เป็นลูกคนเดียว พ่อแม่กดดันมาก เป็นเหมือนกันไหมคะ???

เราเป็นลูกคนเดียวค่ะ ตอนนี้อายุ 23ปี กำลังเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ (เรียน6ปี) คือเรารู้นะคะว่าพ่อแม่รักเรามาก ตั้งแต่เด็กคือพ่อแม่ไปรับไปส่งที่รร.ตลอด อยากได้อะไรก็ได้ค่ะ คือถือว่าชีวิตดีในเรื่องการกินอยู่ ซื้อของที่อยากได้

แต่พ่อแม่คาดหวังกับเราเรื่องเรียนมากๆ ตั้งแต่ม.ปลาย เราอยากเรียนสัตวแพทย์ แต่เขาไม่ชอบ จะให้เราเรียนทันตแพทย์ซึ่งเราไม่ได้อยากเป็น แต่เราก็พยายามตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อจะทำให้เขาภูมิใจให้ได้ แต่สุดท้ายมาได้คณะเภสัชฯ เขาก็โอเค และโชคดีว่าพอเราเข้ามาเรียนแล้วมันก็โอเค
พอมาถึงช่วงปี4-5 เขาก็เริ่มพูดถึงว่าให้เราเรียนต่อโทนะ ยังไม่ต้องทำงาน ไปเรียนต่างประเทศ จบมาจะได่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เราก็บอกว่าเราไม่ได้เก่งขนาดนั้น แต่ถามว่าชอบไหม การเป็นอาจารย์ เราก็ชอบนะ ชอบสอนคนอื่น แบบเวลาติวให้เพื่อน ก็ตอบเขาไปว่าดูก่อน แต่ทุกครั้งที่กลับบ้าน (เราเรียนมหาวิทยาลัยต่างจังหวัดจากที่บ้าน) มันทำให้เราเครียดและแอบร้องไห้ทุกครั้ง เพราะเขาจะพูดแต่เรื่องเรียน ให้ไปต่อโท แม่ไปคุยกับคนนู้นมาเขาบอกว่าให้ไปที่อังกฤษ ให้เรียนสาขานี้ ซึ่งไม่มีอะไรที่เราชอบเลย คือเขาไม่เคยถามเราเลยว่าเราต้องการอะไร แต่เขาจะพูดแต่สิ่งที่เขาอยากให้เราเป็นจนเรากดดันมากๆ และไม่อยากทำให้เขาผิดหวัง พอเขาพูดเรื่องเรียนต่อ เราก็พยายามตั้งใจเรียนให้เกรดมันสูงขึ้นจากเคยได้2กว่าๆมาแบบเรียนชิวๆ ก็pushตัวเองจนได้3.5กว่ามาตลอด เราอยากให้เขาภูมิใจ

ในระหว่างเรียนมหาวิทยาลัย เราก็มีแฟนคนนึง จนถึงตอนนี้ก็คบกันมา3ปีกว่าๆแล้ว แต่เราไม่เคยบอกพ่อแม่ว่ามีแฟน เพราะกลัวว่าเขาจะกังวลว่าเราไปทำอะไรไม่ดีหรือเปล่า เพราะอยู่ไกลหูไกลตาเขา แต่ว่าแม่เคยถามเรื่องแฟนแล้วเราบอกไปว่ากำลังคุยกันอยู่ ชื่อนี้นะ เรียนคณะนี้ หลังจากนั้นแฟนก็เคยมาเที่ยวบ้านแต่มาพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ เราก็ไม่ได้แนะนำกับที่บ้านหรอกว่านี่แฟนเรานะ เพราะกลัวจะโดนว่า

จนถึงตอนนี้ เรากลับบ้านมา แฟนเราไลน์มาบอกว่าเขาบอกที่บ้านเขาละนะว่ามีแฟน ที่บ้านแฟนเราก็ดีใจ อยากเจอเรา และพอดีว่าช่วงก่อนปีใหม่เราต้องกลับไปเคลียร์งานที่คณะ เราเลยต้องอยู่แถวมหาวิทยาลัยคนเดียว แม่แฟนเลยชวนว่าปีใหม่ให้ไปเที่ยวบ้านเขา เราเลยตัดสินใจบอกแม่บ้างว่าเรามีแฟนแล้วนะ ก่อนบอกนี่คือนั่งทำใจและคิดนานมากว่าจะบอกดีไหม จะบอกยังไง แม่จะว่ายังไง จนสุดท้ายพูดออกไป แต่ปฏิกิริยาของแม่คือ ไม่เงยหน้าจากipadเลย แล้วก็ตอบว่า มีได้ ไม่ได้ว่าอะไร แต่วางตัวให้ถูก รู้กาลเทศะ รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ ตั้งใจเรียนไปก่อน ไม่ต้องจริงจังเรื่องนี้ให้มาก ซึ่งเป็นเรื่องที่แม่สอนเรามาตลอดตั้งแต่เข้าปี1 เราก็บอกว่าเรารู้ และไม่ได้ทำอะไรไม่ดี แต่แม่ไม่ถามเลยว่า แฟนคือใคร คือไม่ถามเกี่ยวกับแฟนเลยยยย เราก็ไม่กล้าเล่า เพราะเขาดูไม่สนใจเลย มาอีกวัน เราตัดสินใจขอเขาว่าปีใหม่ แม่แฟนชวนไปเที่ยวบ้านนะ แม่เราก็ก้มหน้าจิ้มipadเหมือนเดิม บอกว่าไม่ต้องหรอก จะไปทำไม วางตัวให้เหมาะสมหน่อย เราเลยถามว่า แล้วไม่เหมาะสมตรงไหน แม่ก็บอกว่า ไปกันสองต่อสองมันไม่เหมาะสม เราเลยแย้งว่าพ่อแม่เขาก็อยู่นะ แม่ก็ยังยืนยันว่าไม่ได้

ตอนนี้เรารู้สึกแย่มากค่ะ รู้สึกว่าตัวเองซึมเศร้า ทุกครั้งที่กลับมาบ้านเราจะแอบร้องไห้ เวลาไปเรียนที่ม. เวลาที่เหนื่อยเราอยากกลับบ้านมาก แต่พอมาอยู่บ้านมันจะต้องมีเรื่องให้เราอยากไปให้พ้นจากที่นี่ เพราะไม่ว่าจะอะไร เรารู้สึกว่าเราไม่สามารถเลือกหรือตัดสินใจด้วยตัวเองได้เลยทั้งๆที่เราโตแล้ว ทุกอย่างคือเขาต้องเลือกให้เรา ตัดสินเรา ไม่เคยถามว่าเราเป็นยังไง ต้องการอะไร จริงๆก็ถามแหละ แต่ไม่ว่าเราจะตอบอะไรไป สุดท้ายเขาก็ยังยืนยันความคิดของเขา เช่น เขาจะซื้อรถใหม่ให้เรา ชอบแบบไหน เราบอกว่าชอบแบบ hatchback เขาบอกว่าซีดานสวยกว่า อยากได้สีอะไร เราบอกว่าขาว เขาบอกว่าสีดำสวยกว่า ถามว่าเรารักเขาไหม เราตอบได้เลยว่ารักมาก เราพยายามทำให้เขาภูมิใจ เพราะเขารักและเลี้ยงเราดีมากๆ ไม่เคยลำบาก แต่เขาไม่เคยรู้เลยว่าเรากดดันตัวเองมากแค่ไหน เราควรจะจัดการกับตัวเอง หรือจัดการกับปัญหานี้อย่างไรดี?? เราไม่อยากรู้สึกแบบนี้กับบ้านตัวเองอีกแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่