เคยรู้สึกว่าตัวเอง กระจก ไร้ค่า หรือเปล่า ทั้งเพื่อนที่จบมาพร้อมกัน ค่อยๆทิ้งห่างไป

ตามหัวข้อเลย กาอนอื่นผมขออนุญาต แนะนำ ผมอายุ25 จบจาก มหาวิทยาลัย คณะก็โอเค
ตอนเรียน ผมเป็รท๊อป5 ขอห้อง เป็นหัวหน้ากลุ่ม (กลุ่มเด็กแว๊นติดเกม บ้าๆบอ) แต่ก็พากันจบมาพร้อมกันไก้
ตอนเรียน ผมรู้สึกว่าตัวเอง มีความหมายกับเพื่อนมาก รู้สึกว่าตัวเองนำหน้าคนอื่นอยู่เสมอ
ทุกอย่างมันดีหมด วาดฝันไว้ว่าจบมาจะทำงานสีก3-4ปี แล้วเปิดธุรกิจของตัวเอง

หลังจากจบมา ผมก็สมัครงานหลายที่ เกืบทึกที่ รับเพราะ ชอบผลการเรียน คำพูดท่าทาง
และอย่างอื่นนอกจากเรื่องเรียน (ผมไม่ใช่เด็กเรียนเนิ๊ดๆนะครับ ออกจะเฮี้ยวๆ)
แต่ การทำงานของผม ไม่ราบลื่น ปัญหาคือตัวผมเอง ผมชอบคิดว่า นี่เรากำลังทำอะไรอยู่
เรากำลังทำสิ่งที่เราควรทำแล้วหรือ อยู่ตรงนี้เมื่อไหร่จะได้ทำอย่างฝัน ทำไมต้องมาทนแต๊มป์นิ้วเช้าเย็น
ทำไมต้องแหกตาตื่นแต่เช้า กลับบ้านมืดๆ เพื่อเงินแค่นี้ เราน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้ดิ
ในหัวผมมีแต่คำพูดพวกนี้ สรุปผมเปลี่ยนงาน หลาย ที่แรกเลย 3วัน 7วัน 2อาทิต ที่ล่าสุด 4เดือน
คือ งานมันโอเคหมดเลยนะครับ เพื่อนร่วมงานดี ผลตอบแทนปกติทั่วๆไป
อย่างที่บอกปัญหาอยู่ที่ผมเองนี่แหล่ะ แต่ตอนนั้นก็ยังไม่คิดไรมาก เพราะเพื่อนๆก็พึ่งเริ่มทำงาน

สุดท้ายผมออกมาทำของขาย กลับมาอยู่บ้านต่างจังหวัด ทำของขายขายเอง ขายส่ง
มีกำไรเดือนละ ไม่ถึงหมื่น แต่โดยรวมมีความสุขกว่าไปตอกบัตรเช้าเยน ไปทำงานแลกค่าชั่วโมงนะครับ
ผมไม่เคยดูถูกมนุษเงอนเดือนเลย แต่ผมไม่ชอบเลยจริงๆ ที่บ้านไม่เห็นด้วยกับการลาออกซ้ำๆ
โดนด่าประจำ โดนดูถูกประจำ ว่าลูกคนอื่นทำได้ ลุกเราทำไม่ได้ ทำได้ไม่กี่วัน พูดไปก็อาย
ผมฟังแล้วได้แต่คิดในใจว่า สักวันนึง จะทำให้ทุกคนยอมในทางที่ผมเลือกให้ได้

จนวันนี้ใกล้สิ้นปีแล้ว ผมก็เรื่อยๆนะครับไม่ทุกข์ไม่สุข แต่มีความรู้สึกบางอย่าง
เข้ามา เมื่อผมได้เห็นเพื่อน คนรอบข้าง มีเงินแสน มีเงินล้าน ออกรถ ดาวบ้าน ซื้อห้อง
ไปเที่ยวต่างประเทศ มีเงินซื้อของตามใจต้องการ แช้วผมย้อนกลับมามองตัวผม
และตั้งคำถามในใจ เห้ย ทำไมผมไม่มีอะไรเลยวะ เพื่อนแซงหน้าไปหมดแล้ว
แซงไปไกลแล้วด้วย มันท้อใจ แบบ ผมรู้สึกว่าตัวเองกระจากมากเลย
ในใจคิด ทั้งที่ตอนเรียน ผมนำหน้าทุกคน แต่พอเป็นโลกของงาน การใช้ชีวิต
ผมกลับถูกทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ เพื่อนนัดเจอกัน ผมไม่กล้าไปเจอเลย เพราะผมอาย
ที่ผมไม่มีอะไร ไม่มีเงินพอจะไปด้วยแหล่ะ ผมยินดีกับคนอื่นนะ แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าตัวเอง
กระจอกไร้ค่า ทุกวันนี้ผมขายของ ก็ยังมองไม่เห็นทางเลยว่า จะทำไงให้มีเงินเยอะๆ
ให้ก้าวทันเพื่อน ในแบบที่ผมอยากจะเป็นสักที

ขอประทานอภัยถ้าผมใช้ถ้อยคำไม่สุภาพกับอาชีพมนุษย์เงินเดือน ผมไม่มีเจตนาร้าย
ผมแค่รู้สึกว่า มันไม่ใช่ผมเลย ไปนั่งออฟฟิศแล้วอึดอัดเหมือนจะบ้าตาย
แทบคลั่ง อาจจะเป็นเพราะครอบครัวก็ค้าขายเลย ชอบการขายของตัวเองมากกว่า

ปล. ท่านผู้เคยผ่านประสบการณ์ประมาณนี้มา หรือพอจะรู้วิธี ทำให้ดีขึ้น แนะนำด้วยครับ
ผมท้อแท้หมดกำลังใจ เหมือนหมดไฟ คิดถึงเรื่องอดีตตลอดเวลา
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
แนวคิดเด็กสมัยนี้ อยากเป็นนายตัวเอง  ทำธุรกิจส่วนตัว  ไม่อยากเป็นลูกจ้างใคร   เอาจริงๆมันไม่ง่ายเลย   การแข่งขันทางธุรกิจสมัยนี้มันสูงมาก  ถ้าไม่ใหญ่จริงอยู่ยาก  ขนาดคนทำธุรกิจเล็กๆมายาวนานยังอยู่ไม่ได้เลย    เด็กที่จะทำธุรกิจสมัยนี้  ต้องหาช่องทางที่แตกต่างได้จริง  ต้องมีเงินสำรองจากทางบ้านเอาไว้ทดลองอะไรใหม่ๆได้หลายๆครั้ง   ที่เห็นร่ำรวยมีน้อย  ที่ล้มเหลวงียบๆไปไม่บอกใครมีเยอะ

เอาจริงๆชีวิตไม่มีอะไรง่ายๆ   ในฐานะที่อยู่มานาน   เคยทำงานบริษัทยักษ์ใหญ่แล้วออกมาทำธุรกิจเองตั้งแต่เด็กๆ   บอกได้เลยการเป็นลูกจ้างสมัยนี้ดีกว่าการทำธุรกิจเอง    

การเป็นลูกจ้างบริษัทใหญ่ๆ   ที่ได้เปรียบในการแข่งขัน   มีแบรน  มีโลเคชั่น  มีความชำนาญ  เทคโนโลยี่   มีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำ   สุดท้ายก็สามารถจ่ายเงินเดือนสูงๆให้ลูกจ้างที่เก่งๆได้อย่างสูงมาก   เด็กๆทำงานไม่กี่ปีเงินเดือนเป็นแสนมีมากมาย   ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยในยุคก่อนๆ

แต่การเป็นนายจ้างสมัยนี้ (นอกจากการค้าขายในเน็ต)   ค่าเช่า ค่าที่ดินราคาสูง  ค่าแรงงานค่าจ้างต่างๆแพงมาก   ถ้าคุณไม่มีช่องทางธุรกิจสมัยใหม่จริงๆจึงยากที่เกิดและประสบความสำเร็จได้

โดยส่วนตัวสอนลูกให้เป็นลูกจ้าง  เตรียมความพร้อมทางการศึกษาให้สามารถทำงานในบริษัทอินเตอร์ทั้งหลายได้  ทำงานในต่างประเทศได้  การจะหางานเงินเดือนหลักแสน หรือ หลายๆแสน  มันง่ายกว่าการทำธุรกิจเองมากมาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่