เมื่อฉันถูก **สรรพากร… สับขาหลอก…

…ยาวหน่อยนะครับ แต่น่าจะเป็นประโยชน์…
………………
ย้อนกลับไปเมื่อ มกราคม 2559 สรรพากรได้ออกกฎหมายฉบับหนึ่ง ชื่อ พรก.ยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการทางภาษี (บัญชีเดียว)
สาระสำคัญและเจตนารมณ์ของกฎหมายนี้ คือ เพื่อให้ SME ได้จัดทำบัญชีถูกต้องเป็นไปตามกฎหมาย
โดยให้จดแจ้งเข้าร่วมโครงการ และตั้งแต่ปีบัญชี 2559 เป็นต้นไปต้องจัดทำบัญชีเดียวและห้ามหลีกเลี่ยงกฎหมาย
…ซึ่ง ถ้าเราทำตามทุกอย่างถูกต้องแล้ว **สรรพากร ไม่มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบ ไต่สวน และสั่งให้เราเสียภาษีย้อนหลัง สำหรับปีภาษี 2558 ลงมา
(สามารถหาฟังเรื่องนี้ที่ให้ข่าวโดยอธิบดีกรมสรรพากร ใน YouTube หรือหาอ่านใน Google ก็ได้ครับ)
………
ข้อเท็จจริง
บริษัทของผม ได้จดแจ้งเข้าร่วมโครงการดังกล่าว และทำถูกต้องตามเงื่อนไข พรก. ทุกอย่าง
ต่อมา ปีบัญชี 2559 จึงได้ตัดสินใจขอคืนภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยคิดว่าสรรพากรคงไม่มีอำนาจตรวจสอบความผิดเราย้อนหลัง
ตามที่ พรก. นั้นกำหนดไว้
ผลปรากฏว่า : สรรพากรตรวจสอบแล้ว มีคำสั่งให้คืนภาษีปี 2559 จำนวนเงิน 3x,xxx บาท
……แต่ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ตรวจสอบงบการเงินและการเสียภาษีย้อนหลังของผม พบว่า ปีบัญชี 2558 บริษัทของผม มีรายได้เกิน 1.8 ล้าน
แต่ไม่ทำการจดภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงมีคำสั่งให้ผมทำการจดให้ถูกต้องและสั่งให้ผมเสียภาษีมูลค่าเพิ่มย้อนหลังพร้อมเงินเพิ่มและเบี้ยปรับ
ย้อนหลังตั้งแต่ 1 บาทแรกที่เกิน 1.8 ล้าน ถึงปัจจุบันรวมเป็นเงิน 24x,xxx บาท แต่ พรก. คุ้มครองปี 2558 ดังนั้นผมจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 1 มกราคม 2559 ถึงปัจจุบันรวมเป็นเงิน 20x,xxx บาท
…………
ปัญหาที่ผมโต้แย้งกับกรมสรรพากร คือ
~โดย พรก. ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ไม่มีอำนาจเข้าไปดูงบการเงินและข้อมูลภาษีทั้งหมดของปีบัญชี 2558 ของ บริษัทผม
เพราะผมไม่ได้มีการขอคืนภาษีปี 2558 และเจ้าหน้าที่ไม่มีอำนาจดังนั้นถึงแม้จะตรวจพบข้อผิดก็ต้องปล่อยผ่านไป
และไม่ถือว่าเจ้าหน้าที่นั้นละเว้นปฏิบัติหน้าที่ (อธิบดีกรมสรรพากร ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนมากๆ)
-แต่เจ้าหน้าที่ยังยืนยันว่าเขามีอำนาจเข้าไปดู ตรวจสอบ และสั่งให้เสียภาษีได้ แต่สั่งให้เสียภาษีปี 2558 ไม่ได้เท่านั้น
………
ผมได้หารือไปยัง ฝ่ายกฎหมายกรมสรรพากร คำตอบคือ : ถ้าตีความตามตัวบทกฎหมายอาจไม่ชัดเจน เพราะยังไม่มีกรณีตัวอย่าง
แต่ถ้าตีความตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ผมได้รับประโยชน์จาก พรก. นั้น และเจ้าหน้าที่ไม่มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบและสั่งให้ผมเสีย
ภาษี (เพราะถ้าไม่เข้าไปดูก็ไม่เจอประเด็นนี้ หรือแม้จะเห็นแต่ก็ต้องปล่อยผ่าน) …แต่ก็ไม่กล้า ฟันธง… ดังนั้นให้ทำเรื่องอุทธรณ์และทำข้อหารือเข้าไป
………
สิ่งที่อยากขอความเห็นจากเพื่อนๆ สมาชิกคือ
1.เจ้าที่มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบและสั่งให้บริษัทผม เสียภาษีนั้นหรือไม่
2.ถ้าเจ้าหน้าที่มีอำนาจ แล้ว พรก. นั้นจะมีประโยชน์อะไร (เพราะถ้าไม่มี พรก. นั้น บริษัทผม จด vat แน่นอน และไม่มีการขอคืนภาษี ปี 2559 แน่นอน …เพราะถ้าผมไม่ขอคืนปี 2559 สรรพากรก็ไม่มีการตรวจแน่นอน)
3.เจ้าหน้าที่บอกว่าอย่าเชื่อข่าวที่อธิบดีกรมสรรพากรพูดไว้ แต่ให้ตีความจาก ตัว พรก. เอง ถูกต้องไหม (ถ้าผมตีความและเข้าใจกฎหมายดีขนาดนั้นก็คงทำงานสรรพากรไปละ และ คำพูดของระดับ อธิบดีกรม เชื่อไม่ได้เลยหรอ???)
4.ผมควรทำไงต่อครับ
……
ขอบคุณครับ
……
ปล… ความเห็นส่วนตัว พรก. ดังกล่าว เจตนารมณ์สวยหรู สรรพากร พูดแต่ข้อดีและเชิญชวนให้เราเข้าร่วมมากมาย แต่พอเข้าร่วมแล้วกลับไม่รักษาคำพูด และตัว พรก. ก็มีการหมกเม็ดซึ่งคนทั่วไปอ่านก็ไม่เข้าใจ … ก็เหมือนการหลอกเด็กที่ทำผิดให้ดีใจ แต่เมื่อเข้าไปหาก็จะได้หันมากัดเราได้ง่ายขึ้น…
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่