ประชาชนควรรู้เรื่องการเมือง แต่ควรคิดอย่างประชาชน หรือ ควรคิดอย่างนักการเมือง? / น้ำมิตร

ประชาชนควรรู้เรื่องการเมือง แต่ควรคิดอย่างประชาชน หรือ ควรคิดแบบนักการเมือง?

อ่านจากข่าวเก่าวันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม 2559  
เนื้อหาด้านล่าง ตัดมาเพียงบางส่วน จากเครดิต https://www.dailynews.co.th/article/511745

อริสโตเติล กล่าวว่า การเมือง คือ ความผูกพันระหว่างประชาชนกับรัฐ จากคำกล่าวนี้ทำให้เกิดการยอมรับกันโดยทั่วไปว่า ประชาชนกับการเมืองจะแยกกันไม่ออก จะมีความผูกพันและจะมีบทบาทต่อกันตลอดไป การที่ประชาชนเข้ามาเกี่ยวข้องสัมพันธ์และแสดงบทบาทอย่างใดอย่างหนึ่ง ถือว่าเป็นการแสดงบทบาททางการเมืองของประชาชน หรือเป็นการเข้าร่วมทางการเมือง (Political participation)

แบคคอสกี้ (Mcclosky) ได้อธิบายความหมายของการเข้าร่วมทางการเมืองไว้ว่า “การที่บุคคลมีความสำนึกในทางการเมือง การปกครอง ได้เข้ามาโดยตรงหรืออ้อมก็ได้”

..................................................


การเมืองเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของประชาชน ตั้งแต่ลืมตาดูโลกละมั้ง (จขกท ก็โอเวอร์ซ๊า)
การช่วยเหลือค่าใช้จ่ายสำหรับบุตรที่ประชาชนจะได้รับ เอาแค่จากประกันสังคม มาจากนโยบายของภาครัฐในนามส่วนงานต่างๆ (มาจากการเมืองนั่นละ)

โตขึ้นมาหน่อย ต้องเข้าเรียนหนังสือ จะใช้ตำราจากสำนักพิมพ์ไหน ก็มาจากงบประมาณของรัฐ (การเมืองไหมละท่าน)
ต้องเรียนภาคบังคับกี่ปี เรียนฟรีไหม เสียตังไหม (การเมืองไหมละท่าน)

ฯลฯ

จขกท คิดว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน จะดี จะไม่ดี จะมีรัฐสวัสดิการอะไรบ้าง ก็ล้วนมีผลไม่ตรงก็อ้อมจากการเมืองทั้งสิ้น

แต่ ประชาชนควรมองการเมือง มีส่วนร่วมในการเมือง ในแนวคิดอย่างประชาชน หรือ แนวคิดอย่างนักการเมือง ดีละ?

คิดอย่างนักการเมือง มันเป็นอย่างไร?
แล้วคิดอย่างประชาชน ควรคิดอย่างไร?

พูดไปแบบนั้นละ  บอกตรง จขกท ก็ยังคิดไม่ออกค่ะ

อมยิ้ม16
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่