สวัสดีคัฟ วันนี้เราจะ backpack ไปสูดออกซิเจน 3 อะตอม หรือ โอโซน ที่ "เมืองมะขามหวาน อุทยานน้ำหนาว ศรีเทพเมืองเก่า เขาค้ออนุสรณ์ นครพ่อขุนผาเมือง " เขาค้อ เพชรบูรณ์ นั่นเองๆๆ จิงๆหัวข้อมันก็บอกอยู่แล้ว ^^
บันทึกเดินทางจากภูกระดึงสู่เขาค้อ ตามหาสายหมอก พระอาทิตย์ และไอหนาว วิถีนักท่องเที่ยวงช่วง High season
วันแรก : เราลงเครื่องกันที่สนามบินเมืองพิษณุโลกไปพักกันที่บ้านพนาวันเขาค้อรีสอร์ท

พอกินข้าวและนอนกลางวันเสร็จสรรพ ก็ควบรถออกไปชมความงามของวัดผาซ่อนแก้ว ผ่านทางร้านกาแฟร้านหนึ่งที่คนเยอะประมาณห้างฟิวเจอร์ในวันอาทิตย์ช่วงเย็น

แพล๊บๆๆ ขอสักมุมหน่อยค่าาา

ป่มบ้างสิคุณ ถ่ายอยู่แต่คนเดียว

บรรยากาศที่นี้สวยจิงๆ แฮะ ^^!

เวอร์ชั่นรูปหมู่ก้อมา

กาแฟก็มี ชาร์ทพลังแพล็บ


เราใช้เวลา(บ้า)ถ่ายรูปพอสมควร จนmemoryกล้องเกือบจะเต็ม ว่าแล้วก็ขยับรถไปวัดผาซ่อนแก้วกัน
แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อมีรถมาจอดใส่เบรกมือหน้ารถของเรา แต่พี่เขาบอกว่าไม่ได้ใส่เบรกมือ ลองเข็นดู!!
ถึงวัดแล้วค่ะ ช่วงที่เรามาเป็นวันหยุดติดกัน3วันคนจะค่อนข้างเยอะพอสมควร

มุมมองจากเจย์ดีสู่องค์พระ


บ้างสงบ บ้างมีความสุข เกิดขึ้นเพราะธรรมชาติ หรือ มนุษย์เองเป็นคนกำหนด

ได้เวลากลับไปนอนล่ะ เริ่มมืด เริ่มมีเมฆฝน ระหว่างทางแวะตลาดนัดซื้อของอุ่นๆกิน นี้เลย ขนมถ้วยร้อนๆๆ

ซื้อข้าวของมาเต็มโต๊ะเลยยย มีฝนตกลงมาด้วย น้ำตาไหล พรุ่งนี้คอนเสริตมีเละแน่ เหอๆ
อาบน้ำนอน เคลียร์เมม+เชคกล้องเรียบร้อย พรุ่งนี้งานหนัก


วันที่ 2 เราไปเก็บแสงแรกกันที่ "เขาตะเคียนโง๊ะ" รีบออกก่อนนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆจะรู้ตัว แต่ๆๆ เอิ่ม ถนน

มาถึงจนได้ จอดรถไว้ข้างล่างแบกกล้องเดินขึ้นเขา เหนื่อยเฟ้ยยย จากหนาวกลายเป็นเหงื่อท่วม
ว่ากันว่านี้คือ ฟูจิไทยแลนด์... ภูเขาที่มีรูปทรงละม้ายคล้ายคลึงกับภูเขาไฟที่ญี่ปุ่น หาที่ปักหลักถ่ายรูปดีกว่า
แต่ก็นะ...เหมือนว่าจะมาเช้ายังไม่พอ

ซื้อกาแฟนั่งชิบลมชมวิวก่อนดีกว่า กับโหมดหน้าเบลอหลังชัด แฮะๆๆ

ว้าวว คุณพระอาทิตย์จะมาแล้ววว

อีกฟากฝั่งหนึ่งกำลังถ่ายรูปเล่นกับทะเลหมอกที่เรามุดมาเมื่อเช้า สวยไปแบบ


เทอๆๆ ตื่นขึ้นมากินซาลาเปาไข่แดงเร็วๆ คุณพระอาทิตย์เอามาขาย พลางเอามือเขย่าเต้นท์ข้างๆ


อยู่บนนั้น มีแค่ดาวกับฟ้าอยู่ตรงนี้ อาจจะดีมากกว่า ได้ใกล้เธอ ยามผู้คนนิทรา



ถ่ายน้องหมาตัวนี้นึกถึงเพื่อนร่วมงานขึ้นมาเลยแฮะ

ไปล่ะรูปแสงแดดเต็มกล้องล่ะค่าา



แวะถ่ายรูปตามข้างทาง ช่วงสายๆแต่หมอกยังไม่จางแฮะ

หนูๆลูกโป่งให้น้าลูกหนึ่งดิ

ชื่นชอบการตั้งชื่อขนมของฝากเชิงพานิชย์ของที่นี้จังเลยแฮะ ตรงๆ ได้ใจความ ^^ ไม่อ้อมให้เสียเวลา


เจอร้านกาแฟสดล่ะ ดื่มเพื่อเป็นสัญลักษณ์การเริ่มต้นวันใหม่ (นี้มันแก้วที่2แล้วนะ)
ทำด้วยชาวเขาเผ่าม้ง นั่งฟังเค้าพูดกับลูกเผื่อจะฟังออกบ้าง^^! ไม่ใกล้เคียงภาษาเราเลยยย เหอๆ



ถ่ายรูปที่ไร่สตอเบอรี่วนไปค่ะ เพราะมองออกไปข้างนอกรถยังติดอยู่ นักท่องเที่ยวเยอะ และช่วงเย็นมีคอนเสิร์ต




และแล้วก็ได้เวลากับเทศกาลดนตรีฤดูหนาว บัตรพร้อม เสื่อสาด ผ้าห่ม เสื้อกันหนาวพร้อมมั่ก
กับเหล่ามนุษย์ผู้อพยพตามเสียงเพลง



ภายในงานค่าา หาที่ปูเสื่อด่วน คล้ายๆตอนเด็กๆที่เดินลัดทุ่ง หรือไปติดรถชาวบ้านที่กลาง4แยกเพื่อไปดูหมอลำ


มารอดูพี่แพท วงเคลียร์ค่ะ มาวงสุดท้ายเลยค่ะ นอนรอ

แก๊งวัวน้อยยังไม่หลับไม่นอนอีก

เหล่าแสงสีเสียง..ได้ทำลายกำแพงความเครียด ทำลายกำแพงความสิ้นหวังให้กับเหล่ามนุษย์
กลับมามีพลังอีกครั้ง

"เธอยังจำเรื่องราว วันสุดท้ายได้หรือเปล่า มันช่างนานเหลือเกิน ที่ห่างกันไป"

จบภารกิจbackpackฤดูหนาว ต่อไปก็ลงทะเล มุ่งสู่เกาะหลีเป๊ะ ล๊อกโพสในมือชี้ไปทางนั้น ^^
piece backpack
[CR] เขาค้อ เมืองแห่งขุนเขา สายหมอก และเทศกาลดนตรีฤดูหนาว
บันทึกเดินทางจากภูกระดึงสู่เขาค้อ ตามหาสายหมอก พระอาทิตย์ และไอหนาว วิถีนักท่องเที่ยวงช่วง High season
วันแรก : เราลงเครื่องกันที่สนามบินเมืองพิษณุโลกไปพักกันที่บ้านพนาวันเขาค้อรีสอร์ท
พอกินข้าวและนอนกลางวันเสร็จสรรพ ก็ควบรถออกไปชมความงามของวัดผาซ่อนแก้ว ผ่านทางร้านกาแฟร้านหนึ่งที่คนเยอะประมาณห้างฟิวเจอร์ในวันอาทิตย์ช่วงเย็น
แพล๊บๆๆ ขอสักมุมหน่อยค่าาา
ป่มบ้างสิคุณ ถ่ายอยู่แต่คนเดียว
บรรยากาศที่นี้สวยจิงๆ แฮะ ^^!
เวอร์ชั่นรูปหมู่ก้อมา
กาแฟก็มี ชาร์ทพลังแพล็บ
เราใช้เวลา(บ้า)ถ่ายรูปพอสมควร จนmemoryกล้องเกือบจะเต็ม ว่าแล้วก็ขยับรถไปวัดผาซ่อนแก้วกัน
แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อมีรถมาจอดใส่เบรกมือหน้ารถของเรา แต่พี่เขาบอกว่าไม่ได้ใส่เบรกมือ ลองเข็นดู!!
ถึงวัดแล้วค่ะ ช่วงที่เรามาเป็นวันหยุดติดกัน3วันคนจะค่อนข้างเยอะพอสมควร
มุมมองจากเจย์ดีสู่องค์พระ
บ้างสงบ บ้างมีความสุข เกิดขึ้นเพราะธรรมชาติ หรือ มนุษย์เองเป็นคนกำหนด
ได้เวลากลับไปนอนล่ะ เริ่มมืด เริ่มมีเมฆฝน ระหว่างทางแวะตลาดนัดซื้อของอุ่นๆกิน นี้เลย ขนมถ้วยร้อนๆๆ
ซื้อข้าวของมาเต็มโต๊ะเลยยย มีฝนตกลงมาด้วย น้ำตาไหล พรุ่งนี้คอนเสริตมีเละแน่ เหอๆ
อาบน้ำนอน เคลียร์เมม+เชคกล้องเรียบร้อย พรุ่งนี้งานหนัก
วันที่ 2 เราไปเก็บแสงแรกกันที่ "เขาตะเคียนโง๊ะ" รีบออกก่อนนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆจะรู้ตัว แต่ๆๆ เอิ่ม ถนน
มาถึงจนได้ จอดรถไว้ข้างล่างแบกกล้องเดินขึ้นเขา เหนื่อยเฟ้ยยย จากหนาวกลายเป็นเหงื่อท่วม
ว่ากันว่านี้คือ ฟูจิไทยแลนด์... ภูเขาที่มีรูปทรงละม้ายคล้ายคลึงกับภูเขาไฟที่ญี่ปุ่น หาที่ปักหลักถ่ายรูปดีกว่า
แต่ก็นะ...เหมือนว่าจะมาเช้ายังไม่พอ
ซื้อกาแฟนั่งชิบลมชมวิวก่อนดีกว่า กับโหมดหน้าเบลอหลังชัด แฮะๆๆ
ว้าวว คุณพระอาทิตย์จะมาแล้ววว
อีกฟากฝั่งหนึ่งกำลังถ่ายรูปเล่นกับทะเลหมอกที่เรามุดมาเมื่อเช้า สวยไปแบบ
เทอๆๆ ตื่นขึ้นมากินซาลาเปาไข่แดงเร็วๆ คุณพระอาทิตย์เอามาขาย พลางเอามือเขย่าเต้นท์ข้างๆ
อยู่บนนั้น มีแค่ดาวกับฟ้าอยู่ตรงนี้ อาจจะดีมากกว่า ได้ใกล้เธอ ยามผู้คนนิทรา
ถ่ายน้องหมาตัวนี้นึกถึงเพื่อนร่วมงานขึ้นมาเลยแฮะ
ไปล่ะรูปแสงแดดเต็มกล้องล่ะค่าา
แวะถ่ายรูปตามข้างทาง ช่วงสายๆแต่หมอกยังไม่จางแฮะ
หนูๆลูกโป่งให้น้าลูกหนึ่งดิ
ชื่นชอบการตั้งชื่อขนมของฝากเชิงพานิชย์ของที่นี้จังเลยแฮะ ตรงๆ ได้ใจความ ^^ ไม่อ้อมให้เสียเวลา
เจอร้านกาแฟสดล่ะ ดื่มเพื่อเป็นสัญลักษณ์การเริ่มต้นวันใหม่ (นี้มันแก้วที่2แล้วนะ)
ทำด้วยชาวเขาเผ่าม้ง นั่งฟังเค้าพูดกับลูกเผื่อจะฟังออกบ้าง^^! ไม่ใกล้เคียงภาษาเราเลยยย เหอๆ
ถ่ายรูปที่ไร่สตอเบอรี่วนไปค่ะ เพราะมองออกไปข้างนอกรถยังติดอยู่ นักท่องเที่ยวเยอะ และช่วงเย็นมีคอนเสิร์ต
และแล้วก็ได้เวลากับเทศกาลดนตรีฤดูหนาว บัตรพร้อม เสื่อสาด ผ้าห่ม เสื้อกันหนาวพร้อมมั่ก
กับเหล่ามนุษย์ผู้อพยพตามเสียงเพลง
ภายในงานค่าา หาที่ปูเสื่อด่วน คล้ายๆตอนเด็กๆที่เดินลัดทุ่ง หรือไปติดรถชาวบ้านที่กลาง4แยกเพื่อไปดูหมอลำ
มารอดูพี่แพท วงเคลียร์ค่ะ มาวงสุดท้ายเลยค่ะ นอนรอ
แก๊งวัวน้อยยังไม่หลับไม่นอนอีก
เหล่าแสงสีเสียง..ได้ทำลายกำแพงความเครียด ทำลายกำแพงความสิ้นหวังให้กับเหล่ามนุษย์
กลับมามีพลังอีกครั้ง
"เธอยังจำเรื่องราว วันสุดท้ายได้หรือเปล่า มันช่างนานเหลือเกิน ที่ห่างกันไป"
จบภารกิจbackpackฤดูหนาว ต่อไปก็ลงทะเล มุ่งสู่เกาะหลีเป๊ะ ล๊อกโพสในมือชี้ไปทางนั้น ^^
piece backpack