วันที่ 10 ธันวาคม 2560 อ่านข่าวหนึ่งด้วยความเศร้าเสียใจ กับการจากไปของคนๆหนึ่ง

ถึงแม้ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่ก็มีช่วงหนึ่งที่วงจรชีวิตมาอยู่วงการเดียวกัน

และยังคงติดตามและศึกษาแนวทางชีวิตลูกผู้ชายนักสู้คนนี้ตลอดมา และลูกผู้ชาย

ที่ทำให้ จขกท แสดงความอาลัยและเสียใจได้ก็คือ



ชื่อของ "เสถียร เสถียรสุต" อาจจะไม่รู้จักในสมัยนี้ แม้แต่คนสมัยก่อนชื่อนี้ก็ไม่ค่อยเป็นที่คุ้นหูมากนัก

แต่ถ้าเอ่ยชื่อ "เสถียรธรรมสถาน" เชื่อว่าเกือบทุกคนต้องเคยได้ยินชื่อมา

และมีคนจำนวนมากที่เคยผ่านเข้าไปศึกษาธรรมกับสถานที่นี้มาแล้ว

"เสถียรธรรมสถาน" แห่งนี้ เป็นที่ที่ เสถียร ทุ่มแรงกาย แรงใจ รวมทั้งทรัพย์สินเงินทองอีกมากมายสร้างขึ้น

เพื่อคนที่ตนรัก แม้จะรู้ว่า ไม่มีโอกาสอยู่ด้วยกันทางโลก แต่ก็ขอผูกพันธ์ด้วยกันทางใจ

และผู้หญิงที่ เสถียร เสถียรสุต รัก ผู้นั้นคือ แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต นั่นเอง



ชีวิตในช่วงก่อนบวชของ แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต

แม่ชีศันสนีย์เป็นชาวบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในวัยเยาว์ชื่อ ตุ๊กตา ด.ญ.ศันสนีย์ ปัญญศิริ

ช่วงวัยรุ่นคุณศันสนีย์ ได้เข้าประกวดนางงาม และได้รับตำแหน่งรองมิสออด๊าซควบรางวัลนางงามบุคลิกภาพ

ความสวยน่ารักระดับคุณภาพ ทำให้ น.ส.ศันสนีย์กลายเป็นดาวเด่นแห่งวงสังคม

เป็นทั้งนางแบบ พิธีกรรายการ และนักประชาสัมพันธ์ ฯลฯ

และด้วยความสวย บวกกับความเฉลียวฉลาด ของคุณศันสนีย์ ก็ไปสะดุดใจหนุ่มใหญ่ เสถียร เสถียรสุต

มหาเศรษฐีเจ้าของเพลินจิตอาเขต ทั้งคู่สานสัมพันธ์จนเกิดเป็นความรัก ซึ่งเป็นรักแรกและรักเดียวของ น.ส.ศันสนีย์

แต่ความรักนี้กลับไม่สมหวัง เมื่อได้ทราบว่าชายที่รักมีครอบครัวอยู่แล้ว



ความผิดหวังจากความรักนี่เองที่ทำให้ภาพเก่าๆเมื่อครั้งวัยเด็ก

ที่คุณแม่คุณศันสนีย์ ก็เคยเป็นเมียน้อย และในที่สุดก็ต้องตรอมใจตาย

ผุดขึ้นมาอีกครั้ง  น.ส.ศันสนีย์ตัดสินใจที่จะเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อยุติปัญหา หันมาเดินบนเส้นทางธรรม

ซึ่งหลายสิบปีต่อมา แม่ชีศันสนีย์ ได้ให้สัมภาษณ์ในหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจในครั้งนั้นว่า

“การเป็นเมียน้อยของใครคนหนึ่ง ชีวิตมันก็จบเพียงเท่านั้น
มันไม่ได้เติบโตต่อ เพราะชีวิตมันไม่ได้มีแค่นั้น ชีวิตไม่ได้แค่เป็นของใครคนหนึ่ง”



เมื่อคุณ เสถียร ทราบการตัดสินใจของ คุณศันสนีย์ ถึงแม้จะเศร้าเสียใจแต่ด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่

กลับสนับสนุนการตัดสินใจครั้งนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่ชีศันสนีย์ต้องการ เสถียร จะทุ่มแรงกาย

แรงใจทำให้อย่างสุดความสามารถ

เสถียรแวะไปที่กุฏิแม่ชีทุกวัน เพื่อช่วยเหลืองานต่างๆ และเป็นกำลังใจ

ครั้งหนึ่งเห็นแม่ชีอ่านหนังสือของท่านพุทธทาส เสถียรซื้อหามาให้อีกกว่าสิบเล่ม

พอพบแม่ชีร้อยพวงมาลัยเพื่อนำไปบูชาพระในโบสถ์ เขาซื้อมะลิถุงใหญ่พร้อมอุปกรณ์การร้อยมาลัยไปฝาก

เมื่อรู้ว่าโบสถ์เก่าไม่แข็งแรงเพราะฐานชำรุด เขาจัดหาวิศวกรและช่างรับเหมาไปบูรณะซ่อมแซม ฯลฯ



วันหนึ่งแม่ชีศันสนีย์จะเรียนพระอภิธรรม คุณเสถียรก็ไปนิมนต์พระที่วัดระฆัง

จัดห้องเรียนพระอภิธรรมไว้เพื่อต่อไปจะได้ใช้เป็นที่ศึกษาของเหล่าพระภิกษุและแม่ชีด้วย

แค่หลวงพ่อพูดเปรยๆ ว่าจะปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้เป็นสิ่งเรียนรู้ธรรมเท่านั้น

เสถียรก็ขนต้นไม้ไปปลูกจนวัดร่มรื่น ถนนหนทางเข้าวัดไม่ดี

เสถียรซื้อรถตู้ถวายวัดเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ทางวัด เรียกว่า

สิ่งใดที่เป็นความประสงค์ หรือ ทำให้แม่ชีมีความสุขได้ เสถียร จะทำทันที


เมื่อแม่ชีบวชได้ 7 ปี หลวงพ่อเป็นพระอภิญญา จึงรู้จิต อดีต และอนาคตของศิษย์

จึงแนะนำให้ซื้อที่ดินที่ติดกับวัดเอาไว้ เหตุนี้ แม่ชีศันสนีย์จึงก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน

ทำเป็นแหล่งศึกษาธรรมะศูยน์ปฏิบัติธรรมในสวนป่ากลางกรุง บนเนื้อที่ 14 ไร่

และแน่นอนทั้งหมดเป็นทุนทรัพย์ของ เสถียร เสถียรสุต


ความรักของ เสถียร เสถียรสุต ที่มีต่อคุณ ศันสนีย์ ปัญญศิริ เป็นความรักที่บริสุทธิ์ที่

ผู้ชายคนหนึ่งมอบให้แก่คนที่ตนรัก เป็นความรักที่เต็มไปด้วยความเสียสละ ยากที่จะหาชายใดมาทัดเทียมได้

ถึงแม้บางช่วงของชีวิต เสถียร เสถียรสุต จะเกี่ยวข้องกับอบายมุข เช่น มวย ม้า จนมีสถานะเป็น "เจ้าพ่อ"

แต่สิ่งเหล่านี้กลับไม่ได้ทำให้ความรักของเขาที่มีต่อหญิงที่ตนรัก ลดน้อยถอยลงไป



นิยามความรักในความคิด จขกท ก็คล้ายกับคุณ เสถียร เสถียรสุข นั่นคือ

"ความรัก ไม่ใช่ การครอบครอง แต่ความรักคือสิ่งที่เรามอบความสุขให้กับ คนที่เรารัก

แม้สิ่งนั้นอาจจะทำให้เราเจ็บปวด แต่ในความเจ็บปวดนั้น จะถูกบรรเทาด้วยความสุขของคนที่เรารัก"

ป.ล เม้นท์ย่อย จะเป็นเรื่องส่วนตัวคุณ เสถียร เสถียรสุต เกี่ยวกับวงการ พระเครื่อง มวย ม้า

ป.ล 2 รองนางงามมีสออด๊าซปีนั้น คือ "เนาวรัตน์ ยุตตะนันท์"

ป.ล 3 ขอบคุณรูปจากเนต



บทความนี้ถ่ายทอดด้วยความอาลัย "คุณเสถียร เสถียรสุต" สุภาพบุรุษผู้บุชาความรัก

ด้วยความนับถืออย่างจริงใจ

cnck