(ระบายชีวิต) ท้อ กับชีวิตขี้ข้า แต่ไม่รู้จะไปทางไหนดี

ตอนนี้ อายุ 30 แล้ว แม้จะทำงานตั้งแต่อายุ 17 ก็ยังไม่เคยมีเงินเก็บเลย
ทำงาน ใช้ชีวิตให้มีความสุขไปวันๆ เพราะไม่รู้ ว่าเราจะตายวันไหน
มีเงินพอกิน ก็กินให้หายอยาก มีเงินพอเที่ยว ก็เที่ยวให้สนุก
จากคนไม่เคยมีหนี้ เพราะไม่ใช้เกินตัวอยู่แล้ว

จนวันนึง ย้ายกลับเข้ามาทำงานปริมณฑล
จากการฝากงานของน้องแฟน ก็มาทำกันทั้งคู่เลย
เมื่อก่อนอยู่ ตจว. มอไซค์คันเดียว ขี่เที่ยวเป็นร้อยๆโล
กินเท่าที่มี เด็ดผักสวนครัวในบ้านกินบ้าง
บางเดือน ที่ทำงานจ่ายเงินเรท ก็กินมาม่ากันบ้าง แต่ก็มีสุขดี
( แต่คนรอบข้าง มองว่ามันไม่มีอนาคต )

จนมาเป็นคนเกือบเมือง เริ่มต้นจากเงินเดือนเท่าที่เก่า
แต่เจ้านาบรับปากว่าจะขึ้นเงินเดือนให้ทุกปี
เราก็ เอาวะ โอเค เพราะอนาคต ค่าครองชีพมันมีขึ้นตลอด
ถ้าเงินเดือนเท่าเดิม แต่ค่าครองชีพสูงขึ้นก็ลำบากแน่ๆ
เจ้านายก็รับปากอีก ว่าจะมีโบนัสให้สิ้นปี แม้จะไม่มาก แต่มันคือกำลังใจจริงๆ

ชีวิตก็อยู่กับเจ้านายเหมือนญาติพี่น้องคนนึง
ทำงานให้ทุกอย่าง แม้กระทั้ง งานของสามีเจ้านาย ลูกเจ้านาย
แม้กระทั้ง สุนัขเจ้านาย เรายังดูแล ที่ทำให้ทั้งหมด เพราะคิดว่า
เราทำเหมือนเขาคือคนในครอบครัวจริงๆ
ทุกครั้งที่เราช่วยเหลือเขา เชาก็ตอบแทนเลี้ยงข้าวบ้าง ซื้อของมาฝากบ้าง
ก็ใช้ชีวิตแบบนี้ มา 5-6 ปี

งานด่วน 2-3 ทุ่ม ก็ยังเคยลุกจากที่นอนมาทำให้
ไปปลูกต้นไม้ทำสวนก็ยังไปทำให้ ทำโดยไม่เคยหวังเงินตอบแทน
แค่อยากให้เขารักเราเหมือนญาติพี่น้องจริงๆก็พอ
เราดูแลเจ้านายจนบางครั้ง ทำให้ตัวเองรู้สึกเหมือนขี้ข้า
แต่กว่าจะรู้ตัว ก็ไม่ใช่รู้เองนะ ลูกเจ้านายทำให้เรารู้

ลูกเจ้านายคนพี่ ไม่เคยแม้แต่จะยกมือไหว้ ไม่แม้จะหายใจร่วมห้องกัน
เป็นแบบนี้ ตั้งแต่เขายังเด็ก จนตอนนี้ขึ้น ม.ปลาย แล้วก็ยังเป็น
คนน้องก็จะคลุกคลีด้วยกันเยอะ แต่ก็ออกคำสั่ง ตะหวาดใส่ ทำอาการไม่ดีใส่
หลายครั้ง หลายหน ทั้งๆที่เราดูแลเขามาแบบลูกหลานคนนึง

เคยพีคสุดๆ สุนัขเจ้านายไปโดนรถชนมา
เราเป็นธุระ พาไปหาหมอที่เกษตรทุกวัน เอามาดูแลที่บ้าน
ซึ่งนอนชั้น 2 ของที่ทำงานอ่ะแหล่ะ แต่เรานอนกับสุนัขในออฟฟิศ
หลับๆตื่นๆทั้งคืน เพราะอาการไม่ค่อยดี ต้องดูแลใกล้ชิด ดู 24 ช.ม.เลย
เหนื่อยมาก แทบไม่ได้นอน หลังเลิกงาน ห้าโมงเย็น กะว่าจะได้พักผ่อน
เจ้านายกับลูกคนเล็ก ไม่ยอมกลับ บอก ทุ่มนึงค่อยกลับ
เรานี่ ปรี๊ดเลยอ่ะ แต่ต้องข่มใจไว้ เป็นแบบนี้ 3 วัน จนวันที่ 3 นั่นแหล่ะ เราทนไม่ไหวแล้ว
เลยขึ้นห้องนอนเลย เราร้องไห้ ฟูมฟายมาก ชีวิตมันแบบ
เฮ้ย.. นี่กุเป็นขี้ข้าเขาขนาดนี้เลยหรอ ทำไมชีวิตถึงเป็นแบบนี้เนี๊ยะ
มันเริ่มขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เอาแล้ว ไม่ไหวแล้ว อยากหลุดพ้น

แต่สิ่งที่ทำให้หลุดพ้นไม่ได้ คือหนี้สิน ที่เริ่มก่อไว้ตั้งแต่ 3-4 ปี ที่แล้ว
เกิดจากกู้เงินมาลงทุนขายของตลาดนัดบ้าง แต่ขายได้ไม่นานก็เลิกขาย
เพราะต้องย้ายออฟฟิศ ไปพื้นที่อื่น แต่หนี้ยังจ่ายไม่หมด
หนี้อื่นๆ ที่ทำไว้ซื้อความสุขให้พ่อแม่ และหนี้ที่ใหญ่ที่สุด คือ หนี้รถยนต์

ทำงานกับเจ้านายมาได้ ปีกว่าๆ อยู่เจ้านายเอาโบชัวร์รถมาให้
บอกว่า อยากให้เราออกรถ จะให้กู้เงินดาวน์ โดยไม่คิดดอก
ตอนนั้นแบบ เหมือนบุญมันหล่นทับ จะไม่เอาก็กลัวจะไม่มีโอกาสอีก
ก็ไปดาวน์รถมา 1 แสนกว่าๆ ด้วยเงินเจ้านาย 1 แสนถ้วน
ตอนนี้ ผ่อนคืนเจ้านายไป เหลือไม่ถึงปีก็หมดแล้ว

และนี่แหล่ะ คือประเด็นสำคัญ
โบนัสออกงวดนี้ จะโป๊ะหนี้ปิดบัญชีเจ้านายดีไหม
สำหรับเจ้านายก็คงบอกว่าดี เพราะถ้าอยากจะให้เรา 2 คน ออกจากงานเมื่อไหร่ก็ได้
เพราะใช้หนี้ ใช้สินให้หมดแล้ว หลังจากนั้นทางใครทางมัน
เพราะบางครั้งเราก็อยากจะปรี๊ดแตกบ้าง แต่พออยู่เงียบๆคนเดียวสัก 5 นาที ก็หาย
หรือถ้ายังไม่โป๊ะหนี้ ก็อย่างน้อย มีเวลาแค่ปีเดียว ที่จะรู้ชะตาต่อไป
ปีเดียว หนี้สินทั้งหมดที่มี มันไม่หมดนี่สิทำยังไง

ถ้าได้ทำงานต่อ ก็ยังพอมีเงินใช้หนี้ต่อไป
ถ้าวันนึง ฟ้าผ่าขึ้นมาอีกหล่ะ ถ้าจะขายรถ ก็ลำบากแน่
เพราะแม้แต่รถที่จะใช้ทำมาหากินที่ ตจว. ก็ไม่มี
ที่ดินก็มีแต่ที่มรดก ที่ไม่รู้จะได้เป็นของเราไหม
แถมดินเค็ม ทางอิสานอีก ปัญหาใหญ่เลย

ตอนนี้ วันๆแทบไม่ค่อยได้เล่นเฟสเลย
เซิร์ทหาแต่การทำเกษตรและปศุสัตว์แบบออแกนิค
พยายามหาการทำแบบใช้ทุนน้อย แต่รายได้ดี
ไม่รู้ว่า ถ้าไปทำ จะล้มเหลวหรือป่าว
กลัวรายได้ไม่พอผ่อนรถ ใช้หนี้ที่มีค้างอยู่
ลำพังแค่รายได้ทุกวันนี้ เฉลี่ยวันละพัน ก็ยังไม่พอใช้จ่าย

ถ้าวันนึง ต้องตกงานจริงๆ ก็สงสารพ่อแม่
ไม่อยากให้เขารู้สึกอายบ้านอื่น ที่ลูกกลับไปทำไร่ทำสวน
ตอนนี้จะให้ไปแข่งกับเด็กรุ่นใหม่ๆในบริษัทอื่นๆก็คงไม่ไหว
อายุเลข 3 กันแล้วทั้งคู่ ทำงานโรงงานก็คงไม่ไหวแล้ว

ตอนนี้ ชีวิตเลยทำได้แต่แขวนอยู่บนเส้นด้าย
เพราะเจ้านายเริ่มเอาญาติจริงๆเข้ามาทำในบริษัทเองแล้ว
ญาติเทียมๆอย่างเรา ก็คงต้องไปสักวัน
เพราะตอนนี้ ก็มีสัญญาณเริ่มขึ้นมาแล้ว ปีนี้ เจ้านายผลัดการขึ้นเงินเดือนให้
จนจะครบปีแล้ว ก็ยังไม่ได้ขึ้นเงินเดือน
ก็ชั่งใจว่า วันใด ที่ไม่ขึ้นเงินเดือนแล้ว ไม่มีโบนัสแล้ว ก็ถึงกาลอวสานของเรา
เพราะเป็นการบีบให้เราออก เพราะเราอยู่ได้หรอก ที่ค่าครองชีพสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
แล้วเงินเดือนเราจะเท่าเดิม แม้งานจะเท่าเดิมก็จริง

ถึงจะยังไง เราก็ยังรักเจ้านายเราเหมือนเดิมนะ
ถ้าไม่มีหนี้แล้ว เงินเดือนจะลดลง เราก็พอโอเค
ตอนนี้ ยังไม่พร้อม ฮืออออออออ.......


ขอบคุณที่รับฟังจนจบ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่