สวัสดีค่ะ นี่เป็นการเขียนกระทู้รีวิวครั้งแรก ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยล่วงหน้านะคะ
วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์การเที่ยวคนเดียวให้อ่านกันค่ะ อาจจะเรียกได้ไม่เต็มปากว่าเป็นการเที่ยวคนเดียวแบบจริงๆจังๆ เพราะพอถึงลำปางก็มีเพื่อนมาหาและพาชมเมืองอยู่ดี ไม่ได้เช่ารถหรือเหมารถแต่อย่างใด แต่ว่าอยากจะนำข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางและที่พักมาแบ่งปันค่ะ
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าเนอะ!
การเดินทางครั้งนี้เกิดจากอาการเบื่อโลก เบื่อทุกสิ่งอย่าง อยากพักสมอง อยากเปิดโลกของตัวเองค่ะ ไม่เคยเดินทางคนเดียวมาก่อนก็อยากจะลองทำบ้าง เลยตัดสินใจแบบกระทันหัน ไปแบบจองวันนี้เดินทางพรุ่งนี้กันเลย...
เริ่มจากจุดมุ่งหมายของทริปนี้ อยากจะไปลำปางค่ะ เพราะเป็นจังหวัดทางภาคเหนือที่ผ่านตลอดแต่ไม่เคยได้แวะเที่ยวเลยสักครั้ง อาจจะมีก็เพียงตอนเด็กๆเท่านั้น ครั้งนี้เลยอยากจะทุ่มเวลาให้กับลำปางแบบเต็มๆ แถมช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศก็เริ่มหนาวแล้ว เหมาะกับการเที่ยวภาคเหนือแบบสุดๆกันไปเลย... การไปเที่ยวลำปางครั้งนี้มีข้อแม้อยู่นิดนึงว่า จขกท.อยากจะนั่งรถไฟด้วยค่ะ แต่จะทำยังไงดีละ? ในเมื่อถ้านั่งรถไฟจากกรุงเทพฯไปลำปางส่วนมากก็จะเป็นรอบกลางคืนถึงเช้า ไม่ได้เห็นวิวสวยๆกันพอดี แถมยังจะไม่ได้ความสนุกจากการที่เราจะได้เจอคนท้องที่ที่จะเดินขึ้นมาขายอาหารบนตัวขบวนรถอีกด้วย... โจทย์ในครั้งนี้เราเลือกที่จะแก้ด้วยการไปนอนพักที่เชียงใหม่หนึ่งคืน แล้วเดินทางด้วยรถไฟมาลงลำปางในเช้าวันถัดมาแทน
พอคิดได้แบบนี้ก็เริ่มหาข้อมูการจองของทั้งการเดินทางและที่พักในทันที!
เริ่มจากการเดินทางกันก่อน เพราะเป็นการเดินทางคนเดียวครั้งแรก ก็อยากจะให้ดูตื่นเต้น (เหรอ?) กันสักหน่อย เลยเลือกที่จะไม่เดินทางโดยเครื่องบิน แต่จะเดินทางโดยการนั่งรถโดยสารของบริษัทนครชัยแอร์แทนค่ะ ครั้งนี้จขกท.เลือกที่จะขึ้นรถที่สถานีเดินรถนครชัยแอร์ที่ ถ.กำแพงเพชร 2 และลงรถที่สถานีเดินรถนครชัยแอร์เชียงใหม่ค่ะ
เหตุผลที่เลือกเดินทางโดยรถของนครชัยแอร์เป็นเพราะ
1. เราไม่ได้รีบ แต่อยากจะเดินทางแบบชิวๆ เห็นวิวตลอดทาง และถ้าเลือกเดินทางโดยเครื่องบินก็คงจะหมดสนุกกันพอดี
2. ได้ยินเพื่อนๆเล่าให้ฟังว่ารถของบริษัทนครชัยแอร์สะดวกสบาย มีทีวีให้ดู มีอาหารให้ทาน ขับรถก็ไม่ได้เร็วมาก มีความสะดวกและปลอดภัยกว่ารถทัวร์ทั่วๆไปค่ะ แถมมีรถให้เลือกหลายแบบอีกด้วย แต่ในวันและเวลาที่จขกท.เลือกไปนั้นมีรถแค่วันละเที่ยวเดียว แล้วรถก็มีแค่แบบเดียว นั่นก็คือรถแบบ First Class ค่ะ
การจองตั๋วของบริษัทนครชัยแอร์ก็สะดวกมากๆค่ะ เราแค่โทรไปที่เบอร์ของนครชัยแอร์และบอกจุดหมายปลายทางให้พนักงานทราบ จากนั้นพนักงานก็จะถามถึงวันและเวลาที่เราต้องการจะจองค่ะ พอเราเลือกเสร็จพนักงานก็จะบอกให้เราจดเลขรหัสการชำระเงิน แล้วเราก็เอารหัสตัวนี้ไปชำระเงินที่ 7/11 ใกล้บ้านได้เลย! สะดวกมั้ยละ? เอาจริงๆ มันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นอีก แต่อันนี้พึ่งมารู้เอาตอนจ่ายเงิน -_- ถ้าไม่อยากเสียเวลาโทรไปจองก็เดินไปเซเว่นโลดดดดด ไปเลย ไปถึงก็บอกพนักงานเซเว่นได้เลยว่า “น้องคะ พี่อยากจะจองตั๋วรถนครชัยแอร์ค่ะ” แค่นั้นเลยจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆ มีความง่าย และสะดวกสบายกว่าที่คิดค่ะ พอชำระเงินเสร็จเราก็จะได้ใบเสร็จมา “กรุณาเก็บไว้ให้ดีๆ” เพราะสิ่งนี้คือตั๋วโดยสารของคุณ ห้ามโยนทิ้งโดยเด็ดขาด ไม่งั้นขึ้นรถไม่ได้นะจ๊ะ!!!
เสร็จจากการจองตั๋วขาไปก็มาจองตั๋วขากลับกันบ้าง ในส่วนของการเดินทางขากลับเราก็คิดไว้แล้วว่าไม่อยากเหนื่อย ก็เลยตัดสินใจเดินทางกลับแบบสบายๆโดยสารการบิน Bangkok Airways จากสนามบินนครลำปางมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯค่ะ ราคาตั๋วก็ไม่ได้แย่มาก แต่ก็ไม่ได้ถูกมาก ถ้าใครที่มีเรื่องของ Budget อยู่ในใจอาจจะลองดูสายการบิน low cost อื่นๆเช่น Air Asia หรือ Nok Air ก็ได้เช่นกัน แต่ก็แนะนำให้ลองดูการเดินทางในหลายๆแบบค่ะ และอีกหนึ่งการเดินทางที่อยากจะแนะนำก็คือ การนั่งรถไฟแบบตู้นอนจากลำปางมาลงกรุงเทพฯค่ะ
พอได้ตั๋วไปกลับเรียบร้อยก็ถึงเวลาของที่พักกันบ้าง เนื่องจากคืนแรกจขกท.เลือกที่จะไปนอนที่เชียงใหม่หนึ่งคืน ก็เลยลอง search หาข้อมูลใน google ทันที หาแบบง่ายๆและโง่ๆเลยคือ “Hostel เชียงใหม่” แล้วข้อมูลก็เบียดขึ้นมากันเพียบเลยทีเดียว...
เขียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีที่พักแบบโฮสเทลเยอะมากค่ะ เลือกไม่ถูกเลย แต่ก็เข้าไปดูกระทู้รีวิวของคนอื่นบ้าง สุดท้ายก็เลือกที่จะพักที่ บ้านเมฆ โฮสเทลค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.baanmekhostel.com 
เหตุผลที่เลือกที่นี้เป็นเพราะ
1. ดูจากรีวิวแล้วถูกใจค่ะ ด้วยภาพรวมของสถานที่คือดูดี สวย น่านอน
2. มีความเป็นส่วนตัว เพราะเป็นห้องแบบห้องเดี่ยว นอนได้ห้องละคน
3. อยู่ใกล้แหล่งช้อปปิ้งและของกิน เพราะถนนนิมมานเป็นแหล่งรวบรวมร้านเก๋ๆและของกินอร่อยๆเพียบ บ้านเมฆโฮสเทลตั้งอยู่แทบจะใจกลางถนนเลยก็ว่าได้ค่ะ
4. เพราะการเป็นผู้หญิงแล้วไปเที่ยวคนเดียวมันก็จะอัตรายสักหน่อย เรื่องความปลอดภัยเลยต้องมาก่อน เห็นว่าที่นี่มีคีย์การ์ดสำหรับผู้เข้าพักเท่านั้น ทำให้บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าไปในตัวอาคารได้ แถมแต่ละห้องก็ยังมีกุญแจส่วนตัวไว้ล๊อคห้องกันอีกด้วย นี่แหละถูกใจใช่เลย
ในเมื่อเลือกได้แล้วจะรออะไรละ โทรจองกันเลย! ตอนที่จขกท.โทรไปก็ไม่มั่นใจว่าคนที่รับสายเป็นพนักงานหรือเจ้าของที่พักนะคะ แต่ว่าการพูดจาคือดีมาก มีความต้อนรับแขกและให้ข้อมูลดีค่ะ ถือว่าแค่โทรไปจองนี่ก็ประทับใจแล้ว ขั้นตอนการจองก็แสนจะง่าย บอกเพียงวันที่ที่จะเข้าพักและจำนวนคืนที่จะพักเพียงเท่านั้น ส่วนในเรื่องของการชำระเงินก็ธรรมดาค่ะ โอนเข้าบัญชีตามปรกติ ราคาก็แสนจะถูก เพียงคืนละ 450บาทเท่านั้นเองนะ!!!
มาต่อกันที่ที่พักในนครลำปางกันบ้างนะคะ เพราะเป็นที่ๆจขกท.จะต้องพักเป็นเวลา 3คืน ซึ่งก็ถือว่าอยู่กันยาวๆ 3คืน 4วัน ก็เลยจะต้องให้ความสำคัญกันหน่อย อย่างที่ได้บอกไปแล้ว การเดินทางคนเดียวสำคัญที่สุดคือเรื่องที่พัก ควรจะเป็นที่พักที่ดี ความปลอดภัยสูง สะดวกสบาย เดินทางสะดวกค่ะ
ลำปางนั้นถือได้ว่ามีที่พักให้เลือกเยอะพอสมควรค่ะ แต่ที่พักส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรมและรีสอร์ท ที่พักในแบบโฮสเทลนั้นยังมีไม่ค่อยเยอะ บังเอิญจขกท.เปิดเจออยู่สองสามแห่ง แต่สุดท้ายก็มาตกลงจองที่ Memmoth Hostel แห่งนี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/MemmothHostel
แน่นอนค่ะว่าแค่ชื่อของโฮสเทลก็เก๋แล้ว เพราะจริงๆควรจะสะกดว่า Mammoth มากกว่า แต่ทางโฮสเทลกลับเลือกที่จะสะกดว่า “Memmoth” คือตอนแรกก็นึกอยู่เหมือนกันว่าสะกดผิดรึเปล่า น่าจะเป็น Mammoth ไม่ใช่เหรอ? แต่เปล่าเลย เค้าตั้งใจให้อ่านเป็น Mem จริงๆ เพราะ Mem คำนี้มาจากคำว่า Memory ซึ่งก็คือความทรงจำนั้นเอง ดูมี story มั้ยละ ชอบตรงนี้หละ!
Memmoth Hostel เป็นโฮสเทลที่เปิดใหม่ค่ะ ทุกอย่างดูสะอาด มีระบบรักษาความปลอดภัยอีกด้วย แถมได้ยินมาว่าตัวตึกแห่งนี้ยังมีประวัติที่น่าสนใจ ว่ากันว่าที่นี้เคยเป็นตึกที่ใหญ่ที่สุดในจังหวังลำปางมาก่อน พอรู้ว่ามี story และเรื่องเล่าแบบนี้ก็ยิ่งทำให้โฮสเทลแห่งนี้ดูมีเสน่ห์และมีความสวยงามในแบบ boutique มากขึ้นไปอีก จนสุดท้ายก็อดรนทนไม่ไหว ต้องจองที่พักจนได้เพราะแบบนี่แหละ!
ในส่วนวิธีการจองที่พักก็สะดวกสบายมากค่ะ สามารถเข้าไปที่ Facebook เพจของทางโฮสเทลแล้ว inbox เข้าไปหาได้เลย ว่าอยากจะเข้าพักวันไหน พักกี่คืน นอนแบบไหน เพราะที่นี่เค้ามีห้องให้เลือกหลายแบบด้วยกัน มีทั้งห้องพัก VIP มีห้องน้ำในตัว, ห้องพักเดียวแบบห้องน้ำรวม, และห้องพักรวมเตียงแบบแคปซูล และถ้าเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียวอย่างเราๆก็ยังสามารถพักเตียงแคปซูลห้องผู้หญิงล้วนได้ด้วยนะ!!!
ในการไปครั้งนี้จขกท.เลือกที่จะพักเตียงแบบแคปซูลที่ห้องหญิงล้วนค่ะ ราคาก็สบายกระเป๋าสุดๆเพราะค่าที่พักนั้นแค่คืนละ 350บาท เท่านั้นเอง พัก 3คืนก็ 1,050บาท ค่ะ
การเดินทางมาที่โฮสเทลแห่งนี้ก็แสนจะง่ายดาย เพราะตัวโฮสเทลนั้นอยู่ห่างจากสถานีรถไฟนครลำปางเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น ถ้านั่งรถไฟมาลงที่สถานีก็สามารถเดินมาที่โฮสเทลได้แบบไม่เหนื่อยแน่นอนค่ะ ส่วนใครที่นั่งเครื่องบินมาลงที่ท่าอากาศยานนครลำปางก็สามารถต่อรถเหลืองเข้ามาลงที่โฮสเทลได้เหมือนกัน เพราะแม้แต่ท่าอากาศยานนครลำปางเองก็อยู่ไม่ไกลเลยค่ะ ง่ายใช่มั้ยละ!
เอาหละ ในเมื่อจองทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางกันเลย!
แน่นอนว่าต้องไปขึ้นรถที่สถานีเดินรถนครชัยแอร์กันก่อน ในวันที่เดินทาง รถของจขกท.ล้อหมุนในเวลา 10โมงตรงค่ะ เพราะว่าบ้านของจขกท.อยู่ค่อนข้างไกลเลยตัดสินใจนั่ง Taxi ไปลงที่สถานีเลย ง่ายและสะดวกที่สุดแล้ว แต่ถ้าใครไม่สะดวก ทางนครชัยแอร์ก็ยังมีตัวเลือกเสริมให้ไปขึ้นรถกันได้ที่สถานีขนส่งหมอชิตกันด้วยนะคะ!
มาถึงแล้วก็สังเกตุง่ายๆค่ะ ตรงที่มี 7/11 นั่นแหละ เดินซื้อของกินเล็กๆน้อยๆก่อนขึ้นรถได้เลย พอซื้อเสร็จก็เดินไปที่เค้าเตอร์เพื่อให้พนักงานตรวจตั๋วให้... ก็ใบเสร็จจาก 7/11 ที่บอกนั่นแหละ ห้ามเผลอทิ้งเลยเชียวนะ! พอพนักงานตรวจตั๋วเสร็จเค้าก็จะวงๆให้เราดูเวลาขึ้นรถ หมายเลขชานชลา และเลขที่นั่งค่ะ ไปถึงก็เข้าไปรอที่ทางเข้าตามหมายเลขชานชลาได้เลย
ก่อนถึงเวลาออกรถประมาณ15นาทีก็จะมีพนักงานมาประกาศให้ขึ้นรถได้ค่ะ รถของเราก็จะมาจอดรออยู่แล้ว ใครมีกระเป๋าที่จะฝากไว้ใต้ท้องรถก็สามารถเอาไปฝากได้เลย เค้าจะมีป้ายห้อยกระเป๋าเอาไว้ให้พร้อมชื่อและเลขที่นั่งตามตั๋วของเราค่ะ ไม่ต้องยกกระเป๋าเองเลย พนักงานของนครชัยแอร์เค้าทำให้หมดเลยค่ะ
ขึ้นรถมากแล้วก็จะได้อารมณ์ประมากณนี้ค่ะ มีพนักงานต้อนรับมาคอยดูแลและพาเราไปยังที่นั่งของเราค่ะ ที่นั่งฝั่งซ้ายมือจะเป็นที่นั่งเดี่ยว ส่วนฝั่งขวาจะเป็นที่นั่งคู่ค่ะ แถวที่3จะเป็น Lady seat แต่ว่าจขกท.จองไม่ทันมันดันเต็มซะก่อน เลยได้ที่นั่งเดี่ยวแถวที่ 5 ไปแทน
(ผู้หญิง)คนเดียวก็เที่ยวได้ กรุงเทพ-เชียงใหม่-ลำปาง [แบ่งปันข้อมูลการเดินทางและที่พัก]
วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์การเที่ยวคนเดียวให้อ่านกันค่ะ อาจจะเรียกได้ไม่เต็มปากว่าเป็นการเที่ยวคนเดียวแบบจริงๆจังๆ เพราะพอถึงลำปางก็มีเพื่อนมาหาและพาชมเมืองอยู่ดี ไม่ได้เช่ารถหรือเหมารถแต่อย่างใด แต่ว่าอยากจะนำข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางและที่พักมาแบ่งปันค่ะ
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าเนอะ!
การเดินทางครั้งนี้เกิดจากอาการเบื่อโลก เบื่อทุกสิ่งอย่าง อยากพักสมอง อยากเปิดโลกของตัวเองค่ะ ไม่เคยเดินทางคนเดียวมาก่อนก็อยากจะลองทำบ้าง เลยตัดสินใจแบบกระทันหัน ไปแบบจองวันนี้เดินทางพรุ่งนี้กันเลย...
เริ่มจากจุดมุ่งหมายของทริปนี้ อยากจะไปลำปางค่ะ เพราะเป็นจังหวัดทางภาคเหนือที่ผ่านตลอดแต่ไม่เคยได้แวะเที่ยวเลยสักครั้ง อาจจะมีก็เพียงตอนเด็กๆเท่านั้น ครั้งนี้เลยอยากจะทุ่มเวลาให้กับลำปางแบบเต็มๆ แถมช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศก็เริ่มหนาวแล้ว เหมาะกับการเที่ยวภาคเหนือแบบสุดๆกันไปเลย... การไปเที่ยวลำปางครั้งนี้มีข้อแม้อยู่นิดนึงว่า จขกท.อยากจะนั่งรถไฟด้วยค่ะ แต่จะทำยังไงดีละ? ในเมื่อถ้านั่งรถไฟจากกรุงเทพฯไปลำปางส่วนมากก็จะเป็นรอบกลางคืนถึงเช้า ไม่ได้เห็นวิวสวยๆกันพอดี แถมยังจะไม่ได้ความสนุกจากการที่เราจะได้เจอคนท้องที่ที่จะเดินขึ้นมาขายอาหารบนตัวขบวนรถอีกด้วย... โจทย์ในครั้งนี้เราเลือกที่จะแก้ด้วยการไปนอนพักที่เชียงใหม่หนึ่งคืน แล้วเดินทางด้วยรถไฟมาลงลำปางในเช้าวันถัดมาแทน
พอคิดได้แบบนี้ก็เริ่มหาข้อมูการจองของทั้งการเดินทางและที่พักในทันที!
เริ่มจากการเดินทางกันก่อน เพราะเป็นการเดินทางคนเดียวครั้งแรก ก็อยากจะให้ดูตื่นเต้น (เหรอ?) กันสักหน่อย เลยเลือกที่จะไม่เดินทางโดยเครื่องบิน แต่จะเดินทางโดยการนั่งรถโดยสารของบริษัทนครชัยแอร์แทนค่ะ ครั้งนี้จขกท.เลือกที่จะขึ้นรถที่สถานีเดินรถนครชัยแอร์ที่ ถ.กำแพงเพชร 2 และลงรถที่สถานีเดินรถนครชัยแอร์เชียงใหม่ค่ะ
เหตุผลที่เลือกเดินทางโดยรถของนครชัยแอร์เป็นเพราะ
1. เราไม่ได้รีบ แต่อยากจะเดินทางแบบชิวๆ เห็นวิวตลอดทาง และถ้าเลือกเดินทางโดยเครื่องบินก็คงจะหมดสนุกกันพอดี
2. ได้ยินเพื่อนๆเล่าให้ฟังว่ารถของบริษัทนครชัยแอร์สะดวกสบาย มีทีวีให้ดู มีอาหารให้ทาน ขับรถก็ไม่ได้เร็วมาก มีความสะดวกและปลอดภัยกว่ารถทัวร์ทั่วๆไปค่ะ แถมมีรถให้เลือกหลายแบบอีกด้วย แต่ในวันและเวลาที่จขกท.เลือกไปนั้นมีรถแค่วันละเที่ยวเดียว แล้วรถก็มีแค่แบบเดียว นั่นก็คือรถแบบ First Class ค่ะ
การจองตั๋วของบริษัทนครชัยแอร์ก็สะดวกมากๆค่ะ เราแค่โทรไปที่เบอร์ของนครชัยแอร์และบอกจุดหมายปลายทางให้พนักงานทราบ จากนั้นพนักงานก็จะถามถึงวันและเวลาที่เราต้องการจะจองค่ะ พอเราเลือกเสร็จพนักงานก็จะบอกให้เราจดเลขรหัสการชำระเงิน แล้วเราก็เอารหัสตัวนี้ไปชำระเงินที่ 7/11 ใกล้บ้านได้เลย! สะดวกมั้ยละ? เอาจริงๆ มันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นอีก แต่อันนี้พึ่งมารู้เอาตอนจ่ายเงิน -_- ถ้าไม่อยากเสียเวลาโทรไปจองก็เดินไปเซเว่นโลดดดดด ไปเลย ไปถึงก็บอกพนักงานเซเว่นได้เลยว่า “น้องคะ พี่อยากจะจองตั๋วรถนครชัยแอร์ค่ะ” แค่นั้นเลยจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆ มีความง่าย และสะดวกสบายกว่าที่คิดค่ะ พอชำระเงินเสร็จเราก็จะได้ใบเสร็จมา “กรุณาเก็บไว้ให้ดีๆ” เพราะสิ่งนี้คือตั๋วโดยสารของคุณ ห้ามโยนทิ้งโดยเด็ดขาด ไม่งั้นขึ้นรถไม่ได้นะจ๊ะ!!!
เสร็จจากการจองตั๋วขาไปก็มาจองตั๋วขากลับกันบ้าง ในส่วนของการเดินทางขากลับเราก็คิดไว้แล้วว่าไม่อยากเหนื่อย ก็เลยตัดสินใจเดินทางกลับแบบสบายๆโดยสารการบิน Bangkok Airways จากสนามบินนครลำปางมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯค่ะ ราคาตั๋วก็ไม่ได้แย่มาก แต่ก็ไม่ได้ถูกมาก ถ้าใครที่มีเรื่องของ Budget อยู่ในใจอาจจะลองดูสายการบิน low cost อื่นๆเช่น Air Asia หรือ Nok Air ก็ได้เช่นกัน แต่ก็แนะนำให้ลองดูการเดินทางในหลายๆแบบค่ะ และอีกหนึ่งการเดินทางที่อยากจะแนะนำก็คือ การนั่งรถไฟแบบตู้นอนจากลำปางมาลงกรุงเทพฯค่ะ
พอได้ตั๋วไปกลับเรียบร้อยก็ถึงเวลาของที่พักกันบ้าง เนื่องจากคืนแรกจขกท.เลือกที่จะไปนอนที่เชียงใหม่หนึ่งคืน ก็เลยลอง search หาข้อมูลใน google ทันที หาแบบง่ายๆและโง่ๆเลยคือ “Hostel เชียงใหม่” แล้วข้อมูลก็เบียดขึ้นมากันเพียบเลยทีเดียว...
เขียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีที่พักแบบโฮสเทลเยอะมากค่ะ เลือกไม่ถูกเลย แต่ก็เข้าไปดูกระทู้รีวิวของคนอื่นบ้าง สุดท้ายก็เลือกที่จะพักที่ บ้านเมฆ โฮสเทลค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เหตุผลที่เลือกที่นี้เป็นเพราะ
1. ดูจากรีวิวแล้วถูกใจค่ะ ด้วยภาพรวมของสถานที่คือดูดี สวย น่านอน
2. มีความเป็นส่วนตัว เพราะเป็นห้องแบบห้องเดี่ยว นอนได้ห้องละคน
3. อยู่ใกล้แหล่งช้อปปิ้งและของกิน เพราะถนนนิมมานเป็นแหล่งรวบรวมร้านเก๋ๆและของกินอร่อยๆเพียบ บ้านเมฆโฮสเทลตั้งอยู่แทบจะใจกลางถนนเลยก็ว่าได้ค่ะ
4. เพราะการเป็นผู้หญิงแล้วไปเที่ยวคนเดียวมันก็จะอัตรายสักหน่อย เรื่องความปลอดภัยเลยต้องมาก่อน เห็นว่าที่นี่มีคีย์การ์ดสำหรับผู้เข้าพักเท่านั้น ทำให้บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าไปในตัวอาคารได้ แถมแต่ละห้องก็ยังมีกุญแจส่วนตัวไว้ล๊อคห้องกันอีกด้วย นี่แหละถูกใจใช่เลย
ในเมื่อเลือกได้แล้วจะรออะไรละ โทรจองกันเลย! ตอนที่จขกท.โทรไปก็ไม่มั่นใจว่าคนที่รับสายเป็นพนักงานหรือเจ้าของที่พักนะคะ แต่ว่าการพูดจาคือดีมาก มีความต้อนรับแขกและให้ข้อมูลดีค่ะ ถือว่าแค่โทรไปจองนี่ก็ประทับใจแล้ว ขั้นตอนการจองก็แสนจะง่าย บอกเพียงวันที่ที่จะเข้าพักและจำนวนคืนที่จะพักเพียงเท่านั้น ส่วนในเรื่องของการชำระเงินก็ธรรมดาค่ะ โอนเข้าบัญชีตามปรกติ ราคาก็แสนจะถูก เพียงคืนละ 450บาทเท่านั้นเองนะ!!!
มาต่อกันที่ที่พักในนครลำปางกันบ้างนะคะ เพราะเป็นที่ๆจขกท.จะต้องพักเป็นเวลา 3คืน ซึ่งก็ถือว่าอยู่กันยาวๆ 3คืน 4วัน ก็เลยจะต้องให้ความสำคัญกันหน่อย อย่างที่ได้บอกไปแล้ว การเดินทางคนเดียวสำคัญที่สุดคือเรื่องที่พัก ควรจะเป็นที่พักที่ดี ความปลอดภัยสูง สะดวกสบาย เดินทางสะดวกค่ะ
ลำปางนั้นถือได้ว่ามีที่พักให้เลือกเยอะพอสมควรค่ะ แต่ที่พักส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรมและรีสอร์ท ที่พักในแบบโฮสเทลนั้นยังมีไม่ค่อยเยอะ บังเอิญจขกท.เปิดเจออยู่สองสามแห่ง แต่สุดท้ายก็มาตกลงจองที่ Memmoth Hostel แห่งนี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แน่นอนค่ะว่าแค่ชื่อของโฮสเทลก็เก๋แล้ว เพราะจริงๆควรจะสะกดว่า Mammoth มากกว่า แต่ทางโฮสเทลกลับเลือกที่จะสะกดว่า “Memmoth” คือตอนแรกก็นึกอยู่เหมือนกันว่าสะกดผิดรึเปล่า น่าจะเป็น Mammoth ไม่ใช่เหรอ? แต่เปล่าเลย เค้าตั้งใจให้อ่านเป็น Mem จริงๆ เพราะ Mem คำนี้มาจากคำว่า Memory ซึ่งก็คือความทรงจำนั้นเอง ดูมี story มั้ยละ ชอบตรงนี้หละ!
Memmoth Hostel เป็นโฮสเทลที่เปิดใหม่ค่ะ ทุกอย่างดูสะอาด มีระบบรักษาความปลอดภัยอีกด้วย แถมได้ยินมาว่าตัวตึกแห่งนี้ยังมีประวัติที่น่าสนใจ ว่ากันว่าที่นี้เคยเป็นตึกที่ใหญ่ที่สุดในจังหวังลำปางมาก่อน พอรู้ว่ามี story และเรื่องเล่าแบบนี้ก็ยิ่งทำให้โฮสเทลแห่งนี้ดูมีเสน่ห์และมีความสวยงามในแบบ boutique มากขึ้นไปอีก จนสุดท้ายก็อดรนทนไม่ไหว ต้องจองที่พักจนได้เพราะแบบนี่แหละ!
ในส่วนวิธีการจองที่พักก็สะดวกสบายมากค่ะ สามารถเข้าไปที่ Facebook เพจของทางโฮสเทลแล้ว inbox เข้าไปหาได้เลย ว่าอยากจะเข้าพักวันไหน พักกี่คืน นอนแบบไหน เพราะที่นี่เค้ามีห้องให้เลือกหลายแบบด้วยกัน มีทั้งห้องพัก VIP มีห้องน้ำในตัว, ห้องพักเดียวแบบห้องน้ำรวม, และห้องพักรวมเตียงแบบแคปซูล และถ้าเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียวอย่างเราๆก็ยังสามารถพักเตียงแคปซูลห้องผู้หญิงล้วนได้ด้วยนะ!!!
ในการไปครั้งนี้จขกท.เลือกที่จะพักเตียงแบบแคปซูลที่ห้องหญิงล้วนค่ะ ราคาก็สบายกระเป๋าสุดๆเพราะค่าที่พักนั้นแค่คืนละ 350บาท เท่านั้นเอง พัก 3คืนก็ 1,050บาท ค่ะ
การเดินทางมาที่โฮสเทลแห่งนี้ก็แสนจะง่ายดาย เพราะตัวโฮสเทลนั้นอยู่ห่างจากสถานีรถไฟนครลำปางเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น ถ้านั่งรถไฟมาลงที่สถานีก็สามารถเดินมาที่โฮสเทลได้แบบไม่เหนื่อยแน่นอนค่ะ ส่วนใครที่นั่งเครื่องบินมาลงที่ท่าอากาศยานนครลำปางก็สามารถต่อรถเหลืองเข้ามาลงที่โฮสเทลได้เหมือนกัน เพราะแม้แต่ท่าอากาศยานนครลำปางเองก็อยู่ไม่ไกลเลยค่ะ ง่ายใช่มั้ยละ!
เอาหละ ในเมื่อจองทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางกันเลย!
แน่นอนว่าต้องไปขึ้นรถที่สถานีเดินรถนครชัยแอร์กันก่อน ในวันที่เดินทาง รถของจขกท.ล้อหมุนในเวลา 10โมงตรงค่ะ เพราะว่าบ้านของจขกท.อยู่ค่อนข้างไกลเลยตัดสินใจนั่ง Taxi ไปลงที่สถานีเลย ง่ายและสะดวกที่สุดแล้ว แต่ถ้าใครไม่สะดวก ทางนครชัยแอร์ก็ยังมีตัวเลือกเสริมให้ไปขึ้นรถกันได้ที่สถานีขนส่งหมอชิตกันด้วยนะคะ!
มาถึงแล้วก็สังเกตุง่ายๆค่ะ ตรงที่มี 7/11 นั่นแหละ เดินซื้อของกินเล็กๆน้อยๆก่อนขึ้นรถได้เลย พอซื้อเสร็จก็เดินไปที่เค้าเตอร์เพื่อให้พนักงานตรวจตั๋วให้... ก็ใบเสร็จจาก 7/11 ที่บอกนั่นแหละ ห้ามเผลอทิ้งเลยเชียวนะ! พอพนักงานตรวจตั๋วเสร็จเค้าก็จะวงๆให้เราดูเวลาขึ้นรถ หมายเลขชานชลา และเลขที่นั่งค่ะ ไปถึงก็เข้าไปรอที่ทางเข้าตามหมายเลขชานชลาได้เลย
ก่อนถึงเวลาออกรถประมาณ15นาทีก็จะมีพนักงานมาประกาศให้ขึ้นรถได้ค่ะ รถของเราก็จะมาจอดรออยู่แล้ว ใครมีกระเป๋าที่จะฝากไว้ใต้ท้องรถก็สามารถเอาไปฝากได้เลย เค้าจะมีป้ายห้อยกระเป๋าเอาไว้ให้พร้อมชื่อและเลขที่นั่งตามตั๋วของเราค่ะ ไม่ต้องยกกระเป๋าเองเลย พนักงานของนครชัยแอร์เค้าทำให้หมดเลยค่ะ
ขึ้นรถมากแล้วก็จะได้อารมณ์ประมากณนี้ค่ะ มีพนักงานต้อนรับมาคอยดูแลและพาเราไปยังที่นั่งของเราค่ะ ที่นั่งฝั่งซ้ายมือจะเป็นที่นั่งเดี่ยว ส่วนฝั่งขวาจะเป็นที่นั่งคู่ค่ะ แถวที่3จะเป็น Lady seat แต่ว่าจขกท.จองไม่ทันมันดันเต็มซะก่อน เลยได้ที่นั่งเดี่ยวแถวที่ 5 ไปแทน