มุยแน่มาต่อละจ้าาา กระทู้นี้จะเขียนรวบยอด 2 วันสุดท้ายที่เหลือ
- - - DAY 3 @ Mu nei - - -
7 โมงเช้าวันนี้ก็มีรถบัสมารับเราถึงหน้าโฮสเทลค่ะ พาเราไปส่งที่จุดขึ้นรถบัสนอนไปมุยเน่
รถบัสที่นั่งจริงๆ มันก็ไม่ได้เหวี่ยงมากหรืออะไรนะคะ ก็นอนสบายดี แต่ติดตรงที่คนขับรถกินแตรยับเลยค่ะ
คนที่นี่เค้าน่าจะเป็นธรรมเนียมของเค้า การบีบแตรบอกเพื่อนร่วมทางเสมอว่า ชั้นอยู่นี่นะ ชั้นจะเลี้ยวนะ
ชั้นจะจอดนะ ชั้นจะไปนะ 5555 บีบทุกอย่าง แต่เค้าไม่เคยทะเลาะกันนะคะ แม้ว่าจะบีบลากยาวแค่ไหน
สำหรับเราไม่ชินหู ช่วงแรกก็จะปวดหูนอนไม่หลับเลยค่ะ ยิ่งพวกได้ที่นั่งด้านหน้าๆสุด เสียงแตรนี่ชัดมากกกกก สุดจริง!
เราใช้เวลาข้ามเขากันมาเป็นเวลาประมาณ 5 ชม. ค่ะ ก็มาถึงมุยเน่ มุยเน่เป็นเมืองที่มีทั้งทะเล และทะเลทราย
แปลกดีค่ะ ก็สวยไปอีกแบบนะคะ แตกต่างกับดาลัดไปเลยค่ะ ที่นี่จะดูแห้งๆ มีทราย มีต้นมะพร้าวสูงๆ
พอจอดรถปุ๊บก็จะเห็นบริษัททัวร์ One day trip เยอะแยะไปหมดค่ะ พวกเราเลือกซื้อของบริษัทฝั่งตรงข้าม
ซื้อตั๋ว Jeep tour เริ่มเที่ยวตั้งแต่บ่าย 2 ถึง 6 โมงเย็นค่ะ ไม่มีเกินกว่าเวลานี้นะคะ
เพราะที่นั่นกลางคืนจะมืดเร็วค่ะ แล้วก็จะไม่มีใครเที่ยวแล้วค่ะ นอกจากเดินเที่ยวหรือขับรถมอไซต์หาร้านเที่ยวกันเองค่ะ
เราได้ตั๋วมาในราคา 80,000 ด่ง / คนค่ะ แล้วที่นั่นก็มีตั๋วรถกลับโฮจิมินห์ขายพร้อมเลยนะคะ
พวกเราก็จัดเลยเพราะไม่อยากเสียเวลาไปเดินหาได้มาในราคา 1 แสนด่ง / คนค่ะ เค้าจะมารับเราหน้าโรมแรมเลยนะคะ
พอจัดสรรทุกอย่างเสร็จเราก็ฝากกระเป๋าไว้ที่บริษัททัวร์ค่ะ แล้วเดินหาร้านข้าวกินแถวๆ นั้นเพราะว่าเหลือเวลาอีกไม่มาก
ก็จะถึงเวลาทัวร์มุยเน่แล้วววว ร้านข้าวใกล้ๆ มีความหลากหลายในอาหารค่ะ มีต้มยำของไทยด้วย 555
แต่พวกเราไม่ได้กินค่ะ กินง่ายๆ เอา แบบข้าวผงข้าวผัด ราคาไม่แพงค่ะ อร่อยให้เยอะด้วย
กินเสร็จก็รีบเดินกลับไปที่บริษัททัวร์ เค้ามีรถ Jeep มารับถึงที่ค่ะ เท่จริงไรจริงงงง คนขับก็อารมณ์ดีค่ะ พวกเรามากันเยอะก็สนุกสนาน
9 คนนี่อัดได้นะคะ รถ 1 คัน จุมากกกก 55555 ที่แรกก็คือ FAIRY STREAM ค่ะเป็นร่องหิน โขดหิน และมีลำธารน้ำอยู่ตรงกลาง
ให้พวกเราเดินไปเรื่อยๆ ค่ะ เดินไปตอนแรกก็ไม่มีอะไรนะคะ ต้องเดินเข้าไปลึกๆหน่อย ก็จะเจอะจุดที่สวยขึ้นๆ ค่ะ
แต่ตรงนี้แนะนำว่าไม่ต้องไปเสียเวลาเดินมาก หรืออ้อยอิ่งมากนะคะ จะได้มีเวลาเหลือๆ ไปทะเลทรายอีก 2 ที่ค่ะ
ตอนแรกเลยลงไปเค้าจะให้ถอดรองเท้า ก็แล้วแต่นะคะตรงนี้ว่าจะถอดหรือจะเดินถือไป แต่พวกเราถอดวางไว้เค้ามีคนดูให้ค่ะ
ขากลับมาเอาปรากฏว่า โดนขอทิปกันยิกๆ เลยค่ะ 55555555 ร้ายกาจสุดๆ เพื่อนก็ควักกองกลางออกไปให้เค้านิดๆ หน่อยๆ
พอให้ไม่ดูน่าเกลียดสำหรับแกงค์สาวไทยอย่างพวกเราค่ะ เสร็จจากที่นี่เราก็ไปหมู่บ้านชาวประมง FISHERMAN VILLAGE
โดยเอกลักษณ์ของที่นี่ก็จะเป็น เรือกระด้งค่ะ เรือที่เหมือนขัน เรือที่เหมือนกะละมังเล็กๆ สีสดใสลอยน้ำ ลอยอยู่ทั่วๆ ทะเล
ปะปนไปกับเรือประมงใหญ่ แปลกตาดีค่ะ ไม่เคยเห็นเรือทรงกลมแบบนี้ 5555 เราก็ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ลงรถถ่ายรูป group shot
แล้วรีบขึ้นรถดิ่งไปทะเลทรายขาวค่ะ ความดีงามของที่นั่นรอเราอยู่ ทะเลทรายขาวค่อนข้างไกลนะคะ นั่งรถสักพักใหญ่
ระหว่างทางสวยดีค่ะ จริงๆ ถ้ามีเวลาเหลือๆ กว่านี้พวกเราก็อยากจะลงรถ ขอพี่คนขับเค้าถ่ายรูประหว่างทาง
แต่ดูจากเวลาไม่น่าจะทันเลยรีบบึ่งกันไปเลยจะดีกว่า ตรงนี้เราจะผ่านทะเลทรายแดงด้วยนะคะ
แต่เราจะต้องเข้าไปทะเลทรายขาวก่อน
พอถึงปุ๊บทะเลทรายขาว หรือ WHITE SAND DUNES สวยมากกกค่ะ กว้างงงสุด แล้วคือวันที่เราไปลมแรงม๊ากกกกก
แล้วภาพที่เราเห็นกระทู้อื่นรีวิวมานั้น ก็ได้พังทลายไปหมด หวังจะยืนสวยๆ เชิดหน้าเก๋ๆ ก็ไม่ได้ค่ะ จบหมด 55555
หมวกที่ซื้อมาจะใส่ก็ได้แต่ถือ ถ้าเราผอมลงอีกซัก 5 โล ก็คงปลิวไปกับลมแล้วแหละค่ะ ปวดใจ
เราซื้อตั๋วให้เค้าขับรถพาเราเข้าไปข้างบน ราคาประมาณคนละ 250,000 ด่ง / คน ค่ะจริงๆ ก็ถือว่าแพงนะคะ ควรต่อเค้าอีก
แต่เราขี้เกียจต่อแล้วค่ะ เสียเวลาเที่ยวก็ต่อได้เท่าไหนก็เท่านั้นค่ะ คนขับเค้าก็จะขับหวาดเสียวๆ หน่อย สนุกดีค่ะ
มีแบบขับ ATV เองหรือพร้อมคนขับด้วยนะคะ แต่ว่าค่อนข้างแพง เค้าคิดเป็นชั่วโมงค่ะ พวกเรามากันเยอะเลยไม่เอาดีกว่า
หรือเดินไปเองได้นะคะ แต่มันค่อนข้างลึกเหมือนกัน ก็แล้วแต่ความอึดค่ะตรงนี้
โลมมมมมมพัดตึง ตึง ตึง ตึง!!!! ปลิว ปลิวไปทุกสิ่งอย่าง ผมนี่พันกันสนุกสนานไปเลยค่ะ 555555
แล้วเราก็ย้ายไปทะเลทรายแดง RED SAND DUNES เป็นที่สุดท้ายสำหรับทริปนี้ค่ะ มาถึงปุ๊บพระอาทิตย์ก็ตกพอดี ไม่ทันค่ะ ไร้แสงใดๆ
มืดสนิท ถ่ายรูปอะไรกันไม่สวยก็เลยเดินเล่นแป้บๆ แล้วก็กลับที่พักกันค่ะ ที่พักที่นี่จองมาได้ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เลยไม่ได้รีวิวนะคะ
ค่อนข้างเก่า ไม่ปรับปรุงห้อง ก็เลยไม่ค่อยประทับใจกันค่ะ เก็บข้าวของเสร็จพวกเราก็ออกไปเดินหาร้าน Seafood
หาล็อปสเตอร์ที่เค้าว่าถูกแสนถูกกันค่ะ เราเดินหาร้านไปเรื่อยๆ ก็ได้มาจบอยู่ที่ร้านนึงค่ะ
เด็กเสิร์ฟเค้าพูดภาษาไทยได้นิดหน่อย พวกเราเลยใจอ่อนทานร้านนี้ค่ะ
แต่ว่าล็อปสเตอร์ที่ร้านทำออกมาไม่น่ากินค่ะ เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่เมนูอื่นๆ ดีนะคะ หอย ปลา ข้าวผัดใช้ได้เลยค่ะ ก็ถือว่าไม่แพง
เพื่อนๆ ลองเดินหาร้านดูนะคะ ต้องลองเสี่ยงโชคดูค่ะ มื้อนี้พวกเราเสียไป 2 ล้านค่ะ กินเยอะพอสมควร อิ่มท้องก็เดินกลับที่พัก
เพื่อนบางส่วนก็ไปหาร้านเก๋ๆ นั่งดื่มกันต่อ บางส่วนก็แยกกลับห้องพักผ่อน พรุ่งนี้รถมารับตอนประมาณ 8 โมงเช้าค่ะ กลับโฮจิมินห์
- - - DAY 4 @ Hochiminh - - -
ก่อนกลับเราก็เอาสักหน่อย นมอันนี้แนะนำนะคะ อร่อยดีค่ะ หาซื้อได้ตามมาร์ททั่วไป
เรานั่งบัสนอนกลับโฮจิมินห์ ถึงประมาณบ่ายโมงค่ะ แต่ว่าฝนตกเฉยเลยจ้าพอเข้าโฮจิมินห์
พวกเราก็เอาของไปฝากไว้ที่โฮสเทลที่เดิมที่เคยฝากกระเป๋าวันแรกค่ะ เค้าก็จำพวกเราได้
แล้วก็ซื้อชุดกันฝนคนละตัว ราคาหมื่นด่ง ก็เลยได้แฟชั่นเซ็ทมาอีกเซ็ท 55555
รู้สึกเหมือนเป็นแกงค์ขยะเปียกยังไงชอบกล 555 ก็นั่นแหละค่ะ ลุยๆ ไปเด่วจะเสียเวลาไปเปล่าๆ
เพราะพวกเราต้องรอขึ้นเครื่องกลับไทยตอน 3 ทุ่มค่ะ ก็ตกลงกันว่าไปหาอะไรกินกัน ก็เดินไปเรื่อยๆ ไม่เจอร้านซักที
เดินจนฝนหยุด ก็เลยตกลงงเรียก grab กลับไปหาของกินแถวจัตุรัสนครโฮจิมินห์เอาค่ะ หวยก็ไปออกที่ร้านนี้ค่ะ
ชื่อร้าน Wrap&rolls ก็สั่งชุดแหนมเนืองกันมากิน แล้วก็อย่างอื่น ก็จะเป็นพวกแป้งๆ ผักๆ แหนมเนืองที่นี่กินแป้งแบบไม่แช่น้ำนะคะ
คือไม่รู้ว่าบ้านเราเอามาอแด๊ปหรือว่าบ้านเค้ากินแปลกก็ไม่รู้ 5555 แต่พอลองกินดู เฮ้ยย มันก็ไม่แย่นะ กรุบๆ ไปอีกแบบอ่ะ
ก็อร่อยอยู่ หรือว่าหิวไม่รู้เหมือนกัน ฮ่าาา กินเสร็จปรากฎว่าฝนตกอีกรอบ พวกเราเรียกรถ grab นั่งไปตลาด Ben thanh
เพราะตกลงกันว่าจะหาที่ซื้อของฝากกลับบ้านกันค่ะ ก็ได้กันมาทั้งชาเอย ขนมเอย ของที่ระลึกเอยย ต้องต่อเยอะๆ นะคะ
อย่าใจอ่อนมาก เค้าค่อนข้างโก่งราคากันไว้กันอยู่แล้วตอนแรกค่ะ ต้องสู้นะคะ ไม่งั้นก็จะได้ของแพงกลับบ้านแน่ๆ อิอิ
เสร็จจากนี่เราก็รีบกลับไปเอาสัมภารกต่างๆ แล้วเดินไปขึ้นบัส 109 ไปสนามบินค่ะ ค่ารถบัสก็เท่าเดิมนะคะ 20,000 ด่ง / คนค่ะ
อันนี้เราเดินไปรอที่อู่เลยค่ะ ก็จะมีที่รถวนมาจอดรับ อาจจะรอนานนิดนึงค่ะ ต้องเผื่อเวลากันด้วยนะคะ
เพราะนั่งไปสนามบินก็ค่อนข้างใช้เวลาค่ะ แล้วเราก็มาถึงสนามบินกันตอน ทุ่มกว่าค่ะ
ไปเชคอินรอเครื่อง 3 ทุ่มก็บินกลับเมืองไทยค่ะ ถึงเมืองไทยประมาณ 5 ทุ่ม ก็แยกย้ายกันกลับบ้านจ้า
จบแล้วสำหรับทริปนี้ ดี สนุกสนาน หลากหลายรสชาติ หลากหลายฤดูกาล ร้อน ฝน หนาวเจอหมด
ที่เที่ยวในเวียดนามก็หลากหลายทั้ง ภูเขา น้ำตก ทะเล ทะเลทราย คุ้มดีค่ะ ครั้งหน้าก็อยากไปเวียดนามเหนือดู
ค่าครองชีพบ้านเค้าใกล้เคียงกับบ้านเรา ก็ไม่ได้หมดอะไรไปเยอะค่ะ
ทริปนี้เบ็ดเสร็จ 6,000 บาท /คน
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ เจอกันใหม่ทริปหน้าค่าาาา
[CR] รีวิวทริป 'แมวสาว 9 ชีวิต กับทริปเวียดนามใต้ โฮจิมินห์ ดาลัด มุยเน่' 4 คืน 5 วัน ครบรส ร้อน ฝน หนาว 2017 (Day 3-4)
7 โมงเช้าวันนี้ก็มีรถบัสมารับเราถึงหน้าโฮสเทลค่ะ พาเราไปส่งที่จุดขึ้นรถบัสนอนไปมุยเน่
รถบัสที่นั่งจริงๆ มันก็ไม่ได้เหวี่ยงมากหรืออะไรนะคะ ก็นอนสบายดี แต่ติดตรงที่คนขับรถกินแตรยับเลยค่ะ
คนที่นี่เค้าน่าจะเป็นธรรมเนียมของเค้า การบีบแตรบอกเพื่อนร่วมทางเสมอว่า ชั้นอยู่นี่นะ ชั้นจะเลี้ยวนะ
ชั้นจะจอดนะ ชั้นจะไปนะ 5555 บีบทุกอย่าง แต่เค้าไม่เคยทะเลาะกันนะคะ แม้ว่าจะบีบลากยาวแค่ไหน
สำหรับเราไม่ชินหู ช่วงแรกก็จะปวดหูนอนไม่หลับเลยค่ะ ยิ่งพวกได้ที่นั่งด้านหน้าๆสุด เสียงแตรนี่ชัดมากกกกก สุดจริง!
แปลกดีค่ะ ก็สวยไปอีกแบบนะคะ แตกต่างกับดาลัดไปเลยค่ะ ที่นี่จะดูแห้งๆ มีทราย มีต้นมะพร้าวสูงๆ
ซื้อตั๋ว Jeep tour เริ่มเที่ยวตั้งแต่บ่าย 2 ถึง 6 โมงเย็นค่ะ ไม่มีเกินกว่าเวลานี้นะคะ
เราได้ตั๋วมาในราคา 80,000 ด่ง / คนค่ะ แล้วที่นั่นก็มีตั๋วรถกลับโฮจิมินห์ขายพร้อมเลยนะคะ
พวกเราก็จัดเลยเพราะไม่อยากเสียเวลาไปเดินหาได้มาในราคา 1 แสนด่ง / คนค่ะ เค้าจะมารับเราหน้าโรมแรมเลยนะคะ
พอจัดสรรทุกอย่างเสร็จเราก็ฝากกระเป๋าไว้ที่บริษัททัวร์ค่ะ แล้วเดินหาร้านข้าวกินแถวๆ นั้นเพราะว่าเหลือเวลาอีกไม่มาก
ก็จะถึงเวลาทัวร์มุยเน่แล้วววว ร้านข้าวใกล้ๆ มีความหลากหลายในอาหารค่ะ มีต้มยำของไทยด้วย 555
แต่พวกเราไม่ได้กินค่ะ กินง่ายๆ เอา แบบข้าวผงข้าวผัด ราคาไม่แพงค่ะ อร่อยให้เยอะด้วย
9 คนนี่อัดได้นะคะ รถ 1 คัน จุมากกกก 55555 ที่แรกก็คือ FAIRY STREAM ค่ะเป็นร่องหิน โขดหิน และมีลำธารน้ำอยู่ตรงกลาง
ขากลับมาเอาปรากฏว่า โดนขอทิปกันยิกๆ เลยค่ะ 55555555 ร้ายกาจสุดๆ เพื่อนก็ควักกองกลางออกไปให้เค้านิดๆ หน่อยๆ
พอให้ไม่ดูน่าเกลียดสำหรับแกงค์สาวไทยอย่างพวกเราค่ะ เสร็จจากที่นี่เราก็ไปหมู่บ้านชาวประมง FISHERMAN VILLAGE
ปะปนไปกับเรือประมงใหญ่ แปลกตาดีค่ะ ไม่เคยเห็นเรือทรงกลมแบบนี้ 5555 เราก็ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ลงรถถ่ายรูป group shot
แล้วรีบขึ้นรถดิ่งไปทะเลทรายขาวค่ะ ความดีงามของที่นั่นรอเราอยู่ ทะเลทรายขาวค่อนข้างไกลนะคะ นั่งรถสักพักใหญ่
ระหว่างทางสวยดีค่ะ จริงๆ ถ้ามีเวลาเหลือๆ กว่านี้พวกเราก็อยากจะลงรถ ขอพี่คนขับเค้าถ่ายรูประหว่างทาง
แต่เราจะต้องเข้าไปทะเลทรายขาวก่อน
แล้วภาพที่เราเห็นกระทู้อื่นรีวิวมานั้น ก็ได้พังทลายไปหมด หวังจะยืนสวยๆ เชิดหน้าเก๋ๆ ก็ไม่ได้ค่ะ จบหมด 55555
หมวกที่ซื้อมาจะใส่ก็ได้แต่ถือ ถ้าเราผอมลงอีกซัก 5 โล ก็คงปลิวไปกับลมแล้วแหละค่ะ ปวดใจ
แต่เราขี้เกียจต่อแล้วค่ะ เสียเวลาเที่ยวก็ต่อได้เท่าไหนก็เท่านั้นค่ะ คนขับเค้าก็จะขับหวาดเสียวๆ หน่อย สนุกดีค่ะ
มีแบบขับ ATV เองหรือพร้อมคนขับด้วยนะคะ แต่ว่าค่อนข้างแพง เค้าคิดเป็นชั่วโมงค่ะ พวกเรามากันเยอะเลยไม่เอาดีกว่า
หรือเดินไปเองได้นะคะ แต่มันค่อนข้างลึกเหมือนกัน ก็แล้วแต่ความอึดค่ะตรงนี้
โลมมมมมมพัดตึง ตึง ตึง ตึง!!!! ปลิว ปลิวไปทุกสิ่งอย่าง ผมนี่พันกันสนุกสนานไปเลยค่ะ 555555
แล้วเราก็ย้ายไปทะเลทรายแดง RED SAND DUNES เป็นที่สุดท้ายสำหรับทริปนี้ค่ะ มาถึงปุ๊บพระอาทิตย์ก็ตกพอดี ไม่ทันค่ะ ไร้แสงใดๆ
ค่อนข้างเก่า ไม่ปรับปรุงห้อง ก็เลยไม่ค่อยประทับใจกันค่ะ เก็บข้าวของเสร็จพวกเราก็ออกไปเดินหาร้าน Seafood
หาล็อปสเตอร์ที่เค้าว่าถูกแสนถูกกันค่ะ เราเดินหาร้านไปเรื่อยๆ ก็ได้มาจบอยู่ที่ร้านนึงค่ะ
เด็กเสิร์ฟเค้าพูดภาษาไทยได้นิดหน่อย พวกเราเลยใจอ่อนทานร้านนี้ค่ะ
เพื่อนๆ ลองเดินหาร้านดูนะคะ ต้องลองเสี่ยงโชคดูค่ะ มื้อนี้พวกเราเสียไป 2 ล้านค่ะ กินเยอะพอสมควร อิ่มท้องก็เดินกลับที่พัก
เพื่อนบางส่วนก็ไปหาร้านเก๋ๆ นั่งดื่มกันต่อ บางส่วนก็แยกกลับห้องพักผ่อน พรุ่งนี้รถมารับตอนประมาณ 8 โมงเช้าค่ะ กลับโฮจิมินห์
- - - DAY 4 @ Hochiminh - - -
พวกเราก็เอาของไปฝากไว้ที่โฮสเทลที่เดิมที่เคยฝากกระเป๋าวันแรกค่ะ เค้าก็จำพวกเราได้
แล้วก็ซื้อชุดกันฝนคนละตัว ราคาหมื่นด่ง ก็เลยได้แฟชั่นเซ็ทมาอีกเซ็ท 55555
เพราะพวกเราต้องรอขึ้นเครื่องกลับไทยตอน 3 ทุ่มค่ะ ก็ตกลงกันว่าไปหาอะไรกินกัน ก็เดินไปเรื่อยๆ ไม่เจอร้านซักที
เดินจนฝนหยุด ก็เลยตกลงงเรียก grab กลับไปหาของกินแถวจัตุรัสนครโฮจิมินห์เอาค่ะ หวยก็ไปออกที่ร้านนี้ค่ะ
คือไม่รู้ว่าบ้านเราเอามาอแด๊ปหรือว่าบ้านเค้ากินแปลกก็ไม่รู้ 5555 แต่พอลองกินดู เฮ้ยย มันก็ไม่แย่นะ กรุบๆ ไปอีกแบบอ่ะ
ก็อร่อยอยู่ หรือว่าหิวไม่รู้เหมือนกัน ฮ่าาา กินเสร็จปรากฎว่าฝนตกอีกรอบ พวกเราเรียกรถ grab นั่งไปตลาด Ben thanh
เพราะตกลงกันว่าจะหาที่ซื้อของฝากกลับบ้านกันค่ะ ก็ได้กันมาทั้งชาเอย ขนมเอย ของที่ระลึกเอยย ต้องต่อเยอะๆ นะคะ
อย่าใจอ่อนมาก เค้าค่อนข้างโก่งราคากันไว้กันอยู่แล้วตอนแรกค่ะ ต้องสู้นะคะ ไม่งั้นก็จะได้ของแพงกลับบ้านแน่ๆ อิอิ
เสร็จจากนี่เราก็รีบกลับไปเอาสัมภารกต่างๆ แล้วเดินไปขึ้นบัส 109 ไปสนามบินค่ะ ค่ารถบัสก็เท่าเดิมนะคะ 20,000 ด่ง / คนค่ะ
อันนี้เราเดินไปรอที่อู่เลยค่ะ ก็จะมีที่รถวนมาจอดรับ อาจจะรอนานนิดนึงค่ะ ต้องเผื่อเวลากันด้วยนะคะ
เพราะนั่งไปสนามบินก็ค่อนข้างใช้เวลาค่ะ แล้วเราก็มาถึงสนามบินกันตอน ทุ่มกว่าค่ะ
ไปเชคอินรอเครื่อง 3 ทุ่มก็บินกลับเมืองไทยค่ะ ถึงเมืองไทยประมาณ 5 ทุ่ม ก็แยกย้ายกันกลับบ้านจ้า
จบแล้วสำหรับทริปนี้ ดี สนุกสนาน หลากหลายรสชาติ หลากหลายฤดูกาล ร้อน ฝน หนาวเจอหมด
ที่เที่ยวในเวียดนามก็หลากหลายทั้ง ภูเขา น้ำตก ทะเล ทะเลทราย คุ้มดีค่ะ ครั้งหน้าก็อยากไปเวียดนามเหนือดู
ค่าครองชีพบ้านเค้าใกล้เคียงกับบ้านเรา ก็ไม่ได้หมดอะไรไปเยอะค่ะ
ทริปนี้เบ็ดเสร็จ 6,000 บาท /คน
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ เจอกันใหม่ทริปหน้าค่าาาา
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น