คดีแพ่งที่เราไม่ได้ก่อ ทำอย่างไรดีครับ (คนโง่ ยอมเป็นเหยื่อของคนที่โง่กว่า)

เรื่องมีอยู่ว่า เพื่อนเปิดบริษัท เป็นเจ้าของบริษัท และมาขอให้เราช่วยเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม อีกคน (ลงนามสองคน) อยู่มาวันนึง มาบอกว่า ต้องการเอาเช็คไปแสดงให้นายหน้าที่จะส่งงานให้เราดู เพื่อเตรียมจ่ายค่านายหน้าเพื่อรับงานให้ผมเซ็นเช็คให้ สองใบ ให้ผมเซ็นเช็ครอไว้ 1 ชื่อ ส่วนตัวเค้าจะยังไม่เซ็นจนกว่า จะได้งาน ด้วยความไว้ใจก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่ง ธนาคารโทรมาว่า เช็คเด้ง ความจึงแตก ว่า เพื่อนผมเอาเช็คสองใบนั้นไปค้ำประกันเงินกู้ในนามส่วนตัว คือตัวเองไปกู้เงินแล้วเอาเช็คไปค้ำประกันไว้ โดยที่เราไม่รู้เรื่อง สุดท้ายผู้เสียหายดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง และให้ผมเป็นพยาน เมื่อถึงวันขึ้นศาลเพื่อนผมยอมรับตามข้อกล่าวหาไปแล้ว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการผ่อนชำระ คดีอาญายังไม่จบ จนเวลาผ่านไปจะครบปี ก็มีหมายศาลคดีแพ่งมาที่ผม เป็นคดีตั๋วเงิน อ้างถึงเช็ค 2 ใบที่มีลายเซ็นผม และสัญญาเงินกู้ของเพื่อนที่ระบุเลขที่เช็คในสัญญาด้วย ไม่คิดว่า การไว้ใจคน การช่วยเหลือคน จะสร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองขนาดนี้
(จริงๆแล้วมีเช็คอีก 2 ใบที่เซ็นออกไปเป็นค่าจ้าง แต่ก็โดนเพื่อนผมโกหกว่าจะมีเงินเข้าแน่นอน สุดท้ายไม่มีเงินเข้า ผมต้องออกเงินตัวเองเพื่อชำระยอดเช็ค 2 ใบนั้นไปด้วย วิกฤตนี้ ทำเอาเงินเก็บผมทั้งชีวิตหมดไปเลยทีเดียว ช่วงที่โดนฟ้องฉ้อโกง ผมก็ต้องออกเงินประกันตัวให้อีก เพราะไม่ช่วยมันก็คงติดคุก) ตอนนี้ได้แต่หวังว่า สักวันมันคงหาเงินมาคืนเราได้ ถึงแม้จะเป็นความหวังที่เลือนลางเหลือเกิน
สรุปท่านใดทีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ หรือผู้รู้ ช่วยแชร์หรือ ให้คำแนะนำ หาทางออกในการสู้คดีให้หน่อยครับ ตัวเพื่อนผมคงต้องยอมรับในสิ่งที่เค้าทำ ทำอย่างไรที่ผมจะหลุดจากคดีนี้ได้บ้างครับ
ปล ตอนเกิดเรื่อง ผมได้ลงบันทึกประจำวันไว้ ว่า เช็คทั้งสองใบที่มีการเอาไปใช้ ผมถูกหลอกให้เซ็นและไม่รู้เรื่องกับการเอาไปใช้ ส่วนหลักฐานอีกอันที่ยืนยันว่า ผมไม่รู้เห็นด้วยคือ คำให้การที่เป็นพยาน เมื่อตอนผู้เสียหายฟ้องข้อหาฉ้อโกง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่