แม่ผมโดนรังแกจากผู้นำหมุ่บ้าน ผมอยากระบาย

แม่ผมโดนแกล้งครับ
เรื่องราวทั้งหมด บทความทั้งหมด อาจอ่านไม่เข้าใจ เพราะผมระบายไม่ได้เท่าไหร่ เรื่องราวมันตีกันในสมองไปหมด.
ผมจะเล่าแค่บางเรื่องนะครับ ซึ่งถ้าเล่าหมด อาจใช้เวลาเป็นเดือนของผู้นำคนนี้

มันเป็นเรื่องที่คับแค้นใจครอบครัวผมมานานถึง 6 ปี..!
เนื่องจากเมื่อห้าปีที่แล้ว แม่ผมได้ถูกเพื่อนๆในหมู่บ้านบอกให้แม่ผมลงเลือกตั้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งก็ได้อย่างหวัง แม่ผมถูกเลือกให้เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน โดยมีผู้ใหญ่บ้านเป็นญาติห่างๆ แรกๆทุกอย่างก็ดี พอทำไปสักพักผม่เริ่มบ่นว่าโดนผู้ใหญ่บ้านด่าว่า ว่าแม่ไม่ทำอะไร มาทำงานก็ช้า #ซึ่งตรงนี้ผมขอยืนยันว่า แม่ผมไปทำงานที่บ้านผู้ใหญ่บ้านตั้งแต่6โมงเช้าทุกวัน และแม่จะต้องยกเก้าอี้หนักๆคนเดียวออกมาเรียงให้ครบคนทั้งหมู่บ้านคนเดียว โดยผู้ใหญ่บ้านที่เป็นผู้ชายนั่งดูแม่ทำอย่างสบายใจ แต่..! วันนั้นแม่ผมติดธุระที่บ้านบวกกับไม่สบายเลยไปสายแค่ไม่เกิน 20นาที กลับโดนผู้ใหญ่บ้านด่าออกสื่อต่อหน้าลูกบ้าน โดยแม่กำลังวิ่งไปพอดี และแม่ก็ต้องหยุดนิ่งเมื่อได้ยินเช่นนั้น (ถามว่าผมอยู่ในเหตุการณ์ไหม ไม่!) ทุกๆวันแม่ชอบมานั่งร้องไห้คนเดียวมืดๆบนบันไดบ้าน แต่แกไม่ยอมพูดให้ใครฟังเลย บอกเลยว่า ผมไม่ค่อยได้เจอหน้าแม่เลย วันหยุดไม่ได้หยุด ทำงานหกโมงเช้า ยัน ห้าทุ่ม ที่ที่เล่ามาข้างต้นอาจเป็นแค่เรื่องที่แม่น้อยใจไปเองรึป่าว..?? อ่ะ มาฟังกันต่อ

หลังๆแม่เริ่มบ่นๆว่า แม่ไม่สบายใจอยุ่เรื่องนึง เรื่องนั้นก็คือการที่ผู้ใหญ่บ้านและเมียปลอมลายเซ็นแม่ ปลอมเอาไปเบิกเอกสาร เอาไปเบิกเงิน (ต้องบอกว่าแม่เป็น อสม เหรัญญิกอบต กรรมการหมุ่บ้าน กรรมการเงินล้าน อื่นๆ) บางทีที่แม่ทำงานแม่ก็ได้แต่สงสัยว่าเอกสารที่แม่ไม่ได้เซ็น ทำไมมันมีลายเซ็นแม่ได้ และแน่นอนว่าถ้าเกิดผิดพลาดมา แม่ต้องรับผิดชอบคนเดียว

ทุกๆเทศกาลที่มีการเรี่ยไรเงิน เช่น ผ้าป่า เงินบริจาควัด เงินกองทุนต่างๆ เงินซองต่างๆ ที่แม่กับกรรมการกำลังฉีกซองบรจาคที่ลูกบ้านนำมา ผู้ใหญ่บ้านก็จะเดินมาหยิบในขันไปใส่กระเป๋าตัวเองเรื่อยๆ.(เดี๋ยวๆแบบนี้มันได้ด้วยหรอ). เงินทุกอย่างหายไป หาต้นหมายปลายเหตุไม่ได้ ไม่มีการการรับ-จ่าย


ความกดดันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีการใส่ร้ายแม่ขึ้นมาอีกว่าแม่โขมยเงินไป 3หมื่นบาท แล้วไม่เอามาคืน เรื่องอื่นแม่ผมรับได้นะครับแต่เรื่องนี้แม่ทนไม่ได้จริงๆ. พี่ๆคิดดูว่าผมเป็นลูกเค้า (เนื่องด้วยฐานะเราไม่ค่อยดี) บางวันรถขนมจีนวิ่งผ่าน แม่หิว แต่เงินไม่พอ ขาด 2 บาท แม่ยังไม่กล้าที่จะเอาออกมาเลยแม้แต่บาทเดียว. ผมยังเคยคิดว่าทำไมแค่นี้เอาออกมายืมก่อนไม่ได้หรอ. แม่ตอบเสมอว่า “ไม่ได้หรอกลูก การที่เราหยิบออกมาก็แสดงว่าเราไม่โปร่งใสแล้ว)  

เหตุการณ์เริ่มกดดันมาจนถึงขั้นแม่ต้องนอนร้องไห้ทุกคืน จนพ่อทนไม่ไหว พ่อสงสารแม่ ทางญาติก็ทนไม่ไหวขอให้แม่ลาออกซะ. แม่ก็เลยไปขอลาออก แต่ผู้ใหญ่บ้านบอกไม่ไห้ออก ให้ขออยุ่ต่อสักปี โอเครแม่ก็อยุ่ต่อ. แต่ก็อย่างว่าครับ เรื่องเดิมๆมันก็มาตลอดทุกวัน เรื่องใส่ร้ายแม่ต่างๆนาๆ (บอกไว้ก่อนนะครับว่า เมียผู้ใหญ่บ้านตางหากที่เป็นคนสร้างเรื่องพวกนี้มา เที่ยวบอกให้เพื่อนๆแม่เกลียดแม่ เที่ยวไปบอกลูกบ้านว่าแม่ลาออกเพราะหนีความผิด)😥

วันนึงแม่ตัดสินใจออกมาในวันขึ้นปีใหม่ 2560 แน่นอนว่าแม่ต้องไม่ยอมออกมาโดยปล่อยให้หมู่บ้านจมอยู่กับผู้ใหญ่บ้านที่ไม่โปร่งใสแบบนี้แน่ๆ. แม่เลยโทรมาปรึกษาผมและญาติๆว่า จะขอให้ทางหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องมาช่วยตรวจสอบให้หน่อย เพราะมันเริ่มหนักขึ้นๆเรื่อยๆ เงินหายเรื่อยๆ. แม่พูดว่า “ถ้าการสู้ครั้งนี้แม่แพ้ ผลตรวจสอบออกมาว่าเขาโปร่งใส แม่ก็จะยอม. ถึงแม่ว่าตัวเองอาจแพ้ แต่อย่างน้อยมันอาจทำให้หมู่บ้านดีขึ้น ผู้ใหญ่บ้านคนนี้ไม่อาจกล้าทำอีก”  โอเครเพื่อนแม่ ลูกบ้านบางคนเห็นด้วย และก็มาบ้านแม่เพื่อพูดคุยหารือว่าจะเอาไงต่อ แม่ก็จะเก็บหลักฐานทั้งหมดไว้ และหาวันไป “ศูนย์ดำรงธรรม”

เมื่อถึงวันที่ทึกอย่างพร้อม แม่รอพยาน รอเพื่อน รอลูกบ้านที่เคยตกลงกันไว้เพื่อที่จะเดินทางไปร้อวเรียน. ปรากฏว่าทักคนเงียบ ขาดการติดต่อ. แต่..! มารู้จากปากลูกบ้านคนนึงบอกว่า กลัวทางผู้ใหญ่บ้าน เพราะผู้ใหญ่บ้านได้มาขุ่ทุกคนว่า “ถ้าใครที่ไปเป็นพยานให้ ถ้าคิดว่าชนะก็ไปเลยพวกคุณไม่รุ้หรอว่าใครใหญ่กว่าใคร ญาตพี่น้องผมเป็นเจ้าคนนายคนเยอะแยะ”.

โอเครถึงวันจริงๆมีพยาน 5-6 คน เมื่อคนพร้อมแม่ก็ออกเดินทางไปร้องเรียน เมือล่อร้องเรียนและส่งหลักฐานเรียบร้อยแล้วก็พากันกลับ. ไม่ไม่จบแค่นี้ครับ. วันต่อมาเมียผุ้ใหย่บ้านประกาศบอกว่าสมุดบันชีลูกบ้านหาย หาไม่เจอ อาจจะไม่ได้กู้เลกองทุนเงินล้านอะไรประมาณนี้ และก็แน่นอน รายชื่อที่สมุดหายมี เท่ารายชื่อคนที่ไปร้องเรียนครับผม. อ่ะแม่เลยบอกว่า ไม่ยอมเล เราพาลูกบ้านมาแล้วซวย พาเขาเดือดร้อน แม่ก็เลยเอาเรื่องนี้ส่งไปศูนดำรงคืธรรมอีก แล้วววว วันต่อมาเมียผู้ใหญ่บ้านประกาศแต่เช้าเลยว่า เจอสมุดแล้ว โดยเนื้อหาประกาสมีประมาณว่า. ของนายนี้ ค้างอยุ่หมู่บ้านนี้. ของนายนั้นตกค้างอยุ่หมู่บ้านนี้ อ่าาา แม่ผมก็เลยตามหาและโทรไปถามผู้ใหญ่บ้านแต่ละบ้านที่เขาประกาศมา ปรากฏว่าทึกบ้านบอกแบบเดียวกันว่าไม่เคยมีสมุดบันชีตกค้างเลย.
⚠️ความพีคอยุ่ไหน อยุ่ที่ทำไมทางผู้ใหญ่บ้านถึงรู้การเคลื่อนไหวว่าพวกแม่ผมไปร้องเรียน.??
❗️ถูกกก ทางศุนย์ดำรงค์ธรรมส่งไลน์ไปหาผู้ใหญ่บ้านครับผม บอกว่าแม่ผมไปร้องเรียนเขา.
❓คำถามคือ ศูนย์ดำรงค์ธรรมจำเป็นต้องไลน์บอกให้ผู้ใหญ่บ้านรู้ด้วยหรอ? แล้วประชาชนคนธรรมดาอย่างเราจะเพิ่งใครได้ตอนนี้ ?
แต่ก็ยังมีเรื่องดีอยู่ที่ทางผู้ว่าเขาเป็นกลาง เราเลยส่งไปตรวจสอบหลักฐาน โดยให้เวลาผู้ใหญ้บ้านหาหลักฐานรายรับ รายจ่ายของเงินมาให้ได้ก่อน วันที่เท่านี้ เท่านั้น.

พอถึงวันตรวจสอบ ทางหน่อยงานที่ตรวจสอบขอเอกสารรายรับ รายจ่าย ปรากฏว่า ไม่มีอะไรที่ตรงกันเลย และบางเอกสารมีการเขียนขึ้นมาใหม่ โดยสังเกตุจากสีของน้ำหมึกก็ได้. เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ผลออกมา. มีจดหมายส่งไปทางผู้ใหญ่บ้านว่า โดนหักเงินเดือน1 เดือน และไท่ได้เลื่อนขั้น.  ใช่เลย พ่อกับแม่ผมดีใจแล้ว ที่ทุกอย่างจบ😀

แต่.....! ความแค้นนั้น มันยิ่งกว่าเดิม เขาไม่ยอมจบ เมื่อวานน้องวิดีโอคอลมาหาผม แม่กับน้องกอดกันร้องไห้ และเล่าทุกอย่างให้ผมฟังผ่าน วีดีโอคอลเนื้อเรื่องมีว่า

ด้วยการที่ฐานนะทางบ้านผมไม่ดี เลยกู้ยืมเงินของกองทุนหมู่บ้าน หลักล้านเลยครับ 😢
สายๆของวันนึง มีเสียงประกาศบอกว่าให้ผู้ที่มีรายชื่อ 4 คนมาจ่ายหนีด้วย(ประกาศทางลำโพงหมู่บ้าน). และมีคำพูดส่อถึงให้เราอาย ประมาณว่า ถ้าไม่เอามาจ่าย จะประจานออกสื่อให้อับอาย.
และเสียงนี้ไม่ใช่แค่พูดวันเดียวนะครับ พูดติดต่อกันมา 3-4วัน. แม่ผมคิดมาก กอดน้องกับพ่อร้องไห้ ไม่รู้จะเอาเงินมาจากไหนมาจ่าย ไหนจะค่าเทอมผมกับน้องอีก. ซึ่งตอนนั้นแม่มีเงินติดตัวอยุ่ 15บาท!!!  คำที่แม่โทรมา แม่พูดไม่ออกทั้งพูดและก็ร้อง เวลาแกร้องแกจะเอาหน้าหนีกล้องเพราะกลัวลูกเห็นว่าแกร้อง แต่ผมรู้😢. เพราะน้องเล่าให้ฟังแล้ว. แม่พูดอยุ่ประโยคเดียวก่อนจะปิดการสื่อสาร “ไม่เป็นไรหรอกลูก ตั้งใจเรียนนะ รีเรียนรีบจบ แค่นี้นะ แม่กินข้าวก่อน”

เที่ยงคืนของวันนั้นน้องผมโทรมาบอกว่าแม่ยิ่งเครียด เพราะแม่ไปยืมเงินคนอื่นมาจ่าย แต่ก่อนจ่ายแม่ถามกรรมการหมู่บ้านอีกคนว่า “มีกี่คนคะที่ยังไม่จ่าย” กรรมการคนนั้นก็ไม่ตอบ ก็เลยถามอีกรอบแบบน้ำเสียงโกรธ เขาเลยตอบมาว่า “อีกยี่สิบกว่าคน”. แค่นั้นแหละครับ แม่ผมหัวเข่าทรุด และร้องไห้พร้อมกับฟาดเงินจำนวนนึงไว้ตรงโต๊ะ และพูดออกมาว่า. “เขาแกล้งชั้นทำไม เขาโกหกชั้นทำไม ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ เขาต้องการทำให้ครอบครัวชั้นอายขนาดนี้เลยหรอ” แม่พูดเสร็จรีบวิ่งออกมาและร้องไห้ตลอดทางที่กลับบ้านครับ 😢
ผมโทรคุยกับน้องทั้งโทรทั้งร้องไห้ คำพูดที่ผมกับน้องพูดพร้อมกัน “เราจะรีบเรียนให้จบ เราจะลบความดูถูกเหยียดหยาบให้ได้ และจะรีบหาเงินมาใช้หนี้ที่แม่ยืมมาให้ได้”
ทุกวันนี้ผมนอนสะดุ้งทุกคืน ผมสงสารแม่ ผมเป็นตัวถ่วงครอบครัวมั้ย ที่ยังเรียนไม่จบ ผมน่าจะหางานทำก่อนค่อยเรียน  

แม่ผมบอกเสมอว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันเป็นแค่เรื่องของผู้ใหญ่ พ่อและแม่เท่านั้น ตัวลูกเองก็อย่าไปเกลียดเขา ไปชังเขา เพราะลูกไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้.  แต่ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ในเมื่อผมเจอเขา เดินสวนทางกัน ผมไหว้เขา สายตาที่เขามองมาคือเหยียดหยาม แล้วเชิดหน้าหนีไหว้ผม
⚠️เรื่องทุกอย่างที่พูดมา ไม่ใช่นิยาย ไม่ใช่นิทาน แต่มันคือเรื่องจริง สุดท้ายนี้ผมและครอบครัวเชื่อว่า เวรกรรมมีจริง ใครทำอะไรก็ได้แบบนั้น. แต่ไม่รุ้ทำไมคนเลวยังลอยหน้าลอยตาได้

⚠️ผมอยากมาระบาย ผมไม่รุ้จะระบายที่ไหน
⚠️เรื่องที่ว่าแม่ผมขโมยเงิน ผลการตรวจสอบ แม่ผมมีหลักฐานทุกอย่าง ซึ่งหลักฐานนั่นก็คือ เขานั่นแหละที่เป็นคนเอาไปเอง

#นอกเรื่อง.   มีครั้งนึงที่น้องผมบอกให้แม่แท็กขายสบุ่เผื่อได้รายได้เสริม คำนึงที่แม่พูดมาแล้วน้ำตาไหลคือ “แม่ขอโทษนะลูก แม่ไม่มีเพื่อนแล้ว😢”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่