รางวัลวรรณศิลป์อุชเชนี



ผมมีโอกาสได้ไปร่วมงาน การประกาศและพิธีมอบรางวัล  การประกวดวรรณกรรมรางวัล “วรรณศิลป์อุชเชนี” ในหัวข้อ “มิ่งมิตร”   ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2560  เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2560 ณ ห้งอโนมาแกรนด์ ชั้น 3 โรงแรมอโนมาแกรด์กรุงเทพ  ซึ่งมีรายละเอียดของงานที่เป็นประโยชน์ต่อวงการวรรณกรรมบ้านเรา  ผมจึงขอนำเสนอให้ท่านที่สนใจได้รับทราบดังนี้






โครงการประกวดวรรณกรรมรางวัล “วรรณศิลป์อุชเชนี”

    เออเชนี ประคิณ ชุมสาย ณ อยุธยา  หรือที่เรารู้จักในนามปากกา “อุชเชนี”  มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ แม้จำนวนไม่มากแต่ทรงคุณค่า  และโดดเด่นทางด้านวรรณศิลป์อย่างยิ่ง  ไม่ว่าจะเป็นกวีนิพนธ์เช่น “ขอบฟ้าขลิบทอง” , “ดาวผ่องนภาดิน” หรือความเรียงร้อยแก้วอย่าง “เพียงแค่เม็ดทราย” ในนามปากกา “นิด นรารักษ์” นอกจากผลงานการเขียนซึ่งก่อเกิดแรงบันดาลใจมากมายสำหรับผู้ที่รักทางด้านวรรณศิลป์แล้ว  การใช้ชีวิตเรียบง่ายอ่อนโยนเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น ยังเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับการดำเนินรอยตามด้วย

    สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย  ร่วมกับสภาการศึกษาคาทอลิก , คณะภคินีเซนต์ปอล เดอ ชาร์ตร , กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย  จึงได้จัดโครงการประกวดวรรณกรรมรางวัล “วรรณศิลป์อุชเชนี”  โดยคัดสรรและพิจรณาผลงานเขียนที่มีเนื้อหาและลักษณะตามเกณฑ์ที่กำหนด  จากผลงานเขียนที่ส่งเข้าประกวดทั่วประเทศจำนวน 390 ผลงาน  เพื่อพิจารณาตัดสินมอบรางวัลแก่นักเขียนที่มีคุณภาพดี  โดยแบ่งงานเขียนออกเป็น 2 ประเภทคือ 1.ประเภทกลอนสุภาพ  2.ประเภทความเรียง  โดยหัวข้อในการประกวดประจำปี 2560 คือ  “มิ่งมิตร”



  
ฯพณฯ พลากร  สุวรรณรัฐ องคมนตรี  เป็นประธานในงานวันนี้



ซึ่งผลการตัดสินของคณะกรรมการเป็นดังนี้

ประเภทกลอนสุภาพ ระดับประชาชน  มีผลงานส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น 134 ผลงาน

-กลอนสุภาพรางวัลดีเด่น ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ได้แก่บทกลอนชื่อ “เธออยู่บนชิงชาสวรรค์” ของนางสาวสาวิตรี  ทนเสน (นามปากกา “นิตา มาศิริ”)  จากจังหวัดฉะเชิงเทรา

-กลอนสุภาพรางวัลชมเชย 2 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ
1.บทกลอน “มิ่งมิตร” ของนางจุไรรัตน์ แสนใจรักษ์ (นามปากกา “วันรวี  รุ่งแสง”) จากกรุงเทพมหานคร
2.บทกลอน “มิ่งมิตร” ของนายนนทพันธ์  หิรัญเรือง  จากจังหวัดอุบลราชธานี


ประเภทกลอนสุภาพ ระดับนักเรียน  มีผลงานส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น 112 ผลงาน

-กลอนสุภาพรางวัลดีเด่น ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ได้แก่บทกลอนชื่อ “รอยหวังกำลังใจ” ของนายพิริยภูมิ  หง่อยกระโทก โรงเรียนบุญวัฒนาจังหวัดนครราชสีมา

-กลอนสุภาพรางวัลชมเชย 2 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ
1. บทกลอน “มิ่งมิตร” ของนายณรงค์ชัย  แสงอัคคี จากโรงเรียนระโนดวิทยา จังหวัดสงขลา
3. บทกลอน “มิ่งมิตร” ของนายเมธาวี  ก้านแก้วจากโรงเรียนกระทุ่มแพ้ววิทยา  จังหวัดปราจีณบุรี



ผู้ได้รับรางวัลประเภทกลอนสุภาพ




อ่านบทกลอนชนะเลิศ  “รอยหวังกำลังใจ” โดยนายพิริยภูมิ  หง่อยกระโทก





อ่านบทกลอนชนะเลิศ “เธออยู่บนชิงชาสวรรค์” โดยนางสาวสาวิตรี  ทนเสน





ประเภทกลอนความเรียง ระดับประชาชน  มีผลงานส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น 76 ผลงาน

-ความเรียงรางวัลดีเด่น ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ได้แก่ความเรียงชื่อ “มิ่งมิตร” ของนางวาสนา อุตเมืองเฟีย (นามปากกา “วันนา วนาดิน”) จากจังหวัดนครราชสีมา

-ความเรียงรางวัลชมเชย 2 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ
1. ความเรียงชื่อ “มิ่งมิตร” ของนางสาวขนิษฐา วชิราพรพฤฒ (นามปากกา “จิตประภัสสร”) จากกรุงเทพมหานคร
2. ความเรียงชื่อ “จดหมายถึงมิ่งมิตร” ของนางเจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสกี้  จากประเทศสหรัฐอเมริกา

ประเภทกลอนความเรียง ระดับนักเรียน  มีผลงานส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น 68 ผลงาน

-ไม่มีผลงานใดได้รบรางวัลดีเด่น

-ความเรียงรางวัลชมเชย 2 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ
1. ความเรียงชื่อ “มิ่งมิตร” ของนางสาวณิชาภา  บัวสัมฤทธิ์ จากโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย เชียงราย

2. ความเรียงชื่อ “มิ่งมิตร” ของนางสาวธัญพรภัส กนกกรมงคล  จากโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ กรุงเทพมหานคร



ผู้ได้รับรางวัลประเภทความเรียง




เปิดใจผู้ได้รับรางวัลประเภทควาเรียง  โดยตัวแทนจากกรมราชทัณฑ์






คณะกรรมการผู้จัดการประกวด "รางวัลวรรณศิลป์อุชเชนี"





สำหรับท่านที่สนใจอยากจะอ่านผลงานที่ได้รับรางวัล  ท่านสามารถดาวน์โหลดหนังสือที่ระลึกรวบรวมผลงานที่ได้รับรางวัล ได้ที่   http://www.eugenieawards.com/download.html


พาพันชอบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่