ประสบการณ์ถุงยางแตกและการรับมือ

หลายวันที่ผ่านมา เพื่อนๆชาวพันทิปคงจะได้เห็นข่าวบุคลากรในหน่วยงานรัฐหน่วยงานนึงที่ติดเชื้อ HIV แล้วพยายามแพร่เชื้อจนมีเยาวชนได้รับเชื้อไปสองราย ผมต้องขอแสดงความเสียใจกับเยาวชนสองคนนั้นด้วย  แต่ไม่ว่าอย่างไร ชีวิตเราต้องดำเนินต่อไปนะครับ ผมขอส่งกำลังใจให้น้องสู้กับมัน ดูแลตัวเองดีๆ ทานยาอย่างเคร่งครัด ผมเชื่อว่าน้องยังมีชีวิตอยู่ได้อีกนาน เผลอๆดีนานกว่าคนที่ไม่ได้รับเชื้อเสียอีก

แล้วสมมติถ้าเป็นเราเองที่เจอเหตุการณ์แบบนั้น เราจะทำอย่างไร?

เราจะรับมือกับมันอย่างไร

เราจะจัดการตัวเองอย่างไรให้รอดพ้นจากสภาวะความเสี่ยงนั้นได้อย่างไร

ผมเชื่อว่าหลายๆคน โดยเฉพาะเยาวชนยังไม่รู้เกี่ยวกับหลักปฏิบัติที่ถูกต้องหากเจอเหตุการณ์แบบนี้ ผมเลยอยากใช้โอกาสนี้บอกเล่า ส่งต่อเรื่องราวจากประสบการณ์ตรงที่ผมเจอมากับตัว มันอาจไม่ได้คล้ายคลึงกันมากขนาดนั้น แต่อย่างน้อยผมก็อยากให้มันเป็นวิทยาทานแก่ทุกคน




ประสบการณ์นั้นมันคือประสบการณ์ที่ผมต้องจำไปจนวันตาย นั่นก็คือ





ถุงยางแตก!!!!



***Disclosure
      จุดประสงค์ของการแบ่งปันประสบการณ์ครั้งนี้ คือเพื่อเป็นวิทยาทาน และเป็นบทเรียน(ที่คุณไม่ต้องไปเรียนเอง)ให้กับทุกคน รวมทั้งเป็นการรีวิวตัวเองเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น และขอย้ำว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคือความจริงทั้งหมดของผม
      ข้อมูลทั้งหมดผมศึกษาหาอ่านเองจาก internet ทั้งจากไทยและต่างประเทศ โดยผมเองเป็นแค่คนที่รู้จักแค่ถุงยางและsafe sex เบื้องต้น เพราะฉะนั้นหากมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม หรือผิดพลาดประการใด แนะนำมาได้เลยครับ
      account นี้เป็น account ลับที่ผมสมัครขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
     ใครไม่อยากอ่านยาวๆ ข้ามไปอ่านสรุปได้เลยครับ
     ผมมีแนะนำตามความเห็นส่วนตัวของผมไว้ด้วย เพื่อไม่ให้มันรก ผมจะใส่ไว้ใน spoil
***

เริ่ม!

ผมเป็นเกย์ครับ มีรสนิยมทางเพศคือได้ทั้งรุกและรับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือหลายเดือนก่อนมากๆ ผมมีนัดกับเพื่อน จะเรียกว่าเพื่อนดีไหม คือผมรู้จักกับเค้าผ่านทาง app นัดเยชื่อดัง ไม่ต้องให้ผมบอกชื่อแอพเนอะ

ผมรู้จักกับพี่คนนึงผ่านแอพนี้ เราปัดๆรูดๆ ถูกใจในหน้าตาของกันและกัน ก็นัดมาเยกัน(เป็นเรื่องปกติของแอพนี้) หลังจากจบภารกิจผมรู้สึกโอเคกับพี่เค้าเพราะพี่เค้าเป็นคนสะอาด และพี่เค้าก็รู้สึกโอเคกับผมเหมือนกัน เราจึงมีการนัดครั้งต่อๆมาเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ถี่อะไร



โดยทุกครั้งที่เรานัดกันผมจะเป็นฝ่ายรับ



จนครั้งล่าสุดที่เกิดเรื่อง คือเรานัดกันไปทำภารกิจ แต่ครั้งนี้มีเพื่อนใหม่มาด้วยอีกสองคน และหนึ่งในสองคนนั้นก็สร้างปัญหาให้ผม หรือเป็นผมเองที่สร้างปัญหาให้ตัวเองกันแน่ก็ไม่รู้

ต้องบอกก่อนว่าแต่ละครั้ง ที่ผมจะนัดใครมาทำภารกิจนั้น ผมค่อนข้างเลือกพอสมควร ที่เลือกเยอะเพราะผมกลัวในหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการชิงทรัพย์ หรือโรคติดต่อ และทุกครั้งที่ผมทำภารกิจกับใครไม่ว่าผมจะเป็นฝ่ายไหน ผมจะใช้ถุงยางเสมอ ไม่มีการสดเด็ดขาด อันนี้คือกฏเหล็กของผม!!!

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


   วันนั้นเราปฏิบัติภารกิจกัน ผมมีอะไรกับพี่คนนึง หนึ่งในสองคนที่มาใหม่ (ผ่านการสกรีนแล้ว) ส่วนอีกสองคนเค้าแค่ภายนอกกัน เราก็สนุกกันไป จนมาถึงตอนเสร็จภารกิจ ผมก็ต้องตกใจ เพราะเจอเศษถุงยาง



พี่น้องครับ!!  มันคือถุงยางที่แยกร่างเป็นสองส่วน!!




จากที่สนุกๆ ระรื่นๆ กลายเป็นหน้าเสียสิครับงานนี้ เลยได้แต่พยายามถามพี่ๆ ทั้งที่เป็นผู้ชมและผู้ที่ลงมือกระทำชำเราผมว่ามันขาดตอนดึงออกมา หรือมันขาดตอนมีอะไรกัน ใจก็ได้แต่ภาวนาให้มันขาดตอนดึงออกมา(ซึ่งยังไงก็เสี่ยงอยู่ดี)





ซึ่งพี่ๆทุกคนคอนเฟิร์มว่าขาดตอนดึงออกมา





ผมที่เริ่มใจไม่ดี ก็เลยใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย พอเสร็จสิ้นทุกอย่าง ผมก็ขอดูคลิปที่พี่คนนึงนึกสนุกถ่ายไว้ จริงๆคือจะเช็คว่าติดผมแบบเห็นหน้ารึเปล่า และในคลิปนั่นก็ทำให้ผมลมจับ!




ถุงยางมันขาดตั้งแต่ตอนที่เรามีอะไรกัน!



ใช่ครับมันขาดตอนที่เรากำลังฟีเจอริ่งกันอยู่ ถึงแม้มันจะเป็นตอนท้ายๆแปปเดียว แล้วพี่เค้าจะออกมาเสร็จนอกตัวผมก็ตาม แต่นั่นก็ทำให้ผมเข้าสู่เคสถุงยากแตกทันที!

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



ทันทีที่ผมรู้ว่ามันแตก ผมโมโหมาก โมโหคู่ของผมที่ทำไมมันไม่เอาออกตั้งแต่ตอนรู้ มันต้องรู้สิ ว่ามันขาด โมโหตัวเองที่ไม่รู้ว่ามันขาด (บอกตรงๆว่าตอนนั้นชา) โมโหพี่ๆที่เหลือที่ชวนพี่คนนี้มาแล้วก็เกิดเรื่อง โมโหแม้กระทั่งถุงยางที่แม่ งควรจะเหนียวควรจะหนา เคยเอามาใส่น้ำเล่นกี่ครั้งก็ไม่แตก เสือxมาแตกอะไรตอนนี้


เอาเป็นว่าโมโหแม่ งทุกอย่าง ตั้งแต่สถานที่ ยันขวดน้ำที่ล้างมือ!


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



สภาพตอนนั้นเหรอครับ? ยอมรับครับ ว่าตอนนั้นจิตหลุดมากๆ แต่จิตหลุดยังไงผมก็ไม่เหวี่ยงกับพี่ๆ คือจะไม่ใช้อารมณ์มานำการกระทำ ทั้งๆที่ตอนนั้นอยากเผาบ้านพวกแม่ งมากกกกกก เดี๋ยวอ่านต่อไปแล้วจะรู้ว่าทำไม ใจคือตอนนั้นยังไม่ได้โทษตัวเองไง ตรงนี้ต้องบอกเลยว่า เราต้องควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ดี เพราะหากใช้แต่อารมณ์ มันอาจนำพาเรื่องแย่ๆอื่นมาให้เราอีกก็ได้

และระหว่างที่ผมจิตหลุด ไอ้คนที่เหลืออ่ะเหรอ แม่ งคุยกันเฮฮามาก แบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ก็แน่ละสิ มันไม่ใช่เรื่องของตัวเองไง มันไม่ได้เดือดร้อนอยู่แล้ว และตรงนี้แหละที่ทำให้คิดได้ว่า การที่ผมสนุกกับกิจกรรมตรงนี้ แต่พอเกิดเรื่องขึ้น แม่ งไม่มีใครสนใจผมสักคน


มันให้ความรู้สึกแบบตอนสนุกแม่ งสนุกด้วยกัน แต่ตอนเรือแตก ผมโดนทิ้งลอยคอเคว้งคว้างอยู่กลางทะเลคนเดียว แล้วยังไง? ผมจะว่ายเข้าฝั่งยังไง แล้วถ้าผมกลับเข้าฝั่งไม่ได้ล่ะ ครอบครัวที่อยู่ข้างหลังจะเป็นยังไงต่อไป? มันทำให้ผมมาคิดได้ตอนนี้นี่แหละ



และวันนั้นที่เหลือทั้งวัน ผมก็ไม่เป็นอันทำอะไร เอาแต่นั่งหาข้อมูลในเน็ต ว่ามีโอกาสกี่เปอร์เซ็นต์ที่จะรับเชื้อมา



แต่ดีที่ผมมีสติพอสมควร หลังจากที่รู้ว่าซวยเข้าแล้ว ผมก็ถามคู่ของผมคนนั้นทันที สิ่งที่เค้าบอกก็คือ
    เค้ามีแฟนเป็นผู้ชาย
    type ปกติของเค้าคือรุก
    เค้ามีอะไรกับแฟนแค่คนเดียว
    ทุกครั้งที่มีอะไรกับแฟนเค้าจะใช้ถุงยางเสมอ
    แต่ไม่เคยตรวจเลือดเลย
    
สตินะครับ สำคัญที่สุด หากเกิดเคสแบบผม ก็ควรจะถามไว้เป็นข้อมูล เพื่อรู้ถึงความเสี่ยงตัวเอง ทีนี้เรามาวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้มาดีกว่า
   มีแฟนเป็นผู้ชาย แปลว่าจัดอยู่ในข่ายรักเพศเดียวกัน ซึ่งข้อนี้แปลว่ามีโอกาสรับเชื้อสูงกว่าคนปกติทั่วไป
   type ปกติคือรุก แปลว่าโอกาสรับเชื้อเค้าน้อยกว่ารับ(เดี๋ยวดูชาร์ตประกอบด้านล่าง)
   เค้ามีอะไรกับแฟนแค่คนเดียว แปลว่าเค้าไม่มั่ว โอกาสรับเชื้อก็น้อย(ถ้าเค้าไม่โกหก)
   ไม่เคยตรวจเลือดเลย อันนี้แหละที่น่าห่วง
เพราะฉะนั้นจากข้อมูลทั้งหมดก็ดูเหมือนว่าพอจะปลอดภัยได้บ้าง ยกเว้นแค่ข้อสุดท้าย แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่รู้เลยก็คือ




ข้อมูลพวกนี้เค้าโกหกผมรึเปล่า?


แล้วแบบนี้ผมจะทำอย่างไรต่อไปดี?


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่