สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้ที่สอง ที่เขียนขึ้น สำหรับคนชอบท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ ทะเลๆ ป่าๆ แบบแพคแพ็กไปคนเดียว เน้นถูก ชิล วิวสวย เหมือนเดิมครั้งนี้เรามาที่ “เกาะหมาก” ค่ะ
“เกาะหมาก” เป็นเกาะในจังหวัดตราด อยู่ระหว่าง เกาะช้างกับเกาะกูด ห่างจากฝั่งประมาณ 38 กิโลเมตร มีพื้นที่ 9,000 ไร่ มีรูปร่างคล้ายดาวสี่แฉก มีความยาวชายหาด 27 กม. มีชายหาด ที่สวยงามเหมาะแก่การไปเดินเล่น ถ่ายรูป เล่นน้ำ หรือดำน้ำรอบๆเกาะได้สบายมาก และใกล้กันยังมีเกาะเล็กๆ ต่างๆ ที่เราสามารถพายเรือคายัค หรือนั่งเรือไปเที่ยวได้ เช่น เกาะขาม เกาะกระดาษ และเกาะผี
สำหรับใครที่ชื่นชอบ การเที่ยวเกาะ ชอบทะเลใส ฟ้าสวย แบบสโลไลฟ์ คนน้อย บรรยากาศดี ที่พักถูก ต้องที่นี่ “เกาะหมาก” ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก นะคะ
DAY 1 การเดินทาง
ขึ้นชื่อว่าเที่ยวคนเดี่ยวแล้ว แถมไม่มีรถส่วนตัวอีก 555 ก็ต้องพึ่งรถโดยสาร ในการเดินทาง สิจ๊ะ โดยเราต้องเดินทางไปที่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด เพื่อไปขึ้นเรือ สปีดโบ๊ท เพื่อข้ามไปยังเกาะหมาก นั่นเอง ซึ่งตรงนี้บอกเลย สำหรับคนที่มาครั้งแรก มันก็จะ งง งง หน่อย ค่ะ เพราะแหลมงอบ มีท่าเรือหลายที่
ทั้งท่าเรือไป เกาะช้าง และเกาะหมาก คำว่า “ท่าเรือแหลมงอบ” ไม่ได้มีท่าเดียว นะจ๊ะ อิอิ
ขาไป เราเดินทางโดย รถของ บขส. หรือ 999 ที่ทุกคนรู้จัก เส้นทาง กรุงเทพ-ตราด(แหลมงอบ) ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 5.5 ชม.(ถือว่าเร็วนะนี่ เดินทางกลางวัน) โดยเราไปรถเที่ยว 7.45 น.(รถไป อ.แหลมงอบ จ.ตราด ของ บขส.นี้ มี2 เที่ยว นะคะ คือ รอบ 7.45 กับ 9.00 น.หากขึ้นที่ เอกมัย)
จากภาพ คือบรรยากาศ ในรถจ้า แอร์เย็น นั่งสบาย ห้องน้ำสะอาด เบาะกว้าง ที่วางขานี่แทบจะลงไปนอนได้เลย คือประทับใจมากค่ะ สำหรับ รถของ บขส. สาย ตะวันออก นี้
และแล้วเราก็มาถึง จุดจอดรถ ของ บขส.ที่ อ.แหลมงอบ ละจ้า เค้าจอดที่ ท่าเรือCenter Point ซึ่งเป็น ท่าเรือเฟอร์รี่ ที่จะไปเกาะช้าง ซึ่งเราไปเกาะหมาก ไม่ใช่ท่าเรือนี้แน่นอน ฮ่าๆ แต่ไม่ต้องมึนงง บอกคนแถวนั้นว่าจะไปท่าเรือเกาะหมาก เค้ามีรถสองแถวบริการ ค่ารถคนละ 50 บาทค่ะนั่งไปท่าเรือสปีดโบ๊ทเกาะหมาก ซึ่งอยู่ห่างออกไป ประมาณ 5 km. (ขึ้นรถ ลงรถ ต่อรถ เพื่อลงเรือ)
ภาพบริเวณจุดลงรถ ที่ท่าเรือ เซนเตอร์พอย ค่ะ
นั่งรถสองแถวมาสักพัก ถึงละจ้า ท่าเรือที่แท้ทรูของเรา “ท่าเรือสปีดโบ๊ทไปเกาะหมาก” เย่ เย่ !!
บริเวณท่าเรือเกาะหมากเรานั้น มีเรือให้บริการหลายเจ้า เลยล่ะ มีทั้งไปทั้งเกาะช้าง เกาะหมาก และ เกาะหวาย ด้วยน๊า (อุ๊ปนิสส บริเวณท่าเรือไม่มีห้องน้ำ นะจ๊า แต่มีที่ๆเราจะไปได้คือ ตามร้านอาหาร แถวๆนั้น อิอิ) และนี่คือภาพบริเวณท่าเรือ
จขกท.มาถึง ประมาณบ่าย2 ซึ่งเรือที่ เราจะไปคือ 4 โมงเย็นจ้า 555 มันนานใช่มั้ยละ รอเหนื่อยเลยสิ ไม่ค่ะ ไม่เหนื่อย เรามาเพื่อการนี้แหล่ะ อิอิ
คำถามคือ แล้วจะทำอะไรต่อ ระหว่างรอเรือ ..เห็นนั่นหรือไม่ หอคอยสูงๆ อยู่ไกลๆนั่น นั่นแหล่ะค่ะ ที่ฆ่าเวลาของเรา อิอิ
(ภาพที่จริงไกลมาก แต่ซูมค่ะ)
ประภาคารแหลมงอบ ซึ่งอยู่ถัดจาก ท่าเรือสปีดโบ๊ทไม่เกิน 2 Km เราจะเดินมาก็ได้ หรือ จ้างรถมอเตอร์ไซค์ แถวนั้น ค่ารถ20 ไปกลับ 40 บาท แถวนี้คือแลนด์มาร์คของคนแถวนี้เลย มีทั้งร้านอาหาร จุดชมวิว จุดถ่ายรูป คือใครมา ตราดแล้ว ไม่ได้มาที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึง อ่ะจ้า “สุดแผ่นดินตะวันออก”
อ่ะ ขอเซลฟี่เอง สักรูป 555
ถ่ายรูปเป็นที่น่าพอใจแล้ว ก็กลับจ้า กำลังจะกลับไปที่ท่าเรือสปีดโบ๊ท เพื่อขึ้นเรือ รอบ 4 โมงเย็น ให้ทัน แต่ชีวิตตื่นเต้นเหลือเกิน555 แบตมือถือ หมดจ้า แถมแบตสำรอง ก็เสียบไฟไม่เข้า ซะงั้น แล้วมันมาเสียอะไรตอนนี้เนี่ย แต่ดีหน่อยค่ะ เจอคุณลุงใจดี แกขายปลาแห้ง อยู่แถวนั้น เลยขอยืมโทรศัพท์ โทรเรียกคนมารับไปขึ้นเรือทันเวลาพอดี (น้ำใจคนไทย มีอยู่ทุกที่จริงๆ แอบตื้นตัน ยิ้มๆ ^_^
ได้เวลาแล้วขึ้นเรือแล้วจ้า 16.00 น ตรงแป๊ะ นี่คือเรือที่เราจะไป เกาะหมาก กันจ้า เราใช้บริการเรือของ “ปาหนันสปีดโบ๊ท” นะคะ เพราะว่าเรือนี้ จะขึ้นที่ท่าเรือหน้า รีสอร์ท ที่เราจะไปพักพอดี สบายจริมๆ (ชื่อท่าเรือเกาะหมากรีสอร์ท นะค๊ะ แต่รีสอร์ทที่เราไปพัก ชื่อ “พรหมภักดีรีสอร์ท” ซึ่งอยู่ข้างๆ เกาะหมากรีสอร์ท นั่นล่ะ พื้นที่ตรงนี้ ทำเลดียังไง น่าไปแค่ไหน สะดวกยังไง เด๋วเล่าให้ฟังค่ะ)
ภาพเรือค่ะ เป็นสปีดโบ๊ทขนาดใหญ่ นั่งสบาย
นี่คือบรรยากาศในเรือ นะคะ มีแต่ฝรั่ง นทท.ต่างชาติ มีคนไทยไม่กี่คนเองค่ะ และเราก็มาเดี่ยวขอฉายเดี่ยว นั่งหลังสุด ขอชมวิวแล้วกันเน๊อะ
นั่งเรือมาประมาณ 45 นาที ถึงแล้วจ้า “เกาะหมาก” ยามเย็นคลื่นลมสงบ เงียบ เป็นเกาะสวรรค์ที่แท้ทรู และนี่คือ ภาพ เมื่อมาถึงเกาะ แช๊ะภาพหน่อย นิสนึง
เมื่อมาถึงท่าเรือที่เกาะ ก็มีคนของรีสอร์ท มารอรับ แล้วเหมือนน้อง(คนที่มารับ) เค้ามีเซนส์มาก เข้ามาถามเราว่า พรหมภักดี ใช่มั้ยครับ โป๊ะจริงๆ มันคือใช่เลย 555 เหมือนรู้เลย ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน และเราก็ไม่ได้ เอ่ยปากอะไรก่อนด้วย ก็งงๆ หน่อยค่ะ
หลังจาก เช็คอิน เรียบร้อยแล้ว ขอจัดน้ำแตงโมปั่นก่อนเลย เนื่องจากหิวน้ำมาก 555 ข้างล่างนี่คือ รูปภายใน และ บรรยากาศรอบๆ ที่พัก นะคะ จขกท.เลือกพักห้องพัดลมค่ะ มาคนเดียวดังนั้น ขอแบบชิลๆ นอนสบาย ราคาประหยัด จ้า โดยราคาห้องพักอยู่ที่ 800บ./คืน พัก2คืน 1600 เท่านั้น เราจองในอโกด้า นะคะ หรือถ้าใครจะโทรจองก็ได้ เด๋วให้เบอร์ไว้ท้ายกระทู้นะจ๊ะที่รัก ^_^
เอามุมกว้างบ้างนะ
ขอชมที่พักหน่อยนะคะ คือเป็นที่พัก แบบสบายๆ ชิลๆ เหมาะกับคนไม่เรื่องมาก แบบ จขกท.นะ มาทะเลมาพักผ่อน ทีวี ตู้เย็น อะไรนั้นไม่จำเป็นสำหรับเราเลยค่ะ ดังนั้นถ้าใครจะมาพักที่นี่เรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน คุณลืมไปเลย ค่ะ แต่ ที่นี่สะอาดมากกกกกก จริงๆนะคะ คือมีมาตรฐาน โรงแรมเลย มีเครื่องใช้ในห้องน้ำ มีผ้าปูพื้นหน้าห้องน้ำ พรมรองทรายหน้าห้อง คือเคยไปบังกะโล ที่เกาะกูด แพงกว่านี้ แต่สู้ที่นี่ไม่ได้บอกเลยค่ะ จริงๆ ค่ะ ชื่นชมมากที่นี่ “พรหมภักดีรีสอร์ท”
หลังจากเคลียร์ตัวเองเสร็จอาบน้ำ เก็บภาพเรียบร้อยก็ได้เวลาอาหารค่ำแล้วจ้า ที่รีสอร์ทนี้มีร้านอาหาร และบาร์ภายในรีสอร์ท นะคะไม่ต้องไปแสวงหาไกล อาหารอร่อยค่ะ ส่วนเรื่องเครื่องดื่ม จขกท. เลือกค๊อกเทลคือมันดีงามมากกกกกก (ก.ล้านตัวอีกแล้ว 555)
ภาพบรรยากาศ ร้านไทยสบายบาร์ ที่พรหมภักดีรีสอร์ท ค่ะ จขกท.นั่งโต๊ะหน้าหาดเลยจ้า 55
และนี่คือ สิ่งที่ จขกท.ชอบเหลือเกิน ในแก้วนี้ ชื่อว่า “Malibu Pineapple” +Vodka2 ร้อนๆวูบๆกำลังดี 555 อร่อยจริงๆค่ะ อยากให้มาลองกัน
จบมื้อค่ำ อิ่มหมีพลีมัน ก็ถ่ายรูปเล่นซะหน่อยและนี่คือบรรยากาศตอนกลางคืนบริเวณรีสอร์ทเราค่ะ เงียบสงบ เป็นส่วนตัว และโรแมนติก มากนะจ้า พูดเลย แต่มาคนเดียวจะไปเอาความโรแมนติก จากไหนกันล่ะ 555 เศร้าเน๊อะ (และก็จบวันแรก ไปแบบมีนๆ)
DAY 2 ออกไปลั้ลลา ตะลุยเดียว เที่ยวบนเกาะ
วันที่2 นี้ รูปเยอะแน่ๆ อย่าเพิ่งเบื่อ กันก่อน นะค๊ะ มาเที่ยวครั้งนี้มีจุดพีค บ่อยมาก แต่ก็ไม่หวั่น เก็บภาพมาให้ชมกันวนไป
เริ่มที่อาหารเช้า ขอทานข้าวหนักๆไว้ก่อน (อาหารเช้าไม่ฟรีนะคะ)มื้อเช้ากับ ข้าวผัดกุ้งแสนอร่อย ทานให้อยู่ท้อง เพื่อตะเวนถ่ายรูปในที่ที่เรา โฟกัสไว้ให้ทั่ว อิอิ หรือใครอยากกินร้านอื่น รีสอร์ทข้างๆ ก็มีร้านอาหารค่ะ มีบาร์แล้วก็ Coffee shop ด้วยนะ
เป็นข้าวเช้าที่ กินบรรยากาศด้วย 555
ทานอาหารเช้าเรียบร้อยก็ ตะเวนสำรวจ กันเล๊ยยย โดยที่แรกก็คือ บริเวณหาดอ่าวสวนใหญ่ นี่แหล่ะค่ะ เป็นที่ตั้งรีสอร์ทที่เราพัก และยังมีรีสอร์ทอีก 3 รีสอร์ท อยู่ข้างเคียงกันคือ แฮปปี้เดย์ รีสอร์ท เกาะหมากรีสอร์ท และ ซีวาน่า บีช รีสอร์ท บอกเลยว่า ทำเลตรงหาดนี้ดีมาก ตรงที่ มีจุดบริการเรือข้ามไปยังเกาะขาม ซึ่งเป็นเกาะส่วนตัวอยู่ใกล้ๆ เค้าว่ากันว่าทรายขาวละเอียดมาก ดำน้ำดูปะการังและมีทะเลแหวกเล็กๆช่วงน้ำลดเดินถ่ายรูปได้สวยมาก แต่ จขกท.ไม่ได้ไป นะคะ น่าเสียดายมาก เวลาไม่พอ กลับมาขึ้นเรือไม่ทันรอบสุดท้าย เพราะมัวแต่ขับรถเล่นทั่วเกาะ นี่แหล่ะค่ะ
นี่คือเกาะขามค่ะ อยู่ใกล้นิดเดียวเอง
และนี่คือภาพรอบๆ ที่พักเรา และรีสอร์ทอื่นๆ ข้างเคียง ก็เดินไปเรื่อย เกือบ2 กิโล ตามระยะของหาดเลย ว้าวว
ห้องพักค่ะ ห้องเบอร์4 จำไว้นะคะ เบอร์4 พัดลมวิวดี
ห้องข้างหน้านั่นคือห้องแอร์ค่ะ อยู่หน้าหาดวิวสวยระดับล้านเลยจ้า
ชอบตรงนี้มีคลองเล็กๆ ในรีสอร์ทด้วย น่ามีเรือพายเน๊อะ
ภาพจากกล้อง Sony DSC H400 20 ล้านmp
จะดีแค่ไหน หากเปิดห้องมา เจอวิวแบบนี้ ว้าววว วิวจากระเบียงห้องพักค่ะ
ยังไม่จบ ติดตามต่อ คคห.2 นะคะ ^_^
[CR] เกาะหมาก ไปคนเดียวก็เที่ยวได้ สายชิล เน้นถูก
“เกาะหมาก” เป็นเกาะในจังหวัดตราด อยู่ระหว่าง เกาะช้างกับเกาะกูด ห่างจากฝั่งประมาณ 38 กิโลเมตร มีพื้นที่ 9,000 ไร่ มีรูปร่างคล้ายดาวสี่แฉก มีความยาวชายหาด 27 กม. มีชายหาด ที่สวยงามเหมาะแก่การไปเดินเล่น ถ่ายรูป เล่นน้ำ หรือดำน้ำรอบๆเกาะได้สบายมาก และใกล้กันยังมีเกาะเล็กๆ ต่างๆ ที่เราสามารถพายเรือคายัค หรือนั่งเรือไปเที่ยวได้ เช่น เกาะขาม เกาะกระดาษ และเกาะผี
สำหรับใครที่ชื่นชอบ การเที่ยวเกาะ ชอบทะเลใส ฟ้าสวย แบบสโลไลฟ์ คนน้อย บรรยากาศดี ที่พักถูก ต้องที่นี่ “เกาะหมาก” ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก นะคะ
DAY 1 การเดินทาง
ขึ้นชื่อว่าเที่ยวคนเดี่ยวแล้ว แถมไม่มีรถส่วนตัวอีก 555 ก็ต้องพึ่งรถโดยสาร ในการเดินทาง สิจ๊ะ โดยเราต้องเดินทางไปที่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด เพื่อไปขึ้นเรือ สปีดโบ๊ท เพื่อข้ามไปยังเกาะหมาก นั่นเอง ซึ่งตรงนี้บอกเลย สำหรับคนที่มาครั้งแรก มันก็จะ งง งง หน่อย ค่ะ เพราะแหลมงอบ มีท่าเรือหลายที่
ทั้งท่าเรือไป เกาะช้าง และเกาะหมาก คำว่า “ท่าเรือแหลมงอบ” ไม่ได้มีท่าเดียว นะจ๊ะ อิอิ
ขาไป เราเดินทางโดย รถของ บขส. หรือ 999 ที่ทุกคนรู้จัก เส้นทาง กรุงเทพ-ตราด(แหลมงอบ) ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 5.5 ชม.(ถือว่าเร็วนะนี่ เดินทางกลางวัน) โดยเราไปรถเที่ยว 7.45 น.(รถไป อ.แหลมงอบ จ.ตราด ของ บขส.นี้ มี2 เที่ยว นะคะ คือ รอบ 7.45 กับ 9.00 น.หากขึ้นที่ เอกมัย)
และแล้วเราก็มาถึง จุดจอดรถ ของ บขส.ที่ อ.แหลมงอบ ละจ้า เค้าจอดที่ ท่าเรือCenter Point ซึ่งเป็น ท่าเรือเฟอร์รี่ ที่จะไปเกาะช้าง ซึ่งเราไปเกาะหมาก ไม่ใช่ท่าเรือนี้แน่นอน ฮ่าๆ แต่ไม่ต้องมึนงง บอกคนแถวนั้นว่าจะไปท่าเรือเกาะหมาก เค้ามีรถสองแถวบริการ ค่ารถคนละ 50 บาทค่ะนั่งไปท่าเรือสปีดโบ๊ทเกาะหมาก ซึ่งอยู่ห่างออกไป ประมาณ 5 km. (ขึ้นรถ ลงรถ ต่อรถ เพื่อลงเรือ)
นั่งรถสองแถวมาสักพัก ถึงละจ้า ท่าเรือที่แท้ทรูของเรา “ท่าเรือสปีดโบ๊ทไปเกาะหมาก” เย่ เย่ !!
บริเวณท่าเรือเกาะหมากเรานั้น มีเรือให้บริการหลายเจ้า เลยล่ะ มีทั้งไปทั้งเกาะช้าง เกาะหมาก และ เกาะหวาย ด้วยน๊า (อุ๊ปนิสส บริเวณท่าเรือไม่มีห้องน้ำ นะจ๊า แต่มีที่ๆเราจะไปได้คือ ตามร้านอาหาร แถวๆนั้น อิอิ) และนี่คือภาพบริเวณท่าเรือ
จขกท.มาถึง ประมาณบ่าย2 ซึ่งเรือที่ เราจะไปคือ 4 โมงเย็นจ้า 555 มันนานใช่มั้ยละ รอเหนื่อยเลยสิ ไม่ค่ะ ไม่เหนื่อย เรามาเพื่อการนี้แหล่ะ อิอิ
คำถามคือ แล้วจะทำอะไรต่อ ระหว่างรอเรือ ..เห็นนั่นหรือไม่ หอคอยสูงๆ อยู่ไกลๆนั่น นั่นแหล่ะค่ะ ที่ฆ่าเวลาของเรา อิอิ
ประภาคารแหลมงอบ ซึ่งอยู่ถัดจาก ท่าเรือสปีดโบ๊ทไม่เกิน 2 Km เราจะเดินมาก็ได้ หรือ จ้างรถมอเตอร์ไซค์ แถวนั้น ค่ารถ20 ไปกลับ 40 บาท แถวนี้คือแลนด์มาร์คของคนแถวนี้เลย มีทั้งร้านอาหาร จุดชมวิว จุดถ่ายรูป คือใครมา ตราดแล้ว ไม่ได้มาที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึง อ่ะจ้า “สุดแผ่นดินตะวันออก”
ถ่ายรูปเป็นที่น่าพอใจแล้ว ก็กลับจ้า กำลังจะกลับไปที่ท่าเรือสปีดโบ๊ท เพื่อขึ้นเรือ รอบ 4 โมงเย็น ให้ทัน แต่ชีวิตตื่นเต้นเหลือเกิน555 แบตมือถือ หมดจ้า แถมแบตสำรอง ก็เสียบไฟไม่เข้า ซะงั้น แล้วมันมาเสียอะไรตอนนี้เนี่ย แต่ดีหน่อยค่ะ เจอคุณลุงใจดี แกขายปลาแห้ง อยู่แถวนั้น เลยขอยืมโทรศัพท์ โทรเรียกคนมารับไปขึ้นเรือทันเวลาพอดี (น้ำใจคนไทย มีอยู่ทุกที่จริงๆ แอบตื้นตัน ยิ้มๆ ^_^
ได้เวลาแล้วขึ้นเรือแล้วจ้า 16.00 น ตรงแป๊ะ นี่คือเรือที่เราจะไป เกาะหมาก กันจ้า เราใช้บริการเรือของ “ปาหนันสปีดโบ๊ท” นะคะ เพราะว่าเรือนี้ จะขึ้นที่ท่าเรือหน้า รีสอร์ท ที่เราจะไปพักพอดี สบายจริมๆ (ชื่อท่าเรือเกาะหมากรีสอร์ท นะค๊ะ แต่รีสอร์ทที่เราไปพัก ชื่อ “พรหมภักดีรีสอร์ท” ซึ่งอยู่ข้างๆ เกาะหมากรีสอร์ท นั่นล่ะ พื้นที่ตรงนี้ ทำเลดียังไง น่าไปแค่ไหน สะดวกยังไง เด๋วเล่าให้ฟังค่ะ)
เมื่อมาถึงท่าเรือที่เกาะ ก็มีคนของรีสอร์ท มารอรับ แล้วเหมือนน้อง(คนที่มารับ) เค้ามีเซนส์มาก เข้ามาถามเราว่า พรหมภักดี ใช่มั้ยครับ โป๊ะจริงๆ มันคือใช่เลย 555 เหมือนรู้เลย ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน และเราก็ไม่ได้ เอ่ยปากอะไรก่อนด้วย ก็งงๆ หน่อยค่ะ
DAY 2 ออกไปลั้ลลา ตะลุยเดียว เที่ยวบนเกาะ
วันที่2 นี้ รูปเยอะแน่ๆ อย่าเพิ่งเบื่อ กันก่อน นะค๊ะ มาเที่ยวครั้งนี้มีจุดพีค บ่อยมาก แต่ก็ไม่หวั่น เก็บภาพมาให้ชมกันวนไป
เริ่มที่อาหารเช้า ขอทานข้าวหนักๆไว้ก่อน (อาหารเช้าไม่ฟรีนะคะ)มื้อเช้ากับ ข้าวผัดกุ้งแสนอร่อย ทานให้อยู่ท้อง เพื่อตะเวนถ่ายรูปในที่ที่เรา โฟกัสไว้ให้ทั่ว อิอิ หรือใครอยากกินร้านอื่น รีสอร์ทข้างๆ ก็มีร้านอาหารค่ะ มีบาร์แล้วก็ Coffee shop ด้วยนะ
และนี่คือภาพรอบๆ ที่พักเรา และรีสอร์ทอื่นๆ ข้างเคียง ก็เดินไปเรื่อย เกือบ2 กิโล ตามระยะของหาดเลย ว้าวว
จะดีแค่ไหน หากเปิดห้องมา เจอวิวแบบนี้ ว้าววว วิวจากระเบียงห้องพักค่ะ
ยังไม่จบ ติดตามต่อ คคห.2 นะคะ ^_^
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น