Ep.2 - เรื่องเที่ยว
0. ความเดิมตอนที่แล้ว
หลังจากผ่านการวิ่ง Osaka Marathon 2017 มาแล้ว จาก กระทู้ :
https://pantip.com/topic/37197934 ต่อไปก็ได้เวลาผ่อนคลายกันแล้ว ขอย้อนไปเรื่องกำหนดการซักนิดนะครับ ทริปนี้ผมเดินทางตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. โดยช่วง 23 – 26 พ.ย. จะเป็นช่วงที่ผมกำหนดไว้สำหรับการวิ่งล้วนๆ และหลังจากวิ่งเสร็จผมถึงจะเริ่มเที่ยว จะให้เที่ยวก่อนมันก็ไม่ค่อยสบายใจซักเท่าไร สำหรับการเที่ยวภูมิภาคคันไซคราวนี้ จะเป็นอย่างไร ลุยกันเลยครับ
Kansai Area
เกริ่นอีกซักนิดหนึ่งนะครับ(อย่างเพิ่งเบื่อซะก่อน) ทริปนี้ ไม่ใช่การไปโอซาก้าครั้งแรกของผม ก่อนหน้านี้ผมก็เคยมาเที่ยวในภูมิภาคคันไซแล้วตอนช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี่เอง(ตอนนั้น หน้ามืดตามัว เจอตั๋วโปรก็เลยกดมา) เรามาต่อกันดีกว่า เมืองหลักๆ ในภูมิภาคนี้ ที่เป็นไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันบ่อยๆ ก็คงจะเป็น ฮิเมจิ เกียวโต โกเบ นารา วาคายาม่า และโอซาก้า นั่นเอง เรามาทำความรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเหล่านี้แบบฉบับรวดรัดกันเลยดีกว่า
Himeji Castle
Himeji – สำหรับฮิเมจิแล้ว ไฮไลท์คงหนีไม่พ้นปราสาทฮิเมจินั่นเอง การเดินทางจากโอซาก้าค่อนข้างง่าย มีทั้งที่เป็นรถไฟเอกชน และรถไฟเจอาร์ ลงที่สถานี Himeji แล้วก็เดินไปเลยก็ได้ ใช้เวลาเดินราวๆ 10 – 15 นาทีก็จะมาถึงทางเข้าปราสาท สำหรับปราสาทฮิเมจิ เป็นสถานที่ที่ผมมักจะแนะนำคนที่มาถามไถ่อยู่เสมอว่าเที่ยวไหนดี สำหรับผมแล้วอย่างน้อยคุณควรเสียเวลาครึ่งวันมาชมปราสาทที่ผมว่า “เจ๋งที่สุด” เท่าที่ผมเคยไปเที่ยวมาทั้งหมด ฮิเมจิ ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่ถือว่าสวยงามที่สุดในญี่ปุ่น (อีก 2 แห่งจะเป็น ปราสาทคุมาโมโต้ กับปราสามัตซึโมโต้) สิ่งที่ผมคิดว่ามันเจ๋งคือ ถึงจะบูรณะแล้วยังคงเป็นปราสาทแบบเดิมๆ เมื่อเข้าไปยังพบโครงสร้างปราสาทที่ทำจากไม้ทั้งต้นไว้ได้สวยงามมาก พร้อมทั้งความยิ่งใหญ่และที่สำคัญคือ บริเวณโดยรอบยังมีสวนที่สวยงามให้เดินชมอีกด้วย
Kobe Harborland
Kobe – หากพูดถึงโกเบ ใครๆ ก็คงนึกถึงเนื้อวัวโกเบที่เป็นขึ้นชื่อลือชาของเมืองนี้ แต่นอกจากเนื้อวัวแล้ว โกเบก็เป็นเมืองที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับนักช๊อป มีทั้ง Outlet ของแบรนด์เนม แถมในตัวเมืองเองก็มีห้างใหญ่ให้เดิน นอกจากนี้ยังมีที่ให้ย้อนวันวานกับพิพิธภัณฑ์เด็กอันปังแมน, หุ่นยนต์เท็ตซึจินหมายเลข 28 รวมถึงชมวิวยามค่ำคืนที่โกเบฮาร์เบอร์แลนด์ การเดินทางในโกเบก็ไม่ยาก หากใช้ Kansai Thru Pass ก็สามารถนั่งรถไฟใต้ดินในโกเบไปเที่ยวได้ทั้งหมด
Kinkakuji เห็นแล้วก็นึกถึง “ท่านอิคคิว” ขึ้นมาทันที
หน้าทางเข้าศาลเจ้าจิ้งจอก
Kyoto – เมืองเก่าเกียวโต ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีศิลปวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่เฟื่องฟูสุดๆ ใช้เวลาเที่ยวได้เต็มที่ไม่มีเบื่อ มีโบราณสถาน วัด ศาลเจ้า เต็มไปหมด ผมเองได้ใช้เวลาในเกียวโตแค่ 1 วัน(มีเวลาแค่นี้จริงๆ) โดยเริ่มจาก ป่าไผ่ Arashiyama ในช่วงเช้า ก่อนที่สายๆ จะนั่งรถไฟ Randen ไป วัดทอง Kinkakuji แล้วต่อด้วย วัดน้ำใส Kiyomizu (ซึ่งกำลังปรับปรุง มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2020 ที่ ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพโอลิมปิค) ก่อนที่ช่วงบ่ายแก่ย้ายไปชม ศาลเจ้าจิ้งจอก Fushimi Inari-taisha ชมเสาโทริอินับพันต้น(แต่ถ้ากลัวเหนื่อย ชมด้านหน้าก็พอนะครับ ไม่ต้องเดินไปจนถึงจุดชมวิวก็ได้ ด้านบนมันก็ไม่ค่อยว้าวเท่าไร) ก่อนที่ปิดท้ายช่วงเย็นกับการเดินเล่นย่าน Gion ในเกียวโต (เป็น 1 วันที่ชะโงกทัวร์พอสมควร แนะนำว่า หากมีเวลา ให้ไปเลยครับ 2-3 วัน)
กวางนารา
Nara – เมืองนาราเอง ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเพราะมีวัดและศาลเจ้าอยู่มากมาย และที่สำคัญเราจะได้เจอน้องกวางเดินเล่นอยู่ในเมืองอย่างสบายใจ แถมกวางที่นี่ยังชอบทานขนมเซมเบ้ด้วยนะ (เอาจริงๆ ให้ขนมอะไรมันก็กิน) การท่องเที่ยวในนาราไม่ยากมาก แค่ลงรถไฟที่สถานีนาราแล้วก็เดินเที่ยวได้เลย สถานที่ท่องเที่ยวอยู่ในโซนใกล้ๆ กัน สำหรับสถานที่ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมากันก็ Nara Park วัดโทไดจิ ศาลเจ้าโคฟุคุจิ สามารถใช้เวลาเดินสบายๆ ได้ใน 1 วัน
Wakayama Castle
รถไฟสายแมวเหมียว
Wakayama – สำหรับวาคายาม่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างจะใหญ่ สถานที่เที่ยวมีหลายแนว และอยู่ห่างกัน หากจะใช้เวลาเที่ยวที่สำคัญๆ ให้ครบ อาจจะต้องใช้เวลา 3 – 4 วันเลยทีเดียว สำหรับ 1 วันของผมแล้ว ผมเลยเลือกสถานที่สำคัญๆ ได้แก่ ปราสาทวาคายาม่า โดยนั่งรถไฟจากโอซาก้ามาลงสถานี Wakayamashi แล้วนั่งรถบัสไปที่ปราสาทแต่ทางขึ้นปราสาทก็เหนื่อยพอสมควร หากมีผู้สูงอายุมาด้วย อาจจะต้องเผื่อเวลาให้ท่านๆ ซักนิดนะครับ หลังจากนั้น ทาสแมวแบบผมก็เลือกที่จะไปเยี่ยมเจ้า “นิทามะ” นายสถานีแมวรุ่นที่ 2 กับรถไฟสายแมวๆ ที่สถานี Kishi แค่ 2 ที่นี้ก็กินเวลาไปพอสมควร เลยยังไม่ได้ไป Koyasan ที่เป็นมรดกโลกเลย เนื่องจากค่อนข้างไกล และควรค้างคืนที่ Koyasan ด้วยหากต้องการเที่ยวให้ทั่ว
นิทามะ : “ผมหล่อมั้ยครับ”
Osaka Castle
Osaka – โอซาก้า เมืองศูนย์กลางของภูมิภาคคันไซ สถานที่ท่องเที่ยวมีมากมายไปหมด รถไฟใต้ดินครอบคลุมทุกพื้นที่ สำหรับที่เที่ยวในโอซาก้า หลายๆ คนอาจจะต้องเลือกเที่ยวในสไตล์ที่ตัวเองชอบ ส่วนผมก็ได้ไปเที่ยวมาพอสมควร เช่น ปราสาทโอซาก้า, พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง, พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์, สวนสัตว์เทนโนจิ, Osaka International Peace Center(อันนี้เข้าไปดูแล้วหดหู่พอสมควร เป็นสิ่งที่เตือนใจเกี่ยวกับสงครามโลก), ชมวิวชิงช้าสวรรค์เทมโปซาน, ชมวิวบน Umeda Sky building, ชมวิวที่ Osaka Cosmo Tower, เดินเล่นชมป้ายกูลิโกะที่ Dotonburi รวมถึงเดินหลงแถว Namba ด้วยละกัน
ย่าน Dotonburi
เรื่องวิ่ง เรื่องเที่ยว เรื่องเดียวกัน ใน Osaka Marathon 2017 [EP.2]
0. ความเดิมตอนที่แล้ว
หลังจากผ่านการวิ่ง Osaka Marathon 2017 มาแล้ว จาก กระทู้ : https://pantip.com/topic/37197934 ต่อไปก็ได้เวลาผ่อนคลายกันแล้ว ขอย้อนไปเรื่องกำหนดการซักนิดนะครับ ทริปนี้ผมเดินทางตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. โดยช่วง 23 – 26 พ.ย. จะเป็นช่วงที่ผมกำหนดไว้สำหรับการวิ่งล้วนๆ และหลังจากวิ่งเสร็จผมถึงจะเริ่มเที่ยว จะให้เที่ยวก่อนมันก็ไม่ค่อยสบายใจซักเท่าไร สำหรับการเที่ยวภูมิภาคคันไซคราวนี้ จะเป็นอย่างไร ลุยกันเลยครับ
เกริ่นอีกซักนิดหนึ่งนะครับ(อย่างเพิ่งเบื่อซะก่อน) ทริปนี้ ไม่ใช่การไปโอซาก้าครั้งแรกของผม ก่อนหน้านี้ผมก็เคยมาเที่ยวในภูมิภาคคันไซแล้วตอนช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี่เอง(ตอนนั้น หน้ามืดตามัว เจอตั๋วโปรก็เลยกดมา) เรามาต่อกันดีกว่า เมืองหลักๆ ในภูมิภาคนี้ ที่เป็นไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันบ่อยๆ ก็คงจะเป็น ฮิเมจิ เกียวโต โกเบ นารา วาคายาม่า และโอซาก้า นั่นเอง เรามาทำความรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเหล่านี้แบบฉบับรวดรัดกันเลยดีกว่า
Himeji – สำหรับฮิเมจิแล้ว ไฮไลท์คงหนีไม่พ้นปราสาทฮิเมจินั่นเอง การเดินทางจากโอซาก้าค่อนข้างง่าย มีทั้งที่เป็นรถไฟเอกชน และรถไฟเจอาร์ ลงที่สถานี Himeji แล้วก็เดินไปเลยก็ได้ ใช้เวลาเดินราวๆ 10 – 15 นาทีก็จะมาถึงทางเข้าปราสาท สำหรับปราสาทฮิเมจิ เป็นสถานที่ที่ผมมักจะแนะนำคนที่มาถามไถ่อยู่เสมอว่าเที่ยวไหนดี สำหรับผมแล้วอย่างน้อยคุณควรเสียเวลาครึ่งวันมาชมปราสาทที่ผมว่า “เจ๋งที่สุด” เท่าที่ผมเคยไปเที่ยวมาทั้งหมด ฮิเมจิ ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่ถือว่าสวยงามที่สุดในญี่ปุ่น (อีก 2 แห่งจะเป็น ปราสาทคุมาโมโต้ กับปราสามัตซึโมโต้) สิ่งที่ผมคิดว่ามันเจ๋งคือ ถึงจะบูรณะแล้วยังคงเป็นปราสาทแบบเดิมๆ เมื่อเข้าไปยังพบโครงสร้างปราสาทที่ทำจากไม้ทั้งต้นไว้ได้สวยงามมาก พร้อมทั้งความยิ่งใหญ่และที่สำคัญคือ บริเวณโดยรอบยังมีสวนที่สวยงามให้เดินชมอีกด้วย
Kobe – หากพูดถึงโกเบ ใครๆ ก็คงนึกถึงเนื้อวัวโกเบที่เป็นขึ้นชื่อลือชาของเมืองนี้ แต่นอกจากเนื้อวัวแล้ว โกเบก็เป็นเมืองที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับนักช๊อป มีทั้ง Outlet ของแบรนด์เนม แถมในตัวเมืองเองก็มีห้างใหญ่ให้เดิน นอกจากนี้ยังมีที่ให้ย้อนวันวานกับพิพิธภัณฑ์เด็กอันปังแมน, หุ่นยนต์เท็ตซึจินหมายเลข 28 รวมถึงชมวิวยามค่ำคืนที่โกเบฮาร์เบอร์แลนด์ การเดินทางในโกเบก็ไม่ยาก หากใช้ Kansai Thru Pass ก็สามารถนั่งรถไฟใต้ดินในโกเบไปเที่ยวได้ทั้งหมด
Kyoto – เมืองเก่าเกียวโต ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีศิลปวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่เฟื่องฟูสุดๆ ใช้เวลาเที่ยวได้เต็มที่ไม่มีเบื่อ มีโบราณสถาน วัด ศาลเจ้า เต็มไปหมด ผมเองได้ใช้เวลาในเกียวโตแค่ 1 วัน(มีเวลาแค่นี้จริงๆ) โดยเริ่มจาก ป่าไผ่ Arashiyama ในช่วงเช้า ก่อนที่สายๆ จะนั่งรถไฟ Randen ไป วัดทอง Kinkakuji แล้วต่อด้วย วัดน้ำใส Kiyomizu (ซึ่งกำลังปรับปรุง มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2020 ที่ ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพโอลิมปิค) ก่อนที่ช่วงบ่ายแก่ย้ายไปชม ศาลเจ้าจิ้งจอก Fushimi Inari-taisha ชมเสาโทริอินับพันต้น(แต่ถ้ากลัวเหนื่อย ชมด้านหน้าก็พอนะครับ ไม่ต้องเดินไปจนถึงจุดชมวิวก็ได้ ด้านบนมันก็ไม่ค่อยว้าวเท่าไร) ก่อนที่ปิดท้ายช่วงเย็นกับการเดินเล่นย่าน Gion ในเกียวโต (เป็น 1 วันที่ชะโงกทัวร์พอสมควร แนะนำว่า หากมีเวลา ให้ไปเลยครับ 2-3 วัน)
Nara – เมืองนาราเอง ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเพราะมีวัดและศาลเจ้าอยู่มากมาย และที่สำคัญเราจะได้เจอน้องกวางเดินเล่นอยู่ในเมืองอย่างสบายใจ แถมกวางที่นี่ยังชอบทานขนมเซมเบ้ด้วยนะ (เอาจริงๆ ให้ขนมอะไรมันก็กิน) การท่องเที่ยวในนาราไม่ยากมาก แค่ลงรถไฟที่สถานีนาราแล้วก็เดินเที่ยวได้เลย สถานที่ท่องเที่ยวอยู่ในโซนใกล้ๆ กัน สำหรับสถานที่ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมากันก็ Nara Park วัดโทไดจิ ศาลเจ้าโคฟุคุจิ สามารถใช้เวลาเดินสบายๆ ได้ใน 1 วัน
Wakayama – สำหรับวาคายาม่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างจะใหญ่ สถานที่เที่ยวมีหลายแนว และอยู่ห่างกัน หากจะใช้เวลาเที่ยวที่สำคัญๆ ให้ครบ อาจจะต้องใช้เวลา 3 – 4 วันเลยทีเดียว สำหรับ 1 วันของผมแล้ว ผมเลยเลือกสถานที่สำคัญๆ ได้แก่ ปราสาทวาคายาม่า โดยนั่งรถไฟจากโอซาก้ามาลงสถานี Wakayamashi แล้วนั่งรถบัสไปที่ปราสาทแต่ทางขึ้นปราสาทก็เหนื่อยพอสมควร หากมีผู้สูงอายุมาด้วย อาจจะต้องเผื่อเวลาให้ท่านๆ ซักนิดนะครับ หลังจากนั้น ทาสแมวแบบผมก็เลือกที่จะไปเยี่ยมเจ้า “นิทามะ” นายสถานีแมวรุ่นที่ 2 กับรถไฟสายแมวๆ ที่สถานี Kishi แค่ 2 ที่นี้ก็กินเวลาไปพอสมควร เลยยังไม่ได้ไป Koyasan ที่เป็นมรดกโลกเลย เนื่องจากค่อนข้างไกล และควรค้างคืนที่ Koyasan ด้วยหากต้องการเที่ยวให้ทั่ว
Osaka – โอซาก้า เมืองศูนย์กลางของภูมิภาคคันไซ สถานที่ท่องเที่ยวมีมากมายไปหมด รถไฟใต้ดินครอบคลุมทุกพื้นที่ สำหรับที่เที่ยวในโอซาก้า หลายๆ คนอาจจะต้องเลือกเที่ยวในสไตล์ที่ตัวเองชอบ ส่วนผมก็ได้ไปเที่ยวมาพอสมควร เช่น ปราสาทโอซาก้า, พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง, พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์, สวนสัตว์เทนโนจิ, Osaka International Peace Center(อันนี้เข้าไปดูแล้วหดหู่พอสมควร เป็นสิ่งที่เตือนใจเกี่ยวกับสงครามโลก), ชมวิวชิงช้าสวรรค์เทมโปซาน, ชมวิวบน Umeda Sky building, ชมวิวที่ Osaka Cosmo Tower, เดินเล่นชมป้ายกูลิโกะที่ Dotonburi รวมถึงเดินหลงแถว Namba ด้วยละกัน