ทริปตามหามรดกโลก “บ้านดินถู่โหลว” สถาปัตยกรรม 600 ปี ที่คนไทยน้อยคนจะไปเยือน คนจีนต้องไปให้ได้สักครั้งก่อนตาย


สายเที่ยวไม่ซ้ำใคร สายเดินทางแบบลุย ๆ เบื่อทัวร์ลูกเป็ด เราขอแนะนำสถานที่ควรไปเยือน “สถาปัตยกรรม โครงสร้าง 600 ปี ที่ยังคงความแข็งแรงและสวยงาม” เมืองเซี่ยเหมิน ประเทศจีน ย้ำมันคือประเทศจีน  แต่เป็นในแบบ Unseen China !! จีนในแบบที่ใครหลายคนยังไม่น่าจะเคยไป

วันที่เพื่อนคนไทยที่เคยไปเรียนที่เมืองเซินเจิ้น มาเล่าให้ฟังว่าที่จีนนั้นนอกจากเมืองที่คนไทยชอบไปกัน เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ บลา ๆ มีอยู่เมืองนึงที่คนจีนด้วยกันเองยังอยากไป ไปไม่ยาก แต่ต้องตั้งใจไปเท่านั้น นั่นก็คือเมือง”เซี่ยเหมิน”นั่นเอง


โดยทริปนี้ใช้บริการสายการบินประจำเมืองของเค้าเลย Xiamen Airlines โดยบินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิไปลงสนามบิน Xiamen Gaoqi Airport





บนเครื่องเค้ามีอาหารและเครื่องดื่มบริการด้วยนะ ซึ่งมีให้เลือก 2 เมนูคือไก่กับปลา ซึ่งเราเลือกปลาไป ผลที่ได้ก็ตามรูปเลยเป็นเมนูข้าวห่อหมกปลา ซึ่งเดาว่าน่าจะมาจากครัวการบินไทยแน่นอน ดังนั้นคนไทยอย่างเราๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ถูกปากเลย



Day 1  ชมเมืองยามค่ำคืน –  ถนนจงซานลู่

บินลงตรงไปเซี่ยเหมิน “ฉายาเมืองจีนติดชายหาด” เป็นจังหวัดหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยนหรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อฮกเกี้ยนนั่นเอง ที่นี่เป็นเมืองท่าทางเศรษฐกิจที่สำคัญของจีน และมีระยะห่างจากเกาะไต้หวันประมาณ 1 กิโลเมตรเท่านั้น

   


เมืองนี้รถเมล์คือหัวใจหลักของการเดินทาง ค่ารถเมล์ถูก ซึ่งอ่านในอินเตอร์เน็ตมา เค้าว่ากันว่าจีนทางใต้ร่ำรวยกว่าทางเหนือ  ผู้คนจะมีลักษณะต่างกัน คือ มีระเบียบกว่า และไม่โหวกเหวกโวยวายเสียงดังและที่สำคัญคือเมืองไม่วุ่นวาย ถนนในเมืองสวยสะอาดอย่างผิดคาดจริงๆ


ไปถึงวันแรกช่วงเย็น ๆ  เช็คอินแล้วก็เอาของเก็บที่โรงแรม จากนั้นนั่งรถเมล์ตามแผนที่ที่ได้มาจากโรงแรมไปเที่ยวเล่น  


เดิน “ถนนจงซานลู่” เส้นนี้คือถนนช้อปปิ้งเดินเล่นเพลิน ๆ ตา ถนนสายหลักที่มีรถเมล์วิ่งผ่าน จะมีสินค้าแบรนด์เนมให้ดู แต่ถ้าเดินลัดเลาะตามซอกซอยจะเจอของกินมากมาย

   




เดินมาจนเจอซอยเล็กซอยน้อยโผล่มาโบสถ์กลางเมือง มีชาไต้หวันชื่อดัง KOI แบบที่พารากอน


ถัดไปหน่อยเจอศูนย์อาหารที่มีสีสันจัดจ้านชวนให้เดินเข้าไป สวรรค์ของชูชกอย่างเราวิ่งพุ่งใส่แบบไม่ลังเล อาหารที่เป็นหน้าตาที่มาแล้วต้องกิน คือ ซีฟู้ดจานยักษ์ ที่หน้าตาเต็ม 10 รสชาติก็ 10 เช่นเดียวกัน

     




ทริปนี้ตามหาชานมไข่มุกซึ่งมีหลายร้านมาก กินจนครบทุกร้านสรุปรสชาติพอ ๆ กันทุกร้าน ความพีคคือ ตอนนี้ชานมแบบใส่ชีสกำลังมาแรง คนนิยมกันมาก เห็นวัยรุ่นเดินถือกันเต็มเมือง

    

   

ข้ามฝั่งถนนของจงซานลู่เป็นอาหารแนว Street food มาแล้วต้องกินให้ครบจะได้ไม่เสียเที่ยว เดินไปเห็นร้านน้ำมะม่วงชื่อดังที่ใส่ชื่อร้านเป็นภาษาไทยว่า “ฉันยุ่งมาก” คนต่อคิวเยอะมาก ในสายตาการรับรู้ของคนจีน มะม่วงพวกนี้คือมาจากเมืองไทย  แต่เพื่อนคนจีนบอกว่ามะม่วงพวกนี้มาจากเมืองจีนนี่แหละ (อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกัน) แต่ที่แน่ ๆ “ ฉันยุ่งมาก” ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า คนจีนเดินยิ้มถือแก้วน้ำมะม่วงออกมากันร่าเริง



Don’t Miss 5 อาหารที่ถนนจงซานลู่ Street food ห้ามพลาด  !!
1.เจลลี่หอย และซีฟู้ด (รสชาติจักกะจี้ๆ) มีซอสเปรี้ยว
2.หอยทอดจงซานลู่ ร้านจะแจกชามพลาสติก ยืนรอต่อคิว คนขายผัด ๆ เราเอาจานยื่นให้  
3. ซีฟู้ด กุ้งตัวใหญ่หรือปูยักษ์ตัวใหญ่บนจาน ราคาไม่แพง และอีกสารพัดหอยย่างบนเตาถ่านร้อน
4. ปลาหมึกปิ้งราดด้วยพริกหมาล่า เผ็ดร้อน อร่อยเหาะ
5. หอยนางรมย่าง

  




Day 2 หมู่บ้านชาวประมง เจิงชั่วอัน วัดหนานผู่โถว Nanputuo - เกาะเปียโน มรดกโลกปี 2012 2017

เช้าตื่นมาวันนี้ตั้งใจไปเก็บที่เที่ยวในเมืองให้ได้มากที่สุด กางแผนที่แล้วเดินทางไปหมู่บ้านชาวประมง ยอมรับว่าลงรถเมล์เพราะเห็นทะเลและเห็นสะพานลอยมีคนข้ามเยอะมากเลยเดาว่าถึงแล้ว หาดทรายแนวยาวขนานตลอดเส้นทางติดถนน ทำให้ภาพของเมืองจีนหายเกลี้ยง ลมพัดเย็น มองเห็นนักท่องเที่ยวฝรั่งเล่นไคท์เซิร์ฟ



จากนั้นลงสะพานลอยที่มีอันเดียวจะเจอซอยให้เดินเข้าซอย จะได้เจอกับของกิน ร้านกาแฟ ร้านอาหารแบบ Local ตลอดทั้งซอย เดินเพลินตาเพลินท้อง กับอาหารทะเล กุ้ง ปู ใหญ่ ๆ สด ๆ แนะนำให้ลองกินซี่โครงหมูกระทะร้อน ซึ่งมีหลายร้านมากเหมือนเป็นอาหารท้องถิ่นและห้ามพลาดกุ้งทอดกระเทียม มีวุ้นเส้นอยู่ด้านล่าง มีมุมชิค ๆ ให้ได้ถ่ายรูป สีของร้านอาหารและบ้านเรือนบางหลังเหมาะแก่การได้รูปแบบอาร์ต ๆ “ฮาวายสไตล์ไชน่า”  





เดินออกมาปากซอยจะเจอคนจีนยื่นกระดาษให้พวกนักท่องเที่ยว นั่นคือการขายทัวร์ไปวัดหนานผู่ถัวแบบมีไกด์ และทัวร์ไปเกาะเปียโน เดินผ่านไปรอรถแท็กซี่นั่งมาประมาณ 150 บาทไทย ถึงวัดหนานผู่ถัวเลยไม่คิดว่าจะเร็วและใกล้กันขนาดนี้ ลงหน้าวัดหนานผู่ถัวท่ามกลางแดดจ้าหน้าร้อน



วัดที่อยู่ใจกลางเมืองเซี่ยเหมินมาง่ายไม่หลงแน่นอน ตั้งอยู่ที่ตีนเขาอู่เหลาซาน ตามประวัติคือ สร้างในสมัยราชวงศ์ถัง มีการเปลี่ยนชื่อ และบูรณะซ่อมแซมหลายครั้งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวจีนที่ต้องมาไหว้ เมื่อเดินเข้ามาในวัดจะพบกับเทพเจ้าองค์ใหญ่ และสวยงามตรงทางเข้า กลางวัดจะมีวิหารจตุโลกบาล เป็นวิหารใหญ่ต้องเดินไปไหว้จุดนี้ และบริเวณรอบ ๆ จะมีวิหารพระไตรปิฎก และสามารถเดินมาไหว้เจ้าแม่กวนอิมพันมือพันตาที่สวยงามมาก





แม้อากาศร้อนแต่ยังมีลมเย็น ๆ พัดมาเรื่อย ๆ เดินเที่ยววัดเสร็จก็ออกมานอกวัด หันไปทางซ้ายมือจะเจอกับมหาวิทยาลัยเซี่ยเหมิน  


มหาวิทยาลัยเซี่ยเหมิน เรียกได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวเยอะมาก (เหมือนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่คนจีนชอบไปนั่งรถในม.ชมวิว) เราเดินเล่นอยู่นิดหน่อย สอบถามได้ว่า จุดที่สวยคือบริเวณที่มีทะเลสาบหน้าตึกเรียน และเห็นทิวทัศน์ชายทะเล จากนั้นเราก็ออกจากที่นี่เพื่อเดินทางไปเกาะเปียโน


เดินทางมาท่าเรือโดยนั่งรถเมล์จากข้างประตูมหาวิทยาลัยเซี่ยเหมินจนสุดสายที่ท่าเรือเพื่อรอขึ้นเรือเฟอรี่ข้ามฟากไปเกาะเปียโน หรือ เกาะกู่ลั่งอวี่ เกาะนี้เป็นเกาะที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครนั่นคือเป็นเกาะที่มีสัดส่วนประชากรต่อจำนวนเปียโนมากที่สุดของจีน โดยเพิ่งขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2017 นี้ด้วย บนเกาะมีอาคารเก่าแก่มากกว่า 1,000 หลัง โดยบ้านแต่ละหลังจะออกแบบเป็นสถาปัตยกรรมทั้งแบบท้องถิ่นบวกกับสไตล์ตะวันตกทั้งหมด



ซึ่งจากเมืองเซี่ยเหมินนั้นสามารถข้ามไปเกาะเปียโนผ่านท่าเรือที่เปิดให้ใช้บริการ 2 แห่ง คือ ท่าเรือตงตู้ (Dongdu Wharf) และท่าเรือซงหยวี (Songyu Wharf) โดยนักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ จะต้องไปใช้บริการที่ท่าเรือตงตู้เท่านั้น เนื่องจากท่าเรือซงหยวีจะเปิดให้ใช้บริการเฉพาะคนท้องถิ่น ซึ่งการโดยสารเรือข้ามฟากเพื่อไปยังสถานีอีกฝั่งหนึ่งของเกาะเปียโนจะต้องแสดง Passport ในการซื้อตั๋วและขึ้นเรือ และเมื่อเดินเข้าไปต้องสแกนใบหน้าเห็นว่าเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่พัฒนามาเพื่อป้องกันการปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชนของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ เรียกได้ว่าระบบรักษาความปลอดภัยของจีนเค้าสูงมากจริงๆ





ชะเง้อรอเรือ พอเรือมา วิ่งแทบไม่ทันเพราะชาวจีนแย่งนั่งเก้าอี้หมดเลย ชั้นบนสุดเหลือบไปเห็นห้องแอร์เย็นฉ่ำ มีโต๊ะนั่งอย่างดี ห้องVIP นั่นเอง มาพร้อมกับการจ่ายตังค์เพิ่ม -- ‘ ตอนนั้นเมื่อยมากเลยยอมเสียเงินเพิ่มประมาณ 75 บาทไทย เจ้าหน้าที่จะเสิร์ฟชาให้คนละ 1 แก้ว เข้าไปนั่งสบายใจไม่มีคนมาบังวิว บนเรือมีคนเล่นเปียโนให้ฟังด้วยนะ ปูพื้นผู้ฟังอย่างเรา ๆ ให้รู้ว่า “ข้างหน้าคือเกาะเปียโน”





แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่