แอ่วเมืองหนือคนเดียว 5 วัน 4 คืน Ep.1 (จากเชียงใหม่ - พะเยา - เชียงราย)

อมยิ้ม35สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์เที่ยวแบบแวะไปเรื่อยๆ เจอสถานที่ไหนน่าสนใจแวะเลย แบบเดินทางคนเดียว ขับรถคนเดียว กินข้าวคนเดียว นอนคนเดียว ฟังเสียงน้ำตกคนเดียว ยืมมองดูเขาคนเดียว นั่งจิบกาแฟคนเดียว ฯลฯ
เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมาผมได้แพลนสถานที่ท่องเที่ยว และว่างแพลนการเดินทางทั้งหมด ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกวันลาและวันหยุดไว้ ว่าจะเป็นช่วงไหน
ซึ่งผมได้แพลนไว้ว่า จะไปเที่ยวแบบไม่สนเพื่อน (เพื่อนมันลีลาเลยไปคนเดียวสะเลย) เป็นวันที่ 8/12/60 - 12/12/60
บอกก่อนเลยครับว่า ผมเป็นนิสิตจบใหม่ และทำงานแล้วหลังจากเรียนจบ (ยังไม่ถึงปีนะครับ แต่เกิน 6 เดือนแล้ว อมยิ้ม35)
เอาละครับ เรามาเข้าเรื่องเลยดีกว่า ผมจองตั๋วเครื่องบินของ AirAsia ไว้ครับ ไฟท์บิน 05.45 น. ของวันที่ 8/12/60 (ก็ตลกตัวเองเหมือนกันครับว่า จะจองเช้าไปไหน อมยิ้ม20) แต่จองไว้แล้วก็ต้องไปครับ ผมเลยตัดสินใจนั่งรถจากบางแสน เข้า กทม. ก่อน 1 วัน แล้วเพื่อเป็นการพักผ่อนเก็บพลังงานไว้สำหรับขับรถเลยตัดสินใจนอนหอน้องแถว ม.เกษตร ครับ ก่อนขึ้นเครื่อง ผมเลยตัดสินใจออกจากหอไปสนามบินตั้งแต่ ตี 3 เพื่อไปเช็คอิน รอขึ้นเครื่อง แล้วก็ไปหลับต่อที่สนามบิน อมยิ้ม12
ภาพตัดหลังจากขึ้นเครื่อง เพราะผมหลับมาตลอดทางเลยครับ หลับจนถึงเชียงใหม่เลยครับ
พอตื่นขึ้นมา แอบดูนาฬิกา ถึงกับช็อก อ้าว!! นี่มันเพิ่ง 6 โมงกว่า ๆ เองหรอว่ะ (คิดในใจ นัดรับรถตอน 8 โมงครึ่ง เอาไงต่อดีว่ะ งั้นนอนต่อที่สนามบินเชียงใหม่ละกัน) ผมเลยตัดสินใจนอนต่อที่สนามบินเชียงใหม่ รอให้พนักงานของบริษัทรถเช่าโทรติดต่อมา...

แต่อีกประมาณ 1 ชม. กว่าๆ พนักงานก็โทรมาปลุกให้ผมออกไปรับรถที่ประตู 1 ของสนามบิน ผมเลยลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตา เตรียมตัวรับรถ
ซึ่งผมเดินออกไปแบบงง ๆ คนไหนว่ะ พนักงานของบริษัทที่เราเช่า (เพราะด้านนอกของสนามบินมีพนักงานของบริษัทรถเช่าเยอะมากครับ) ผมเลยโทรไปหาคนมาส่งรถอีกครั้ง สุดท้ายก็เจอกันครับ ซึ่งการเช่ารถของผม เป็นการจองรถไว้ล่วงหน้าครับ ผมตามมาบริษัทเช่ารถที่ไม่ต้องวางมัดจำรถ จ่ายเฉพาะค่าเช่าและค่าประกัน (เป็นทริปแบบไม่มีบัตรเครดิต งบน้อย แถมถ้าวางเงินมัดจำคงไม่ได้ไปไกลขนาดนั้น หัวเราะ) ผมเลยตัดสินใจเช่ารถของ บริษัท Tcarrent รถเช่าเชียงใหม่ (ติดต่อไปที่เพจได้เลยนะครับเผื่อใครสนใจ) เป็นบริษัทที่ไม่ต้องวางเงินมัดจำใดๆ จ่ายแค่ค่าเช่ารถอย่างเดียว แถมเงินที่เราต้องการจะซื้อประกันก็แค่วันละ 100 บาทเท่านั้น เป็นประกันชั้น 1 ด้วยนะครับ ตอนแรกผมจองรถนิสสันมาร์ชไว้ในราคา วันละ 900 บาท/วัน (ซึ่งถูกมาก) แต่ทางบริษัทแจ้งเปลี่ยนรถให้ เนื่องจากนิสสันมาร์ช มีปัญหากับระบบเบรกครับ ซึ่งการเปลี่ยนในครั้งนี้ ผมจะไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่จ่ายค่ารถเท่ากับนิสสันมาร์ช เลยครับ แต่ได้เครื่องแรงกว่า ซึ่งรถที่ได้นั้นคือ...
นี่ละครับรถคู่ใจผม แถมพนักงานส่งรถใจดีมากๆครับ พูดจากภาษาถิ่น (อู้กำเมือง) จากนั้นเราก็ตรวจรถ เช็คสภาพ ดูความเรียบร้อย ดูรอยแผลเก่า แล้วก็ตกลงทำสัญญากันครับ
ได้รับรถแล้ว เราก็ต้องเติมพลัง เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้องครับ
เป็นร้านอาหารข้างทางแบบข้าวราดแกงครับ เพราะผมไม่เน้นกิน เน้นเที่ยวเท่านั้น อมยิ้ม17
เริ่มนับวัน Start 8/12/60 สถานที่แรกที่ผมตัดสินใจคือ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ซึ่งอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ และเดินทางสะดวก แถมเป็นการไหว้พระก่อนออกเดินทาง เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางด้วยครับ ลุยกันเลยยยย
ประมาณนี้ครับ ภาพที่เก็บมาฝากทุกท่าน
หลังจากนั้นผมมุ่งหน้าสู่จังหวัดพะเยาครับ โดยใช้เส้นทางที่ไปจังหวัดเชียงรายนิดหน่อยครับ
ผมก็ขับรถไปเรื่อย ๆ  ผมมองซ้าย มองขวา แล้วไปให้ทางเข้าสถานที่เที่ยวแห่งที่ 2 ครับ ทางเข้าน่าเข้ามากๆครับ มียักษ์ 2 ตัวเฝ้าประตู
และที่นั่นก็คือ เมืองวัฒนธรรมเวียงกาหลง เป็นสถานที่ ที่คนไม่ค่อยรู้จัก หรือแวะเข้ามาเยี่ยมชมเท่าไรครับ ผมชอบบรรยากาศจะคล้ายๆ ศูนย์ปฏิบัติธรรม สงบ รมรื่น อากาศเย็นสบาย แถมมีร้านกาแฟให้นั่งพักระหว่างการเดินทางอีกด้วยครับ
เรามาชมภาพสถานที่ของเมืองวัฒนธรรมเวียงกาหลงกันครับ
หลังจากเที่ยวชมเมืองเรียบร้อย ผมก็ขับรถต่อไปเรื่อยๆ บนเส้นทางสายเดิมครับ และหันมองป้ายของกรมทางหลวงแนะนำสถานที่เที่ยว ผมแอบไปเห็นชื่อๆหนึ่งที่น่าสนใจ แถมไม่ไกลจากเส้นทางที่เราจะไปมากนัก และสถานที่นั้นคือ วัดแสงแก้วโพธิญาญ จังหวัดเชียงรายนั่นเอง
ผมแวะกินข้าวที่นั่นด้วยครับ และถือว่าเป็นการยืดเส้นยืดสายไปในตัว เราไปชมความงดงามกันเลยครับ
หลังจากเติมพลังกับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งที่ 3 ที่เราแวะไปแล้ว ก็ออกเดินทางต่อ
แต่ขับไปเรื่อยๆครับ ผมก็สังเกตุป้ายบอกทาง อ้าว!!! นี้มันเลยทางที่จะต้องเลี้ยวไปเส้นทางจังหวัดพะเยาแล้วนี่หน่า
ผมเลยตัดสินใจวนรถกลับไปยังทางเดิม แล้วตัดสินใจใช้ Google map นำทางดีกว่า การที่จะเชื่อป้ายบอกทางละ และนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของเพื่อนร่วมทางของผมคนที่สองครับ หลังจากที่เพื่อนคนแรกของผมคือ บทเพลง ที่เปิดและร้องตามไม่ให้ผมหลับ 5555
พอตั้งสติได้ ผมก็กลับรถไปตามทางของ Google map และขับรถไปเรื่อย ๆ จนเกือบจะเข้าเขตจังหวัดพะเยา ซึ่งเส้นทางนั้นเป็นเส้นทางที่ต้องผ่านอุทยาน และภูเขามากมาย ผมขับไปจนมองไปเห็นป้ายของน้ำตกธารทอง และนี้ก็เป็นสถานที่ที่ 4 ของผมครับ ผมแวะไปเอามือ เท้า จุ่มน้ำเย็นๆ ที่น้ำตกธารทองสัก 10 นาที และเก็บภาพบรรยากาศมาฝากเล็กน้อยครับ
จากนั้นผมก็ออกเดินทางต่อไปเรื่อย ๆ และได้แวะถ่ายรูป สถานที่ที่ 5 นั่นก็คือ จุดชมวิวกว๊านพะเยา นั่นเอง
และนี้ก็เป็นสถานที่สุดท้ายของผม และได้คิดชื่อทริปนี้ว่า "แวะไปเรื่อยทริป" นั่นเองครับ
ผมได้ขับรถต่อไปชมเมืองพะเยา และแวะกินข้าวแถวๆ กว๊านพะเยา ซึ่งเป็นสวนสาธารณะของคนเมืองพะเยา บรรยากาศเย็นสบาย ริมหนองน้ำขนาดใหญ่ ได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนที่ออกมาวิ่ง เต้น ร้อง และรำกันครับ
และคืนแรกที่ผมเข้าพัก เป็นโรงแรมแถวหน้าม.พะเยาครับ ชื่อโรงแรมว่า PM Place Hotel.
แวะไปเรื่อยทริปต้องขอตัวจบ EP.1 ลงไว้แต่เพียงเท่านี้นะครับ รอติดตามตอนต่อไปได้เลยนะครับ พระจันทร์ เม่าออกรถ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่