▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
ประเทศตุรกี
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
ภาพถ่ายทิวทัศน์
หนีร้อนไปนอน ตุรกี ฉบับที่ 4 ปามุกกาเล เมืองแห่งสปา
หนีร้อนไปนอน ตุรกี ฉบับที่ 1 มุ่งสู่อีสตันบลู
หนีร้อนไปนอน ตุรกี ฉบับที่ 2 ม้าเมืองทรอย
หนีร้อนไปนอน ตุรกี ฉบับที่ 3 เมืองโบราณเอฟฟิซุส บ้านพระแม่มารีย์
01/12/2560
สวัสดียามเช้าสดใสที่ Lycus River Hotel เมืองปามุกกาเล บอกเลยว่าน้ำแร่เขาแรงมาก ไม่เหมือนน้ำแร่บ้านเรา แต่กลิ่นไม่ฉุนเท่าไหร่นะ ไม่รู้ว่าดึงมาตรงหรือมาผสมน้ำปกติ อาหารก็พอทานได้ มีข้าวต้ม และไข่ออมเลท ขอน้ำพริกกะไกด์ ใครมาเอาน้ำพริกมาได้เลย อ๊าก...วันนี้รถคันใหม่ไม่มีฮีทเตอร์ หรือมันไม่ได้เปิดหว่า เย็นมาก ตอนนี้กำลังออกเดินทางไปปามุกกาเล = ปราสาทปุยฝ้าย ห่างจากที่พัก 15 นาที ปามุกกาเล (ตุรกี: Pamukkale, ออกเสียง) หรือแปลว่า ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) อยู่ในเมืองชื่อเดียวกัน จังหวัดเดนิซลี (Denizli) ประเทศตุรกี เป็นเนินเขาสีขาวของหินปูน มีความยาวประมาณ 2.7 กิโลเมตร สูง 160 เมตร เกิดจากน้ำพุร้อนที่นำแคลเซียมคาร์บอเนตมาตกตะกอน กว้างและใหญ่มาก ที่นี่เขาเชื่อว่าน้ำแร่ใช้รักษาโรคที่นี่เยอะมาก โดยเมืองเฮียราโพลีส เริ่มก่อตั้งประมาณปี 190 ก่อนคริสตกาลโดยเป็นเมืองของชาวกรีก ต่อมาได้กลายเป็นเมืองสปาและศูนย์กลางการรักษาสุขภาพของชาวโรมันหลังจากที่ได้ค้นพบว่าน้ำแร่ร้อนที่ไหลลงมาจากภูเขาสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ แต่สันนิฐานว่าเกิดภัยธรรมชาติ จึงทำให้เมืองนี้ล่มสลาย อะไปลองดูกัน ว่าจะสวยแค่ไหน ปามุกกาเลถูกเลือกให้เป็นมรดกโลกร่วมกับเฮียราโพลีส ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนปามุกกาเล ในปี พ.ศ. 2531
ถึงแล้วกับปราสาทปุยฝ้าย หรือ ปามุกกาเล อือแบบว่าทางเข้าต้องเดินเท้าไปประมาณ 1km ระหว่างทางนั้นมีเมืองเฮียราโพลีส ซึ่งเป็นเมืองเก่าที่ยังหลงเหลือซากอารยธรรมของชาวโรมัน เพราะล่มสลายจากแผ่นดินไหว ภัยธรรมชาติ เรามาถึงแสงแรกเลยแบบว่าสุดๆ เห็นพระอาทิตย์ขึ้น มีคนขึ้นบอลลูนดูบรรยากาศแต่ผม ถ่ายภาพมุมล่างสวยกว่า ไม่เสียเงินด้วยนะ อิอิ ข้างในปามุกกาเลสวยมากบรรยากาศมันได้ อากาศเย็นช่วงเช้าพอสายหน่อยแดดออกก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ละ ไกด์ให้เวลาที่นี่ 1 ชม. รีบเก็บภาพชมบรรยากาสแบบเร็วและรัวๆ ในการดู ถ่ายรูป แบบหมดแม็ก เอิ๊ก หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทางเพื่อไปชมสวนผีเสี้อที่เมือง คอนย่า
เราได้แวะพักรถแถวเมือง Dina ที่เขาสามารถผลิตฝิ่นได้เพื่อนำไปผลิตยา เราก็ได้แวะเข้าห้องน้ำและได้เข้าทาน โยเกริตย์ฮันนี่ โรยด้วยเมล็ดฝิ่น ไกด์บอกว่าของที่นี่อร่อย เออรสชาติก็อร่อยไปอีกแบบ ข้น มัน เปรี้ยว หวาน ครบรสแต่ต้องคลุกโยเกริตย์กับน้ำผึ้งผสมกันก่อนนะ ไม่งั้นแยกกินไม่อร่อย
ระหว่างทางไปคอนย่า ที่เมือง Donya เราแวะทานอาหาร ปีกไก่ย่าง อร้าย...อยากจะกรี๊ด เป็นมือแรกที่สามาถกินได้และลิ้มรสคำว่าอร่อย ซึ่งตั้งแต่มามื้อนี้ อร่อยสุดละครับตั้งแต่มาที่ตุรกี ชื่อร้าน OZKAN อีกอย่างก็พิษซ่าเตาถ่าน ตุรกี แป้งก็แบบนิ่มดีนะครับ ต้องลองโดน แถมร้านข้างร้านอาหารนั้น ขายของราคาถูกดี ซื้อกลับบ้านได้
ตอนนี้ถึงเมืองคอนย่าแล้ว Konya ที่นี่เป็นต้นกำเนิดของศาสนาอิสลาม นิกายซูฟี ที่เป็นนิกายรักสงบ เชื่อในจักรวาล การคมนาคมยังใช้รถรางอยู่นะ เรามาชมสวนผีเสื้อ ภูมิภาคเอเชียตะวันออก สถานที่ถูกสร้างให้ เป็นแลนมาร์คใหม่ของ เมืองคอนย่า ซึ่งเมืองคอนย่า มีพื้นที่เป็นอันดับ 5 ของประเทศ แต่ว่ามีประชากรน้อยเพียง 2 ล้านคนเอง เหตุเพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ใช้ประกอบอาชีพไม่ได้ สวนผีเสื้อนั้นเป็นสวนผีเสื้อเขตร้อน อากาศจะถูกคุมให้ร้อน ซึ่งเราเห็นได้ตามปกติเพราะมันเป็นสวนแบบบ้านเรา แต่ถ้าบ้านเขาก็คงน่าสนใจนะ แล้วพามาเพื่อ ควรเปลี่ยนตางรางทัวร์ด่วน ดูไม่น่าสนใจอะไร เมื่อชมสวนเสร็จเราก็เดินทางต่อไปยัง แคปพาโดเชีย Cappadocia
ตอนนี้ถึงที่พักแล้วโดยนอนที่ เดอะทัวร์ลิส แคปพาโดเชีย มาถึงแล้วก็มืดเลย มองอะไรก็ไม่เห็น แวะเข้าห้องน้ำ อาหารที่นี่ก็แบบเดิมจะไม่พูดละเพราะอย่างไรก็ต้องทานอีกหลายมื้อ แต่วันนี้มีไฮไลท์เวลาสามทุ่ม จะไปดูระบำหน้าท้องกับคลับเต้นของเขา อันนั้นไม่สำคัญ สำคัญคือเหล้าเบียร์ฟรี 555 ขอเมาแพร้บ พรุ่งนี้มาต่อกันครับ