ผม และกรรมของเขา 6. ตอน ยักษ์ในร่างคน

ขอบคุณมากนะครับ สำหรับมิตรภาพของทุกท่านที่มอบให้ผม
ผมรู้สึกดีใจจังเลยครับ  ^ ^ และขอย้ำเจตนาของผมอีกครั้งนะครับ
ที่ผมเอามาเขียนให้คุณอ่านเนี่ย
เป็นเพราะผมคิดได้ว่า ผมอาจจะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ผมอยากจะนำเอาความทุกข์ทรมานของผม มาเล่าให้คุณได้ทราบกัน
เผื่อว่ามีใครกำลังประสบทุกข์แบบผม กำลังมองหาทางออก.  
อาจมองเห็นปลายทางของอุโมค์นั้นแบบผม
เพราะบนเส้นทางแห่งทุกข์มันยากที่จะก้าวผ่าน.
หากขาดความอดทนและเข้าใจในสิ่งที่เราต้องเผชิญอยู่....

ขอให้เรื่องของผมเป็นส่วนนึงที่จะทำให้คุณรู้ว่า ผมเคยทุกข์ปางตาย โดดเดี่ยวอย่างไร้คนคอยช่วยเหลือ แม้ในบางครั้งผมจะทรมานแค่ไหน การคิดสั้น ทำร้ายตัวเองโดยเจตนา มันก็รังแต่จะสร้างสิ่งที่เลวร้ายให้กับชีวิตเพิ่มขึ้น จนเราแก้ไขได้ยากยิ่งขึ้นไปอีกนะครับ

ผมอาจเป็นจุดสว่างเล็ก ๆในยามที่คุณมืดมน แสงหิ่งห้อยอย่างผมหากช่วยนำทางคุณได้ผมก็ดีใจมากแล้วครับ เชื่อผมเถอะ ผมไม่มีเจตนาจะเอาตัวเองมาสร้างกระแสอะไรนะครับ
แล้ววันคืนที่เดินผ่านไปเรื่อยๆ ผมก็จะกลายเป็นสิ่งนึงที่คุณได้เคยอ่านเท่านั้นเอง ^ ^

ครับ มาต่อกันดีกว่า
เรื่องราวของผมกับกลุ่มแพนดูรั่ม ก็ยังไม่จบนะครับ
หลังจากที่ผมได้ช่วยเหลือลุงญาติป้าออแล้ว ผมก็กลายเป็นคนสำคัญของกลุ่ม !!
ใครจะเชื่อว่าผมทำอะไรได้แบบนั้น ผมเป็นคนนึงที่รู้สึกหวาดกลัวต่อสิ่งที่ผมทำลงไป
ป้าออก็มีงานเข้ามาเยอะครับ เพราะปากต่อปาก การช่วยเหลือของป้าออ ก็ไม่ได้คาดหวังเงินทองอะไร มีแต่จะต้องเสียทรัพย์ส่วนตัวด้วยซ้ำนะครับ เพราะใครทุกข์ก็โทรหาป้าออ ><"

ช่วงหลังผมปิดเครื่องหนีป้าออและกลุ่ม เพราะวันๆก็ไม่ได้ทำอะไร นอกจากการตอบคำถาม
และในการถามนั้น มีหลายครั้ง มันแค่เป็นการลองของ หรือวัดความสามารถของผมเท่านั้น
แต่มีครั้งนึงที่ผมจำได้ไม่เคยลืมเลย นั่นก็คือ เรื่องยักษ์ในร่างคน!!

เรื่องเริ่มจากวันหนึ่ง
ผมเกิดคิดถึงป้าๆขึ้นมา ด้วยผมปิดเครื่องหนีป้าไปหลายสัปดาห์ ><"
ใจก็เลยนึกอยากไปเซอร์ไพร้ส์ป้าๆบ้าง ^ ^
ไปบุกฐานทัพลับของป้าเงียบๆดีกว่า.
พอขึ้นไปป้าออก็มีแขกตามเคย แต่แขกคนนั้นเป็นสาวมหาลัยชั้นต้นๆ ^0^
ผมสะดุดตากับเธอมาก เธอเป็นคนน่ารัก หมวยๆขาวๆ
แต่ผมไม่กล้าชอบเธอTT (มันช่างขัดกับความจริงที่ผมรักสาวๆได้ง่ายและไม่จำกัดนะครับ อิๆ)
ดวงตาของเธอเศร้าๆ หมองๆ แค่มองเธอเท่านั้น ก็ทำให้ผมถอยๆออกมา
ผมเดินไปหาป้าอีกคนนึง ไปอ้อนขอขนมกินตามประสาคนขี้ประจบคนแก่ ^ ^
มือผมเย็นเฉียบ เริ่มมีอาการหายใจไม่ออกอีกแล้ว
ผมตั้งใจแล้วว่าจะไม่ยุ่งเรื่องของเธอ ไม่สนใจในสิ่งที่เธอเป็น ><"
แค่ผมคิดเท่านั้นเองครับ !!!!!
พัดลมในอกของผมก็หมุนเล่นงานผมจนผมหน้ามืด  TT
เหงื่อออกจากมืดจนน้ำหยดติ๋งๆ ผมนั่งทบทวนตัวเองสักพัก
แรงกดดันจากพัดลมในอก มันก็เพิ่มความแรงขึ้นเรื่อยๆ
ผมตัดสินใจไปนั่งข้างป้าออ ทุกคนต่างตกใจกับการกระทำของผม !!!!
เพราะทราบดีว่า ผมไม่ชอบไปยุ่งเรื่องของใคร

น้องคนนั้น นั่งอยู่ตรงหน้าผม ผมเปิดฉากคุยกับน้องว่า

"น้อง การทำร้ายตัวเองมันไม่ดีนะ น้องรู้มั้ย? "
"ถ้าน้องตายแล้ว น้องจะไม่ได้หลุดออกจากปัญหาหรอกนะ แต่น้องจะกลายเป็นผีสาวกของยักขิณีตนนึง ยักษ์ที่สิงแม่น้องอยู่งัย "
"น้องก็รู้ใช่มั้ย? "  ผมสูดหายใจลึกๆ พูดต่อ.
"บอกน้องสาวของน้องด้วยว่า ตายไปก็เท่านั้นล่ะ จะฆ่าตัวเองทำไม เรียนก็เก่ง ทำไมไม่สู้เขาล่ะ"
"คนนึงจะแขวนคอ คนนึงจะกินยา ไม่กลัวศพไม่สวยหรอกเหรอ "
" แล้วกรีดตัวเองทำไม เลือดออกมาแล้วคิดว่าดีแล้วเหรอ "
"น้องจะเป็นแผลเป็นไปตลอดชีวิตเลยนะ แผลที่ใจงัยน้อง กรีดเท่าไรมันก็ไม่หายเจ็บหรอกนะ "

(ผมรัวคำถามไม่ยั้ง มันอินกับเรื่องนี้มาก ก็ผมเคยอยากตายเพื่อหนีความทรมานมาแล้วนิครับTT )

น้องหมวย ร้องไห้โหออกมาทีเดียว ร้องออกมาจนลืมผมลืมทุกคนเลย
กรีดร้องออกมาเหมือนโดนคำพูดผมทิ่มแทงเธอ
ผมก็ร้องไห้ตามเคย(สงสารน้องมาก) ใครจะตายๆเนี่ย ผมร้องไห้ทุกครั้งเลย สงสารเขา
ผสมความโกรธที่น้องหมวยกับน้องสาวของน้องหมวย แต่ละคนก็คิดจะฆ่าตัวตายทั้งนั้น
เหมือนน้องหมวยนึกอะไรได้รีบควานหามือถือ
กดเบอร์หาน้องสาวตัวเอง แล้วถามว่า “คิดจะฆ่าตัวตายเหรอ? ทำไมไม่บอกเจ้...”
คงได้รับคำตอบกลับมาว่า “ใช่” ก็ร้องไห้ใหญ่โตอีกรอบ
รอจนน้องหมวยสงบ น้องจึงเล่าให้ฟังว่า

แม่ของน้องหมวยมีอาการแปลกๆ คือ หลายปีหลังชอบกินของคาว ของสด
และเริ่มตบตี อาละวาดถึงขนาดขว้างปามีดใส่ เพื่อจะทำร้ายคนในครอบครัว
ล่าสุดพ่อของน้องหมวย หัวแตก และแขนหัก
พ่อไม่สู้แม่ อดทนเพื่อลูก
น้องสาวก็โดนแม่ด่าอย่างรุนแรง และก็ตบตีจนแก้วหูฉีก
ส่วนน้องหมวยก็ป่วยเข้าโรงพยาบาลเป็นโรคไวรัสชนิดนึง
อาการคล้ายจะเป็นอัมพฤตช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย เธอต้องรักษาด้วยยาแสนแพง
พ่อก็ต้องหาเงินมารักษาเธอ แม่ก็ด่าว่าเธอสมควรตายไม่ควรอยู่เป็นภาระครอบครัว
น้องหมวยเลยคิดจะตายให้สมใจแม่
แต่ไม่เคยรู้ว่า น้องสาวก็คิดจะกินยาตายคืนนี้

ป้าออและกลุ่ม ร้องไห้ทุกคนเวทนาน้องหมวยมาก
ก็ไม่มีใครคิดเลยว่า สาวน้อยแสนน่ารัก จะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
น้องหมวยยื่นแขนและต้นขาให้ดู เธอเครียดจนกรีดขาและข้อมือตัวเองมาหลายรอบแล้ว
แผลเป็นของน้องหมวยลึกและมีรอยอยู่หลายหลายทับๆกัน

ผมหดหู่กับสิ่งที่ได้เห็นมาก มากเสียจนสะท้านเข้าไปถึงใจตัวเอง
เห็นภาพตัวเองนั่งกดมีดคัตเตอร์ ในคืนนั้น ผมยังไม่ได้ทำเลย
แต่น้องเขาทำแล้วหลายรอบ แต่ละรอบก็คงทุกข์สาหัสถึงได้คิดทำร้ายตัวเองแบบนี้
ผมไม่กล้าแม้จะยื่นมือออกไป กลัวเขาจะคิดว่าผมฉวยโอกาส
ได้แต่บอกให้ป้าออ กอดน้อง ป้านาถเดินมาโอบกอดน้องอีกคน ลูบหลังน้องไปมา

ตัวผมเดินแยกออกมา. อยากดูบ้านของน้องหมวยครับ
แค่คิดว่าแม่น้องหมวยเป็นยังงัย ผมก็ได้เจอกับภาพแล้ว ไม่ต้องนั่งสมาธิอะไรเลย
(อันนี้เป็นสิ่งที่ผมทำได้เองครับ)
ผมเห็นยักษ์เพศหญิง เขาเรียกกันว่า "ยักขิณี "นางสิงอยู่ในแม่ของน้องหมวย
อยู่มานานแล้ว จังหวะนั้นเหมือนผมยืนตรงหน้าของยักษ์เลยล่ะครับ
ผมก็งงๆ แต่ก็มาแล้ว ก็อยากจะถามว่า ทำไมถึงมาสิงแม่น้องหมวยได้
ยักษ์บอกว่า ครอบครัวนี้ไปเที่ยวต่างจังหวัดมา
ผมก็จำไม่ได้ว่าเป็นจังหวัดอะไร แล้วแม่ของน้องหมวย ก็ไปด่าท่ารูปปั้น และก็ด่าสถานที่หยาบคาย

เพราะด้วยว่าเป็นคนที่ไม่นับถือศาสนา.
ไม่เชื่อเรื่องอะไร ด่าไปอย่างนั้น หลบหลู่เขา แถมยังเอาเท้าเหยียบถ่มน้ำลายใส่
ผมฟังแล้วจนปัญญาเลย พูดไม่ออก แต่ผมออกจะแปลกใจว่าทำไม ยักษ์เขาถึงคุยกับผมนะ

ป้าออ ลองถามแพนดูรั่ม ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย แกว่าถามไม่ได้ มองไม่เห็น   แต่ทำไมผมถึงเห็นได้ คุยได้หรือผมคือสิ่งที่ผีเห็นว่าเป็นพวกเดียวกันก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้จะมาสงสัยเรื่องผมก็ไม่ได้ด้วย เอาน้องหมวยก่อน

ผมหลับตาลงด้วยความรู้สึกที่ กลืนไม่เข้า คายไม่ออก ....จึงขอตัวลงไปข้างล่างสักพัก ไปเดินผ่อนคลายตัวเอง เพราะรู้สึกเหมือนโดนรัดแน่นด้วยเชือกร้อนๆ มันไม่ได้คิดอะไรนอกจากเข้าใจและสงสารทั้งสองฝ่าย
ฝ่ายหนึ่ง ก็แค้นแน่นอก เขาบอกผมว่า คุณลองให้ใครมาถ่มน้ำลายใส่คุณดูซิ (ยักษ์ดุมากจริงๆนะครับ เหอๆๆ) ตอนนี้หลายคนคงสงสัย ว่ายักษ์ที่ผมสัมผัสได้มีรูปร่างยังงัย? มีรูปร่างเป็นคนนี่แหละครับ แต่ใหญ่โต ในตาพอง แววตาดุดัน และมีนัยน์ตาสีแดง เหมือนคนโกรธจนเส้นเลือดในตาแตก ร่างกายใหญ่โตเนี่ย เหมือนรูปร่างของนางยักษ์ในวรรณคดี ผมเห็นเพียงเท่านี้ ไม่ได้เห็นชัดแจ่มแจ๋ว เพราะนางยักษ์ขิณี เธอให้ผมเห็นคล้ายกับเงาๆ โดยมีดวงตาของเธอ ที่ผมเห็นชัดกว่าส่วนอื่นๆ

ฝ่ายหนึ่งที่โดนกระทำ ก็ทำด้วยความไม่รู้ ไปด่าเขา เอาแค่ถูกด่า ก็ทนไม่ไหวหรอกคับ เอาแค่ด่าคนเหอะนะ ...ใครจะทนได้ มันก็ยากมากที่ใครจะมายอม เพื่อคนกลางที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนอย่างผม
"เจ เจ ขึ้นมาเร็วลูก..." เสียงป้านาถ เรียกผมด้วยความตกใจ และร้อนรน ผมรับคำแล้ววิ่งขึ้นบันไดไปบนบ้านทันที น้องหมวยของผม ตอนนี้ ตาแข็งเด่ ก้มหลุบต่ำลง ก่อนที่จะเงยหน้ามองผมโดยสายตาที่แปลกออกไป ผมรู้สึกได้ในทันทีที่สบตาของน้องหมวย ว่า นางยักษ์ที่ผมคุยด้วยตอนนั้น เขาแล่นมาอยู่แนบร่างน้องหมวย

ผมไม่ได้รู้สึกกลัวเลย แต่เหนื่อยหน่ายมากกว่า ...ทำไมก็ไม่รุ้ครับ เหมือนผมเป็นคนกลาง ทั้งๆที่ผม ไม่ได้มีความหมายอะไรที่ใครจะมายอมรับฟัง ผมได้แต่มองนางยักษ์ในร่างน้องหมวยนิ่งๆ  ก่อนจะเอ่ยถามว่า "ว่างัยคุณ? ....เอาแบบนี้เลยเหรอ?" ฟังดูเหมือนผมชิลมากเลยใช่มั้ยครับ ...????? นางยักษ์ก็รู้ ว่าผมไม่ได้กลัวเขาเลยแม้แต่น้อย และอาจจะได้ยินเสียงความคิดของผม เหมือนที่ผมได้ยินเสียงความคิดของเขา  เขาก็ถามกลับว่า "ทำไม? ต้องมายุ่งเรื่องนี้ด้วย?" ผมมองนิ่งๆ เหมือนเดิม บอกว่า ผมสงสารทั้งเขาและคุณ ผมรู้ตัวว่า ผมไม่มีสิทธิ์อะไรเลยที่จะขอให้คุณหยุดทุกอย่างเสีย ความรู้สึกของผม ผมแค่อยากถามว่า

"หยุดได้มั้ย? ไม่ได้บังคับ ไม่ได้จะทำร้าย" นางยักษ์พูดผ่านน้องหมวย น้ำเสียงฟังดูน่ากลัวว่า "ต้องการอะไร?" ผมก็ตอบไปว่า "ต้องการให้คุณพบแต่ความดี ตัวเองผม ผมเหนื่อยกับเรื่องราวของผมที่ผ่านมาพอสมควร ผมทุเรศและก็สมเพชตัวเองอย่างที่สุด เวลาที่เจอใครทุกข์ ผมก็ทุกข์กับคุณไปด้วย ต่อให้คุณฆ่าทุกคนในครอบครัวเขาตายหมด มันก็ได้แค่สะใจ ผมเชื่อว่า คุณก็คงได้เท่านั้น แล้วสุดท้าย คุณก็จะกลับมาเป็นเขา เขาก็จะกลับมาเป็นคุณ ฆ่ากันอยู่แบบนี้ แล้วแต่คุณนะ"

ยาวที่สุดเท่าที่ผมได้เคยพูดกับผีมาเลยล่ะครับ ผมก้มหน้าลง พร้อมๆกับส่งภาพความทรงจำของผมให้เขาดู ภาพความทรมานเหมือนผีบนดินของผม ภาพความทุเรศน่าสมเพชเวทนาของผมทั้งหมด ภาพของผมที่โดนทั้งคนและผีทำร้าย เท่าที่ความทรงจำของผมจะเก็บเอาไว้ได้ นางยักษ์เงียบไป ผมก็คาดเดาอะไรไม่ได้ ไม่ได้เลย มันทึมๆ จนน่าอึดอัด ผมเองเห็นว่าเงียบไปนาน จึงพูดว่า "รู้จักพระพุทธเจ้ามั้ย? รู้จักหลวงปู่แหวนมั้ย? " ผมคิดว่าในชีวิตนี้ของผม แสงสว่างในชีวิตนี้ของผมเป็นพระนะ ถ้าคุณทำได้มันจะดีต่อตัวคุณเอง คุณอย่าเชื่อผมนะ คุณไปดูก่อน แล้วค่อยตอบผม ไม่ใช่ว่า นางยักษ์จะยอมอยู่เฉยๆ นางยักษ์แผ่ความรู้สึก กดดัน เหมือนเราขึ้นไปบนยอดเขา แล้วอากาศหายใจน้อยมาก จนเริ่มหายใจไม่ออก ใส่ผม มันเหมือนจะตาย หัวใจผมเต้นแรงมาก จนป้าออได้ยินเสียง ผมอดทนมาก แต่สิ่งนี้เจ็บสู้สิ่งที่ผมเคยเจอมาไม่ได้ ก็ข่มเอาไว้ พยายามหายใจลึกๆ

แล้วผมก็คิดภาพของพระพุทธเจ้า (ภาพพระประธาน) ภาพพระสงฆ์ ที่ผมจำได้ติดตา ติดใจ ภาพ รัชกาลที่ 5 ภาพต่างๆ ให้นางยักษ์เห็น ผมไม่รู้ครับว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ แต่ทุกอย่างมันเป็นไปเอง จนที่สุด ผมเห็นภาพสมเด็จโต วัดระฆัง พร้อมกับได้ยินว่า ไม่มีเรื่องบังเอิญบน.โลกนี้ หมายถึง ผมกับนางยักษ์ และน้องหมวย มีความเกี่ยวข้องกัน ถ้าไม่มีก็ไม่มาเจอกัน ผมรีบกำหนดใจตัวเองให้นางยักษ์ได้ยิน นำภาพสมเด็จโตคลุมร่างของนางยักษ์และน้องหมวยไว้ คลุมแบบรักเขา หวังดีต่อเขามาก ผมเห็นน้องหมวยน้ำตาไหล และนางยักษ์ก็น้ำตาไหล ผมยิ้มๆ แบบเข้าใจว่า มันคงจะดีขึ้นแล้วล่ะ เพราะน้องหมวยเรียกชื่อผมได้ ก่อนจะโผเข้าหาป้านาถ ร้องไห้แบบกลัวสุดใจ ป้าออบอกว่า จะพาน้องหมวยไปถวายสังฆทาน และพาไปบวชชีพราหมณ์ที่วัดแห่งหนึ่ง

ส่วนแม่ของน้องหมวย คุยกันได้ว่า พ่อของน้องหมวยจะพาไปโรงพยาบาลตรวจจิต มาถึงตรงนี้ น้องหมวยรีบโทรกลับบ้าน พ่อน้องหมวยบอกว่า แม่ของน้องหมวยอยุ่ๆก็ มีอาการแปลกๆ คือ ด่าอยู่ดีๆ ก็น๊อคสลบไป และหลับยาวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตอนนี้ ยังไม่ตื่น น้องหมวยเล่าให้พ่อฟัง พ่อน้องหมวยบอกว่า พ่อเคยฝันเห็น แต่ไม่คิดว่าจะเป็นความจริง เป็นคนจีนไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต

ป้าออรับหน้าที่ ต่อไปจากผม เพื่อจะให้ยักษ์เขาได้รับบุญกุศล และเลิกแล้วต่อกันไป โดยการอาสาไปพบครอบครัวของน้องหมวย ส่วนตัวผม ได้แต่เงียบ ผมยอมรับกับทุกคนว่าผมเหนื่อยมาก จนขาสั่น ทำไมก็ไม่ทราบ มันหมดแรง ต้องเรียกหาน้ำหวานมาประทังร่างของผมทันที

จังหวะที่ผมนั่งลงอย่างไร้เรี่ยวแรงนั้น ผมเห็นนางยักษ์ยิ้ม ให้ผม ผมก็ยิ้มให้นางยักษ์เช่นกัน รึว่า ผีเห็นผีมันเป็นแบบนี้นะ (5555555555555)
ทำไมผมถึงทำได้ล่ะ? มันจริงรึปล่าว? กับเรื่องที่เพิ่งจบลงเมื่อกี้นี้ ผมเป็นอะไรกันแน่ ผมได้แต่ถามตัวเองด้วยความสับสน ไม่เข้าใจเลยสักนิด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่