สวัสดีค่ะ เราชื่อ ใหม่
เรื่องที่จะเล่าสู่กันฟังต่อไปนี้คืออยากให้อ่าน อยากให้ทุกคนใส่ใจและดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดี ถ้าไม่อยากนอนโรงพยาบาลอย่างไร้จุดหมายเช่นนี้
เข้าเรื่องเลยนะค่ะ เรื่องที่เกิดนี้ เกิดขึ้นกับตัวแฟนเรา แฟนเราอายุ 30 สูง 175 น้ำหนัก 130 นิดๆถือว่าอ้วนเลยก็ว่าได้ มีอาการปวดหลังติดต่อมาประมาณ 3-4 ปีได้ โดย ระยะเวลา 3-4 ปีที่ปวดเนี้ย หาซื้อยามาทานเอง เพราะแม่เคยอยู่ห้องจัดยาของโรงพยาบาลแห่งนึงมาก่อน เมื่อปวดเมื่อยหรือเจ็บปวดตรงไหนภายในร่างกาย ก็จะถามแม่นี้และว่าปวดตรงนี้ต้องกินยาอะไร ปวดอย่างนั่นต้องกินยาอะไร ก็ทำอย่างนี้มาตลอดๆๆๆ แต่มันมียาตัวนึง ที่ทานเพื่อลดอาการปวดและคลายกล้ามเนื้อที่แฟนเราจะทานมาตลอดแทบทุกวัน เพราะปวดหลัง ปวดเอว ปวดตามร่างกาย เพราะที่บ้านเปิดร้านอาหารเล็กๆๆ แต่ลูกค้าก็มีไม่เล็กเลยละ จึงทำให้แฟนเนี้ยคิดว่า อากาปวดหลังนั้นมาจากการขายอาหาร จากการทำงาน ก็จะซื้อยามาทานเองอย่างนี้ตลอด 3 ปีได้
จนมา 1 ปีคือตั้งแต่เมื่อปลายปี 59 หรือต้นปี 60 เริ่มทานยาแบบ ทุกคืนก่อนนอน เพราะปวด แต่ไม่เคยไปพบแพทย์นะค่ะ ถ้าวันไหนปวดมากๆ ก็จะไปนวด นวดแพทแผนไทยในโรงพยาบาล บวกกับแฟนเราเนี้ยตัวใหญ่ หมอนวดเลยจำเป็นต้องขึ้นไปเหยียบทั้งตัวหมอนวดค่ะ เราก็เข้าใจหมอนวดนะ ว่าเออแรงกดคงไม่ถึงเส้น ต้องขึ้นไปทั้งตัว( อันนี้ไม่ได้ว่าอาชีพหมอนวดนะค่ะ) การไปโดนเหยียบนวดทั้งตัวจึงเป็นสาเหตุกระตุ้นการอัพเสพของการปวดหลังค่ะ มันระบมไปทั้งตัว มันปวดช่วงหลัง จนสามีนอนไม่ได้ก็ไปหาหมอ คุณหมอก็ตรวจตามอาการที่ปวด และก็จ่ายยามาตามอาการ เป็นเวลา 2 อาทิตคืออาการมันทุเราแต่มันไม่หาย พอยาหมดการการเดิมๆก็กำเริบมาอีก จึงพาสามีไปคลีนิค คุณหมอก็รักษาตามอาการและต่อเนื่องนะค่ะ คือคุณหมอเนี้ยจะนัดไปฉีดยาต่อเนื่อง
3 วันค่ะ ดีขึ้นนะค่ะ แต่อยู่ดีๆอาการปวด เกรงไปทั้งตัวก็กลับมาอีก ผลสุดท้าย เรียกรถพยาบาลเลยค่ะ คือไม่ไหวแล้ว ปวดตลอดเวลา มันปวดแบบทุรน ทุราย สงสารแฟนมาค่ะ พอมาถึงโรงพยาบาลคุณหมอบอกเป็นกล้ามเนื้ออักเสพเชียบพลัน ให้นอนโรงพยาบาล
เดี่ยวมาต่อนะค่ะ
สุขภาพที่ไม่แน่นอน กับการนอนโรงพยาบาลแบบไร้จุดหมาย
เรื่องที่จะเล่าสู่กันฟังต่อไปนี้คืออยากให้อ่าน อยากให้ทุกคนใส่ใจและดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดี ถ้าไม่อยากนอนโรงพยาบาลอย่างไร้จุดหมายเช่นนี้
เข้าเรื่องเลยนะค่ะ เรื่องที่เกิดนี้ เกิดขึ้นกับตัวแฟนเรา แฟนเราอายุ 30 สูง 175 น้ำหนัก 130 นิดๆถือว่าอ้วนเลยก็ว่าได้ มีอาการปวดหลังติดต่อมาประมาณ 3-4 ปีได้ โดย ระยะเวลา 3-4 ปีที่ปวดเนี้ย หาซื้อยามาทานเอง เพราะแม่เคยอยู่ห้องจัดยาของโรงพยาบาลแห่งนึงมาก่อน เมื่อปวดเมื่อยหรือเจ็บปวดตรงไหนภายในร่างกาย ก็จะถามแม่นี้และว่าปวดตรงนี้ต้องกินยาอะไร ปวดอย่างนั่นต้องกินยาอะไร ก็ทำอย่างนี้มาตลอดๆๆๆ แต่มันมียาตัวนึง ที่ทานเพื่อลดอาการปวดและคลายกล้ามเนื้อที่แฟนเราจะทานมาตลอดแทบทุกวัน เพราะปวดหลัง ปวดเอว ปวดตามร่างกาย เพราะที่บ้านเปิดร้านอาหารเล็กๆๆ แต่ลูกค้าก็มีไม่เล็กเลยละ จึงทำให้แฟนเนี้ยคิดว่า อากาปวดหลังนั้นมาจากการขายอาหาร จากการทำงาน ก็จะซื้อยามาทานเองอย่างนี้ตลอด 3 ปีได้
จนมา 1 ปีคือตั้งแต่เมื่อปลายปี 59 หรือต้นปี 60 เริ่มทานยาแบบ ทุกคืนก่อนนอน เพราะปวด แต่ไม่เคยไปพบแพทย์นะค่ะ ถ้าวันไหนปวดมากๆ ก็จะไปนวด นวดแพทแผนไทยในโรงพยาบาล บวกกับแฟนเราเนี้ยตัวใหญ่ หมอนวดเลยจำเป็นต้องขึ้นไปเหยียบทั้งตัวหมอนวดค่ะ เราก็เข้าใจหมอนวดนะ ว่าเออแรงกดคงไม่ถึงเส้น ต้องขึ้นไปทั้งตัว( อันนี้ไม่ได้ว่าอาชีพหมอนวดนะค่ะ) การไปโดนเหยียบนวดทั้งตัวจึงเป็นสาเหตุกระตุ้นการอัพเสพของการปวดหลังค่ะ มันระบมไปทั้งตัว มันปวดช่วงหลัง จนสามีนอนไม่ได้ก็ไปหาหมอ คุณหมอก็ตรวจตามอาการที่ปวด และก็จ่ายยามาตามอาการ เป็นเวลา 2 อาทิตคืออาการมันทุเราแต่มันไม่หาย พอยาหมดการการเดิมๆก็กำเริบมาอีก จึงพาสามีไปคลีนิค คุณหมอก็รักษาตามอาการและต่อเนื่องนะค่ะ คือคุณหมอเนี้ยจะนัดไปฉีดยาต่อเนื่อง
3 วันค่ะ ดีขึ้นนะค่ะ แต่อยู่ดีๆอาการปวด เกรงไปทั้งตัวก็กลับมาอีก ผลสุดท้าย เรียกรถพยาบาลเลยค่ะ คือไม่ไหวแล้ว ปวดตลอดเวลา มันปวดแบบทุรน ทุราย สงสารแฟนมาค่ะ พอมาถึงโรงพยาบาลคุณหมอบอกเป็นกล้ามเนื้ออักเสพเชียบพลัน ให้นอนโรงพยาบาล
เดี่ยวมาต่อนะค่ะ