ทริปแรกที่ไปต่างประเทศด้วยมอเตอร์ไซค์ กับYamaha Aerox155
9-15 Dec 2017 (7วันเต็ม)
-เส้นทางมอเตอร์ไซค์ ยะลา-เบตง-Butterworth-Cameron Highlands(Bringchang-Tanah Rata)-Pinang-สะเดา-หาดใหญ่
-รวมระยะทาง1,157km.
ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา
Street Art เมืองเบตง
ไร่ชา Cameron Valley
Cameron Lavender
ปีนัง - George Town
รายละเอียด...
-เบตงไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด กลางคืนก็พอจะเดินเล่นในเมืองได้
-เบตงถือว่าครบ ที่เที่ยวดี อาหารอร่อย อากาศดี ความอุดมสมบูรณ์ เศรษฐกิจมั่งคั่ง อีก3ปีสนามบินเปิดจะคึกคักกว่าเดิม
-โชคดีมากไม่เจอฝนตกหนักลมแรง
-ไม่มีอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง ไม่เจอแม้แต่ยางรั่ว ส่วนรถก็ไม่งอแงแม้จะบิดหมดปลอกแช่ยาวๆหลายร้อยกิโลเมตร ที่สำคัญคือกำลังรถไม่ตกด้วย
-แลกเงินไทยไป12000บาท=1500ริงกิต (ที่อัตราแลกเงิน8บาท=1ริงกิต)แต่เหลือเงินกลับมาหลายร้อยริงกิต
-อาหารที่มาเลเซียไม่หวานเหมือนเมืองไทย แต่ก็ไม่อร่อยเท่าเมืองไทยไม่คุ้นลิ้นเลย
-ถ้าเจอร้านอาหารไทยที่นั่น เจริญอาหารแน่นอน
-มาเลเซียส่วนใหญ่ถนนดี เป็นภาษีของคนขี่รถมอเตอร์ไซค์
-มาเลเซียขับชิดซ้าย พวงมาลัยขวาเหมือนเมืองไทย
-ทำประกันภัย+ป้ายทะเบียนที่ด่านเบตง ฝั่งมาเลเซีย หน้าร้านขายลูกชิ้น
-ค่าประกัน600บาท ที่เหลือเป็นค่าป้ายทะเบียนภาษาอังกฤษและค่าอำนวยความสะดวกอีก200บาท
-คาเมรอนโค้งเยอะ ถนนกว้าง แต่ก็ยังแค่น้องๆของโค้งแม่สะเรียง แม่สอด โค้งภาคเหนือภาคใต้ของไทย
-คาเมรอนกลางวันรถติดหนักมาก
-คาเมรอนอากาศเย็นเหมือนเปิดแอร์กลางแดด 15-20องศาc
-ปีนังอาหารอร่อย มีทั้งอาหารจีน อินเดีย มาเล
-ปีนังร้อนและดำคล้ำง่ายเหมือนอยู่ภูเก็ต (ดำแดดจริงลองมาแล้ว)
-ใช้แผนที่นำทาง google map แบบoffline
-ใช้ซิมAIS2Fly เป็นinternet sim
-ใช้intercom ยี่ห้อ T-com คุยกับแฟนระหว่างเดินทาง ได้ยินเสียงดังฟังชัด ใช้ได้นานต่อเนื่องเกือบ10ชั่วโมง
พูดถึงรถม้าศึกคันนี้หน่อย...
"ข้อดี"
-Yamaha Aerox155 เหมาะใช้ออกทริปทางไกล แต่ก็จำเป็นต้องหาปั๊มน้ำมันทุก100โลเมื่อใช้ความเร็วสูง ซึ่งที่มาเลย์จะมีปั๊มน้ำมันทุกๆ80กิโลบนtoll way จึงไม่ได้เป็นอุปสรรค
-ใช้น้ำมันเบนซิน95ในมาเลเซียและE20ในเมืองไทย
-ใช้ระยะทางรวม 1157km.
-ใช้น้ำมันทั้งหมด 42ลิตร
-ค่าเฉลี่ยสิ้นเปลืองน้ำมัน 27.5km/ลิตร (เท่าๆตระกูล500cc.)
-คิดง่ายๆก็ตกกิโลเมตรละ0.93บาท(ถ้าคิดจากราคาน้ำมันE20ในประเทศไทย)
-มีช่องเสียบชาร์จไฟ12V. ทำให้ใช้GPSมือถือได้ต่อเนื่องนานๆ
-หน้าปัดมีฟังค์ชั่นเยอะ ทั้งวัดรอบเครื่อง จับระยะทาง มีvolt meter วัดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ไฟแสดงสถานะของวาล์วแปรผัน(vva) ทำให้ช่วยประเมินการขับขี่ได้สะดวกขึ้น สังเกตความผิดปกติของรถได้ง่ายขึ้น
-ความเร็วยืนพื้นบนหน้าปัด 105km/h (GPS 100km/h)
-ความเร็วเดินทางบนหน้าปัด 100-115km/h
-คนขี่+คนซ้อนน้ำหนักรวม127kg. สัมภาระอีกกว่า10kg. รวมloadแล้วราวๆ140kg.รถอืดมั้ย?? ตอบเลยว่าไม่อืดเลย ถึงมันจะยืนพื้นที่ทางราบได้ความเร็วบนหน้าปัดแค่105km/h(GPS 100km/h) ที่8500rpm แต่ถ้าเจอเนินความเร็วก็ไม่ลดเกิน100km/h(หน้าปัด) ที่เหลือไหลลงเนินได้สุดที่120km/h กล่องEcuก็ตัดหน้าทิ่มละ
-นั่งสบายยืนยันจากคนขี่และคนซ้อนท้าย ช่วงล่างไม่นิ่มเกินไป ไม่ย้วยดึ๋งๆๆ แต่ก็ยังไม่สู้หลุมลึกที่ความเร็วสูง กระแทกทีจุกเอาเรื่องเหมือนกัน
-คนซ้อนบอกว่าเบาะหลังสูงดี(สูงมาก)แต่ท่านั่งคันนี้ดีตรงที่มันไม่ต้องเอนตัวไปหาคนขับมากเหมือนทรงสปอร์ตจึงไม่เมื่อยหลังเวลาสะพายเป้
-ใต้เบาะเก็บสัมภาระได้เยอะมาก
-ถือว่าเข้าโค้งไม่ฝืนตัว ควบคุมรถง่ายระดับนึง แต่ยังพลิกรถได้ไม่ไวเท่าที่ควร
-เบรคหลังทื่อๆ เบรคไม่กินเท่าไหร่ แต่เบรคหน้าสมูทมาก เบรคกินดี (คันนี้รุ่นR versionไม่มีระบบเบรคเสริมabs) โดยรวมยังหยุด+ชะลอรถได้ดี เบรคแล้วไม่ได้รู้สึกเหนื่อย พอใจมาก
-จุดเด่นคือกำลังรถดีมาก ขึ้นดอยกำลังไม่มีตก ติดมือสุดๆ เจอเนินแล้วกระแทกคันเร่งมีแต่พุ่งๆๆๆ...ค่าน้ำมันหน่ะพุ่ง ฮาาาาา
-จะบอกว่ารถเกียร์ออโตตอนลงเขามันก็มีengine brakeนะ มีเยอะด้วย ไม่ได้บีบเบรคจนเมื่อยมือ
-ออกทริปไกลๆเช็คลมยางให้พอดี 29/33Psi เข้าโค้งปลอดภัยมีชัยไปกว่าครึ่ง
-aeroxคันนี้เป็นรถเดิมๆไม่เคยแกะเครื่องมาโมฯ ตรวจเช็คตามระยะทุกเดือน
"ข้อเสีย"
-Aeroxไม่มีbalanceโช๊คหน้า เวลาเข้าโค้งลงเขาความเร็วเกิน60จะเจออาการล้อหน้าส่าย รู้สึกได้ที่ปลายข้อมือ แฮนด์จะรู้สึกแกว่งนิดๆ แต่ยังควบคุมรถได้ ยังกระแทกคันเร่งเข้าโค้งได้ตามปกติ แค่มันจะรู้สึกหวิวๆ
-เป็นรถที่ทำบังโคลนหลังได้กากมาก ละอองน้ำฟุ้งข้ามหมวกกันน็อคคนซ้อนท้ายซะด้วย 555
-ไฟหน้าLEDสีขาวสว่างจ้า แต่ส่องไม่ไกล ทำให้มองกลางคืนลำบาก
-เวลาลงหลุมลึกที่ความเร็วสูงโช๊คจะยุบสุด ทำให้กระแทกแล้วจุก
-ไม่มีชิวล์บังลมสูงๆ คนขี่โต้ลมนานๆอาจเหนื่อยล้าได้ง่าย
-น้ำมันเครื่องระเหยไปบ้าง วัดระดับแล้วลดลงเหลือครึ่งก้าน แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ สีไม่ได้เปลี่ยนมาก แต่กำลังเครื่องไม่ได้ตก
สรุป...Yamaha Aerox155 เป็นรถอเนกประสงค์ นั่งสบายทั้งคนขี่คนซ้อน เหมาะกับการออกทริปไกลๆ บรรทุกหนักแต่แรงไม่ตก ระบบเบรคดี ช่วงล่างยังมีข้อจำกัดกับหลุมลึกที่ความเร็วสูง บังโคลนหน้า-หลังแย่ทำให้รถเลอะสุดๆ aeroxอาจจะขี่ได้ไม่เร็วมาก(มากสุดแค่120เท่าฮอนด้าเวฟ) แต่มันก็แรงแซงทุกเนิน ฮาาาาาา
ปล.เล่าเป็นประสบการณ์ให้อ่านกันเล่นๆ เราเป็นคนชอบขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยว คงไม่ได้เขียนเชียร์ให้ใครอยากซื้อรถรุ่นนี้เพราะว่าบทความนี้ยังไม่ได้ค่าคอมมิชชั่น 5555
ขี่มอไซค์ไป Cameron Highlands ดินแดนเทเลทับบี้
9-15 Dec 2017 (7วันเต็ม)
-เส้นทางมอเตอร์ไซค์ ยะลา-เบตง-Butterworth-Cameron Highlands(Bringchang-Tanah Rata)-Pinang-สะเดา-หาดใหญ่
-รวมระยะทาง1,157km.
ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา
Street Art เมืองเบตง
ไร่ชา Cameron Valley
Cameron Lavender
ปีนัง - George Town
รายละเอียด...
-เบตงไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด กลางคืนก็พอจะเดินเล่นในเมืองได้
-เบตงถือว่าครบ ที่เที่ยวดี อาหารอร่อย อากาศดี ความอุดมสมบูรณ์ เศรษฐกิจมั่งคั่ง อีก3ปีสนามบินเปิดจะคึกคักกว่าเดิม
-โชคดีมากไม่เจอฝนตกหนักลมแรง
-ไม่มีอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง ไม่เจอแม้แต่ยางรั่ว ส่วนรถก็ไม่งอแงแม้จะบิดหมดปลอกแช่ยาวๆหลายร้อยกิโลเมตร ที่สำคัญคือกำลังรถไม่ตกด้วย
-แลกเงินไทยไป12000บาท=1500ริงกิต (ที่อัตราแลกเงิน8บาท=1ริงกิต)แต่เหลือเงินกลับมาหลายร้อยริงกิต
-อาหารที่มาเลเซียไม่หวานเหมือนเมืองไทย แต่ก็ไม่อร่อยเท่าเมืองไทยไม่คุ้นลิ้นเลย
-ถ้าเจอร้านอาหารไทยที่นั่น เจริญอาหารแน่นอน
-มาเลเซียส่วนใหญ่ถนนดี เป็นภาษีของคนขี่รถมอเตอร์ไซค์
-มาเลเซียขับชิดซ้าย พวงมาลัยขวาเหมือนเมืองไทย
-ทำประกันภัย+ป้ายทะเบียนที่ด่านเบตง ฝั่งมาเลเซีย หน้าร้านขายลูกชิ้น
-ค่าประกัน600บาท ที่เหลือเป็นค่าป้ายทะเบียนภาษาอังกฤษและค่าอำนวยความสะดวกอีก200บาท
-คาเมรอนโค้งเยอะ ถนนกว้าง แต่ก็ยังแค่น้องๆของโค้งแม่สะเรียง แม่สอด โค้งภาคเหนือภาคใต้ของไทย
-คาเมรอนกลางวันรถติดหนักมาก
-คาเมรอนอากาศเย็นเหมือนเปิดแอร์กลางแดด 15-20องศาc
-ปีนังอาหารอร่อย มีทั้งอาหารจีน อินเดีย มาเล
-ปีนังร้อนและดำคล้ำง่ายเหมือนอยู่ภูเก็ต (ดำแดดจริงลองมาแล้ว)
-ใช้แผนที่นำทาง google map แบบoffline
-ใช้ซิมAIS2Fly เป็นinternet sim
-ใช้intercom ยี่ห้อ T-com คุยกับแฟนระหว่างเดินทาง ได้ยินเสียงดังฟังชัด ใช้ได้นานต่อเนื่องเกือบ10ชั่วโมง
พูดถึงรถม้าศึกคันนี้หน่อย...
"ข้อดี"
-Yamaha Aerox155 เหมาะใช้ออกทริปทางไกล แต่ก็จำเป็นต้องหาปั๊มน้ำมันทุก100โลเมื่อใช้ความเร็วสูง ซึ่งที่มาเลย์จะมีปั๊มน้ำมันทุกๆ80กิโลบนtoll way จึงไม่ได้เป็นอุปสรรค
-ใช้น้ำมันเบนซิน95ในมาเลเซียและE20ในเมืองไทย
-ใช้ระยะทางรวม 1157km.
-ใช้น้ำมันทั้งหมด 42ลิตร
-ค่าเฉลี่ยสิ้นเปลืองน้ำมัน 27.5km/ลิตร (เท่าๆตระกูล500cc.)
-คิดง่ายๆก็ตกกิโลเมตรละ0.93บาท(ถ้าคิดจากราคาน้ำมันE20ในประเทศไทย)
-มีช่องเสียบชาร์จไฟ12V. ทำให้ใช้GPSมือถือได้ต่อเนื่องนานๆ
-หน้าปัดมีฟังค์ชั่นเยอะ ทั้งวัดรอบเครื่อง จับระยะทาง มีvolt meter วัดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ไฟแสดงสถานะของวาล์วแปรผัน(vva) ทำให้ช่วยประเมินการขับขี่ได้สะดวกขึ้น สังเกตความผิดปกติของรถได้ง่ายขึ้น
-ความเร็วยืนพื้นบนหน้าปัด 105km/h (GPS 100km/h)
-ความเร็วเดินทางบนหน้าปัด 100-115km/h
-คนขี่+คนซ้อนน้ำหนักรวม127kg. สัมภาระอีกกว่า10kg. รวมloadแล้วราวๆ140kg.รถอืดมั้ย?? ตอบเลยว่าไม่อืดเลย ถึงมันจะยืนพื้นที่ทางราบได้ความเร็วบนหน้าปัดแค่105km/h(GPS 100km/h) ที่8500rpm แต่ถ้าเจอเนินความเร็วก็ไม่ลดเกิน100km/h(หน้าปัด) ที่เหลือไหลลงเนินได้สุดที่120km/h กล่องEcuก็ตัดหน้าทิ่มละ
-นั่งสบายยืนยันจากคนขี่และคนซ้อนท้าย ช่วงล่างไม่นิ่มเกินไป ไม่ย้วยดึ๋งๆๆ แต่ก็ยังไม่สู้หลุมลึกที่ความเร็วสูง กระแทกทีจุกเอาเรื่องเหมือนกัน
-คนซ้อนบอกว่าเบาะหลังสูงดี(สูงมาก)แต่ท่านั่งคันนี้ดีตรงที่มันไม่ต้องเอนตัวไปหาคนขับมากเหมือนทรงสปอร์ตจึงไม่เมื่อยหลังเวลาสะพายเป้
-ใต้เบาะเก็บสัมภาระได้เยอะมาก
-ถือว่าเข้าโค้งไม่ฝืนตัว ควบคุมรถง่ายระดับนึง แต่ยังพลิกรถได้ไม่ไวเท่าที่ควร
-เบรคหลังทื่อๆ เบรคไม่กินเท่าไหร่ แต่เบรคหน้าสมูทมาก เบรคกินดี (คันนี้รุ่นR versionไม่มีระบบเบรคเสริมabs) โดยรวมยังหยุด+ชะลอรถได้ดี เบรคแล้วไม่ได้รู้สึกเหนื่อย พอใจมาก
-จุดเด่นคือกำลังรถดีมาก ขึ้นดอยกำลังไม่มีตก ติดมือสุดๆ เจอเนินแล้วกระแทกคันเร่งมีแต่พุ่งๆๆๆ...ค่าน้ำมันหน่ะพุ่ง ฮาาาาา
-จะบอกว่ารถเกียร์ออโตตอนลงเขามันก็มีengine brakeนะ มีเยอะด้วย ไม่ได้บีบเบรคจนเมื่อยมือ
-ออกทริปไกลๆเช็คลมยางให้พอดี 29/33Psi เข้าโค้งปลอดภัยมีชัยไปกว่าครึ่ง
-aeroxคันนี้เป็นรถเดิมๆไม่เคยแกะเครื่องมาโมฯ ตรวจเช็คตามระยะทุกเดือน
"ข้อเสีย"
-Aeroxไม่มีbalanceโช๊คหน้า เวลาเข้าโค้งลงเขาความเร็วเกิน60จะเจออาการล้อหน้าส่าย รู้สึกได้ที่ปลายข้อมือ แฮนด์จะรู้สึกแกว่งนิดๆ แต่ยังควบคุมรถได้ ยังกระแทกคันเร่งเข้าโค้งได้ตามปกติ แค่มันจะรู้สึกหวิวๆ
-เป็นรถที่ทำบังโคลนหลังได้กากมาก ละอองน้ำฟุ้งข้ามหมวกกันน็อคคนซ้อนท้ายซะด้วย 555
-ไฟหน้าLEDสีขาวสว่างจ้า แต่ส่องไม่ไกล ทำให้มองกลางคืนลำบาก
-เวลาลงหลุมลึกที่ความเร็วสูงโช๊คจะยุบสุด ทำให้กระแทกแล้วจุก
-ไม่มีชิวล์บังลมสูงๆ คนขี่โต้ลมนานๆอาจเหนื่อยล้าได้ง่าย
-น้ำมันเครื่องระเหยไปบ้าง วัดระดับแล้วลดลงเหลือครึ่งก้าน แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ สีไม่ได้เปลี่ยนมาก แต่กำลังเครื่องไม่ได้ตก
สรุป...Yamaha Aerox155 เป็นรถอเนกประสงค์ นั่งสบายทั้งคนขี่คนซ้อน เหมาะกับการออกทริปไกลๆ บรรทุกหนักแต่แรงไม่ตก ระบบเบรคดี ช่วงล่างยังมีข้อจำกัดกับหลุมลึกที่ความเร็วสูง บังโคลนหน้า-หลังแย่ทำให้รถเลอะสุดๆ aeroxอาจจะขี่ได้ไม่เร็วมาก(มากสุดแค่120เท่าฮอนด้าเวฟ) แต่มันก็แรงแซงทุกเนิน ฮาาาาาา
ปล.เล่าเป็นประสบการณ์ให้อ่านกันเล่นๆ เราเป็นคนชอบขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยว คงไม่ได้เขียนเชียร์ให้ใครอยากซื้อรถรุ่นนี้เพราะว่าบทความนี้ยังไม่ได้ค่าคอมมิชชั่น 5555