แม่มีปัญหากับพี่สะใภ้เรื่องเงินการเสียชีวิตของพี่ชาย

กระทู้คำถาม
ขออนุญาติลบกระทู้ค่ะ เราค่อนข้างเสียใจที่นอกจากได้รับคำแนะนำน้อย แล้วยังถูกคนที่ไม่รู้จักว่าแม่ตัวเองอีก
เรานี้มันโง่จริง
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 31
ก่อนอื่นเสียใจกับจขกท.ที่เสียพี่ชายนะคะ
ส่วนคุณแม่เข้าใจว่าคนยุ
จขกท.ก็ดูจะเข้าใจพี่สะใภ้ที่ตอนนี้เหลือลำพังต้องเลี้ยงลูกคนเดียว
ซึ่งต้องยอมรับว่าผญ บางตำแหน่งอาจไม่สามารถทำได้จนแก่
มีความเสี่ยงตกงาน หรืออาจเสียชีวิตทิ้งหลานไว้สองคน
พี่สะใภ้คงเห็นว่าย่าไม่ลำบากอะไร ยังมีลูกคนอื่น
ถ้าเราเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวลูกสองคนคงต้องเก็บเงินให้มากที่สุด
โรงเรียนลูกถ้าเคยเอกชนเพราะมีเงินเดือนพ่อช่วย เป็นเราคงไม่เปลี่ยนโรงเรียนที่ค่าเทอมถูกลงในขณะที่เด็กต้องรับความเปลี่ยนแปลงเรื่องพ่อเสีย
บอกกับย่าว่า ถือว่าให้ทุนการศึกษาหลาน
อย่าคิดว่าค่าเทอมไม่แพง สมัยนี้อะไรๆก็แพง
ถ้าเรามีหลาน จะยกให้หมด ตอนนี้มีแต่ลูก ไม่ได้หวังให้มาอะไรกะเรา แค่เค้าเอาตัวรอดก็พอ

สำหรับเราลูกหลานไม่ใช่การลงทุนที่หวังผลตอบแทนเป็นเงิน

ลองคุยให้คุณย่าได้คิดว่าพวกชาวบ้านมันก็ดีแต่เป่าหู
คิดถึงหลาน รักหลานก็ให้หลานไป อนาคตหลานอีกนาน
สู้ๆนะคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 20
แม่ จขกท เป็นหนึ่งในทายาทโดยชอบธรรมในทรัพย์มรดกค่ะ เข้าใจว่า จขกท เองก็ห่วงหลานๆ แต่หลานเองก็ไม่ถูกที่จะโกรธย่า ในสิทธิที่ย่าพึงได้รับ ส่วนพี่น้องคนอื่นช่วยแม่รักษาสิทธิ ก็ไม่แปลกค่ะ จริงๆมันควรเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวว่า คุณให้เท่านี้ก็พอแล้ว แต่มันเป็นเรื่องที่ว่า เขาต้องได้รับความเป็นธรรมในส่วนของสิทธิทายาทค่ะ พี่สะใภ้คุณจะมองข้ามตรงนี้ แล้วนับทายาทว่ามีแค่ลูกและเมียไม่ได้

แบ่งก่อนเลยค่ะ สินสมรส 50% ให้พี่สะใภ้ไปครองก่อน อีกครึ่งของมูลค่าทรัพย์ทั้งหมด ทั้งบ้าน ที่ดิน หุ้น รถ เงินในธนาคาร ฯลฯ เท่าที่สืบได้ ให้หารแบ่ง เมีย ลูก และ แม่ (ถ้าพ่อยังไม่เสียก็ต้องแยกส่วนของพ่อด้วย) ศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดกยังคะ อยู่ๆไปโยกย้ายขายที่ดิน ขายบ้าน โดยย่ายังไม่ยินยอม รู้เข้าทีหลัง เรื่องคงยุ่งแน่ เพราะเขาเป็นทายาท และยังไม่ได้สละสิทธิ์ไม่รับมรดกนะ

หลังจากนั้นได้เท่าไหร่ ยอมรับเท่านั้นค่ะ นี่คือตามกฏหมายกำหนดล่ะ ถ้าใครโกรธกันหรือไม่พอใจ ฝ่ายนั้นล่ะที่จะเอาเปรียบอีกฝั่ง ไปกีดกันขัดขวางในสิทธิที่เขาชอบธรรมน่ะ ถ้าหลานคุณเป็นคนดีมีเหตุผล เขาจะรู้ในหลักความจริงเองค่ะว่า มันถูกต้องหรือไม่ ส่วนย่าหลังได้มรดกมา จะเอาทรัพย์ส่วนไหนให้แก่หลาน ก็ให้ถือว่า ให้โดยเสน่หาไป แต่ไม่ใช่ว่า คนรอบข้างต้องไปบีบว่า เป็นย่าจะต้องให้ ต้องอย่าเอา เลี้ยงลูกมาอย่าหวังค่าน้ำนม หรือมองว่าหน้าเลือด เพราะนี่คือสิทธิที่เขาควรได้ในฐานะทายาทโดยชอบธรรมน่ะ

จขกท ก็ดูเป็นคนดี มีความยุติธรรม คุณคิดว่า ระหว่างคนที่เรียกหาความชอบธรรมตามสิทธิของตน กับ คนที่พยายามตัดสิทธิชอบธรรมของคนอื่น คุณควรอยู่ฝ่ายไหนคะ และเรื่องนี้ถ้าแก้ไขอย่างถูกต้อง ควรทำยังไงน่ะ

กฏหมายไม่ได้ขนาดจะใจร้ายแบ่งส่วนจนคู่สมรสและลูกจะหมดตัวนะคะ สมมติมี 100 แบ่งสินสมรส 50 เหลืออีก 50 ให้แบ่งกัน แต่พ่อเจ้าทรัพย์มรดกตายแล้ว ส่วนแม่ยังมีชีวิต เจ้าทรัพย์มีลูก 3 คู่สมรสจดทะเบียน 1 สรุป ทายาทมี 5 คน ก็หารกัน 50/5 ได้คนละ 10 ฝั่งคู่สมรส (60) + ลูก 3 คน (30) ได้ไป 90 ล่ะ มีแค่ 10 เท่านั้นที่ตกตามสิทธิถึงแม่ของเจ้าทรัพย์มรดก แบบนี้แล้วยังจะไปตัดสิทธิเขาอีกหรอคะ

คหสต ว่า จขกท จั่วหัวเกินไปนะ แม่ จขกท ไม่ได้เป็นคนสร้างปัญหาซักหน่อย
แต่พี่สะใภ้กับหลานๆ กำลังจะฮุบส่วนของแม่ จขกท แต่ จขกท กลับเข้าข้างพี่สะใภ้และหลานๆ งงเลย
ไม่ได้ฮุบน้อยๆด้วย เกือบล้านหรือถ้านำสืบทรัพย์อาจจะทะลุหลักล้านด้วยซ้ำ  โดยให้แค่เศษที่ควรได้มา
คนดีๆไม่ทำกันหรอกค่ะ  เลยไม่เข้าใจความคิดที่ว่า ต้องนับญาติกับคนที่โกงเงินเราด้วยหรอคะ
แม่ขอแค่ 5 แสน แลกกับสละสิทธิ์ในทรัพย์ส่วนที่เหลือ นี่ประนีประนอมสุดแล้วล่ะ
เขาขอน้อยกว่าส่วนที่เขามีสิทธิจะได้ซะอีก ยังไม่เห็นแก่สะใภ้และหลานอีกหรอคะ

ส่วนเรื่องเจตนาผู้ตาย ถ้าเขาไม่คิดจะให้แม่ ยกให้ลูกเมียหมด เขาทำพินัยกรรมระบุชื่อไปแล้วล่ะ
แต่ในเมื่อไม่ได้ทำ เขาก็ต้องรู้ดีว่า มันต้องถูกแบ่งตามจำนวนทายาทน่ะ เพราะงั้นไปตัดแม่ทิ้งคงไม่ได้นะ
ความคิดเห็นที่ 42
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่