[นิยาย] School Request #01 บทที่ 1 ชมรมดาราศาสตร์ ตอนที่ 1

ที่สวนสาธารณะในเขตฮาราจุกุท่ามกลางดอกซากุระที่ร่วงโรยในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
    ผมกับเธอคนนั้น.. คนที่ผมไม่อยากจะลืม
    ในวันนั้น.. เธอต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ เราสองคนที่เล่นด้วยกันทุกวันจนผูกพันธ์กันก็ต้องจากลากันไป
    "นี่ ทะสึมิคุง.."
    "อะ..อะไรเหรอ"
    "สัญญาได้มั้ย ว่านายจะไม่ลืมฉันน่ะ"
    "ใครจะไปลืมลงล่ะ.. ยัยบ้า.."
    "ไม่ลืมแน่นะ"
    "อ่ะ..อื้ม สัญญาเลย"
    เราสองคนยิ้มให้กัน
    ถึงจะแสดงออกอย่างมีความสุข แต่ในใจมันก็เสียใจสุดๆ
    เธอคนนั้นวิ่งเข้ามากอดผม สักพักเราสองคนก็ร้องไห้
    ผมเอาตัวออกมาจากเธอแล้วใช้มือขวาเช็ดน้ำตา สักพักผมก็เอามือไปเช็ดน้ำตาของเธอเช่นกัน
    "นี่ พอไปอยู่อเมริกาแล้ว อย่าร้องไห้อีกล่ะ ถึงจะไม่มีชั้นคอยช่วยแล้ว เธอก็ต้องดูแลตัวเองให้ได้นะ.."
    "อะ..อื้ม แต่ว่า.. ฉันต้องไปแล้วล่ะ.."
    ผมยิ้มให้เธอที่กำลังกลั้นน้ำตาอยู่แล้วพูดต่อ
    "สักวันนึง.. เราต้องได้เจอกันอีกแน่.."
    "นั่นสินะ เราต้องได้เจอกันอีกแน่นอน!"
    เธอยิ้มกลับมาให้ผมโดยที่ยังมีน้ำตาเล็ดลอดออกมาเล็กน้อย
    "ฉัน.. ไปแล้วนะ"
    "อื้ม คือว่า..โชคดีนะ.."
    พอผมพูดจบ เธอก็หันหลังกลับแล้วเดินผ่านไป
    มันเป็นฉากที่เห็นได้มากมายในอนิเมะ มังงะ หรือไลท์โนเวลที่ผมเคยอ่านอยู่บ่อยๆ
    ถึงจะสัญญาว่าจะไม่ลืมกันก็เถอะ แต่ชื่อของเธอคนนั้น.. ผมก็ยังจำไม่ได้ซะงั้น
    แต่มันก็ผ่านมา 10 ปีแล้วล่ะนะ คิดซะว่าเป็นความทรงจำที่แสนดีในวัยเด็กก็แล้วกัน ว่าเราเองก็มีเพื่อนสมัยเด็กที่แสนน่ารักเหมือนกัน
    "นี่.. ทะสึมิคุงง ตื่นได้แล้วว!"
    อยู่ๆก็ได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงที่แสนคุ้นเคยปลุกผมที่กำลังนอนหลับอย่างสบายใจ
    "นี่ ทะสึมิคุงง ถ้านายไม่ตื่นล่ะก็.. ฉันจะทำโทษละน้าา.."
    "จ้าๆ ตื่นแล้วๆ"
    ผมลืมตาขึ้นมาก็เห็นยัยสึกิโนะยืนเท้าสะเอวอยู่แล้วกำลังก้มหน้าลงมาหาผม
    "อ๊ะ..! ตื่นแล้วสินะ"
    พอผมตื่นขึ้นมายัยสึกิโนะก็ตกใจเล็กน้อยแล้วถอยห่างออกไป
    "รีบๆไปอาบน้ำแล้วไปกินข้าวซะ ไปโรงเรียนสายมันไม่ดีนะ"
    "คร้าบๆ"
    สึกิโนะเดินออกจากห้องไป ผมก็ลุกขึ้น ขยี้ตาเล็กน้อยแล้วยืดแขนขึ้น
    ภาพที่เห็นตอนนี้ก็เป็นภาพที่เห็นจนคุ้นเคย
    ห้องนอนที่กว้างเล็กน้อย มีทีวีและเครื่องเกมอยู่ข้างหน้าเตียงนอน ทางขวาของเตียงมีตู้เล็กๆที่ใช้เก็บฟิกเกอร์คอลเล็กชั่นที่สะสมมาถึงสามปี ทางซ้ายก็มีโต๊ะคอม ตรงผนังของห้องที่ใกล้กับประตูก็มีตู้เก็บหนังสือ (มังงะและไลท์โนเวล) ทางซ้ายของตู้หนังสือก็มีตู้เสื้อผ้าเล็กๆ และริมสุดติดกับหน้าต่างของห้องก็มีประตูห้องน้ำ
    ผมลุกออกจากเตียงแล้วเดินไปดึงสายเปิดผ้าม่านข้างๆโต๊ะคอม เปิดหน้าต่างออกสูดอากาศยามเช้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

    ผมอาบน้ำจนเสร็จแล้วสวมชุดนักเรียนให้เรียบร้อย จากนั้นก็ลงไปข้างล่างที่ห้องครัว
    ตอนนี้สึกิโนะนั่งอยู่ทีโต๊ะอาหารมองหน้าผมด้วยความหงุดหงิดแล้วพูดต่อว่าผม
    "นายนี่มันช้าชะมัดเลยย"
    "ยังไม่สายซะหน่อย เธอรีบเองต่างหากล่ะ"
    "ช่างเถอะ มากินข้าวได้แล้ว เดี๋ยวจะเย็นหมด"
    "อื้ม"
    ผมเดินไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับยัยนั่นโดยไม่พูดอะไร
    วันนี้สึกิโนะทำแฮมเบิร์กให้กินเหมือนกับเมื่อวาน ฝีมือทำอาหารของยัยนี่น่าทึ่งเป็นอย่างมาก
    ถ้าเปิดร้านอาหารล่ะก็ คงจะรวยเละแน่ๆ
    สึกิโนะเป็นลูกพี่ลูกน้องของผม เธอเป็นลูกสาวของป้าของผม แต่ว่าคุณป้าต้องไปอยู่ต่างประเทศด้วยเหตุผลบางอย่าง
    พ่อของเธอก็เสียไปแล้วด้วย ยัยนี่จึงได้มาอยู่ที่นี่กับผม นี่ก็ผ่านมาสามปีแล้ว ที่ยัยนี้มาอยู่ที่บ้านหลังนี้
    เราสองคนอายุเท่ากัน เรียนอยู่ปีเดียวกัน เพราะงั้นถึงสนิทกันได้ดี ถึงจะมีกัดกันบ้างก็เถอะ แต่บางครั้งก็โดนล้อว่าเราสองคนคบกัยอยู่บ้าง แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะผมไม่มีทางคบกับยัยนี่แน่นอน
    สามปีมานี้ผมอยู่กับสึกิโนะแค่สองคน พ่อกับแม่ของผมอยู่อีกเมืองหนึ่ง มาเยี่ยมบ้างบางครั้ง แต่ก็ส่งเงินมาให้ทุกเดือน เราเลยไม่มีปัญหาอะไร
    ตอนนี้เราสองคนก็ขึ้นม.ปลายแล้ว เราเลยย้ายไปเรียนที่โรงเรียนมัธยมฮาราจุกุซึ่งอยู่ใกล้บ้านพอดี แค่นั่งชินคันเซ็นสถานีเดียวก็ถึงแล้ว
    ย้ายไปอยู่โรงเรียนนั้นได้หนึ่งเดือนพอดีแล้วด้วย แต่ผมก็ไม่ค่อยได้เพื่อนใหม่สักเท่าไหร่ ต่างกับสึกิโนะที่ได้เพื่อนเยอะมาก แถมยังมีพวกผู้ชายตามจีบอีก บางทีก็เยอะไปจนผมลำคาญ

    เราสองคนกินข้าวกันจนเสร็จ จากนั้นเราสองคนก็ออกจากบ้านเพื่อจะเดินไปโรงเรียนไปด้วยกัน
    ผมกับสึกิโนะต้องเดินไปกลับโรงเรียนด้วยกันทุกวันจนคนในโรงเรียนบางคนก็สงสัยในความสัมพันธ์ของเราสองคน แต่ผมก็ตอบไปทุกครั้งว่าเป็นแค่ญาติกันจนตอนนี้ก็ไม่มีคนถามแล้ว
    เราสองคนเดินไปจนถึงสถานีรถไฟชินคันเซ็น เรานั่งรถไฟไปหนึ่งสถานีแล้วลงไป
    เราเดินออกจากสถานีแล้วเดินตามทางไปเรื่อยๆจนถึงโรงเรียนมัธยมฮาราจุกุ
    "นี่ ฉันจะไปหาเพื่อนแล้วนะ นายเข้าโรงเรียนไปเถอะ"
    "อ่าๆ แล้วเจอกัน.."
    "ไม่ได้อยากเจอนายซะหน่อยย่ะ"
    "งั้นชั้นไปล่ะ"
    ผมเดินเข้าโรงเรียนไปดดยไม่สนใจอะไร
    ก็นะ ยัยนี่มันเป็นอย่างนี้ตลอดแหละ ผมคงจะชินไปแล้ว
    บรรยากาศของโรงเรียนตอนนี้คนเยอะพอสมควร เพราะตอนนี้ก็แปดโมงเช้าแล้ว ตามทางก็มีดอกซากุระร่วงลงมาอย่างต่อเนื่องพร้อมกับสายลมที่ปลิวไสวผ่านมา
    เป็นบรรยากาศที่ดีสุดๆ อยากจะเก็บมันไว้ตลอดไปเลย
    ผมเดินกินลมไปเรื่อยๆจนแทบจะไม่ได้สนใจรอบข้าง ผมเดินไปจนถึงอาคารเรียนหลักที่ผมเรียนแล้วเดินเข้าไป จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองของอาคารที่เป็นชั้นเรียนของเด็กปี 1
    ผมเรียนปี 1 ห้อง A ซึ่งอยู่ทางริมซ้ายของอาคารเรียนพอดี
    ผมเดินเข้าห้อง ตอนนี้นักเรียนในห้องก็มากันเยอะพอสมควร ผมไม่สนใจอะไรแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะเรียนของตัวเองที่อยู่ริมหน้าต่างแถวที่สาม
    ผมนั่งลงไปแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างระหว่างที่เพื่อนๆในห้องก็นั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน
    "นี่ๆ มินาซากิคุง.."
    อยู่ๆผมก็ได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงเรียกผมทางข้างๆ ผมหันไปมองตามเสียงก็เห็นว่าเป็นสาวสวยผมสั้นสีน้ำตาลซึ่งเป็นหัวหน้าห้อง
    "มี..อะไรเหรอ"
    "คือว่า..มินาซากิคุงมีชมรมอยู่รึยังน่ะ"
    "อืม.. ยังหรอก ทำไมเหรอ"
    "ปะ..ป่าวหรอกจ่ะ ถ้าไม่มีอะไรจะทำล่ะก็.. มาอยู่ชมรมวรรณกรรมได้นะ"
    คุณหัวหน้าห้องยิ้มให้ผม ขณะเดียวกันพวกผู้ชายในห้องก็ส่งสายตามาที่ผม แถมยังได้ยินบางคนเมาส์กันด้วย
    "เฮ้ยๆ เจ้ามินาซากิอีกแล้วว่ะ"
    "นั่นดิ แม้แต่หัวหน้าห้องก็ไม่เว้นเล้ย"
    งานเข้าผมอีกแล้วว
    "งั้น.. จะเอาไปคิดดูนะ"
    "อื้ม ขอบคุณจ่ะ"
    แล้วคุณหัวหน้าห้องก็เดินออกไป จากนั้นบรรยากาศในห้องก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม
    แต่จะว่าไป ยัยสึกิโนะหายไปใหนเนี่ย ไม่รู้ว่าไปคุยกับเพื่อนห้องไหนกัน
    แต่ก็ช่างเถอะ ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงยัยนั่นก็ได้
    ที่ผมย้ายมาที่โรงเรียนนี้ก็ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้ว แต่ผมก็รู้จักแค่เพื่อนในห้องเดียวกันนี่แหละ ไม่ค่อยอยากไปยุ่งกับห้องอื่นเท่าไหร่
    ชีวิตม.ปลายของผม ผมก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องเจออะไรแบบในอนิเมะเลิฟคอมเมดี้ที่ผมดูประจำ อย่างน้อยก็ขออยู่อย่างสงบๆก็พอแล้ว
    ส่วนชมรมก็อาจจะเข้าก็ได้
ตัวผมนั้นผลการเรียนดีก็จริง แต่ความจริงแล้วผมก็ไม่ได้ต้องการผลการเรียนดีๆหรอก อยากหาประสบการณ์ใหม่ๆมากกว่า
    แต่ที่ผมต้องทำคะแนนให้ดีเอาไว้ก่อนเพราะผมอยากจะเข้ามหาวิทยาลัยโตเกียวเพื่อเรียนต่อสายการสร้างเกม
    ทุกวันนี้ผมเป็นได้แค่ผู้เล่นเท่านั้น แต่ก็มีความฝันว่าสักวันจะต้องเป็นผู้สร้างให้ได้ เป็นความคิดของไอ้โอตาคุน่ารังเกียจคนนึงในสังคม
    อยู่ที่โรงเรียนผมก็ไม่ได้ปิดบังนะ ว่าผมเป็นโอตาคุ ผมก็เอามังงะมาอ่านที่โรงเรียนทุกวัน แต่ก็ไม่ค่อยมีคนสนใจ อาจจะมีคนนินทากันบ้าง แต่ผมก็ปล่อยไป
    หนึ่งเดือนที่ผ่านมาผมก็ชินกับโรงเรียนนี้แล้ว ไม่มีปัญหาอะไร

    "นี่ๆ มินาซากิ"
    ระหว่างที่ผมนั่งเหม่อลอยไปเรื่อย อยู่ๆก็มีเสียงผู้ชายเรียกผม พอผมหันไปมองก็เห็นเป็นเพื่อนที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆผม
    "มีอะไรเหรอ"
    "หลังจากนี้ฉันจะไปนั่งฝั่งนู้นนะ"
    คุณเพื่อนร่วมห้องชี้ไปที่อีกฝั่งหนึ่งของผม
    "แล้ว.. จะมาบอกฉันทำไมล่ะ"
    "ก็.. คนที่จะมานั่งตรงนี้แทนคือคุณเคย์จิ นายคงไม่มีปัญหาอะไรนะ"
    "อื้ม"
    พอผมตอบตกลงไป คุณเพื่อนร่วมห้องก็เดินออกไป
    ผมตอบตกลงไปอย่างนั้นแหละ ความจริงผมก็ยังจำไม่ค่อยได้ว่าเคย์จิที่ว่านั่นเป็นใคร
    แต่ถ้าจำไม่ผิดล่ะก็..
    รู้สึกว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงคนนึงที่ผมก็ไม่เคยเห็นหน้าอย่างชัดๆเสียที แถมยังไม่เคยคุยกันเลยด้วย
    เพราะเธอคนนั้นนอกจากเวลาเรียนแล้วแทบจะไม่เห็นในห้องเรียนเลย
    คงจะไม่มีปัญหาอะไรหรอกมั้ง ก็เป็นคนที่ไม่แคร์โลกเหมือนกับผมด้วยหนิ
    ตอนนี้ก็เข้าชั่วโมงโฮมรูมแล้ว คุณเคย์จิที่ว่านั่นก็ยังไม่มาเลย
ตอนนี้ครูประจำชั้นก็เข้ามาแล้ว
    "ครูจะเช็คชื่อแล้วนะค้าา"
    คุณครูเช็คชื่อไปเรื่อยๆจนถึงชื่อๆหนึ่ง
    "คุณเคย์จิ.."
    ไม่มีเสียงตอบรับใดๆทั้งสิ้น เพราะว่าเธอยังไม่มาเลย
    "วันนี้คุณเคย์จิไม่มาเหรอจ๊ะ.."
    "ไม่ทราบค่ะ"
    คุณหัวหน้าห้องตอบไปด้วยความสุภาพ
    แล้วอยู่ๆก็มีคนเดินเข้ามาในห้องเรียนอย่างกระทันหัน
    "ดูเหมือนว่าจะมาสายสินะคะ"
    "อ่อ.. จ่ะ ไม่เป็นไรหรอกจ่ะ เชิญเข้าไปนั่งที่เลย"
    เธอโค้งคำนับเล็กน้อยแล้วเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะข้างๆผม
    เธอคือเคย์จิสินะ
    กะจะถามคำถามที่สิ้นคิดนี้ออกไป แต่ก็รั่งปากเอาไว้ก่อน
    ครูประจำชั้นก็เช็คชื่อต่อไปโดยไม่มีปัญหาอะไร
    "ฝากตัวด้วยนะ"
    คุณเคย์จิที่นั่งอยู่ข้างๆหันมาทักทายผมโดยที่สีหน้าไร้อารมณ์สุดๆ
    "อ่า.. ฝากตัวด้วย..นะ"
    ทำไมบรรยากาศมันแปลกๆจังแฮะ

    แล้วการเรียนก็ผ่านไปแล้วสี่วิชา ถึงเวลาพักกลางวันเสียที
    เด็กในห้องก็เอาข้าวกล่องขึ้นมากินกันตามปกติ บางคนก็ไปซื้ออาหารที่โรงอาหารที่อยู่ข้างๆอาคารเรียน
    ผมหยิบข้าวกล่องที่ยัยสึกิโนะทำไว้ให้ขึ้นมาจากกระเป๋า
    "เอ๊ะ ลืมซื้อน้ำมาแฮะ"
    ผมเอาข้าวกล่องเก็บไส่กระเป๋าไว้เหมือนเดิมแล้วเดินออกจากห้องเรียนไปเพื่อมุ่งหน้าไปที่ตู้กดน้ำข้างๆโรงอาหาร
    พอไปถึงตู้กดน้ำก็ดันติดป้ายว่าเสีย
    ทำไมมาเสียเอาตอนนี้ล่ะเนี่ย
ถ้าจำไม่ผิด ดูเหมือนว่าทางขวาของอาคารเรียนก็มีอีกตู้นึงหนิ
    ยอมเหนื่อยเดินไปหน่อยละกัน
    ผมเดินกลับเข้าไปในอาคารแล้วเดินไปอีกฝั่งหนึ่งของอาคารเรียน พอลงบันไดเล็กๆลงไปก็เจอตุ้กดน้ำอยู่ข้างๆพอดี
    ผมหยอดเหรียญ 50 เยนลงไปแล้วกดโค๊กมาหนึ่งกระป๋องจากนั้นก็ก้มลงไปหยิบออกมา
    "ทำไมชั้นต้องมาเจอนายอีกล่ะเนี่ย"
    อยู่ๆก็ได้ยินเสียงผู้หญิงบ่นมาจากข้างๆผม ที่ใหนได้ก็เป็นยัยสึกิโนะนั่นเอง ยืนเบะปากแล้วส่งสายตากดดันมาหาผม
    "อะไรของเธออีกล่ะ อยากจะให้เลี้ยงรึไง"
    "มะ..ไม่หรอกย่ะ!"
    "งั้นฉันไปล่ะ"
    "อื้ม"
    ผมเดินผ่านไปโดยไม่สนใจอะไร
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ายัยนั่นมันจะกวนประสาทผมไปถึงใหน
    ผมเดินขึ้นบันไดทางขวาของอาคารเพื่อขึ้นไปที่ชั้นสอง
พอขึ้นไปถึงผมก็จะเดินกลับห้องเรียน แต่ว่า..
    "เอ๊ะ ทำไมห้องนี้ถึงเปิดล่ะ"
    พอผมเดินขึ้นบันไดมาถึง ผมก็เห็นห้องห้องหนึ่งเปิดอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาห้องนี้จะล็อกไว้ทุกครั้ง แต่ทำไมวันนี้ถึงได้เปิดล่ะ
    ผมเดินไปตรงประูห้องแล้วชะเง้อมองเล็กน้อย แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไร
    ผมเดินเข้าไปข้างในอีกนิด รอบๆห้องก็ไม่มีอะไรน่าสงสัย
    พอผมมองไปที่หน้าต่าง ก็เห็นว่า...
    "คุณ..เคย์จิงั้นเหรอ"
    สิ่งที่ผมเห็นคือ เด็กผู้หญิงผมยาวสีบรอนส์นั่งอยู่ตรงริมหน้าต่าง ผมของเธอปลิวไสวตามสายลมที่พัดมา
    เธอมาทำอะไรในห้องนี้ล่ะเนี่ย แล้วเอากุญแจมาได้ยังไง
    พอผมเรียกชื่อของเธอไป เธอก็ลุกขึ้นยืนแล้วหันมาทางผม
    เป็นครั้งแรกเลยแฮะ ที่ได้เห็นหน้าเธอชัดๆสักที ถึงจะอยู่ห้องเดียวกันมาเดือนนึงแล้วก็เถอะ
    มองดูดีๆแล้ว เธอคนนี้ก็หน้าตาดีสุดๆไปเลยแฮะ
    ผมบรอนส์ยาว ดวงตาสีฟ้าอ่อน หน้าตาน่ารักสุดๆ ถ้าเธอเป็นคนร่าเริงล่ะก็ คงจะฮ็อตน่าดูเลยล่ะ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  นวนิยายรัก นวนิยายลึกลับ อนิเมะ นิยายออนไลน์
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่