
สวัสดีค่ะ
นี่เป็นกระทู้แรกของเรา
อยู่ดีๆก็อยากจะมารีวิวการท่องเที่ยว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็มีโอกาสเที่ยวตลอด
ทริปนี้ก็เลยตั้งใจเก็บภาพและข้อมูลตั้งแต่เริ่มเดินทางจนจบเพื่อมาเขียนกระทู้ครั้งนี้ค่ะ
เราไปมาเมื่อช่วง2-3วันก่อน คือกลางเดือนธันวา
ทริปนี้ไปกันสองคนค่ะ มีเวลาน้อยแต่อยากเที่ยว
ก็เลยรีเสิร์ชหาข้อมูล ต้องบอกก่อนว่าจริงๆแล้วพ้อยท์แรกที่อยากไปคือ จ.น่าน
แต่เนื่องจากเวลาว่างของเรามีจำกัดค่ะ ก็เลยเปลี่ยนมาให้ใกล้กทม.มากขึ้น
ที่นี่ก็เป็นที่ๆได้อ่านรีวิวมามากเหมือนกัน นั่นก็คือ "สังขละบุรี" @กาญจนบุรีนั่นเอง
หลังจากบุ๊ควันและสถานที่แล้วก็เริ่มหาที่พักค่ะ
พวกเรายังเป็นนักศึกษากันอยู่เลยอยากจะเซฟคอร์ส
มีเป้าหมายไว้ว่าไม่เกินคืนละ1,500บาท
ซึ่งก็หาได้จริงๆค่ะแล้วก็ดีมากๆด้วย (รอติดตามต่อด้านล่างนะคะว่าที่ไหน ภูมิใจนำเสนอมั่กๆ)
ก่อนจะเริ่ม ขอให้ทุกคนเอ็นดูนักรีวิวมือใหม่คนนี้ด้วยนะคะ หากมีอะไรผิดพลาดต้องขอโทษด้วยจ้า
เอาล่ะ! ถึงวันเดินทางแล้ว ลุยกันเลย!

พวกเราเลือกเดินทางไป ต่อแรก! ย้ำนะว่าต่อแรก แต่อย่าเพิ่งท้อค่ะ คิดจะเที่ยวก็ต้องเอาให้เต็มที่
เราขึ้นรถไฟจากธนบุรีค่ะ เป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดจากบ้านเราค่ะ ถ้าอยู่ในกทมนะคะ
แล้วจุดลงก็คือกาญจนบุรีจ้า เป็นชื่อสถานีน้า แต่ใครอยากไปเล่นน้ำตกก็นั่งต่อไปสุดสายที่สถานีน้ำตกได้เลย
แต่ใครจะไปสังขละบุรี ยกมือขึ้น! แล้วตามมาต่อจ้า

ได้ตั๋วมาแล้ว ตั๋วแบบนี้จะไม่มีที่นั่งบอกนะคะ ใครนั่งก่อนได้ก่อนค่ะ อิอิ
รอบแรกคือ 7.50น. ค่ะ คิดว่าจะมาไม่ทันซะแว้วววววว
ราคาตั๋วสิริรวมแล้ว 25 บาทถ้วนค่ะ นั่งชิลๆชมวิวกันไป
คนเยอะเหมือนกันค่ะ ขนาดเป็นวันธรรมดา
แต่ไม่ต้องกลัวว่าต้องแย่งที่นั่งนะคะ เพราะมีที่นั่งเหลือๆเลยค่ะ

นั่งสักพักก็จะมีจนท.มาตรวจตั๋วค่ะ
บรรยากาศก็มีทั้งคนไทย วัยรุ่น เด็ก ผู้อาวุโส ร่วมเดินทางไปด้วยค่ะ
นอกจากนั้นก็มีชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งด้วยน้า

นั่งรถไฟไปชิลๆค่า จอดเทียบสถานีเกือบทุกสถานีที่ผ่าน
นั่งติดริมหน้าต่างก็ถ่ายรูปชิลๆกันไป
คุณป้าก็ยอมยิ้มให้ถ่ายโดยดี (จริงๆแกเห็นว่าถ่ายแต่แกทำเป็นมองไม่เห็น)
น่ารักจริงๆเยย ^ ^

หลังจากนั่งชิลๆไประหว่างทางแล้ว พอถึงเวลา 11.30 ก็ถึงสถานีกาญแล้วจ้า
จริงๆแอบเลทไป20นาที แต่ก็ไม่คิดมากๆ ชมวิวไปเพลินจิตายเนอะ
หลังจากลงจากรถไฟมาแล้ว เราก็เดินออกรถไฟไปหน้าสถานี ก็จะเจอลุงๆรถสองแถว
มารอรับรอถามว่าจะไปไหน ซึ่งจุดหมายต่อไปที่เราต้องไปก้คือ บขส.ค่ะ
ก็เลยขึ้นรถสองแถวซิ่งไปเลย ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลกันมากค่ะ ใช้เวลาไม่ถึง10นาที

เมื่อมาถึงบขส.กาญแล้ว เป็นเวลาเที่ยงพอดีค่ะ แดดแอบแรงมากเว่อ
ต่างคนก็ต่างหิว เลยอยากหาอะไรใส่ท้อง เหลือบไปเห็นป้ายร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำข้างๆบขส
ก็คือถ้าหันหน้าเข้าข้างหน้าบขส ร้านจะอยู่ฝั่งขวาค่ะ แนะนำนะอร่อยโพดๆ

อยากรู้ว่ารสชาติจะแซ่บอร่อยแค่ไหน ต้องมาลองนะคะ ราคาชามละ 35 ฿ มีน้ำหวานน้ำชงดับกระหายพร้อมเลย
ไปค่ะกินอิ่มแล้ว ไปขึ้นรถกันเถอะ!
เราเลือกจะขึ้นรถตู้ค่ะ เพราะสะดวกและรวดเร็ว
ท่ารถตู้จอดอยู่หลังบขส สังเกตได้ไม่ยาก
แค่เข้าบขสก็จะมีคนมาคอยแนะนำให้แล้วค่ะ

รถคันนี้จะเข้าที่สังขละบุรีเลยค่ะ
ค่ารถตู้คนละ 175 บาท ใช้เวลาเกือบสี่ชม จากตัวเมืองกาญถึงสังขละ
แต่ไม่ต้องกลัวรอรถนานนะคะ เพราะรถจะมาเทียบทุกๆ20นาทีจ้า
นั่งรถมาถึงสังขละแล้วจ้าาาาา โอ้โหววว นานจริงๆ
ระหว่างทางก็เป็นเขา ขับขึ้นเขาคดลดเลี้ยวประมาณนึงเลยอ่า
ใครขับรถมาเองต้องระวังด้วยน้า
หลังจากลงท่ารถตู้ของสังขละแล้วก็โทรหาพี่ที่รีสอร์ทให้มารับกันเลยจ้ะ

พี่ที่รีสอร์ทมารับแล้วค่าาาาาาา
จากท่ารถต้ถึงรีสอร์ทแทบจะไม่ถึง5นาที
แต่จะให้เดินไปก็ยังไงอยู่ค่ะ แดดแอบแรงทางแอบคดเคี้ยวเล็กน้อยๆ
และแล้ววว เราก็มาถึงที่พักในเวลา 5โมงเย็นจ้าาาาาาาาาาาาาาาา
ที่ๆเราไว้ใจมาเข้าพักด้วยในระยะเวลาสองคืนนี้ก็คือ
" ภูชมหมอกรีสอร์ท " นั่นเอ๊งงงงงงง
เป็นรีสอร์ทที่เพิ่งเปิดใหม่ไม่นาน และคนเข้าพักเต็มเกือบทุกวันในช่วงนี้
รีสอร์ทสวยมั่กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คือจากที่ได้ไปดูที่พักรอบๆแล้ว ที่นี้สวยสู้ได้เลยละจ้า
ไปดูภาพสวยๆกันเร้ยยย





ที่พักสวยขนาดนี้ราคาไม่แรงเลยนะค้า
เพียงคืนละ 1,500 เท่านั้น จัดไปเลยสองคืนค่า
สามารถเข้ามาเช็คอินได้ตั้งแต่บ่ายสองจ้าาา
ห้องที่เราเลือกพักคือห้อง ชมดาวค่ะ
จะพาไปดูห้องกันต่อนะค้าาาา






และนี่คือวิวที่เห็นจากระเบียงของห้องนะค้า

หลังจากเก็บของนอนแผ่แอร์พักผ่อนเสร็จก็เป็นเวลาเย็นแล้ว
ท้องก็เริ่มหิวอีกรอบแล้วค่า อิๆๆๆ เราเลยอยากออกไปหาไรกินสักหน่อย
พี่ที่รีสอร์ทแกเลยให้ยืมมอเตอร์ไซค์มาค่ะ แกใจดีมากๆบอกว่าขับไปแปปเดียวไม่เป็นไรน้องงง
เนื่องจากเรามาวันธรรมดาก็เลยไม่มีถนนคนเดิน
แต่ก็มีตลาดนัดเล็กๆ อยู่แถวท่ารถนะคะ มาเดินกันได้ค่ะคึกคักของกินเพียบเลย

ของที่มาแล้วอย่าลืมชิม ต้องมาลองให้ได้เลยนั่นก็คือ หมูจุ่ม ไม้ละ2บาทเท่านั้น

หมูจุ่มก็คือเมนูของชาวกระเหรี่ยง ที่เอาอวัยวะส่วนต่างๆของหมู ไม่ว่าจะเนื้อ ตับ หัวใจ กระเพราะ หนัง
มาเสียบไม้แล้วเอามาใส่หม้อตุ๋น ให้คนที่มาทานหยิบทานเองตามใจได้จ้าาา
เราก็เลยจัดกันไปคนละหลายๆไม้เลยจ้าาาาาาาา มีโต๊ะไม่เยอะนะ โต๊ะนึงก็นั่งกันหลายๆคน
เราได้นั่งร่วมโต๊ะกับแม่ลูกคู่นึง ใจดีมากๆเลย เขาเล่าว่าเจ้านี้อร่อยสุดแล้ว
ปกติวันที่มีถนนคนเดินจะมีเจ้าอื่นมาขาย เจ้าอื่นน้ำซุปจะเป็นน้ำพะโล้
แต่เจ้านี้เป็นน้ำขิงค่ะ พอเราได้ฟังก็ลองชิมดู อร่อยจริงๆด้วย ชุ่มคอมากๆเลยค่ะ
มีโอกาสมาลองนะคะ วันธรรมดาจะมีร้านเดียวในตลาดแหละจ้า
นอกจากนั้นในตลาดก็ยังมีขนมกระเหรี่ยงแปลกๆให้ลองด้วยค่ะ

เป็นขนมที่ทำจากข้าวเหนียวกับงาดำแล้วเวลากินต้องราดนมข้น ราคา20บาทเองช่วยอุดหนุนกันเนอะ
ถือว่าพอกินเป็นของหวานได้ค่ะ ใครไม่ชอบหวานๆเหนียวก็อาจจะไม่ค่อยอิน คริๆ
แต่กินแค่นี้จะพอหรอคะ ... แน่นอนค่ะ ว่าไม่พออออ
เรามากินฟูลคอร์สจัดเต็มกันที่ร้าน รุ่งอรุณค่ะ เป็นร้านใกล้ๆกับตลาดค่ะ
อยู่ตรงข้ามกับร้านศรีแดง ไม่ได้คาดหวังรสชาติอะไรมากมาย
เลยลองสั่งมาสองเมนูค่ะ คือต้มยำทะเล กับหมูกรอบทอดน้ำปลา
แต่ปรากฏว่าพอได้ชิมแล้วอร่อยมว้ากกกกกกกก โดยเฉพาะต้มยำให้สิบ สิบ สิบไปเลยจ้าาา
คือบอกเลยว่าไม่ได้กินต้มยำแบบนี้มานานแล้ววววว แล้วของทะเลก็สดมากๆด้วย
เลยลืมไปว่าแถวนี้อยู่ใกล้แม่นำ ของทะเลเลยอร่อยสดมากๆๆๆ

<< ต้องขอโทษด้วยนะค้าที่ไม่มีรูปสวยๆมาฝาก พอดีกินจนลืมถ่ายเลย >>
อร่อยจนซดหมดถ้วยเลยยย แต่ราคารวมข้าวอีกสองจาน เพียง 295 บาทเท่านั้นค่ะถือว่าคุ้มมากๆๆๆ
เอาล่ะอิ่มแล้วกลับรีสอร์ทนอนพักผ่อนกันดีกว่าจ้าาาา
DAY2
วันนี้ตื่นแปดโมงล้างหน้าแปรงฟัน(ยังไม่อาบน้ำ) ลงมากินข้าวเช้าของรีสอร์ทค่ะ
ที่นี่ค่าที่พักรวมค่าอาหารเช้าสองคนพร้อมเลยน้า ดี๊ดีใช่ม้าาา
อาหารก็หน้าตาดีนะคะ ต้องมาลองไข่กระทะด้วยเด้อ สุดแจ่มเลยล่ะ

เอาล่ะข้าวเช้าตกถึงท้อง ก็กลับมาอาบน้ำเตรียมตะลุยเมืองสังขละบุรีอย่างเต็มตัวววว
วันนี้เราก็ตัดสินใจเช่ามอไซค์ของทางรีสอร์ท 24ชม./200บาทเท่านั้นจ้า
ที่แรกที่เราจะแว๊นไปก็คือจุดชมวิวค่าาาาาา
ออกมาถนนใหญ่ผ่านสะพานซองกาเลียมาก็จะเจอป้ายบอก ไม่อยากเยยย

เป็นสะพานให้เดินดูก็จะพบวิวที่สวยงามของแม่น้ำจ้า


อิ่มกายอิ่มใจ สูดลมอากาศดีๆเสร็จแล้วเราก็ไปกันต่อที่ เจดีย์พุทธคยาค่ะ
ออกจากจุดชมวิวมาจะเจอป้ายบอกค่ะ ไม่ไกลจากกันมากจากจุดชมวิวเลยจ้า



รูปสวยแล้ว ที่จริงๆสวยและอลังการกว่ามากๆค่ะ
หลังจากเมาแดดก็เลยมาหาคาเฟ่นั่งแถวในตลาดค่ะ
ชื่อร้าน Blend Cafe อยู่หน้าตลาดหาไม่ยาก มีป้ายติดทั่วสังขละเลยจ้า
ร้านไม่ได้ตกแต่งอะไรมาก เน้นนั่งพักชิลๆสบายตาๆ
สั่งชาเขียวกับโกโก้มาแก้วละ 40 บาท นั่งอิ่มใจไปได้ช่วงนึง
<< ช่วงนี้ก็ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ เพราะพักก็คือพักจริงๆเพลียแดดนิสนุง >>
จิบน้ำแล้วมีแรงแล้ววววว ไปสู่จุดมุ่งหมายต่อไปของพวกเราก็คือออออ สะพานซองกาเลียกันเลยยย
= ต่อความคิดเห็นต่อไปนะค้าบ =
『❤ สังขละบุรี ❤』 3วัน2คืน ชิลไปตามใจ [ไม่มีรถไปก็ชิลได้]
นี่เป็นกระทู้แรกของเรา
อยู่ดีๆก็อยากจะมารีวิวการท่องเที่ยว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็มีโอกาสเที่ยวตลอด
ทริปนี้ก็เลยตั้งใจเก็บภาพและข้อมูลตั้งแต่เริ่มเดินทางจนจบเพื่อมาเขียนกระทู้ครั้งนี้ค่ะ
เราไปมาเมื่อช่วง2-3วันก่อน คือกลางเดือนธันวา
ทริปนี้ไปกันสองคนค่ะ มีเวลาน้อยแต่อยากเที่ยว
ก็เลยรีเสิร์ชหาข้อมูล ต้องบอกก่อนว่าจริงๆแล้วพ้อยท์แรกที่อยากไปคือ จ.น่าน
แต่เนื่องจากเวลาว่างของเรามีจำกัดค่ะ ก็เลยเปลี่ยนมาให้ใกล้กทม.มากขึ้น
ที่นี่ก็เป็นที่ๆได้อ่านรีวิวมามากเหมือนกัน นั่นก็คือ "สังขละบุรี" @กาญจนบุรีนั่นเอง
หลังจากบุ๊ควันและสถานที่แล้วก็เริ่มหาที่พักค่ะ
พวกเรายังเป็นนักศึกษากันอยู่เลยอยากจะเซฟคอร์ส
มีเป้าหมายไว้ว่าไม่เกินคืนละ1,500บาท
ซึ่งก็หาได้จริงๆค่ะแล้วก็ดีมากๆด้วย (รอติดตามต่อด้านล่างนะคะว่าที่ไหน ภูมิใจนำเสนอมั่กๆ)
ก่อนจะเริ่ม ขอให้ทุกคนเอ็นดูนักรีวิวมือใหม่คนนี้ด้วยนะคะ หากมีอะไรผิดพลาดต้องขอโทษด้วยจ้า
เอาล่ะ! ถึงวันเดินทางแล้ว ลุยกันเลย!
พวกเราเลือกเดินทางไป ต่อแรก! ย้ำนะว่าต่อแรก แต่อย่าเพิ่งท้อค่ะ คิดจะเที่ยวก็ต้องเอาให้เต็มที่
เราขึ้นรถไฟจากธนบุรีค่ะ เป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดจากบ้านเราค่ะ ถ้าอยู่ในกทมนะคะ
แล้วจุดลงก็คือกาญจนบุรีจ้า เป็นชื่อสถานีน้า แต่ใครอยากไปเล่นน้ำตกก็นั่งต่อไปสุดสายที่สถานีน้ำตกได้เลย
แต่ใครจะไปสังขละบุรี ยกมือขึ้น! แล้วตามมาต่อจ้า
ได้ตั๋วมาแล้ว ตั๋วแบบนี้จะไม่มีที่นั่งบอกนะคะ ใครนั่งก่อนได้ก่อนค่ะ อิอิ
รอบแรกคือ 7.50น. ค่ะ คิดว่าจะมาไม่ทันซะแว้วววววว
ราคาตั๋วสิริรวมแล้ว 25 บาทถ้วนค่ะ นั่งชิลๆชมวิวกันไป
คนเยอะเหมือนกันค่ะ ขนาดเป็นวันธรรมดา
แต่ไม่ต้องกลัวว่าต้องแย่งที่นั่งนะคะ เพราะมีที่นั่งเหลือๆเลยค่ะ
นั่งสักพักก็จะมีจนท.มาตรวจตั๋วค่ะ
บรรยากาศก็มีทั้งคนไทย วัยรุ่น เด็ก ผู้อาวุโส ร่วมเดินทางไปด้วยค่ะ
นอกจากนั้นก็มีชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งด้วยน้า
นั่งรถไฟไปชิลๆค่า จอดเทียบสถานีเกือบทุกสถานีที่ผ่าน
นั่งติดริมหน้าต่างก็ถ่ายรูปชิลๆกันไป
คุณป้าก็ยอมยิ้มให้ถ่ายโดยดี (จริงๆแกเห็นว่าถ่ายแต่แกทำเป็นมองไม่เห็น)
น่ารักจริงๆเยย ^ ^
หลังจากนั่งชิลๆไประหว่างทางแล้ว พอถึงเวลา 11.30 ก็ถึงสถานีกาญแล้วจ้า
จริงๆแอบเลทไป20นาที แต่ก็ไม่คิดมากๆ ชมวิวไปเพลินจิตายเนอะ
หลังจากลงจากรถไฟมาแล้ว เราก็เดินออกรถไฟไปหน้าสถานี ก็จะเจอลุงๆรถสองแถว
มารอรับรอถามว่าจะไปไหน ซึ่งจุดหมายต่อไปที่เราต้องไปก้คือ บขส.ค่ะ
ก็เลยขึ้นรถสองแถวซิ่งไปเลย ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลกันมากค่ะ ใช้เวลาไม่ถึง10นาที
เมื่อมาถึงบขส.กาญแล้ว เป็นเวลาเที่ยงพอดีค่ะ แดดแอบแรงมากเว่อ
ต่างคนก็ต่างหิว เลยอยากหาอะไรใส่ท้อง เหลือบไปเห็นป้ายร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำข้างๆบขส
ก็คือถ้าหันหน้าเข้าข้างหน้าบขส ร้านจะอยู่ฝั่งขวาค่ะ แนะนำนะอร่อยโพดๆ
อยากรู้ว่ารสชาติจะแซ่บอร่อยแค่ไหน ต้องมาลองนะคะ ราคาชามละ 35 ฿ มีน้ำหวานน้ำชงดับกระหายพร้อมเลย
ไปค่ะกินอิ่มแล้ว ไปขึ้นรถกันเถอะ!
เราเลือกจะขึ้นรถตู้ค่ะ เพราะสะดวกและรวดเร็ว
ท่ารถตู้จอดอยู่หลังบขส สังเกตได้ไม่ยาก
แค่เข้าบขสก็จะมีคนมาคอยแนะนำให้แล้วค่ะ
รถคันนี้จะเข้าที่สังขละบุรีเลยค่ะ
ค่ารถตู้คนละ 175 บาท ใช้เวลาเกือบสี่ชม จากตัวเมืองกาญถึงสังขละ
แต่ไม่ต้องกลัวรอรถนานนะคะ เพราะรถจะมาเทียบทุกๆ20นาทีจ้า
นั่งรถมาถึงสังขละแล้วจ้าาาาา โอ้โหววว นานจริงๆ
ระหว่างทางก็เป็นเขา ขับขึ้นเขาคดลดเลี้ยวประมาณนึงเลยอ่า
ใครขับรถมาเองต้องระวังด้วยน้า
หลังจากลงท่ารถตู้ของสังขละแล้วก็โทรหาพี่ที่รีสอร์ทให้มารับกันเลยจ้ะ
พี่ที่รีสอร์ทมารับแล้วค่าาาาาาา
จากท่ารถต้ถึงรีสอร์ทแทบจะไม่ถึง5นาที
แต่จะให้เดินไปก็ยังไงอยู่ค่ะ แดดแอบแรงทางแอบคดเคี้ยวเล็กน้อยๆ
และแล้ววว เราก็มาถึงที่พักในเวลา 5โมงเย็นจ้าาาาาาาาาาาาาาาา
ที่ๆเราไว้ใจมาเข้าพักด้วยในระยะเวลาสองคืนนี้ก็คือ
" ภูชมหมอกรีสอร์ท " นั่นเอ๊งงงงงงง
เป็นรีสอร์ทที่เพิ่งเปิดใหม่ไม่นาน และคนเข้าพักเต็มเกือบทุกวันในช่วงนี้
รีสอร์ทสวยมั่กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คือจากที่ได้ไปดูที่พักรอบๆแล้ว ที่นี้สวยสู้ได้เลยละจ้า
ไปดูภาพสวยๆกันเร้ยยย
ที่พักสวยขนาดนี้ราคาไม่แรงเลยนะค้า
เพียงคืนละ 1,500 เท่านั้น จัดไปเลยสองคืนค่า
สามารถเข้ามาเช็คอินได้ตั้งแต่บ่ายสองจ้าาา
ห้องที่เราเลือกพักคือห้อง ชมดาวค่ะ
จะพาไปดูห้องกันต่อนะค้าาาา
และนี่คือวิวที่เห็นจากระเบียงของห้องนะค้า
หลังจากเก็บของนอนแผ่แอร์พักผ่อนเสร็จก็เป็นเวลาเย็นแล้ว
ท้องก็เริ่มหิวอีกรอบแล้วค่า อิๆๆๆ เราเลยอยากออกไปหาไรกินสักหน่อย
พี่ที่รีสอร์ทแกเลยให้ยืมมอเตอร์ไซค์มาค่ะ แกใจดีมากๆบอกว่าขับไปแปปเดียวไม่เป็นไรน้องงง
เนื่องจากเรามาวันธรรมดาก็เลยไม่มีถนนคนเดิน
แต่ก็มีตลาดนัดเล็กๆ อยู่แถวท่ารถนะคะ มาเดินกันได้ค่ะคึกคักของกินเพียบเลย
ของที่มาแล้วอย่าลืมชิม ต้องมาลองให้ได้เลยนั่นก็คือ หมูจุ่ม ไม้ละ2บาทเท่านั้น
หมูจุ่มก็คือเมนูของชาวกระเหรี่ยง ที่เอาอวัยวะส่วนต่างๆของหมู ไม่ว่าจะเนื้อ ตับ หัวใจ กระเพราะ หนัง
มาเสียบไม้แล้วเอามาใส่หม้อตุ๋น ให้คนที่มาทานหยิบทานเองตามใจได้จ้าาา
เราก็เลยจัดกันไปคนละหลายๆไม้เลยจ้าาาาาาาา มีโต๊ะไม่เยอะนะ โต๊ะนึงก็นั่งกันหลายๆคน
เราได้นั่งร่วมโต๊ะกับแม่ลูกคู่นึง ใจดีมากๆเลย เขาเล่าว่าเจ้านี้อร่อยสุดแล้ว
ปกติวันที่มีถนนคนเดินจะมีเจ้าอื่นมาขาย เจ้าอื่นน้ำซุปจะเป็นน้ำพะโล้
แต่เจ้านี้เป็นน้ำขิงค่ะ พอเราได้ฟังก็ลองชิมดู อร่อยจริงๆด้วย ชุ่มคอมากๆเลยค่ะ
มีโอกาสมาลองนะคะ วันธรรมดาจะมีร้านเดียวในตลาดแหละจ้า
นอกจากนั้นในตลาดก็ยังมีขนมกระเหรี่ยงแปลกๆให้ลองด้วยค่ะ
เป็นขนมที่ทำจากข้าวเหนียวกับงาดำแล้วเวลากินต้องราดนมข้น ราคา20บาทเองช่วยอุดหนุนกันเนอะ
ถือว่าพอกินเป็นของหวานได้ค่ะ ใครไม่ชอบหวานๆเหนียวก็อาจจะไม่ค่อยอิน คริๆ
แต่กินแค่นี้จะพอหรอคะ ... แน่นอนค่ะ ว่าไม่พออออ
เรามากินฟูลคอร์สจัดเต็มกันที่ร้าน รุ่งอรุณค่ะ เป็นร้านใกล้ๆกับตลาดค่ะ
อยู่ตรงข้ามกับร้านศรีแดง ไม่ได้คาดหวังรสชาติอะไรมากมาย
เลยลองสั่งมาสองเมนูค่ะ คือต้มยำทะเล กับหมูกรอบทอดน้ำปลา
แต่ปรากฏว่าพอได้ชิมแล้วอร่อยมว้ากกกกกกกก โดยเฉพาะต้มยำให้สิบ สิบ สิบไปเลยจ้าาา
คือบอกเลยว่าไม่ได้กินต้มยำแบบนี้มานานแล้ววววว แล้วของทะเลก็สดมากๆด้วย
เลยลืมไปว่าแถวนี้อยู่ใกล้แม่นำ ของทะเลเลยอร่อยสดมากๆๆๆ
<< ต้องขอโทษด้วยนะค้าที่ไม่มีรูปสวยๆมาฝาก พอดีกินจนลืมถ่ายเลย >>
อร่อยจนซดหมดถ้วยเลยยย แต่ราคารวมข้าวอีกสองจาน เพียง 295 บาทเท่านั้นค่ะถือว่าคุ้มมากๆๆๆ
เอาล่ะอิ่มแล้วกลับรีสอร์ทนอนพักผ่อนกันดีกว่าจ้าาาา
DAY2
วันนี้ตื่นแปดโมงล้างหน้าแปรงฟัน(ยังไม่อาบน้ำ) ลงมากินข้าวเช้าของรีสอร์ทค่ะ
ที่นี่ค่าที่พักรวมค่าอาหารเช้าสองคนพร้อมเลยน้า ดี๊ดีใช่ม้าาา
อาหารก็หน้าตาดีนะคะ ต้องมาลองไข่กระทะด้วยเด้อ สุดแจ่มเลยล่ะ
เอาล่ะข้าวเช้าตกถึงท้อง ก็กลับมาอาบน้ำเตรียมตะลุยเมืองสังขละบุรีอย่างเต็มตัวววว
วันนี้เราก็ตัดสินใจเช่ามอไซค์ของทางรีสอร์ท 24ชม./200บาทเท่านั้นจ้า
ที่แรกที่เราจะแว๊นไปก็คือจุดชมวิวค่าาาาาา
ออกมาถนนใหญ่ผ่านสะพานซองกาเลียมาก็จะเจอป้ายบอก ไม่อยากเยยย
เป็นสะพานให้เดินดูก็จะพบวิวที่สวยงามของแม่น้ำจ้า
อิ่มกายอิ่มใจ สูดลมอากาศดีๆเสร็จแล้วเราก็ไปกันต่อที่ เจดีย์พุทธคยาค่ะ
ออกจากจุดชมวิวมาจะเจอป้ายบอกค่ะ ไม่ไกลจากกันมากจากจุดชมวิวเลยจ้า
รูปสวยแล้ว ที่จริงๆสวยและอลังการกว่ามากๆค่ะ
หลังจากเมาแดดก็เลยมาหาคาเฟ่นั่งแถวในตลาดค่ะ
ชื่อร้าน Blend Cafe อยู่หน้าตลาดหาไม่ยาก มีป้ายติดทั่วสังขละเลยจ้า
ร้านไม่ได้ตกแต่งอะไรมาก เน้นนั่งพักชิลๆสบายตาๆ
สั่งชาเขียวกับโกโก้มาแก้วละ 40 บาท นั่งอิ่มใจไปได้ช่วงนึง
<< ช่วงนี้ก็ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ เพราะพักก็คือพักจริงๆเพลียแดดนิสนุง >>
จิบน้ำแล้วมีแรงแล้ววววว ไปสู่จุดมุ่งหมายต่อไปของพวกเราก็คือออออ สะพานซองกาเลียกันเลยยย
= ต่อความคิดเห็นต่อไปนะค้าบ =