เรื่องเล่าจากโรงเรียนหลังเขาตอน"จอมขมังเวทย์"

จอมขมังเวทย์
    ในโลกนี้ยังมีสิ่งเร้นลับอีกมากมายที่รอการพิสูจน์จากเราซึ่งเป็นมนุษย์ ปุถุชนคนธรรมดา หลายครั้งที่เรามักไม่เข้าใจและหาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมต้องเป็นเช่นนั้น ...
    เช้าตรู่ของกลางเดือนเมษายนปี 51  อากาศช่วงเช้าบนดอยสูงกำลังเย็นสบาย ผมได้รับข่าวที่ไม่ค่อยจะสู้ดีจากเพื่อนครูด้วยกันที่ชื่อว่าครูไก่ ซึ่งเป็นครูประจำศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” บ้านต้นม่วง ว่ารถจักรยานยนต์ของเธอได้ถูกขโมยและสูญหายไป ผมจึงเดินทางไปศูนย์การเรียนของครูไก่เผื่อจะได้ช่วยเหลือกันบ้าง พอไปถึงก็เจอครูไก่และชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกำลังวิพากษ์ วิจารณ์และต่างคนก็ได้แต่สงสัยว่ารถหายไปเพราะสาเหตุอะไร
“เอ้า!! แล้วเป็นไง มาไงละ ครูไก่ มันหายไปได้อย่างไร” ผมถามด้วยความสงสัยและเห็นใจ
“เราก็ไม่รู้เหมือนกัน เราก็เอาจอดไว้ที่เดิม อยู่ที่นี่มาตั้งนาน ก็ไม่เห็นมีอะไรน่ะครูมิตร”  ครูไก่ตอบด้วยใบหน้าเศร้า ๆ
“เอางี้...เราไปแจ้งความก่อนดีกว่าแล้วค่อยคิดหาหนทางให้ได้รถคืนมา”
    สรุปแล้วช่วงเช้าของวันนั้นผมและครูไก่ก็ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในตำบลแม่สลองในพอเสร็จก็กลับมาส่งครูไก่ที่ศูนย์การเรียน พอดีเจอพ่อเฒ่าลีกองซึ่งเป็นผู้เฒ่าในหมู่บ้าน กำลังนั่งเคี้ยวหมากรอ
    “พ่อเฒ่ามีอะไรหรือเปล่าคะ” ครูไก่ถาม
    “สวัสดีครับครู...เรามารอนี่ตั้งนาน ก็ได้ข่าวว่ารถเครื่อง (รถจักรยานยนต์) ครูหาย”
    “อ้อ..คะ ก็เพิ่งไปแจ้งความกับครูมิตรมานะค่ะ พ่อเฒ่า”
    “เอ...มันจะเป็นไปได้อย่างไรนะครู หมู่บ้านของเราก็ไม่เคยมีประวัติเกี่ยวกับการลักขโมย หรือว่า....” พ่อเฒ่าทิ้งท้าย พร้อมกับบ้วนน้ำหมากลงบนพื้นหญ้า
    “หรือว่าอะไร...พ่อเฒ่า” ผมถามด้วยความสงสัย
    “ผี มันเอาไปซ่อนน่ะครู”
    “อืม...งั้นเราจะทำอย่างไรดีล่ะ พ่อเฒ่า” ครูไก่ถามเพราะไม่อยากให้พ่อเฒ่าเสียน้ำใจซึ่งดูจากสีหน้าแล้ว ดูจริงจังและอีกอย่างท่านก็เป็นผู้อาวุโสเป็นที่นับหน้าถือตาของคนในหมู่บ้าน ที่นี่เรื่องราวของความเชื่อเรื่องเร้นลับ เรื่องผีป่า ผีเขา โดยเฉพาะชาวเขาก็ยังนับถือกันมารุ่นต่อรุ่น ผมและครูไก่ก็รับฟังไว้ ซึ่งก็ไม่เสียหายอะไรที่จะได้คำแนะนำจากผู้เฒ่า
    “พ่อเฒ่ามีเพื่อน อยู่คนหนึ่งชื่อว่าอาอี อยู่ที่หมู่บ้าน ปางมะค่า ไอ้เจ้านี่มันเก่งเรื่องดูหมอ วันก่อนนางหมี่เน๊ะ เงินมันหล่นหาย มันก็ให้ พ่อเฒ่าอาอีช่วยทำพิธีให้ แล้วมันก็ได้คืน แล้วก็นังอาเบอะ ผัวมันหายไปเป็นเดือน นึกว่ามันไปเอาเมียใหม่ซะละ พอไปทำพิธี....อีกวันก็แจ้นกลับมาซบอกเมียมัน ฮะๆๆ” พ่อเฒ่าเล่าถึงสรรพคุณความเก่งกาจสามารถของเพื่อนให้ฟังอย่างภาคภูมิใจ ผมและครูไก่ก็ฟังอย่างตั้งใจและเริ่มที่จะเห็นพ้องต้องกันว่า ไม่ลองไม่รู้ เรารีบขอบคุณพ่อเฒ่าและตกลงกันว่าจะไปหาพ่อหมอในวันรุ่งขึ้น
    เช้าวันใหม่ผมมารับครูไก่ที่ศูนย์การเรียนเพื่อส่งเธอไปที่บ้านพ่อหมอ ซึ่งระยะทางก็ไกลโข ประมาน 40 กิโลดอย เราไปด้วยความหวังว่าพ่อหมอจะช่วยให้ครูไก่ได้รถคืนหรือรู้ว่าแหล่งที่ผี หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันเอาไปซ่อนอยู่ที่ไหน เราใช้เวลาเกือบครึ่งวันกว่าจะถึงบ้านปางมะค่า ซึ่งเป็นที่พำนักพักพิงของพ่อหมอ และกว่าจะไปถึงที่บ้านพ่อหมอได้ก็ทุลักทุเล เพราะสภาพของถนนหนทางยังยากลำบากนี่ยังดีว่าเป็นฤดูร้อนก็เจอแค่ฝุ่นแต่ถ้าเป็นฤดูฝนจะขนาดไหน
    บ้านของพ่อหมอเป็นบ้านยกสูงมีบันไดไม้ไผ่ขึ้นไปบนเรือนชานหลังคามุงด้วยหญ้าคา ผมมองเข้าไปเจอคนกำลังนั่งทำพิธียิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับเราว่าท่านศักดิ์สิทธิ์และหยั่งรู้ฟ้าดินจริงสมคำร่ำลือ กว่าจะเข้าถึงตัวพ่อหมอได้ก็ลำบากน่าดู เพราะพ่อหมอดันพูดภาษาไทยไม่ได้ต้องใช้ล่ามแปลซึ่งก็เป็นหลานของพ่อหมอนั่นเอง
“ฮ่า  ๆ ๆ ข้ารู้ข้าเห็น ดวงดาวบอกข้า” พ่อหมอพูดพร้อมกับหัวเราะเหมือนกับในหนังผีที่ผมเคยดู หลังจากนั้นพ่อหมอก็ให้ครูไก่จด วัน เดือน ปี เกิดและวันที่รถหายใส่กระดาษที่เตรียมไว้ด้วยถ่านดำแล้วพ่อหมอกำและขยำกระดาษยกขึ้นหลับตาพร้อมกับบริกรรมคาถา เป็นภาษาอะไรผมก็ฟังไม่ออก หลังจากนั้นก็หยิบเอาไข่ไก่ซึ่งพ่อหมอบอกว่าจะต้องเป็นไข่ไก่ของแม่ไก่ที่ตกไข่ในค่ำคืนของจันทรุปราคาและแม่ไก่ต้องสีขาวบริสุทธิ์ พ่อหมอว่าไข่ไก่ชนิดนี้จะหายากมากแต่ก็ไม่เกินความสามารถของพ่อหมอที่จะหามาให้ พ่อหมอตอกไข่ไก่วิเศษลงในถ้วยพร้อมกับบริกรรมคาถาอีกครั้งหลังจากนั้นก็หักกิ่งหญ้าคาบนหลังคามาเขี่ยบนไข่ไก่และจ้องมองในบรรยากาศที่เงียบกริบจนน่าขนลุกในพิธีกรรม เราแทบไม่กล้าหายใจ เพราะกำลังอยู่ในช่วงของการหยั่งรู้ หลังจากนั้นพ่อหมอก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับค่อย ๆ ยิ้มจนเห็นฟันดำเพราะท่านเคี้ยวหมาก
“พวกเจ้ากลับไป เอากระดาษที่ข้าลงคาถาไว้วางไว้ใต้หมอน รับรอง ภายในสามวัน เจ็ดวันหลังจากทำพิธีนี้ เจ้าจะได้รถกลับคืนมา ข้าเพ่งกระแสจิตไปที่ไข่ไก่วิเศษแล้วข้ามองเห็นว่ารถเจ้าถูกซ่อนไว้ในป่าข้าวโพดใกล้ๆ ถนนแต่ไอ้ขโมยที่มันเอาไปมันยังไม่สามารถเอาไปไหนได้เพราะตอนนี้ข้าทำพิธีสกัดมันไว้แล้ว... หึหึหึ” ก่อนกลับพ่อหมอได้ทำพิธีขอขมาฟ้าดินโดยการเสกข้าวสารแล้วโยนทิ้งลงไปบริเวณลานหน้าบ้านโดยมีเหตุผลว่าต้องให้ไก่ได้กินเนื่องจากเราได้นำไข่ไก่มาทำพิธี อีกอย่างเป็นการขอบคุณฟ้าดินที่ช่วยให้มองเห็นในสิ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถมองเห็น โห...ยิ่งเพิ่มความน่าเลื่อมใสเข้าไปอีก
เราเสียปัจจัยในการทำพิธีศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้เกือบ 500 บาท โดยที่หลานของพ่อหมอแปลให้ฟังว่า เป็นค่าไข่ไก่วิเศษ ค่าข้าวสารเสก ค่าหญ้าคาที่หักมาเขี่ยไข่ไก่ แต่ค่าทำพิธีเนี่ย...พ่อหมอไม่คิดเพราะถือว่าดีใจที่ได้ช่วยเหลือคนตกทุกข์ ได้ยาก เราขอบคุณและลากลับมาที่บ้านพักด้วยใจที่มีความหวัง ซึ่งในขณะที่ขี่มอเตอร์ไซด์กลับมาเห็นไร่ข้าวโพดที่ไหนเราก็จะจอดและค้นหาแต่ก็ไม่เจอเสียดายจังที่พ่อหมอไม่บอกจุดที่มันเอาซ่อนไว้ตรง ๆ ไอ้ครั้นจะกลับไปถามก็กลัวได้เสียค่าไข่วิเศษอีกและอีกอย่างก็มาไกลมากแล้วด้วย
สามวันผ่านไปผมโทรศัพท์ไปหาครูไก่ ว่าเป็นอย่างไรได้ข่าวอะไรหรือยัง
    “ยังเลยครูมิตร ก็ต้องรอน่ะนะ เพราะพ่อหมอก็กำหนดไว้ให้ตั้ง 7 วัน เรามั่นใจนะว่าพ่อหมอต้องช่วยเราได้”
    “อือ...เราก็ว่างั้นแหละ งั้นรออีกหน่อยนะ ช่วงนี้ถ้าจะไปไหน ก็เรียกเราละกัน เวลาจะไปประชุมเดี๋ยวเราจะไปรับ”
    “ขอบใจมากจ๊ะเพื่อน แต่เราก็เกรงใจเธอจัง”
เช้าวันที่เจ็ดเป็นวันครบรอบกำหนดของการทำพิธี ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากครูไก่
“นี่เธอ เราได้รถเครื่องแล้วนะ”
“ไชโย!!!” ผมตะโกนขึ้น “โห...พ่อหมอนี่เก่งจริง ๆ เลยนะเธอ เดี๋ยวเราต้องรีบไปสมนาคุณท่านหน่อยละ แค่นี้นะเดี๋ยวฉันจะหาเธอที่ศูนย์การเรียน”
“เดี๋ยวก่อนเธอ....คือว่า....” แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือดันหมด ไม่เป็นไรยังไงก็ต้องรีบไปแสดงความยินดีกับครูไก่อยู่แล้ว ผมรีบบึ่งมอเตอร์ไซด์หาครูไก่ที่ศูนย์การเรียนและยังนึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพิธีของพ่อหมอ ถ้าเป็นอย่างนี้ผมกระจายข่าวให้ทุกคนที่เดือดร้อนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเจ็บไข้ได้ป่วย ดูดวง ของหาย และอีกสารพัดปัญหาเพื่อให้ทุกคนที่ได้ไปทำพิธีได้พ้นทุกข์เหมือนกับครูไก่
ในที่สุดผมก็ได้มาถึงที่ศูนย์การเรียนของครูไก่ เห็นชาวบ้านกำลังมุงดู นั่นคงจะเป็นรถมอเตอร์ไซด์ของครูไก่ที่หายไป
“เป็นไงมั่งเธอ รถกลับมาในสภาพเดิมไม๊ หายไปเกือบ 10 วัน ยังสตาร์ทดีอยู่หรอเปล่าแล้วไปเจอมันที่ไหน ไร่ข้าวโพดของใคร”  ผมถามเป็นชุดครูไก่ก็ได้แต่ เอ่อ เอ่อ เออ จนกระทั่งนายอาพี ที่ยืนอยู่ใกล้ผมพูดขึ้นว่า
“เจ๋ง...เลยครู สวยด้วย แรงกว่าเดิม ใหม่กว่าเดิม สีแดงด้วย”  ผมงงกับคำพูดของอาพีเล็กน้อยเพราะรถครูไก่คันก่อนสีดำนี่ เอ...หรือว่าไอ้หัวขโมยมันใจดีเปลี่ยนสีให้ใหม่ ผมจึงเดินไปดูรถมอเตอร์ไซด์ที่จอดไว้ ครูไก่เดินตาม
“ฉันเจอมันที่ร้านกรีนวิงสาขาแม่จัน ตอนเช้านี่เองก็เลยตัดสินใจซื้อใหม่ ไม่เป็นไรที่ผ่านถือว่าฟาดเคราะห์ ไปไหนมาไหน ก็ไม่สะดวก เกรงใจเธอด้วย ก็ตอนที่คุยกันทางโทรศัพท์ว่าจะบอกอยู่ จู่ จู่ ก็สายหลุดโทรกลับไปก็ไม่มีสัญญาณ” ครูไก่พูด
“พ่อหมอ นะพ่อหมอ ทายแม่นจังทำไมไม่บอกว่าภายในเจ็ดวันที่ได้น่ะ คือต้องซื้อใหม่ ฮึ่ม!!!!จะได้ไม่ต้องเสียค่าไข่ไก่วิเศษกับข้าวสารเสกด้วย” ผมบ่น พร้อมกับเสียงฮาของครูไก่และชาวบ้านที่มามุงดูรถใหม่ด้วยความชื่นชม....
                                                                                 ครูมิตร เชียงราย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่