ก็ไม่มีไรมาก เอาเรื่องที่เป็นกระแสในสังคมมาเชื่อมโยงกับธรรมะมาคุยกันครับและจะได้เป็นกำลังใจให้กับคนอยากทำดีหรือคนทำดีแต่ไม่ดังหรือทำดีแต่ไม่มีใครเห็น อาจจะไม่ใช่ดาราแต่ก็ตั้งใจทำดีเหมือนกัน
เป็นกำลังใจให้อีกหลายๆคนที่คิดจะทำดี แต่ทำดีใหญ่ๆเป็นข่าวใหญ่โตไม่ได้ ก็แนะให้ค่อยๆทำดีไป ทีละเล็กละน้อย ดั่งที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่า
"ขึ้นชื่อว่าบุญแล้ว ใครๆไม่ควรดูหมิ่นว่าบุญนี้เล็กน้อย... คนที่ฉลาดทำบุญอยู่ ย่อมเต็มด้วยบุญ เหมือนหม้อน้ำที่เปิดปากไว้ ย่อมเต็มด้วยน้ำฉันนั้น"
"บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบุญเล็กน้อยว่าจะไม่มาถึง แม้หม้อน้ำก็ยังเต็มด้วยหยาดน้ำที่ตกลงมาฉันใด ผู้ฉลาดเมื่อสะสมบุญแม้ทีละน้อยทีละน้อย ก็ย่อมเต็มด้วยบุญฉะนั้น"
สมัยก่อนโน้นน ตอนที่ยังอายุไม่เยอะ ก็อยากทำดีใหญ่ๆโตๆ เห็นคนทำดีบางคนได้ออกโทรทัศน์ ออกสื่อต่างๆ มันดูดีมากเลย ส่วนเราทำไม่ได้ก็รู้สึกน้อยใจเหมือนกัน ก็เลยอยากแนะนำใครที่รู้สึกแบบนั้น ก็ไม่ต้องเสียใจหรือหมดกำลังใจแล้ว
พลอยจะไม่ทำดีเอา ให้ทำดีเล็กๆน้อยๆก็ได้ เท่าที่เราทำได้ ที่อยู่ใกล้ๆตัวเรานี่แหละ ค่อยๆสะสมไป เราก็จะมีความสุขขึ้น รวมทั้งคนอื่นก็มีความสุขด้วย แล้วก็อาจจะพัฒนาไปเป็นความดีใหญ่ๆก็ได้
ส่วนใครที่อิจฉาเขา ก็ให้รู้จักใช้ พรหมวิหาร4 ข้อที่ว่า มุทิตา คือยินดีกับเขา ก็ต้องรู้จักฝึกจิตใจ เมื่อเห็นใครทำดี เมื่อเห็นใครได้ดีก็รู้จักยินดีไปกับเขา ร่วมอนุโมทนาบุญกับเขาไปด้วย
ทำดีแล้วไม่มีใครเห็น ไม่มีใครชม ในหลวงร.9 ก็มีสอนพวกเราว่า
“การทำดีนั้นทำยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่าย จะเข้ามาแทนที่และจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว แต่ละคนจึงต้องตั้งใจและเพียรพยายามให้สุดกำลัง ในการสร้างเสริมและสะสมความดี”
ทำดีถึงไม่มีใครเห็นก็ต้องทำ
“...ทำความดีอยู่คนเดียวไม่มีใครเห็น มันก็ยังดีอยู่นั่นเอง...” ~หลวงปู่ชา
ดาราทำอะไรทีก็เป็นข่าวเพราะมันขายได้ ผู้คนสนใจ สื่อเลยเอาไปเล่นกันทั่ว ซึ่งมันก็ย่อมมีทั้งด้านดีและด้านลบต่อตัวดาราคนนั้น
อย่างคุณตูนยังไม่ทันวิ่งก็เป็นข่าวแล้ว พอวิ่งก็มีผู้หลักผู้ใหญ่คนใหญ่คนโต บริษัทต่างๆ บริจาคกันเพียบ เข้าใจว่าก็เคยมีคนที่วิ่งขนาดนี้มาแล้วแต่หลายคนไม่รู้เรื่องคนเหล่านั้นเลย
หลายๆคนก็อยากดัง ผมก็ขอฝากข้อคิดทางธรรมไว้หน่อยว่า ถ้าอยากดังก็ยากที่จะหาความสงบ
พระพุทธเจ้ามีสอนว่า
“ไม่มีสุขใดเหนือกว่าความสงบ” อยากให้หลายๆคนเข้าใจและเข้าถึงสิ่งนี้ มันอยู่ที่กายที่ใจเรานี่แหละความสุขที่แท้จริง
การเป็นคนดี ไม่ใช่แค่ทำดี แต่ต้องละชั่วด้วย
“การไม่ทำบาปทั้งสิ้น การยังกุศลให้ถึงพร้อม การทำจิตของตนให้ผ่องใส นี้เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย” ~พุทธ
เพราะ
คนชั่วก็ทำความดีได้ เช่น โกงแล้วเอาเงินมาทำบุญสร้างภาพว่าเป็นคนดี หรือพวกมีผลประโยชน์แอบแฝง พวกนี้เราๆท่านๆต้องระวังกันเยอะๆ ตัวอย่างไม่นานนี้ก็พึ่งมี เช่น หมอหยองประธานปั่นจักรยานถวายในหลวงร.9
ก็เลยไม่แปลกที่บางคนเห็นคุณตูนออกมาทำดีแต่ก็มีถูกวิจารณ์ไปในทางไม่ดี ซึ่งก็ต้องให้เวลาเป็นเครืองตัดสิน เงินจำนวนมากที่คุณตูนได้มานี้ก็คงมีคนคอยติดตาม เอาไปใช้อย่างเหมาะสมแค่ไหน ตกหล่นตรงไหนไหม
ขอเป็นกำลังใจและอนุโมทนาบุญกับคนทำดีทุกๆท่านไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม สาธุครับ
(ฝากข้อเสนอแนะแนวความคิด เมืองแห่งธรรม เพื่อช่วยแก้ปัญหาสังคมอีกแนวทางนึง ใครสนใจ คลิกนี่
https://pantip.com/topic/37096843)
จะเป็นคนดีไม่จำเป็นต้องทำขนาด "ตูน บอดี้สแลม" ก็ได้
เป็นกำลังใจให้อีกหลายๆคนที่คิดจะทำดี แต่ทำดีใหญ่ๆเป็นข่าวใหญ่โตไม่ได้ ก็แนะให้ค่อยๆทำดีไป ทีละเล็กละน้อย ดั่งที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่า
"ขึ้นชื่อว่าบุญแล้ว ใครๆไม่ควรดูหมิ่นว่าบุญนี้เล็กน้อย... คนที่ฉลาดทำบุญอยู่ ย่อมเต็มด้วยบุญ เหมือนหม้อน้ำที่เปิดปากไว้ ย่อมเต็มด้วยน้ำฉันนั้น"
"บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบุญเล็กน้อยว่าจะไม่มาถึง แม้หม้อน้ำก็ยังเต็มด้วยหยาดน้ำที่ตกลงมาฉันใด ผู้ฉลาดเมื่อสะสมบุญแม้ทีละน้อยทีละน้อย ก็ย่อมเต็มด้วยบุญฉะนั้น"
สมัยก่อนโน้นน ตอนที่ยังอายุไม่เยอะ ก็อยากทำดีใหญ่ๆโตๆ เห็นคนทำดีบางคนได้ออกโทรทัศน์ ออกสื่อต่างๆ มันดูดีมากเลย ส่วนเราทำไม่ได้ก็รู้สึกน้อยใจเหมือนกัน ก็เลยอยากแนะนำใครที่รู้สึกแบบนั้น ก็ไม่ต้องเสียใจหรือหมดกำลังใจแล้วพลอยจะไม่ทำดีเอา ให้ทำดีเล็กๆน้อยๆก็ได้ เท่าที่เราทำได้ ที่อยู่ใกล้ๆตัวเรานี่แหละ ค่อยๆสะสมไป เราก็จะมีความสุขขึ้น รวมทั้งคนอื่นก็มีความสุขด้วย แล้วก็อาจจะพัฒนาไปเป็นความดีใหญ่ๆก็ได้
ส่วนใครที่อิจฉาเขา ก็ให้รู้จักใช้ พรหมวิหาร4 ข้อที่ว่า มุทิตา คือยินดีกับเขา ก็ต้องรู้จักฝึกจิตใจ เมื่อเห็นใครทำดี เมื่อเห็นใครได้ดีก็รู้จักยินดีไปกับเขา ร่วมอนุโมทนาบุญกับเขาไปด้วย
ทำดีแล้วไม่มีใครเห็น ไม่มีใครชม ในหลวงร.9 ก็มีสอนพวกเราว่า
“การทำดีนั้นทำยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่าย จะเข้ามาแทนที่และจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว แต่ละคนจึงต้องตั้งใจและเพียรพยายามให้สุดกำลัง ในการสร้างเสริมและสะสมความดี”
ทำดีถึงไม่มีใครเห็นก็ต้องทำ
“...ทำความดีอยู่คนเดียวไม่มีใครเห็น มันก็ยังดีอยู่นั่นเอง...” ~หลวงปู่ชา
ดาราทำอะไรทีก็เป็นข่าวเพราะมันขายได้ ผู้คนสนใจ สื่อเลยเอาไปเล่นกันทั่ว ซึ่งมันก็ย่อมมีทั้งด้านดีและด้านลบต่อตัวดาราคนนั้น
อย่างคุณตูนยังไม่ทันวิ่งก็เป็นข่าวแล้ว พอวิ่งก็มีผู้หลักผู้ใหญ่คนใหญ่คนโต บริษัทต่างๆ บริจาคกันเพียบ เข้าใจว่าก็เคยมีคนที่วิ่งขนาดนี้มาแล้วแต่หลายคนไม่รู้เรื่องคนเหล่านั้นเลย
หลายๆคนก็อยากดัง ผมก็ขอฝากข้อคิดทางธรรมไว้หน่อยว่า ถ้าอยากดังก็ยากที่จะหาความสงบ
พระพุทธเจ้ามีสอนว่า “ไม่มีสุขใดเหนือกว่าความสงบ” อยากให้หลายๆคนเข้าใจและเข้าถึงสิ่งนี้ มันอยู่ที่กายที่ใจเรานี่แหละความสุขที่แท้จริง
การเป็นคนดี ไม่ใช่แค่ทำดี แต่ต้องละชั่วด้วย
“การไม่ทำบาปทั้งสิ้น การยังกุศลให้ถึงพร้อม การทำจิตของตนให้ผ่องใส นี้เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย” ~พุทธ
เพราะคนชั่วก็ทำความดีได้ เช่น โกงแล้วเอาเงินมาทำบุญสร้างภาพว่าเป็นคนดี หรือพวกมีผลประโยชน์แอบแฝง พวกนี้เราๆท่านๆต้องระวังกันเยอะๆ ตัวอย่างไม่นานนี้ก็พึ่งมี เช่น หมอหยองประธานปั่นจักรยานถวายในหลวงร.9
ก็เลยไม่แปลกที่บางคนเห็นคุณตูนออกมาทำดีแต่ก็มีถูกวิจารณ์ไปในทางไม่ดี ซึ่งก็ต้องให้เวลาเป็นเครืองตัดสิน เงินจำนวนมากที่คุณตูนได้มานี้ก็คงมีคนคอยติดตาม เอาไปใช้อย่างเหมาะสมแค่ไหน ตกหล่นตรงไหนไหม
ขอเป็นกำลังใจและอนุโมทนาบุญกับคนทำดีทุกๆท่านไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม สาธุครับ
(ฝากข้อเสนอแนะแนวความคิด เมืองแห่งธรรม เพื่อช่วยแก้ปัญหาสังคมอีกแนวทางนึง ใครสนใจ คลิกนี่ https://pantip.com/topic/37096843)