สวัสดีค่ะ ขออนุญาตแบ่งปันทริปท่องเที่ยวด้วยตัวเอง ราคาไม่แพงที่จัดการด้วยตนเองทุกขั้นตอนให้ทุกท่านชมกันนะคะ ทริปนี้เป็นทริป 6คืน 7วัน แบบคู่รัก ของผู้หญิง2คนค่ะ (ค่าใช้จ่ายทุกอย่างหาร2)
เริ่มจากเมื่อปีที่แล้ว เรา2คนได้เจอตั๋วเครื่องบินราคาถูก แต่ว่ายังเลือกวันที่แน่นอนไม่ได้ จึงจิ้มเฉพาะขาไปเอาไว้ก่อนโดยมีค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้
** ค่าเครื่องบินขาไป 2คน 3,960 บาท ค่าน้ำหนักกระเป๋า 750 บาท ค่าอาหารบนเครื่อง 200 บาท
สรุปค่าเครื่องบินขาไป (ดอนเมือง-คุนหมิง) รวมทั้งสิ้น 4,910 บาท เฉลี่ย 2,455 บาท /คน
ค่าเครื่องบินขากลับเราลังเลอยู่นานจนพลาดราคาแสนถูก แต่ก็ยังรับไหวกับราคานี้
**ค่าเครื่องบินขากลับ 2คน 6,231 บาท รวมค่าน้ำหนักกระเป๋าแล้ว 20KG ไม่มีค่าอาหาร รวมทั้งสิ้น 6,231 บาท เฉลี่ย 3,115.50 บาท /คน
รวมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับตัวเครื่องบินไปกลับทั้งสิ้น 11,141 บาท เฉลี่ย 5,571.50 บาท /คน
ซึ่งเงินค่าตั๋วเครื่องบินนี้เกิดจากการที่เราหยอดกระปุกออมไว้ กลางปี 2559 และทุบออกมาซื้อตั๋วประมาณเดือนมีนาคม
ออกตัวก่อนว่าเจ้าของกระทู้สื่อสารภาษาจีนได้ระดับรู้เรื่อง ก่อนเดินทางก็ได้ศึกษาข้อมูลการเดินทางจากหนังสือท่องเที่ยวและกระทู้ต่างๆพอสมควร และมีนักศึกษาจีนชาวยูนนานที่เคยสอนภาษาไทยให้บอกข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางขึ้นรถลงเรืออยู่บ้าง เคยเดินทางไปจีนหลายครั้ง แต่ครั้งนี้อยากพาแฟนไปเที่ยวประเทศจีนค่ะ เลยอยากเตรียมตัวให้ดีที่สุด

ช่วงเดือนสิ้นเดือน ตุลาคม 2560 ก็เป็นช่วงเวลาที่ต้องทำวีซ่าแล้ว หากจะจ้างคนอื่นทำมีค่าวีซ่ารวมค่าดำเนินการ ประมาณ 2,000 -2,500 บาท จริงๆแล้วถ้าไปทำเองก็ประมาณ 1,500บาท ประหยัดได้คนละ 500บาทแน่ะ เลยคิดว่าจะดำเนินการด้วยตัวเอง
*** ตอนนี้ไม่ต้องใช้ สมุดบัญชีธนาคารแล้ว ไม่ต้องโชว์ยอดเงินในบัญชีแต่อย่างใด
เอกสารที่ต้องเตรียมไว้คือ
1.แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า (หาดาวน์โหลดได้ทั่วไป)
2.หนังสือเดินทาง ที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6เดือน และยังมีหน้าว่าอยู่ไม่น้อยกว่า 2หน้า ถ่ายเอกสารพร้อมเซ็นต์สำเนาถูกต้อง ถ้าเคยไปจีนมาก่อนให้สำเนาวีซ่าหน้าที่ไปครั้งล่าสุดไว้ด้วย
3.ใบจองตั๋วเครื่องบิน ก็ปริ๊นจากที่เราจองเอาไว้นั่นแหละ ทั้งขาไปและขากลับ
4.ใบจองที่พัก ตอนนี้มีเว็บจองห้องพักล่วงหน้าโดยจ่ายเงินเมื่อเข้าพักอยู่หลากหลาย เจ้าของกระทู้ก็จองแบบนี้แหละ เลือกจองจนครบจำนวนวันที่เข้าพัก ดูดีๆนะ บางโรงแรมมีเงื่อนไขในการยกเลิกการจอง ได้แล้วก็ปริ๊นออกมา แนบพร้อมเอกสารอื่นๆ เจ้าของกระทู้ใส่หมายเหตุในการจองไปว่าเข้าพัก 2 ท่าน คือ 1.Miss XXX XXX และ 2. Miss XXX XXX เพื่อให้ข้อมูลในการจองมีชื่อทั้ง 2คน อีกคนจะได้ใช้ใบนี้ไปด้วยเลย ไม่รู้ว่าท่านอื่น มีวิธีการอย่างไรกันบ้าง
5. รูปถ่าย สี ไปร้านถ่ายภาพแล้วบอกช่างว่า ถ่ายรูปทำวีซ่าจีน จบ (พื้นสีขาวไม่มีขอบ) ถ่ายไว้ไม่เกิน 6เดือน ใช้ 2รูป

เอกสารทุกแผ่น จขกท.ดำเนินการด้วยตัวเองค่ะ
เมื่อเอกสารครบแล้ว ก็เดินทางไปที่ อาคารธนภูมิ (อยู่ใกล้ๆตึก ททท) ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ มีที่จอดรถ ถ้านั่งMRT ก็ลงสถานี เพชรบุรี (ถามวินมอเตอร์ไซค์แถวนั้นก็ได้ว่าไปทางไหน หรือจะให้พี่วินไปส่งก็ประมาณ 15 บาท ) เป็นตึกกระจกสีฟ้าๆ เดินขึ้นไปกดลิฟต์ชั้น 5ได้เลยค่ะ
เปิด จ-ศ 9.00 น. - 15.00น. วันไปทำยังไม่ต้องจ่ายเงินค่ะ จ่ายวันที่ไปรับ 1,500 บาท แบบธรรมดา ใช้เวลา 4วันทำการ

ผ่านไป4วันจ่ายเงินไป 3000บาท
ในส่วนของวีซ่า (คนละ 1500 บาท)
หลังจากได้วีซ่ามานอนกอดจนอุ่นใจแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการเตรียมตัวค่ะ เราเตรียมแผนการท่องเที่ยวกันไว้แบบคร่าวๆดังนี้

เพื่อให้ควบคุมสถานการณ์ต่างๆให้เป็นไปตามแผนการที่กำหนด จขกท.เลยกำหนดทุกสิ่งอย่างไว้แบบชัดเจน จะได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าที่สุด รวมถึงการประเมินพละกำลังในแต่ละวันของเราค่ะ

พยายามใช้ทั้งภาษาไทย PINYIN และภาษาจีน ในแผนที่ เพื่อให้แฟนเข้าใจ กรณีหลงทางกันจะได้หาทางติดต่อกันให้ได้เร็วที่สุด

นอกจากนี้ยังมีคู่มือการเดินทางเล่มบางๆเล็กๆคนละ1เล่ม ที่ด้านในจะมีข้อมูลการเดินทางในแต่ละวัน มีการประเมินการท่องเที่ยว การใช้เงิน มีคำศัพท์ภาษาจีนและข้อมูลการติดต่อกรณีพลัดหลงกัน ทำทุกอย่างให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด
เราเลือกที่จะซื้อซิมการ์ดไปจากไทยค่ะ ได้ซิมสีแดงราคา399บาท 8วัน เล่นเฟสบุค ไลน์ ไอจี กูเกิ้ล ได้แบบไม่งอแง เราใช้เวลาที่จีน 7 วัน อยากจะบอกว่าสัญญาณโอเค ไม่ติดขัดอะไรเลย ไปซื้อที่ชอป อย่าลืมให้ พนง ทำการลงทะเบียนให้เรียบร้อยนะคะ เห็นบางคน จนท ลงทะเบียนไม่สมบูรณ์ ไปถึงใช้ไม่ได้ก็มี แต่ซิมนี้จะหมดเขตให้ประมาณสิ้นปีนี้ค่ะ ก็ต้องลองดูกันต่อไปว่า จะมีตัวไหนออกมาอีกบ้าง
ตั้งใจว่า จะไป วันที่ 8 -9 เที่ยวคุนหมิง
วันที่9ตอนเย็น นั่งรถไฟแบบนอนจากคุนหมิง มา ต้าหลี่ เลือกเที่ยวดึกๆ เพราะจะได้ไปสว่างเช้า และประหยัดค่าโรงแรม 1คืน
เช้าวันที่10-11 อยู่ ต้าหลี่ บ่ายแก่ๆ วันที่ 11 นั่งรถจากต้าหลี่ ไป ลี่เจียง
เย็น 11 (หาที่นอนลี่เจียง)
12-13 เที่ยวลี่เจียง
คืน 13 นั่งรถนอนจาก ลี่เจียง กลับคุนหมิง เลือกเที่ยวดึกๆ เพราะจะได้ไปสว่างเช้าเหมือนเคย
และแล้ววันเดินทางก็มาถึง .. 08/12/2017
เราออกเดินทางจากที่พักประมาณ ตี5ครึ่ง ไปเรียกTaxi เพื่อไปสนามบินดอนเมือง ซึ่งก็อยู่จากเราไม่ไกล ค่าTaxi 120 บาท สัมภาระมีกระเป๋าลากไซค์กลางๆ 1ใบ (เอาไปใส่ของฝากและของที่อยากซื้อ) เป้สะพายหลังที่บรรจุเสื้อผ้าน้ำหนัก 8 กิโลกว่าๆ (ไม่ได้มีการตรวจหรือชั่งน้ำหนักแต่อย่างใด) นอกเสียจากผู้ที่กระเป๋ามันใหญ่เวอร์เกินจริง ก็จะถูกเชิญไปชั่งกิโล ( กิโลชั่งผักผลไม้แบบนั้นเลย ) มีป้าฝรั่งคนนึง โดนไป 25 กิโล ตีมึนไม่มีไม่หนีไม่จ่าย แต่สุดท้ายแล้วไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไรเพราะเราขึ้นเครื่องมาก่อน แต่ไม่นานคุณป้าก็ขึ้นมา

นั่งมาประมาณเกือบ2ชั่วโมง นักบินประกาศว่าหมอกหนาลมแรง อากาศที่สนามบินฉางสุ่ย ประมาณ 3 องศา ไม่นานล้อก็แตะรันเวย์ดังตึ้ง!! นั่นแปลว่าเราถึงคุนหมิงโดยสวัสดิภาพแล้วค่ะ แม้จะเป็นหวัดน้ำมูกไหล มีไอบ้าง แต่ก็ไม่ส่งผลต่อด่านตรวจคนเข้าเมืองแต่อย่างใด
เมื่อได้กระเป๋าแล้วเราไม่รอช้า รีบเดินออกมาหารถบัสเข้าเมือง สิ่งแรกที่เราต้องทำคือไปสถานีรถไฟคุนหมิง เพื่อซื้อตั๋วรถไปไปต้าหลี่ในคืนวันที่9 (เราจะเที่ยวคุนหมิงก่อน2วัน )
มีรถเข้าเมืองราคา 25 หยวน ปลายทางส่งถึงสถานีรถไฟ (รถเบอร์2) บอกคนขายตั๋วว่า ( ชวี่ หว่า เชอ จ้าน ) แปลว่าไปสถานีรถไฟค่ะ
แต่เราเลือกรถที่จอดอีกฝั่งคือราคา 13หยวน จอดใกล้ๆสถานีรถไฟต้องเดินเท้าอีก2ไฟแดง สังเกตง่ายๆเมื่อถึงที่ๆจะต้องลง คนขับรถจะลงมาไล่ทุกคนให้ลงรถ ถ้าใครอยากลองนั่งรถ 13หยวน แล้วกลัวหลงก็ลอง เปิดMAPในแผนที่ดูเอานะคะ

กระเป๋าคนมาเที่ยวครั้งแรกก็จะใหญ่ๆหน่อย แต่เอาจริงๆแล้ว คุนหมิง ต้าหลี่ ลี่เจียง ไม่เหมาะกับการเอากระเป๋าลากมา ทางส่วนใหญ่จะเป็นอิฐตัวหนอนซะเยอะ ลากลำบากค่ะ แต่เมื่อยืนยันจะลากก็ไม่ว่ากัน ตามใจ (เป็นทริปที่มาฉลองวันเกิดให้ด้วยค่ะเลยไม่ขัดใจ)

ตั๋วรถ 13 หยวน
แต่ตอนนี้มีรถไฟฟ้าใต้ดินจากสนามบินมาใจกลางเมืองแล้วนะคะ ก็จะสะดวกหน่อย
เนื่องจากสัมภาระเยอะ แบกนานๆแล้วล้า เลยไม่มีรูปถ่ายหน้าสถานีรถไฟมาเลย มีแต่ตั๋วที่จองไปต้าหลี่ค่ะ เป็นรถนอนมีหมอนผ้าห่ม (เลือกชั้นล่างสุดเพราะไม่อยากปีนขึ้นสูงๆกลัวหลับแล้วตก) ในตั๋วก็จะมีข้อมูลเลขพาสปอร์ต ชื่อนามสกุล ให้ตรวจสอบ
ตั๋วราคา 105.5 หยวน/คนค่ะ ตกคนละเกือบ 530 บาทค่ะ แปลว่าคืนวันที่9เราไม่ต้องจ่ายค่ะโรงแรม โดยมีค่ารถไฟเป็นเงินส่วนนั้นแทน

ได้ตั๋วเรียบร้อยแล้วท้องเริ่มหิว หาของกินในสถานีรถไฟก่อนละกันค่ะ ที่นี่มีร้าน dico's เป็นร้านฟาสพู้ดส์ ที่มีไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์ เฟร้นฟราย ข้าวหน้าแกงกระหรี่ โน่นนี่นั่น คล้ายๆบ้านเรา
ราคาชุดนี้ประมาณ 85หยวน เฉลี่ย คนละ 210 บาทค่ะ รสชาติใช้ได้ ไก่ทอดมีรสจีนนิดๆ เมื่อกินอิ่มก็ต้องเข้าไป จินปี้สแควร์แล้วค่ะ เกือบจะบ่าย3โมงแล้ว
เมื่อเดินออกจากสถานีรถไฟเหล่าแท็กซี่ป้ายดำก็ตะโกนโหวกเหวกเรียกลูกค้ากันใหญ่ บางคนก็เดินตาม บางคนก็กวักมือเรียกเป็นการใหญ่ เราตั้งใจจะเรียกแท็กซี่มิเตอร์ เพราะจากตรงสถานีรถไฟเข้าไปที่จินปี้สแควร์ แค่ประมาณ 10หยวน แต่รถหายากมาก จึงคิดในใจว่าป้ายดำก็ได้วะ
ทันใดนั้นลุงที่มีทีท่าว่าหาลูกค้าก็เดินเข้ามา พร้อมกับบทสนทนาด้านล่างนี้
พี่แท็ก : ไปไหนกันล่ะหนู
จขกท. : หนานผิงเจีย ( ก็คือโซนนั้นล่ะค่ะ )
พี่แท็ก : 60 หยวน
จขกท. : 25
พี่แท็ก : ไม่ไป (แล้วนางก็เกินกลับไป)
ผ่านไป15วินาทีเห็นจะได้
พี่แท็ก : 50 พวกเธอไปไหม
จขกท. : ไม่ไปค่ะ
พี่แท็ก : นี่พวกเธอต่อราคากันไม่เป็นหรอ พูดอะไรบ้างสิ เป็นคนไทยใช่ป่ะ
จขกท. : ก็บอกแล้วไงคะ 25 หยวน
พี่แท็ก : 50 ไปเถอะ
จขกท. : ใกล้แค่นี้เอาตั้ง50 ไม่ไปหรอก (ทั้งๆที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใกล้หรือไกลขนาดไหน)
พี่แท็ก : รถมันติด 40 ? 35 ?
จขกท. : 30 หยวน
พี่แท็ก : นางรีบลากกระเป๋าไปที่รถทันที
หลังจากการเจรจาจบที่ 30 ก็มาขึ้นรถ ตอนนั้นแฟน จขก.ตกใจมาก ว่าทำไมเป็นรถส่วนบุคคล เริ่มมีความกังวลเล็กน้อย เราจึงอธิบายให้ฟังว่าคุนหมิงเป็นเมืองท่องเที่ยว รถแบบนี้เยอะ เพราะเรามากัน2คน เลยกล้าไป แล้วอีกอย่างเป็นตอนกลางวันและใจกลางเมืองเลยไม่น่ากลัว พอขึ้นรถไปพี่แท็กซี่เห็นว่าเราเป็นคนไทยก็เปิดเพลงไทยให้ฟังพร้อมพูดคุยกันสนุกสนาน คนขับก็สูบบุหรี่ในรถอย่างสบายใจ ไม่นานก็ถึงที่หมาย (โดยสวัสดิภาพแบบมึนๆ)

ถึงแล้วประตูม้าประตูไก่ มาไม่ถึงที่นี่เหมือนไม่ได้มาคุนหมิง ถ่ายรูปซักพักก็เตรียมหาที่พักค่ะ ที่พักที่จองเอาไว้ตอนทำวีซ่าเรายกเลิกไปแล้วค่ะ เพราะเราอยากได้ที่พักที่ใกล้ที่สุด เลยอยากเดินหาเอง โดยใช้แอพจองที่พักสีน้ำเงิน สามารถจองก่อนค่อยจ่ายเงิน พร้อมทั้งบอกพิกัดให้เราเดินหาได้ในที่ที่ใกล้เราที่สุด ตอนนี้ได้มาแล้ว1ที่ อยู่ในถนน จินปี้ JINBI Rd.

เรา2คนตัดสินใจกันว่าเลือกที่นี่แล้วกัน 5โมงเย็นแล้ว พลังงานเริ่มหมดแล้วด้วย ที่พักอยู่มุมตึกชั้น7 เราเลยให้ รปภ.เปิดประตูให้เข้าไปแล้วขึ้นลิฟต์ไปชั้น7
ห้องพักราคา 196 หยวนค่ะ เฉลี่ยคนละ 490 บาท คือคอนโดให้พักรายวันนั่นเอง เราได้ห้องพักชั้น14 วิวระเบียงสูงจนเสียวไส้ ห้องพักสะอาด ห้องน้ำดีค่ะมีแผ่นรองไฟฟ้าใต้เตียงเพราะอากาศหนาวมาก แอบกังวงเรื่องไฟฟ้าลัดวงจรในส่วนนี้ แต่ปลอดภัยค่ะ

มีโซนให้ทำอาหาร แต่ ณ จุดนี้ขอที่นอนอุ่นๆก็พอค่ะ พนักงานเป็นกันเองน่ารัก ที่พักชื่อ SAGA HOTEL (ห่างจากจินปี้สแควร์ประมาณ 650 เมตร) เอนกายบนเตียงซักพักก่อนไปต่อ..
ทุบกระปุก เที่ยวคุนหมิง ต้าหลี่ ลี่เจียง ด้วยงบหนึ่งหมื่นบาทปลายๆ
เริ่มจากเมื่อปีที่แล้ว เรา2คนได้เจอตั๋วเครื่องบินราคาถูก แต่ว่ายังเลือกวันที่แน่นอนไม่ได้ จึงจิ้มเฉพาะขาไปเอาไว้ก่อนโดยมีค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้
** ค่าเครื่องบินขาไป 2คน 3,960 บาท ค่าน้ำหนักกระเป๋า 750 บาท ค่าอาหารบนเครื่อง 200 บาท
สรุปค่าเครื่องบินขาไป (ดอนเมือง-คุนหมิง) รวมทั้งสิ้น 4,910 บาท เฉลี่ย 2,455 บาท /คน
ค่าเครื่องบินขากลับเราลังเลอยู่นานจนพลาดราคาแสนถูก แต่ก็ยังรับไหวกับราคานี้
**ค่าเครื่องบินขากลับ 2คน 6,231 บาท รวมค่าน้ำหนักกระเป๋าแล้ว 20KG ไม่มีค่าอาหาร รวมทั้งสิ้น 6,231 บาท เฉลี่ย 3,115.50 บาท /คน
รวมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับตัวเครื่องบินไปกลับทั้งสิ้น 11,141 บาท เฉลี่ย 5,571.50 บาท /คน
ซึ่งเงินค่าตั๋วเครื่องบินนี้เกิดจากการที่เราหยอดกระปุกออมไว้ กลางปี 2559 และทุบออกมาซื้อตั๋วประมาณเดือนมีนาคม
ออกตัวก่อนว่าเจ้าของกระทู้สื่อสารภาษาจีนได้ระดับรู้เรื่อง ก่อนเดินทางก็ได้ศึกษาข้อมูลการเดินทางจากหนังสือท่องเที่ยวและกระทู้ต่างๆพอสมควร และมีนักศึกษาจีนชาวยูนนานที่เคยสอนภาษาไทยให้บอกข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางขึ้นรถลงเรืออยู่บ้าง เคยเดินทางไปจีนหลายครั้ง แต่ครั้งนี้อยากพาแฟนไปเที่ยวประเทศจีนค่ะ เลยอยากเตรียมตัวให้ดีที่สุด
ช่วงเดือนสิ้นเดือน ตุลาคม 2560 ก็เป็นช่วงเวลาที่ต้องทำวีซ่าแล้ว หากจะจ้างคนอื่นทำมีค่าวีซ่ารวมค่าดำเนินการ ประมาณ 2,000 -2,500 บาท จริงๆแล้วถ้าไปทำเองก็ประมาณ 1,500บาท ประหยัดได้คนละ 500บาทแน่ะ เลยคิดว่าจะดำเนินการด้วยตัวเอง
*** ตอนนี้ไม่ต้องใช้ สมุดบัญชีธนาคารแล้ว ไม่ต้องโชว์ยอดเงินในบัญชีแต่อย่างใด
เอกสารที่ต้องเตรียมไว้คือ
1.แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า (หาดาวน์โหลดได้ทั่วไป)
2.หนังสือเดินทาง ที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6เดือน และยังมีหน้าว่าอยู่ไม่น้อยกว่า 2หน้า ถ่ายเอกสารพร้อมเซ็นต์สำเนาถูกต้อง ถ้าเคยไปจีนมาก่อนให้สำเนาวีซ่าหน้าที่ไปครั้งล่าสุดไว้ด้วย
3.ใบจองตั๋วเครื่องบิน ก็ปริ๊นจากที่เราจองเอาไว้นั่นแหละ ทั้งขาไปและขากลับ
4.ใบจองที่พัก ตอนนี้มีเว็บจองห้องพักล่วงหน้าโดยจ่ายเงินเมื่อเข้าพักอยู่หลากหลาย เจ้าของกระทู้ก็จองแบบนี้แหละ เลือกจองจนครบจำนวนวันที่เข้าพัก ดูดีๆนะ บางโรงแรมมีเงื่อนไขในการยกเลิกการจอง ได้แล้วก็ปริ๊นออกมา แนบพร้อมเอกสารอื่นๆ เจ้าของกระทู้ใส่หมายเหตุในการจองไปว่าเข้าพัก 2 ท่าน คือ 1.Miss XXX XXX และ 2. Miss XXX XXX เพื่อให้ข้อมูลในการจองมีชื่อทั้ง 2คน อีกคนจะได้ใช้ใบนี้ไปด้วยเลย ไม่รู้ว่าท่านอื่น มีวิธีการอย่างไรกันบ้าง
5. รูปถ่าย สี ไปร้านถ่ายภาพแล้วบอกช่างว่า ถ่ายรูปทำวีซ่าจีน จบ (พื้นสีขาวไม่มีขอบ) ถ่ายไว้ไม่เกิน 6เดือน ใช้ 2รูป
เอกสารทุกแผ่น จขกท.ดำเนินการด้วยตัวเองค่ะ
เมื่อเอกสารครบแล้ว ก็เดินทางไปที่ อาคารธนภูมิ (อยู่ใกล้ๆตึก ททท) ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ มีที่จอดรถ ถ้านั่งMRT ก็ลงสถานี เพชรบุรี (ถามวินมอเตอร์ไซค์แถวนั้นก็ได้ว่าไปทางไหน หรือจะให้พี่วินไปส่งก็ประมาณ 15 บาท ) เป็นตึกกระจกสีฟ้าๆ เดินขึ้นไปกดลิฟต์ชั้น 5ได้เลยค่ะ
เปิด จ-ศ 9.00 น. - 15.00น. วันไปทำยังไม่ต้องจ่ายเงินค่ะ จ่ายวันที่ไปรับ 1,500 บาท แบบธรรมดา ใช้เวลา 4วันทำการ
ผ่านไป4วันจ่ายเงินไป 3000บาท ในส่วนของวีซ่า (คนละ 1500 บาท)
หลังจากได้วีซ่ามานอนกอดจนอุ่นใจแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการเตรียมตัวค่ะ เราเตรียมแผนการท่องเที่ยวกันไว้แบบคร่าวๆดังนี้
เพื่อให้ควบคุมสถานการณ์ต่างๆให้เป็นไปตามแผนการที่กำหนด จขกท.เลยกำหนดทุกสิ่งอย่างไว้แบบชัดเจน จะได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าที่สุด รวมถึงการประเมินพละกำลังในแต่ละวันของเราค่ะ
พยายามใช้ทั้งภาษาไทย PINYIN และภาษาจีน ในแผนที่ เพื่อให้แฟนเข้าใจ กรณีหลงทางกันจะได้หาทางติดต่อกันให้ได้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ยังมีคู่มือการเดินทางเล่มบางๆเล็กๆคนละ1เล่ม ที่ด้านในจะมีข้อมูลการเดินทางในแต่ละวัน มีการประเมินการท่องเที่ยว การใช้เงิน มีคำศัพท์ภาษาจีนและข้อมูลการติดต่อกรณีพลัดหลงกัน ทำทุกอย่างให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด
เราเลือกที่จะซื้อซิมการ์ดไปจากไทยค่ะ ได้ซิมสีแดงราคา399บาท 8วัน เล่นเฟสบุค ไลน์ ไอจี กูเกิ้ล ได้แบบไม่งอแง เราใช้เวลาที่จีน 7 วัน อยากจะบอกว่าสัญญาณโอเค ไม่ติดขัดอะไรเลย ไปซื้อที่ชอป อย่าลืมให้ พนง ทำการลงทะเบียนให้เรียบร้อยนะคะ เห็นบางคน จนท ลงทะเบียนไม่สมบูรณ์ ไปถึงใช้ไม่ได้ก็มี แต่ซิมนี้จะหมดเขตให้ประมาณสิ้นปีนี้ค่ะ ก็ต้องลองดูกันต่อไปว่า จะมีตัวไหนออกมาอีกบ้าง
ตั้งใจว่า จะไป วันที่ 8 -9 เที่ยวคุนหมิง
วันที่9ตอนเย็น นั่งรถไฟแบบนอนจากคุนหมิง มา ต้าหลี่ เลือกเที่ยวดึกๆ เพราะจะได้ไปสว่างเช้า และประหยัดค่าโรงแรม 1คืน
เช้าวันที่10-11 อยู่ ต้าหลี่ บ่ายแก่ๆ วันที่ 11 นั่งรถจากต้าหลี่ ไป ลี่เจียง
เย็น 11 (หาที่นอนลี่เจียง)
12-13 เที่ยวลี่เจียง
คืน 13 นั่งรถนอนจาก ลี่เจียง กลับคุนหมิง เลือกเที่ยวดึกๆ เพราะจะได้ไปสว่างเช้าเหมือนเคย
และแล้ววันเดินทางก็มาถึง .. 08/12/2017
เราออกเดินทางจากที่พักประมาณ ตี5ครึ่ง ไปเรียกTaxi เพื่อไปสนามบินดอนเมือง ซึ่งก็อยู่จากเราไม่ไกล ค่าTaxi 120 บาท สัมภาระมีกระเป๋าลากไซค์กลางๆ 1ใบ (เอาไปใส่ของฝากและของที่อยากซื้อ) เป้สะพายหลังที่บรรจุเสื้อผ้าน้ำหนัก 8 กิโลกว่าๆ (ไม่ได้มีการตรวจหรือชั่งน้ำหนักแต่อย่างใด) นอกเสียจากผู้ที่กระเป๋ามันใหญ่เวอร์เกินจริง ก็จะถูกเชิญไปชั่งกิโล ( กิโลชั่งผักผลไม้แบบนั้นเลย ) มีป้าฝรั่งคนนึง โดนไป 25 กิโล ตีมึนไม่มีไม่หนีไม่จ่าย แต่สุดท้ายแล้วไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไรเพราะเราขึ้นเครื่องมาก่อน แต่ไม่นานคุณป้าก็ขึ้นมา
นั่งมาประมาณเกือบ2ชั่วโมง นักบินประกาศว่าหมอกหนาลมแรง อากาศที่สนามบินฉางสุ่ย ประมาณ 3 องศา ไม่นานล้อก็แตะรันเวย์ดังตึ้ง!! นั่นแปลว่าเราถึงคุนหมิงโดยสวัสดิภาพแล้วค่ะ แม้จะเป็นหวัดน้ำมูกไหล มีไอบ้าง แต่ก็ไม่ส่งผลต่อด่านตรวจคนเข้าเมืองแต่อย่างใด
เมื่อได้กระเป๋าแล้วเราไม่รอช้า รีบเดินออกมาหารถบัสเข้าเมือง สิ่งแรกที่เราต้องทำคือไปสถานีรถไฟคุนหมิง เพื่อซื้อตั๋วรถไปไปต้าหลี่ในคืนวันที่9 (เราจะเที่ยวคุนหมิงก่อน2วัน )
มีรถเข้าเมืองราคา 25 หยวน ปลายทางส่งถึงสถานีรถไฟ (รถเบอร์2) บอกคนขายตั๋วว่า ( ชวี่ หว่า เชอ จ้าน ) แปลว่าไปสถานีรถไฟค่ะ
แต่เราเลือกรถที่จอดอีกฝั่งคือราคา 13หยวน จอดใกล้ๆสถานีรถไฟต้องเดินเท้าอีก2ไฟแดง สังเกตง่ายๆเมื่อถึงที่ๆจะต้องลง คนขับรถจะลงมาไล่ทุกคนให้ลงรถ ถ้าใครอยากลองนั่งรถ 13หยวน แล้วกลัวหลงก็ลอง เปิดMAPในแผนที่ดูเอานะคะ
กระเป๋าคนมาเที่ยวครั้งแรกก็จะใหญ่ๆหน่อย แต่เอาจริงๆแล้ว คุนหมิง ต้าหลี่ ลี่เจียง ไม่เหมาะกับการเอากระเป๋าลากมา ทางส่วนใหญ่จะเป็นอิฐตัวหนอนซะเยอะ ลากลำบากค่ะ แต่เมื่อยืนยันจะลากก็ไม่ว่ากัน ตามใจ (เป็นทริปที่มาฉลองวันเกิดให้ด้วยค่ะเลยไม่ขัดใจ)
ตั๋วรถ 13 หยวน
แต่ตอนนี้มีรถไฟฟ้าใต้ดินจากสนามบินมาใจกลางเมืองแล้วนะคะ ก็จะสะดวกหน่อย
เนื่องจากสัมภาระเยอะ แบกนานๆแล้วล้า เลยไม่มีรูปถ่ายหน้าสถานีรถไฟมาเลย มีแต่ตั๋วที่จองไปต้าหลี่ค่ะ เป็นรถนอนมีหมอนผ้าห่ม (เลือกชั้นล่างสุดเพราะไม่อยากปีนขึ้นสูงๆกลัวหลับแล้วตก) ในตั๋วก็จะมีข้อมูลเลขพาสปอร์ต ชื่อนามสกุล ให้ตรวจสอบ
ตั๋วราคา 105.5 หยวน/คนค่ะ ตกคนละเกือบ 530 บาทค่ะ แปลว่าคืนวันที่9เราไม่ต้องจ่ายค่ะโรงแรม โดยมีค่ารถไฟเป็นเงินส่วนนั้นแทน
ได้ตั๋วเรียบร้อยแล้วท้องเริ่มหิว หาของกินในสถานีรถไฟก่อนละกันค่ะ ที่นี่มีร้าน dico's เป็นร้านฟาสพู้ดส์ ที่มีไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์ เฟร้นฟราย ข้าวหน้าแกงกระหรี่ โน่นนี่นั่น คล้ายๆบ้านเรา ราคาชุดนี้ประมาณ 85หยวน เฉลี่ย คนละ 210 บาทค่ะ รสชาติใช้ได้ ไก่ทอดมีรสจีนนิดๆ เมื่อกินอิ่มก็ต้องเข้าไป จินปี้สแควร์แล้วค่ะ เกือบจะบ่าย3โมงแล้ว
เมื่อเดินออกจากสถานีรถไฟเหล่าแท็กซี่ป้ายดำก็ตะโกนโหวกเหวกเรียกลูกค้ากันใหญ่ บางคนก็เดินตาม บางคนก็กวักมือเรียกเป็นการใหญ่ เราตั้งใจจะเรียกแท็กซี่มิเตอร์ เพราะจากตรงสถานีรถไฟเข้าไปที่จินปี้สแควร์ แค่ประมาณ 10หยวน แต่รถหายากมาก จึงคิดในใจว่าป้ายดำก็ได้วะ
ทันใดนั้นลุงที่มีทีท่าว่าหาลูกค้าก็เดินเข้ามา พร้อมกับบทสนทนาด้านล่างนี้
พี่แท็ก : ไปไหนกันล่ะหนู
จขกท. : หนานผิงเจีย ( ก็คือโซนนั้นล่ะค่ะ )
พี่แท็ก : 60 หยวน
จขกท. : 25
พี่แท็ก : ไม่ไป (แล้วนางก็เกินกลับไป)
ผ่านไป15วินาทีเห็นจะได้
พี่แท็ก : 50 พวกเธอไปไหม
จขกท. : ไม่ไปค่ะ
พี่แท็ก : นี่พวกเธอต่อราคากันไม่เป็นหรอ พูดอะไรบ้างสิ เป็นคนไทยใช่ป่ะ
จขกท. : ก็บอกแล้วไงคะ 25 หยวน
พี่แท็ก : 50 ไปเถอะ
จขกท. : ใกล้แค่นี้เอาตั้ง50 ไม่ไปหรอก (ทั้งๆที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใกล้หรือไกลขนาดไหน)
พี่แท็ก : รถมันติด 40 ? 35 ?
จขกท. : 30 หยวน
พี่แท็ก : นางรีบลากกระเป๋าไปที่รถทันที
หลังจากการเจรจาจบที่ 30 ก็มาขึ้นรถ ตอนนั้นแฟน จขก.ตกใจมาก ว่าทำไมเป็นรถส่วนบุคคล เริ่มมีความกังวลเล็กน้อย เราจึงอธิบายให้ฟังว่าคุนหมิงเป็นเมืองท่องเที่ยว รถแบบนี้เยอะ เพราะเรามากัน2คน เลยกล้าไป แล้วอีกอย่างเป็นตอนกลางวันและใจกลางเมืองเลยไม่น่ากลัว พอขึ้นรถไปพี่แท็กซี่เห็นว่าเราเป็นคนไทยก็เปิดเพลงไทยให้ฟังพร้อมพูดคุยกันสนุกสนาน คนขับก็สูบบุหรี่ในรถอย่างสบายใจ ไม่นานก็ถึงที่หมาย (โดยสวัสดิภาพแบบมึนๆ)
ถึงแล้วประตูม้าประตูไก่ มาไม่ถึงที่นี่เหมือนไม่ได้มาคุนหมิง ถ่ายรูปซักพักก็เตรียมหาที่พักค่ะ ที่พักที่จองเอาไว้ตอนทำวีซ่าเรายกเลิกไปแล้วค่ะ เพราะเราอยากได้ที่พักที่ใกล้ที่สุด เลยอยากเดินหาเอง โดยใช้แอพจองที่พักสีน้ำเงิน สามารถจองก่อนค่อยจ่ายเงิน พร้อมทั้งบอกพิกัดให้เราเดินหาได้ในที่ที่ใกล้เราที่สุด ตอนนี้ได้มาแล้ว1ที่ อยู่ในถนน จินปี้ JINBI Rd.
เรา2คนตัดสินใจกันว่าเลือกที่นี่แล้วกัน 5โมงเย็นแล้ว พลังงานเริ่มหมดแล้วด้วย ที่พักอยู่มุมตึกชั้น7 เราเลยให้ รปภ.เปิดประตูให้เข้าไปแล้วขึ้นลิฟต์ไปชั้น7
ห้องพักราคา 196 หยวนค่ะ เฉลี่ยคนละ 490 บาท คือคอนโดให้พักรายวันนั่นเอง เราได้ห้องพักชั้น14 วิวระเบียงสูงจนเสียวไส้ ห้องพักสะอาด ห้องน้ำดีค่ะมีแผ่นรองไฟฟ้าใต้เตียงเพราะอากาศหนาวมาก แอบกังวงเรื่องไฟฟ้าลัดวงจรในส่วนนี้ แต่ปลอดภัยค่ะ
มีโซนให้ทำอาหาร แต่ ณ จุดนี้ขอที่นอนอุ่นๆก็พอค่ะ พนักงานเป็นกันเองน่ารัก ที่พักชื่อ SAGA HOTEL (ห่างจากจินปี้สแควร์ประมาณ 650 เมตร) เอนกายบนเตียงซักพักก่อนไปต่อ..