สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาเเชร์ประสบการณ์จากการซื้อของโดยไม่ปรึกษาใคร ทำให้ต้องมาเสียดายเงินทีหลัง อยากให้เป็นบทเรียนกับใครหลายๆคนด้วย คือเนื่องจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นวันเกิดยายเรา เราไม่รู้จะซื้ออะไรให้ท่านดี เห็นว่าท่านอยากได้เสื้อผ้า เลยไปหาซื้อที่ร้านผ้าหน้าตลาด ในเมืองจังหวัดที่มีหมูย่างอร่อย เค้กเลิศรส ตรงข้ามร้านโอเค ที่มีร้านผ้าติดกันหลายร้าน ร้านที่สาม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ชื่อร้านขึ้นต้นด้วย ศิ ลงท้ายด้วย พร
เราเลือกซื้อผ้าอยู่สักพักก็ได้ชุดที่ต้องการ มีผ้าถุง กับ เสื้อลูกไม้ แต่เราเกรงว่ายายจะใส่ไม่จุ อาจคับไป ทางแม่ค้าเลยบอกเราว่าถ้าใส่ไม่ได้ยังไงเอามาเปลี่ยนได้ แล้วตอนที่เราเลือกผ้าถุงกับเสื้อเราถามราคาแม่ค้า นางบอกว่าเสื้อราคาสองร้อยกว่าบาท ผ้าถุงราคาสามร้อยกว่าบาท เราก็คำนวณดูไม่น่าจะเกิน
เจ็ดร้อยบาท แต่พอเอาเข้าจริงเเม่ค้ามาบอกเราทีหลังตอนจ่ายเงินว่าเก้าร้อยกว่าบาท เราก็ไม่ได้เอะใจอะไรอาจเพราะเราเบลอๆด้วย เราก็จ่ายเงินเเล้วพอออกจากร้านเท่านั้นแหละเดินไปคิดไป เอ๊ะ นี่มันงงๆเรามาคำนวณราคาผ้าแยกกับราคาผ้าตอนจ่ายเงินทำไมต่างกันตั้งสองร้อย เเต่เราก็ไม่ได้เอะใจไรมาก ในเมื่อตั้งใจซื้อแล้ว จ่ายแล้วก็ปล่อยไป เมื่อถึงวันเกิดยาย เรานำชุดที่เราซื้อมาให้ยายลอง ยายเห็นเเล้วชอบมากท่านบอกว่าสวย แต่ใส่ไม่จุนี่สิทำไงดี เราเลยต้องเอากลับไปเปลี่ยนที่ร้าน ปรากฏว่าไม่มีไซส์ยาย แม่ค้าก็บอกเราว่าเดี๋ยวสั่งไซส์ใหญ่ให้ ให้ยายมาวัดตัวที่ร้าน ตอนเราเอาผ้าไปเปลี่ยนเราไปกับแม่ ไม่ได้พายายไปด้วย ท่านติดธุระไปหาหมอ เราก็โอเค กลับบ้านแล้วบอกยายให้ไปวัดตัวที่ร้าน ไปดูชุดที่ร้านในวันต่อมา คือปกติเราบ้านอยู่นอกเมือง เเต่บ้านยายเราอยู่ในเมือง พอรุ่งเช้า ยายเราก็ไปวัดตัวที่ร้านแต่ไม่ได้ไปกับเรา ท่านไปกับป้าของเรา เมื่อไปถึงแม่ค้าก็มาบอกยายเราว่าลองดูชุดอื่นได้ไหม แล้วเอาชุดอะไรไม่รู้มาให้ยายเราลองใส่ดู ปกติยายเราจะใส่เสื้อผ่าหน้าติดกระดุม ท่านไม่ชอบใส่เสื้อแบบสวม ท่านชราแล้ว ยกไม้ยกมือลำบากไม่มีเเรง แต่นางก็ยังคะยั้นคะยอให้เอาชุดนั้นชุดที่ต้องสวม ยายเราจึงบอกว่าเอาเสื้อแบบเดิมแต่ไซส์ใหญ่ดีกว่า แม่ค้านางบอกว่ากว่าจะได้ต้องรอหลายเดือนสองสามเดือนนู้น ยายเราจึงขอเงินคืน ในเมื่อผ้าไม่มีไซส์ ยอมให้หักเงินก็ได้ ขอเงินคืนกลับสักครึ่งก็ยังดี เพราะปกติในกรณีแบบนี้ร้านอื่นเค้าจะคืนเงินให้ เเม่ค้านางไม่ยอมนางบอกว่าถ้าไม่เอาเสื้อผ้าก็ไม่คืนเงิน พอจะเอาชุดเดิมสองสามเดือนก็นานเกินไป เราว่าแค่สั่งผ้าไม่น่าจะนานขนาดนั้นนะ ยายเราเลยตัดสินใจเอาก็ได้ ดีกว่าต้องเสียเงินเปล่า เเต่เมื่อตกลงเเม่ค้านางให้เเต่เสื้อ คุณพระ !! แล้วผ้าถุงล่ะ ? นางบอกว่าถ้าจะเอาผ้าถุงด้วยต้องเพิ่มเงินสี่ร้อยห้าสิบบาท โอ้มายยก๊อตต นี่มันจะเกินไปไหม นางบอกเสื้อตัวนี้ผ้ามันดีกว่า มันเลยแพงกว่า จะไม่เอาก็ไม่ได้ สุดท้ายเลยได้กลับมาแต่เสื้อ
และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เรารู้สึกเฟลมาก เราตั้งใจซื้อของขวัญวันเกิดให้ยาย อยากให้ยายรู้สึกดี แต่ที่ได้คือมันเเย่ ยายเราก็รู้สึกไม่โอเค แต่จะทำยังไงได้ เราโง่เอง เราจึงอยากมาเตือนเพื่อนๆ เดี๋ยวนี้แม่ค้าน่ากลัว หรืออาจเป็นมานานเเล้วเเต่เราเพิ่งเคยเจอครั้งเเรก เราเสียความรู้สึกมากๆจริงๆ เราจะไม่กลับไปซื้อผ้าร้านนั้นอีก ครั้งนี้จะเป็นบทเรียนให้กับเราว่า "อย่าโง่อีกนะ " ซื้อของต้องคิดเยอะๆ จริงๆ เงินก็เสียดาย เเต่เสียความรู้สึกมากกว่า คนเราก็ช่างหน้าเลือดจริงๆ ทำกันได้ลง
โดนแม่ค้าร้านขายผ้าเอาเปรียบ หงุดหงิดมากค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราเลือกซื้อผ้าอยู่สักพักก็ได้ชุดที่ต้องการ มีผ้าถุง กับ เสื้อลูกไม้ แต่เราเกรงว่ายายจะใส่ไม่จุ อาจคับไป ทางแม่ค้าเลยบอกเราว่าถ้าใส่ไม่ได้ยังไงเอามาเปลี่ยนได้ แล้วตอนที่เราเลือกผ้าถุงกับเสื้อเราถามราคาแม่ค้า นางบอกว่าเสื้อราคาสองร้อยกว่าบาท ผ้าถุงราคาสามร้อยกว่าบาท เราก็คำนวณดูไม่น่าจะเกิน
เจ็ดร้อยบาท แต่พอเอาเข้าจริงเเม่ค้ามาบอกเราทีหลังตอนจ่ายเงินว่าเก้าร้อยกว่าบาท เราก็ไม่ได้เอะใจอะไรอาจเพราะเราเบลอๆด้วย เราก็จ่ายเงินเเล้วพอออกจากร้านเท่านั้นแหละเดินไปคิดไป เอ๊ะ นี่มันงงๆเรามาคำนวณราคาผ้าแยกกับราคาผ้าตอนจ่ายเงินทำไมต่างกันตั้งสองร้อย เเต่เราก็ไม่ได้เอะใจไรมาก ในเมื่อตั้งใจซื้อแล้ว จ่ายแล้วก็ปล่อยไป เมื่อถึงวันเกิดยาย เรานำชุดที่เราซื้อมาให้ยายลอง ยายเห็นเเล้วชอบมากท่านบอกว่าสวย แต่ใส่ไม่จุนี่สิทำไงดี เราเลยต้องเอากลับไปเปลี่ยนที่ร้าน ปรากฏว่าไม่มีไซส์ยาย แม่ค้าก็บอกเราว่าเดี๋ยวสั่งไซส์ใหญ่ให้ ให้ยายมาวัดตัวที่ร้าน ตอนเราเอาผ้าไปเปลี่ยนเราไปกับแม่ ไม่ได้พายายไปด้วย ท่านติดธุระไปหาหมอ เราก็โอเค กลับบ้านแล้วบอกยายให้ไปวัดตัวที่ร้าน ไปดูชุดที่ร้านในวันต่อมา คือปกติเราบ้านอยู่นอกเมือง เเต่บ้านยายเราอยู่ในเมือง พอรุ่งเช้า ยายเราก็ไปวัดตัวที่ร้านแต่ไม่ได้ไปกับเรา ท่านไปกับป้าของเรา เมื่อไปถึงแม่ค้าก็มาบอกยายเราว่าลองดูชุดอื่นได้ไหม แล้วเอาชุดอะไรไม่รู้มาให้ยายเราลองใส่ดู ปกติยายเราจะใส่เสื้อผ่าหน้าติดกระดุม ท่านไม่ชอบใส่เสื้อแบบสวม ท่านชราแล้ว ยกไม้ยกมือลำบากไม่มีเเรง แต่นางก็ยังคะยั้นคะยอให้เอาชุดนั้นชุดที่ต้องสวม ยายเราจึงบอกว่าเอาเสื้อแบบเดิมแต่ไซส์ใหญ่ดีกว่า แม่ค้านางบอกว่ากว่าจะได้ต้องรอหลายเดือนสองสามเดือนนู้น ยายเราจึงขอเงินคืน ในเมื่อผ้าไม่มีไซส์ ยอมให้หักเงินก็ได้ ขอเงินคืนกลับสักครึ่งก็ยังดี เพราะปกติในกรณีแบบนี้ร้านอื่นเค้าจะคืนเงินให้ เเม่ค้านางไม่ยอมนางบอกว่าถ้าไม่เอาเสื้อผ้าก็ไม่คืนเงิน พอจะเอาชุดเดิมสองสามเดือนก็นานเกินไป เราว่าแค่สั่งผ้าไม่น่าจะนานขนาดนั้นนะ ยายเราเลยตัดสินใจเอาก็ได้ ดีกว่าต้องเสียเงินเปล่า เเต่เมื่อตกลงเเม่ค้านางให้เเต่เสื้อ คุณพระ !! แล้วผ้าถุงล่ะ ? นางบอกว่าถ้าจะเอาผ้าถุงด้วยต้องเพิ่มเงินสี่ร้อยห้าสิบบาท โอ้มายยก๊อตต นี่มันจะเกินไปไหม นางบอกเสื้อตัวนี้ผ้ามันดีกว่า มันเลยแพงกว่า จะไม่เอาก็ไม่ได้ สุดท้ายเลยได้กลับมาแต่เสื้อ
และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เรารู้สึกเฟลมาก เราตั้งใจซื้อของขวัญวันเกิดให้ยาย อยากให้ยายรู้สึกดี แต่ที่ได้คือมันเเย่ ยายเราก็รู้สึกไม่โอเค แต่จะทำยังไงได้ เราโง่เอง เราจึงอยากมาเตือนเพื่อนๆ เดี๋ยวนี้แม่ค้าน่ากลัว หรืออาจเป็นมานานเเล้วเเต่เราเพิ่งเคยเจอครั้งเเรก เราเสียความรู้สึกมากๆจริงๆ เราจะไม่กลับไปซื้อผ้าร้านนั้นอีก ครั้งนี้จะเป็นบทเรียนให้กับเราว่า "อย่าโง่อีกนะ " ซื้อของต้องคิดเยอะๆ จริงๆ เงินก็เสียดาย เเต่เสียความรู้สึกมากกว่า คนเราก็ช่างหน้าเลือดจริงๆ ทำกันได้ลง