก เรียบง่ายมาก ธรรมดามาก แต่ก็ได้พักผ่อนเต็มที่มาก ก่อนจะไปพบกับเช้าวันจันทร์ที่เหน็ดเหนื่อยอีกครั้ง ถ้าใครที่อยากรีแล็กตัวเองแบบไม่เหนื่อยมาก ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ที่นี่ก็เป็นอีกที่นึงที่อยากแนะนำทุกคนให้มากัน สบายๆไม่ต้องคิดไรให้มากมาย
เข้ามาพูดคุย สอบถามการเดินทางกับเราได้ตามนี้เลยนะเอยย
ดูรีวิวอื่นๆได้ที่ https://www.gotravelgoal.com/
ชมภาพสวยๆได้ที่ ig : https://www.instagram.com/gotravelgoal/
หรือจะเข้ามาเม้ากันก็ได้นะเอยที่ FB : https://www.facebook.com/gotravelgoal/
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น