สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
เราเป็นนุชโรคจิตที่จะต้องตามไปกดไลค์ให้เฮียทุกโพสต์ในทุกช่องทาง
ในเฟสลงที 30 รูปเราก็ไลค์มันทั้ง 30 รูปนั่นแหละ 555
โพสต์+แชร์รูปเฮียที่เฟสหลักประมาณวันละ 1 ครั้ง
เฟสบุ๊ค ตอนนี้เหมือนเพิ่มกฏอะไรมาใหม่ทำให้คนเห็นน้อยลง เฟสก็ถูกปิดง่ายถ้าข้อมูลไม่เพียงพอ
ทำโฆษณายอดตอบรับน้อยลงกว่าแต่ก่อนมาก ดารานักร้องหลายๆคนใช้เฟสบุ๊คเป็นออฟฟิสเสมือนจริงด้วย
เขา ADS เต็มที่ คนเห็นได้เยอะคนกดไลค์เยอะ แต่ของเฮียทำมาเพื่อนเล่นกับแฟนคลับมันเลยไม่เป็นทางการ
กับเรื่องพรีเซนเตอร์ จริงๆเราว่าภายในระยะเวลาแค่นี้ ได้มาขนาดนี้ก็ดีมากแล้วนะ อันนี้ไม่รู้คนอื่นคิดยังไง
แต่ถ้าใน ณ ขณะนี้ ที่หลายแบรนด์มองข้ามเฮียเพียงเพราะคำว่าไม่แมสและยอดไลค์เฟสไม่ล้าน
อันนี้เราแอบดีใจนะที่มีด่านตรงนี้ให้เขาทดสอบ เพราะแสดงว่าวิสัยทัศน์ของแบรนด์นั้นๆยังไม่พอ
ที่ไปเลือกความกว้างมากกว่าความลงรากลึก
ส่วนตัวยังคิดว่าคนที่มีคนรู้จักเยอะยังให้ผลตอบรับน้อยกว่าคนที่มีคนรู้จักน้อยกว่าแต่มีความloyaltyสูงกว่านะ
ไม่อย่างนั้นแบรนด์ที่กล้าเสี่ยงเอาดาราเกาหลีมาเป็นพรีเซนเตอร์ยอดเขาคงไม่ถล่มทลายแบบนี้
ทั้งที่ในประเทศไทยนักร้องเกาหลีก็เฉพาะกลุ่มนะ ไม่ได้Massที่ลูกเด็กเล็กแดงลุงป้าน้าอาทั่วไปจะรู้จัก
เราก็อยากให้เฮียได้งานพรีเซนเตอร์เยอะๆนะ และไม่ใช่แค่เขาเลือกเฮียแต่เฮียต้องเป็นฝ่ายเลือกด้วย
เราเชื่อว่าถ้าแบรนด์ไหนมองเห็นเฮียและความ loyalty ของกลุ่มแฟนคลับของเฮียตอนนี้ได้
แบรนด์นั้นจะต่อยอดและดูแลเฮียของเราอย่างดี อย่างที่กิฟฟารีน ais และโออิชิทำอยู่ บิวติน่าก็ทำได้ดีซัพพอร์ดได้เหมาะสม
Ragnarok ที่กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เราก็มั่นใจว่าเขาจะดูแลเฮียอย่างดีเช่นกัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราเชื่อว่าสุดท้ายเฮียก็จะเลือกรับเองอย่างพอดี เพราะยังมั่นใจว่าสิ่งที่เฮียรักที่สุดคือการร้องเพลง
และออกไปเจอแฟนคลับของเขาทั่วประเทศอย่างที่เขาบอกนั่นแหละ
และเราก็เห็นด้วยกับนุชจขกท.มากๆ เพราะเฟสคนเล่นเยอะว่าทวีตหลายสิบเท่าเลย ช่วยกันโพสต์
ช่วยกันแชร์ความน่ารักของเฮียออกไปให้คนนอกได้เห็นคนละนิดคนละหน่อย ร้อยทั้งร้อยใครๆก็ต้องหลงรัก
สำหรับยูทูปก็ช่วยกันไปฟังสักวันละสองสามครั้ง หรือเอาตามที่เราไม่ลำบาก
**กดไลค์กันด้วยนะ นุชมีกี่เมล์ก็เอาไปกดหมดเลยเหมือนกัน 555
และให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ฝืนตัวเอง แต่ก็ทำให้ดีที่สุด แค่นี้พี่โชคของเราก็นิ้มแก้มปริแล้ว
ปล. เรื่อง YT เองค่ายก็ต้องช่วยนะ จากMV ที่ผ่านมารู้เลยค่ายขาดเรื่องการ ADS YT มากๆ
วันแรกยังค้นหาชื่อเพลงในยูทูปกันไม่เจอเลย อยากให้ค่ายช่วยส่งเสริมและรับฟีดแบ็ค+ข้อเสนอแนะตรงนี้ด้วย มีคนเสนอไปนานแล้วแหละ)
ในเฟสลงที 30 รูปเราก็ไลค์มันทั้ง 30 รูปนั่นแหละ 555
โพสต์+แชร์รูปเฮียที่เฟสหลักประมาณวันละ 1 ครั้ง
เฟสบุ๊ค ตอนนี้เหมือนเพิ่มกฏอะไรมาใหม่ทำให้คนเห็นน้อยลง เฟสก็ถูกปิดง่ายถ้าข้อมูลไม่เพียงพอ
ทำโฆษณายอดตอบรับน้อยลงกว่าแต่ก่อนมาก ดารานักร้องหลายๆคนใช้เฟสบุ๊คเป็นออฟฟิสเสมือนจริงด้วย
เขา ADS เต็มที่ คนเห็นได้เยอะคนกดไลค์เยอะ แต่ของเฮียทำมาเพื่อนเล่นกับแฟนคลับมันเลยไม่เป็นทางการ
กับเรื่องพรีเซนเตอร์ จริงๆเราว่าภายในระยะเวลาแค่นี้ ได้มาขนาดนี้ก็ดีมากแล้วนะ อันนี้ไม่รู้คนอื่นคิดยังไง
แต่ถ้าใน ณ ขณะนี้ ที่หลายแบรนด์มองข้ามเฮียเพียงเพราะคำว่าไม่แมสและยอดไลค์เฟสไม่ล้าน
อันนี้เราแอบดีใจนะที่มีด่านตรงนี้ให้เขาทดสอบ เพราะแสดงว่าวิสัยทัศน์ของแบรนด์นั้นๆยังไม่พอ
ที่ไปเลือกความกว้างมากกว่าความลงรากลึก
ส่วนตัวยังคิดว่าคนที่มีคนรู้จักเยอะยังให้ผลตอบรับน้อยกว่าคนที่มีคนรู้จักน้อยกว่าแต่มีความloyaltyสูงกว่านะ
ไม่อย่างนั้นแบรนด์ที่กล้าเสี่ยงเอาดาราเกาหลีมาเป็นพรีเซนเตอร์ยอดเขาคงไม่ถล่มทลายแบบนี้
ทั้งที่ในประเทศไทยนักร้องเกาหลีก็เฉพาะกลุ่มนะ ไม่ได้Massที่ลูกเด็กเล็กแดงลุงป้าน้าอาทั่วไปจะรู้จัก
เราก็อยากให้เฮียได้งานพรีเซนเตอร์เยอะๆนะ และไม่ใช่แค่เขาเลือกเฮียแต่เฮียต้องเป็นฝ่ายเลือกด้วย
เราเชื่อว่าถ้าแบรนด์ไหนมองเห็นเฮียและความ loyalty ของกลุ่มแฟนคลับของเฮียตอนนี้ได้
แบรนด์นั้นจะต่อยอดและดูแลเฮียของเราอย่างดี อย่างที่กิฟฟารีน ais และโออิชิทำอยู่ บิวติน่าก็ทำได้ดีซัพพอร์ดได้เหมาะสม
Ragnarok ที่กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เราก็มั่นใจว่าเขาจะดูแลเฮียอย่างดีเช่นกัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราเชื่อว่าสุดท้ายเฮียก็จะเลือกรับเองอย่างพอดี เพราะยังมั่นใจว่าสิ่งที่เฮียรักที่สุดคือการร้องเพลง
และออกไปเจอแฟนคลับของเขาทั่วประเทศอย่างที่เขาบอกนั่นแหละ
และเราก็เห็นด้วยกับนุชจขกท.มากๆ เพราะเฟสคนเล่นเยอะว่าทวีตหลายสิบเท่าเลย ช่วยกันโพสต์
ช่วยกันแชร์ความน่ารักของเฮียออกไปให้คนนอกได้เห็นคนละนิดคนละหน่อย ร้อยทั้งร้อยใครๆก็ต้องหลงรัก
สำหรับยูทูปก็ช่วยกันไปฟังสักวันละสองสามครั้ง หรือเอาตามที่เราไม่ลำบาก
**กดไลค์กันด้วยนะ นุชมีกี่เมล์ก็เอาไปกดหมดเลยเหมือนกัน 555
และให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ฝืนตัวเอง แต่ก็ทำให้ดีที่สุด แค่นี้พี่โชคของเราก็นิ้มแก้มปริแล้ว

ปล. เรื่อง YT เองค่ายก็ต้องช่วยนะ จากMV ที่ผ่านมารู้เลยค่ายขาดเรื่องการ ADS YT มากๆ
วันแรกยังค้นหาชื่อเพลงในยูทูปกันไม่เจอเลย อยากให้ค่ายช่วยส่งเสริมและรับฟีดแบ็ค+ข้อเสนอแนะตรงนี้ด้วย มีคนเสนอไปนานแล้วแหละ)
ความคิดเห็นที่ 1
เรามักจะเห็นเฮียกวาดต้อนคนเข้าเรือนด้วยตัวของเค้าเอง โดยที่การกระทำของเค้านั้น เป็นตัวตนของเค้าชัดเจน ซึ่งเราชอบมากแบบไม่ต้องพยายาม ก็มีคนรักเค้าเอง อย่างงานบิ๊กเมาเท้น หรือตอนมารีญา ได้นุชมาในจำนวนมาก ส่วนพรีเซนเตอร์ เราก็อยากให้ได้เยอะนะ และเราชอบที่เค้ามั่นใจในตัวเฮีย และเลือกเฮีย ซึ่งแบรนด์ที่เค้าเลือกเฮีย ก็ใหญ่ๆทั้งนั้น ทำไมเค้าถึงมั่นใจในเฮียหล่ะ? และนุช นุชาก็สนับสนุนเต็มที่มาก ตอนนี้เฮียแมสมากแล้วค่ะ โพลนิด้า ก็มีชื่อเฮีย ทุกโพลโหวตก็มีชื่อทั้งนั้น.. เจ้าของแบรนด์คนไหน มั่นใจเฮีย เราชื่นชมมากกว่า เพราะเฮียทำได้แน่นอน ถ้าเลือกเฮีย สุดท้ายนี้ เราชอบความเป็นธรรมชาติ แบบไม่ต้องพยายามของเค้า พรีเซนเตอร์ กำลังเข้ามาเรื่อยๆแล้ว แบรนด์ไหนช้า คิดได้ทีหลัง ก็แล้วแต่เค้าเถอะ ถ้ายังไม่เชื่อในพลังนุช ก็แล้วแต่เค้า เพราะยังมีอีกเยอะ ที่จะเข้ามาแน่นอน เรามั่นใจ
ความคิดเห็นที่ 43
คุณ Antispam อ่านข้อความตรงไหนของเราแล้วไม่สบายใจบอกเราได้นะคะ จะแก้ไขให้ บางทีเราพิมพ์อะไรแรงไปหรือเปล่า
เข้ามาอ่านทุกๆ ความเห็นแล้วนะคะ รู้สึกดีใจมากๆ เลยที่ไม่ดราม่าและมีคนเข้าใจในสิ่งที่เราบอก อย่างไรก็ตามมีบางประเด็นที่เราอาจจะยังอธิบายไม่เคลียร์ และสิ่งนี้อาจจะทำให้หลายๆ คนเป็นกังวล
หลายคนอาจจะเข้าใจว่าเราให้สร้างเฟสหลุมเพื่อเพิ่มยอดไลค์เพจพี่โชคหรือเปล่าเอ่ย ก็เลยอาจจะไม่ค่อยชอบว่ามันไปเป็นธรรมชาติ คืออย่างนี้ค่ะ ในความเห็นเรา เพจพี่โชคในปัจจุบันนี้แหละที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ คือมันไม่สะท้อนถึงความนิยมที่มีต่อศิลปินจริงๆ คือจริงๆ แล้วแฟนๆ หวีดพี่โชคแรงกว่านั้น พลังเรามากกว่านั้นมาก แต่พลังเหล่านั้นมันไปอยู่ในทวิตเตอร์ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือเฟสพี่โชคในปัจจุบันไม่สะท้อนความจริง ในขณะที่ทวิตเตอร์สะท้อนความจริงเรื่องความนิยม ทั้งในแง่ของแท็กที่ติดเทรนด์ตลอดๆ ทั้งในแง่ของฟอลโลเวอร์ที่ถือว่าเยอะมากเมื่อเทียบกับสัดส่วนคนใช้ทวิตเตอร์ในไทย
ดังนั้นสิ่งที่เราพยายามรณรงค์คือทำให้เพจในเฟสบุคมันสะท้อนความจริง คนส่วนมากไม่กล้าหวีดในเพจเพราะติดข้อจำกัดเรื่องภาพลักษณ์ ดังนั้นจึงอยากให้มีเฟสสำรองเพื่อการนี้ไงคะ ส่วนการใช้เฟสหลุมดึงคนมาเป็นนุช/นุชา ก็เช่นกัน มันโคตรจะเป็นธรรมชาติเลยเพราะเค้ามาด้วยความที่เห็นตัวตนของพี่โชคที่เราได้แชร์ออกไป มันเป็นการเพิ่มจำนวนแฟนคลับที่ยั่งยืนเลยนะคะ เพียงแต่จะทำอย่างไรไม่ให้ดูเป็นการขายตรง ไม่เป็นการยัดเยียดให้เพื่อนในเฟสเราเอือม นุชมีวิธีค่ะ ซึ่งเดี๋ยวค่อยพูดถึงในเม้นต่อไปนะ
ส่วนประเด็นอื่นที่อยากจะอธิบายเพิ่มคือ หลายคนสงสัยว่าดาราดังๆ เค้าไม่เห็นต้องแมสหรือมีคนติดตามในโลกออนไลน์เยอะๆ เลย ทำไมเค้าถึงได้โฆษณาไป จะอธิบายแบบนี้ค่ะ ดารานั้นเค้ามีสื่อคือทีวี ดังนั้นมันจึงไม่มีคำถามอีกว่าเค้ามียอดไลค์ในเพจของเค้าเท่าไหร่ แต่เราจะไปดูเรตติ้งละคร ดูกระแสของละคร หรือกระแสของรายการที่ดาราคนนั้นประจำอยู่
ในขณะที่พี่โชค ช่องทางหรือสือของเขาคือโลกออนไลน์ ดังนั้นมันจึงต้องดูตัวเลขในโลกออนไลน์ หรือกระแสในโลกออนไลน์เป็นหลักไงคะ ทีนี้ก็จะมีคำถามอีกว่าแล้วเนตไอดอลทีมีคนกดไลค์เพจหลายๆ ล้านล่ะ ทำไมไม่เห็นได้โฆษณา คำตอบคือเขาได้ค่ะ แต่เป็นสินค้าอีกแบบที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของเขา
โดยสรุปคือการเลือกพรีเซนเตอร์มานั้น ไม่ได้ดูด้านใดด้านหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่ดูหลายๆ ด้าน และไม่ได้เลือกจากความชอบส่วนตัวค่ะ มีบางกรณีเหมือนกันที่เจ้าของสินค้าเจาะจงมาเลยว่าจะเอาคนนี้ เพราะเขาชอบเป็นการส่วนตัว แต่กรณีนี้มีน้อย เพราะนักธุรกิจส่วนใหญ่ไม่ได้มาสนใจเรื่องดารานักร้อง ส่วนใหญ่เจ้าของโพรดักจะยกหน้าที่ให้เอเจนซี่เป็นคนหา ซึ่งเอเจนซี่เมื่อรับเงินก้อนใหญ่ของเขามาแล้วก็ต้องทำทุกทางให้ยอดขายสินค้าเขาพุ่งหลังจากที่เราปล่อยโฆษณาออกไป ดังนั้นเอเจนซี่เองก็เลือกตัวพรีเซนเตอร์ตามความชอบส่วนตัวไม่ได้ ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เป็นตัวเลข เป็นสถิติ เป็นสิ่งที่ผ่านการเห็นชอบในที่ประชุมจริงๆ ต่อให้เจ้าของบริษัทเป็นนุชที่แท้ AIS ก็ตัดสินใจจากความชอบส่วนตัวไม่ได้ค่ะ
อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้พิจารณาด้านเดียว ตัวผลิตเองเขาก็มีจุดแข็งที่พวกเราภูมิใจนำเสนอ ซึ่งอยากให้นุชและนุชารักษาสิ่งนี้ไว้ ขอสรุปเป็นข้อๆ นะคะ
1. ความห้างแตกห้างแตน อันนี้เป็นจุดแข็งมากๆ และใครๆก็รู้ใครๆก็เห็น
2. กระแสในทวิตเตอร์ รักษาไว้ค่ะ โดยเฉพาะเมื่อพวกเราแสดงพลังตอนโหวตมารีญานั้น มันสร้างเครติดให้พี่โชคมาจริงๆ
3. การชนะโหวตในรายการต่างๆ โหวตไปเถอะค่ะ สิ่งเหล่านี้ถูกเก็บเข้าพอร์ตหมด เราอาจจะตกเป็นเหยื่อการตลาดบ้าง แต่ผลที่ได้มานั้นคุ้มค่าจริงๆ
4. การที่พี่โชคหยิบจับอะไรแล้วสิ่งนั้นขายดี ซื้อเถอะแม้เขายังไม่ได้เป็นพรีเซนเตอร์ เพราะมันจะทำให้แบรนด์ต่างๆ หันมามองพี่โชคตาเป็นมัน อย่างไรก็ตามฝ่ายที่คอยเบรกว่าอย่าซื้อนะ เพราะเค้ายังไม่จ้างพี่โชค อันนั้นก็ทำถูกค่ะ ควรทำต่อไป งงหรือเปล่า สรุปคือควรมีทั้งสองฝั่ง ทั้งฝั่งที่ซื้อหน้ามืดและฝั่งที่คอยเบรก ยืนยันว่าต้องมีทั้งสองฝั่งค่ะ
5.ความเป็นข่าวตลอดๆ ฟันบิ่นก็เป็นข่าว อันนี้ดีมากๆ เลย ดังนั้นเว็บไหนเพจไหนลงข่าวพี่โชค นุชอย่าลืมไปเพิ่มยอดวิวยอดไลค์นะคะ เขาจะได้ลงข่าวบ่อยๆ ถ้าจะเอาข่าวมาแปะในทวิตก็เอามาเป็นลิ้งค์ค่ะ
6.การมีทีมคอยดันชาร์ตเพลง อันนี้ดีงามมาก แม้ตัวเพลงจะไม่อาจเลี้ยงตัวนักร้อง ทีมงาน และค่าย แต่มันคือบันไดที่จะสร้างชื่เสียงให้เป็นที่รู้จักและเป็นกระแสค่ะ ทำต่อไปอย่าได้หยุด
เข้ามาอ่านทุกๆ ความเห็นแล้วนะคะ รู้สึกดีใจมากๆ เลยที่ไม่ดราม่าและมีคนเข้าใจในสิ่งที่เราบอก อย่างไรก็ตามมีบางประเด็นที่เราอาจจะยังอธิบายไม่เคลียร์ และสิ่งนี้อาจจะทำให้หลายๆ คนเป็นกังวล
หลายคนอาจจะเข้าใจว่าเราให้สร้างเฟสหลุมเพื่อเพิ่มยอดไลค์เพจพี่โชคหรือเปล่าเอ่ย ก็เลยอาจจะไม่ค่อยชอบว่ามันไปเป็นธรรมชาติ คืออย่างนี้ค่ะ ในความเห็นเรา เพจพี่โชคในปัจจุบันนี้แหละที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ คือมันไม่สะท้อนถึงความนิยมที่มีต่อศิลปินจริงๆ คือจริงๆ แล้วแฟนๆ หวีดพี่โชคแรงกว่านั้น พลังเรามากกว่านั้นมาก แต่พลังเหล่านั้นมันไปอยู่ในทวิตเตอร์ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือเฟสพี่โชคในปัจจุบันไม่สะท้อนความจริง ในขณะที่ทวิตเตอร์สะท้อนความจริงเรื่องความนิยม ทั้งในแง่ของแท็กที่ติดเทรนด์ตลอดๆ ทั้งในแง่ของฟอลโลเวอร์ที่ถือว่าเยอะมากเมื่อเทียบกับสัดส่วนคนใช้ทวิตเตอร์ในไทย
ดังนั้นสิ่งที่เราพยายามรณรงค์คือทำให้เพจในเฟสบุคมันสะท้อนความจริง คนส่วนมากไม่กล้าหวีดในเพจเพราะติดข้อจำกัดเรื่องภาพลักษณ์ ดังนั้นจึงอยากให้มีเฟสสำรองเพื่อการนี้ไงคะ ส่วนการใช้เฟสหลุมดึงคนมาเป็นนุช/นุชา ก็เช่นกัน มันโคตรจะเป็นธรรมชาติเลยเพราะเค้ามาด้วยความที่เห็นตัวตนของพี่โชคที่เราได้แชร์ออกไป มันเป็นการเพิ่มจำนวนแฟนคลับที่ยั่งยืนเลยนะคะ เพียงแต่จะทำอย่างไรไม่ให้ดูเป็นการขายตรง ไม่เป็นการยัดเยียดให้เพื่อนในเฟสเราเอือม นุชมีวิธีค่ะ ซึ่งเดี๋ยวค่อยพูดถึงในเม้นต่อไปนะ
ส่วนประเด็นอื่นที่อยากจะอธิบายเพิ่มคือ หลายคนสงสัยว่าดาราดังๆ เค้าไม่เห็นต้องแมสหรือมีคนติดตามในโลกออนไลน์เยอะๆ เลย ทำไมเค้าถึงได้โฆษณาไป จะอธิบายแบบนี้ค่ะ ดารานั้นเค้ามีสื่อคือทีวี ดังนั้นมันจึงไม่มีคำถามอีกว่าเค้ามียอดไลค์ในเพจของเค้าเท่าไหร่ แต่เราจะไปดูเรตติ้งละคร ดูกระแสของละคร หรือกระแสของรายการที่ดาราคนนั้นประจำอยู่
ในขณะที่พี่โชค ช่องทางหรือสือของเขาคือโลกออนไลน์ ดังนั้นมันจึงต้องดูตัวเลขในโลกออนไลน์ หรือกระแสในโลกออนไลน์เป็นหลักไงคะ ทีนี้ก็จะมีคำถามอีกว่าแล้วเนตไอดอลทีมีคนกดไลค์เพจหลายๆ ล้านล่ะ ทำไมไม่เห็นได้โฆษณา คำตอบคือเขาได้ค่ะ แต่เป็นสินค้าอีกแบบที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของเขา
โดยสรุปคือการเลือกพรีเซนเตอร์มานั้น ไม่ได้ดูด้านใดด้านหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่ดูหลายๆ ด้าน และไม่ได้เลือกจากความชอบส่วนตัวค่ะ มีบางกรณีเหมือนกันที่เจ้าของสินค้าเจาะจงมาเลยว่าจะเอาคนนี้ เพราะเขาชอบเป็นการส่วนตัว แต่กรณีนี้มีน้อย เพราะนักธุรกิจส่วนใหญ่ไม่ได้มาสนใจเรื่องดารานักร้อง ส่วนใหญ่เจ้าของโพรดักจะยกหน้าที่ให้เอเจนซี่เป็นคนหา ซึ่งเอเจนซี่เมื่อรับเงินก้อนใหญ่ของเขามาแล้วก็ต้องทำทุกทางให้ยอดขายสินค้าเขาพุ่งหลังจากที่เราปล่อยโฆษณาออกไป ดังนั้นเอเจนซี่เองก็เลือกตัวพรีเซนเตอร์ตามความชอบส่วนตัวไม่ได้ ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เป็นตัวเลข เป็นสถิติ เป็นสิ่งที่ผ่านการเห็นชอบในที่ประชุมจริงๆ ต่อให้เจ้าของบริษัทเป็นนุชที่แท้ AIS ก็ตัดสินใจจากความชอบส่วนตัวไม่ได้ค่ะ
อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้พิจารณาด้านเดียว ตัวผลิตเองเขาก็มีจุดแข็งที่พวกเราภูมิใจนำเสนอ ซึ่งอยากให้นุชและนุชารักษาสิ่งนี้ไว้ ขอสรุปเป็นข้อๆ นะคะ
1. ความห้างแตกห้างแตน อันนี้เป็นจุดแข็งมากๆ และใครๆก็รู้ใครๆก็เห็น
2. กระแสในทวิตเตอร์ รักษาไว้ค่ะ โดยเฉพาะเมื่อพวกเราแสดงพลังตอนโหวตมารีญานั้น มันสร้างเครติดให้พี่โชคมาจริงๆ
3. การชนะโหวตในรายการต่างๆ โหวตไปเถอะค่ะ สิ่งเหล่านี้ถูกเก็บเข้าพอร์ตหมด เราอาจจะตกเป็นเหยื่อการตลาดบ้าง แต่ผลที่ได้มานั้นคุ้มค่าจริงๆ
4. การที่พี่โชคหยิบจับอะไรแล้วสิ่งนั้นขายดี ซื้อเถอะแม้เขายังไม่ได้เป็นพรีเซนเตอร์ เพราะมันจะทำให้แบรนด์ต่างๆ หันมามองพี่โชคตาเป็นมัน อย่างไรก็ตามฝ่ายที่คอยเบรกว่าอย่าซื้อนะ เพราะเค้ายังไม่จ้างพี่โชค อันนั้นก็ทำถูกค่ะ ควรทำต่อไป งงหรือเปล่า สรุปคือควรมีทั้งสองฝั่ง ทั้งฝั่งที่ซื้อหน้ามืดและฝั่งที่คอยเบรก ยืนยันว่าต้องมีทั้งสองฝั่งค่ะ
5.ความเป็นข่าวตลอดๆ ฟันบิ่นก็เป็นข่าว อันนี้ดีมากๆ เลย ดังนั้นเว็บไหนเพจไหนลงข่าวพี่โชค นุชอย่าลืมไปเพิ่มยอดวิวยอดไลค์นะคะ เขาจะได้ลงข่าวบ่อยๆ ถ้าจะเอาข่าวมาแปะในทวิตก็เอามาเป็นลิ้งค์ค่ะ
6.การมีทีมคอยดันชาร์ตเพลง อันนี้ดีงามมาก แม้ตัวเพลงจะไม่อาจเลี้ยงตัวนักร้อง ทีมงาน และค่าย แต่มันคือบันไดที่จะสร้างชื่เสียงให้เป็นที่รู้จักและเป็นกระแสค่ะ ทำต่อไปอย่าได้หยุด
ความคิดเห็นที่ 54
ตอบไปดูทรงก็จะมาม่า ... 555
เอาเป็นว่าคอมเมนท์จากการดูตลาดละกันนะ เพราะก็ไม่ใช่นุชเต็มตัว แค่พอมีคนที่ทำงานทั้งด้านการตลาดตรงๆและอ้อมๆ(=วิจัยตลาด) แล้วก็ตามเรื่องตลาดกันมาตั้งนานหลักสิบปี ... == พูดในมุมของศลป.คนอื่นๆ และคนอื่นๆที่ไม่ใช่ศิลปิน ละกันนะครับ
อย่างนึงต้องเก็ทว่า
ในบทของคนวิจัยตลาดและเจ้าของโปรดักส์ ในงานๆนึง
อย่างน้อยตัวคนวิจัยตลาด เค้าก็ดู Acc หลุมกันออกนะ
และเจ้าของบางโปรดักส์ ก็รู้เรื่องแอคหลุมเช่นกัน
- ที่เค้าไปใช้ Like/Dislike บน youtube กับ facebook fanpage กันเพราะมันสร้างหลุมยากกว่าทวิตเตอร์หลายเท่าครับ (ปั่นวิวก็เรื่องนึง แต่ปั่นวิวมันไม่ได้ช่วยอะไรมาก ถ้าไปเจอการตลาดทำการบ้านมาแล้วจริงๆ คนนึงกี่วิวก็ได้ ได้ไลค์เดียว .. สัดส่วน view / comment / like มันจะฟ้องอะไรบางอย่าง)
- Analytic Tools ของ Youtube/Facebook ค่อนข้างดีมากในเบอร์ที่แทบจะกรองแอคหลุมได้เลยนะครับ ยังไม่นับทูลที่ซับซ้อนกว่านั้นถึงขั้นพล๊อตความสัมพันธ์ระหว่างแอค หรือระหว่างศิลปินกับสินค้า หรือศิลปินกับแฟนคลับ ได้ด้วย (แพงขึ้นตามนั้นไป)
- เวลา Market Analyst ทำการเช็คตลาดเนี่ย เวลาคอมเมนท์ เจอแอคที่เป็นแอคหลุมมันเช็คได้นะครับ เค้าสุ่มกลุ่มตัวอย่างไปบางกลุ่มก็รู้แล้ว (มันมีสถิติอยู่ว่ากลุ่มตัวอย่างเท่าไร สุ่มเท่าไรได้ Distribution กระจายครอบคลุม) ... สุ่ม 7 ครั้งเจอหลุม 7 ครั้งงี้มันก็จะให้ฟีลคำถามในใจเหมือนกัน
แล้วแอคหลุมหน้าตาเป็นไง (ต่อให้เป็นแอคจริงแต่เข้าโปรไฟล์นี้ก็จัดเป็นหลุมแหล่ะ)
- กดเข้าไป friend ปิดสนิท (เลิก ไปดูคนใหม่)
- กดเข้าไป ดิสเป็น ศิลปิน (หรือเป็นรูปคู่ศิลปิน) ---> ลองคิดภาพสิครับ มีสินค้า 1 ชิ้น มีคอมเมนท์ 1 ร้อย ถ้าคุณเห็นรูปศิลปินล้วนๆ แว้บแรกที่คุณจะคิดเลยคือ คอมเมนท์นี้มา "อวย" ... ซึ่งเป็นแว้บที่ให้ผล negative กับผลิตภัณฑ์มากๆ
- mutual friend น้อยนิด -> แชร์ไปก็ไม่ถึงใคร กลายเป็นยอดแชร์ที่ให้ตัวเลข แต่ไม่ให้ reach ใดๆกับเจ้าของสินค้า
- เนื้อหา public มีแต่ศิลปินเพียวๆ
- account since ... ก็เป็นตัวฟ้องเหมือนกันว่าสมัครมานาน หรือใหม่เอี่ยมเลย
- เพจที่ไลค์ เป็นศิลปินล้วนๆ ... ทวิตที่ฟอล เป็นศิลปินล้วนๆ ... ถูกฟอลโดยแฟนคลับที่เป็นศิลปินล้วนๆ
ส่วน twitter มันถูกใช้เป็น timeline-based statistic (temporal) มากกว่า
(ช่วงเวลานี้ กำลังมีเรื่องนี้ เรื่องนี้กำลังเป็นกระแส คนมีส่วนร่วมเยอะขนาดไหน)
ก็จะเอาเป็นทูลไปจับการตลาด .. ทวิตในช่วงเวลานั้นได้ engagement ประมาณนั้น ซะมากกว่า ..
(คือเหมาะกับงานละคร กระแสละคร ภาพยนตร์ เพลง .... รวมไปถึงแคมเปญจน์รณรงค์พิเศษบางประเภท
เช่น โครงการก้าว แท็กมีทูเรื่องสิทธิสตรี หรืออีเวนท์ล่าแม่มดต่างๆ ... แต่ไม่เหมาะเท่าไร ถ้าจะเอามาใช้
กับการขายโปรดักส์ที่ต้องการการกลับมาซื้อซ้ำ หรือต้องการทำข้อมูลตลาดเรื่องการใช้งาน)
[[ เรื่องนี้ทำให้ทวิตเตอร์เองเป็นกิจการที่กำไรยากกว่า FB/YT/Google หลายเท่าด้วย ]]
----------------------------
แต่ก็อีก ความต้องการมันขึ้นกับโปรดักส์นะครับ ต้องการลูกค้ากลุ่มไหน แบบไหน
ที่เค้า(เจ้าของโปรดักส์) เลือกแมสในตัวเลขจำนวนฟอลกัน มากกว่า ความใช้นานหรือยอดขาย(ชั่วคราว)
คืออาจจะต้องมองให้ออกว่า ถ้ามันเป็นโปรดักส์ผ่านตัวศิลปินเอง และต้องการ boost ยอดขาย
เพื่อวัตถุประสงค์บางประการ (ต้องการยอด ต้องการระบายสต๊อคก่อนออกโปรดักส์ใหม่
ต้องการเอาโปรดักส์ใหม่เข้าตลาด) มันก็จะได้ยอดพุ่งพรวดๆ แป๊บนึง หรือกำลังจะต้องแข่งเพื่อประกาศเบอร์ 1
(ต้องการยอดแบบเร่งด่วน) การเลือกกลุ่มที่แฟนคลับเหนียวแน่นมากก็จะตอบโจทย์ตรงนั้นมากกว่า
กับอีกงานที่ต้องการกลุ่มที่แฟนคลับทัพหน้าหนาแน่น ก็คือพวกงานอีเวนท์ที่ต้องการการมีส่วนร่วม (ซึ่งมันมีเทรดออฟอยู่นะ แน่น -> กลุ่มเดิม -> กลุ่มเดียว -> หน้าใหม่เข้าไม่ได้ ... แต่ก็จะได้ PR ผ่าน social ไปในวงกว้างแทน)
ดังนั้นในเคสค่ายมือถือมันเลยลำบากนิดนึง (คิดภาพสิ นุช 1 คน ซื้อมือถือได้กี่เครื่อง เปิดเบอร์ได้กี่เบอร์ พกซิมได้กี่อัน) แล้วถ้ามีแต่นุช มันจะได้มือถือเพิ่มไหม ได้เบอร์เพิ่มป่าว ได้ซิมเพิ่มป่าว แล้วที่ได้มา จะเกิดรายได้เดือนที่สองไหม .. หรือเป็นลูกค้ารายเดือนรายใหม่หรือเปล่า อะไรพวกนี้
แต่ถ้าออกโปรดักส์ใหม่มาเลย (เช่น boost ยอดขายมือถือบางรุ่นบางตัวที่เพิ่งเข้ามา) ก็จะคิดอีกแบบ
หรือแม้ในกระทั่ง consumable ทั้งหลายทั้งปวงเช่นเครื่องดื่ม ... ถ้ามันไม่ได้ mass คุณก็จะ boost ยอดในขณะนั้น ... แต่จะดื่มได้นานขนาดไหนกับเยอะขนาดไหน แล้วถ้าโปรดักส์ใหม่มา โปรดักส์เก่ายังไงดี อะไรทำนองนั้น
-------- ในทางกลับกัน ถ้าเป็นงานโหวต
งานโหวต (อาธิเช่น 9en/คชล) มันเป็นงานที่ผู้จัดมีเป้าหมายในการ หารายได้จาก จำนวนซื้อซ้ำของคนจำนวนไม่มากอยู่แล้วนะครับ ดังนั้นงานโหวตก็จะเน้นทาร์เก็ตไปที่คนที่มีแฟนคลับพร้อมเปย์เยอะ ก็จะเวิร์คกว่า ... แปลว่า คนที่มีฐานแฟนคลับพร้อมเปย์เยอะ ชื่อจะไม่เคยหายไปจากรายการโหวตรายการไหนเลย (เพราะคะแนนโหวตคือสินค้าที่เค้าขาย) ... ส่วนงานใหม่ที่จะเข้ามาหลังจากได้ top vote แล้วในสายตาของการตลาด มันอาจจะไม่ได้มีผลมากไปกว่า matrix อื่นๆที่กล่าวมาข้างบนเลยนะครับ
---------------------
สรุป....... ที่สุดแล้วที่สำคัญมากๆคือ real engagement ต่อโปรดักส์นั่นล่ะครับ
(ไลค์ คอมเมนท์ พูดถึงโปรดักส์>ศิลปิน) สังเกตไหมว่า สิ่งนึงที่แฟนคลับแสดงออกต่อโปรดักส์
ต่างกับ Real engagement แบบชัดเจนมากๆคือ ฟค.ไม่ได้พูดถึงสินค้า .. แต่ฟค.พูดถึงศิลปิน
และโดยมากมักไม่ยาวด้วย (ศลป. มีงานใหม่ใน Product ใกล้เคียงกัน หรือโปรดักส์ค่ายเดียวกันแต่ตัวใหม่
ก็จะกระทบตัวเก่าทันทีอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะกำลังจ่ายมาจากที่เดียวกันและที่เดิม)
ทำยังไงให้คนอยากเข้าด้อม หรือเห็นผลงานแล้วชื่นชม เห็นโปรดักส์แล้วชอบ กลายมาเป็นแอคใหม่ที่ซัพพอร์ตศิลปิน นั่นล่ะครับสิ่งที่ควรทำที่สุด (แต่มันยากมากจริงๆ และจะยากเป็นพิเศษถ้าโฟกัสเราเห็นจากกลุ่มฟค.ด้วยกัน ... คือมันต้องถอยออกมาดูกว้างๆ หลายด้านมากถึงจะเห็น)
และช่องทางที่ดีที่สุดในฝั่งออนไลน์ตอนนี้คือ FB สำหรับสินค้าทั่วไป ... และ YT สำหรับ media ทั้งหลายทั้งปวง (TW สำหรับ event-based)
ที่พิมพ์ไม่ได้แปลว่าให้โฟกัสที่อันใดอันนึงนะครับ แต่จะสื่อว่า อยากได้ตลาดไหนสินค้าแบบไหน ตัวศิลปินและแฟนคลับ ในโหมดที่เค้าจะใช้มันก็ต้องพร้อมตามไปกันด้วย ... ในเคสของผลิตนั้น ... เลยมักได้งานสายอีเวนท์/โปรดักส์อีเวนท์ไงครับ เพราะฐาน FB/YT ยังแข็งแกร่งไม่เท่า mass คนอื่นๆเดิมอยู่เลย เจ้าถิ่นเค้าดุกันทั้งนั้น
เอาเป็นว่าคอมเมนท์จากการดูตลาดละกันนะ เพราะก็ไม่ใช่นุชเต็มตัว แค่พอมีคนที่ทำงานทั้งด้านการตลาดตรงๆและอ้อมๆ(=วิจัยตลาด) แล้วก็ตามเรื่องตลาดกันมาตั้งนานหลักสิบปี ... == พูดในมุมของศลป.คนอื่นๆ และคนอื่นๆที่ไม่ใช่ศิลปิน ละกันนะครับ
อย่างนึงต้องเก็ทว่า
ในบทของคนวิจัยตลาดและเจ้าของโปรดักส์ ในงานๆนึง
อย่างน้อยตัวคนวิจัยตลาด เค้าก็ดู Acc หลุมกันออกนะ
และเจ้าของบางโปรดักส์ ก็รู้เรื่องแอคหลุมเช่นกัน
- ที่เค้าไปใช้ Like/Dislike บน youtube กับ facebook fanpage กันเพราะมันสร้างหลุมยากกว่าทวิตเตอร์หลายเท่าครับ (ปั่นวิวก็เรื่องนึง แต่ปั่นวิวมันไม่ได้ช่วยอะไรมาก ถ้าไปเจอการตลาดทำการบ้านมาแล้วจริงๆ คนนึงกี่วิวก็ได้ ได้ไลค์เดียว .. สัดส่วน view / comment / like มันจะฟ้องอะไรบางอย่าง)
- Analytic Tools ของ Youtube/Facebook ค่อนข้างดีมากในเบอร์ที่แทบจะกรองแอคหลุมได้เลยนะครับ ยังไม่นับทูลที่ซับซ้อนกว่านั้นถึงขั้นพล๊อตความสัมพันธ์ระหว่างแอค หรือระหว่างศิลปินกับสินค้า หรือศิลปินกับแฟนคลับ ได้ด้วย (แพงขึ้นตามนั้นไป)
- เวลา Market Analyst ทำการเช็คตลาดเนี่ย เวลาคอมเมนท์ เจอแอคที่เป็นแอคหลุมมันเช็คได้นะครับ เค้าสุ่มกลุ่มตัวอย่างไปบางกลุ่มก็รู้แล้ว (มันมีสถิติอยู่ว่ากลุ่มตัวอย่างเท่าไร สุ่มเท่าไรได้ Distribution กระจายครอบคลุม) ... สุ่ม 7 ครั้งเจอหลุม 7 ครั้งงี้มันก็จะให้ฟีลคำถามในใจเหมือนกัน
แล้วแอคหลุมหน้าตาเป็นไง (ต่อให้เป็นแอคจริงแต่เข้าโปรไฟล์นี้ก็จัดเป็นหลุมแหล่ะ)
- กดเข้าไป friend ปิดสนิท (เลิก ไปดูคนใหม่)
- กดเข้าไป ดิสเป็น ศิลปิน (หรือเป็นรูปคู่ศิลปิน) ---> ลองคิดภาพสิครับ มีสินค้า 1 ชิ้น มีคอมเมนท์ 1 ร้อย ถ้าคุณเห็นรูปศิลปินล้วนๆ แว้บแรกที่คุณจะคิดเลยคือ คอมเมนท์นี้มา "อวย" ... ซึ่งเป็นแว้บที่ให้ผล negative กับผลิตภัณฑ์มากๆ
- mutual friend น้อยนิด -> แชร์ไปก็ไม่ถึงใคร กลายเป็นยอดแชร์ที่ให้ตัวเลข แต่ไม่ให้ reach ใดๆกับเจ้าของสินค้า
- เนื้อหา public มีแต่ศิลปินเพียวๆ
- account since ... ก็เป็นตัวฟ้องเหมือนกันว่าสมัครมานาน หรือใหม่เอี่ยมเลย
- เพจที่ไลค์ เป็นศิลปินล้วนๆ ... ทวิตที่ฟอล เป็นศิลปินล้วนๆ ... ถูกฟอลโดยแฟนคลับที่เป็นศิลปินล้วนๆ
ส่วน twitter มันถูกใช้เป็น timeline-based statistic (temporal) มากกว่า
(ช่วงเวลานี้ กำลังมีเรื่องนี้ เรื่องนี้กำลังเป็นกระแส คนมีส่วนร่วมเยอะขนาดไหน)
ก็จะเอาเป็นทูลไปจับการตลาด .. ทวิตในช่วงเวลานั้นได้ engagement ประมาณนั้น ซะมากกว่า ..
(คือเหมาะกับงานละคร กระแสละคร ภาพยนตร์ เพลง .... รวมไปถึงแคมเปญจน์รณรงค์พิเศษบางประเภท
เช่น โครงการก้าว แท็กมีทูเรื่องสิทธิสตรี หรืออีเวนท์ล่าแม่มดต่างๆ ... แต่ไม่เหมาะเท่าไร ถ้าจะเอามาใช้
กับการขายโปรดักส์ที่ต้องการการกลับมาซื้อซ้ำ หรือต้องการทำข้อมูลตลาดเรื่องการใช้งาน)
[[ เรื่องนี้ทำให้ทวิตเตอร์เองเป็นกิจการที่กำไรยากกว่า FB/YT/Google หลายเท่าด้วย ]]
----------------------------
แต่ก็อีก ความต้องการมันขึ้นกับโปรดักส์นะครับ ต้องการลูกค้ากลุ่มไหน แบบไหน
ที่เค้า(เจ้าของโปรดักส์) เลือกแมสในตัวเลขจำนวนฟอลกัน มากกว่า ความใช้นานหรือยอดขาย(ชั่วคราว)
คืออาจจะต้องมองให้ออกว่า ถ้ามันเป็นโปรดักส์ผ่านตัวศิลปินเอง และต้องการ boost ยอดขาย
เพื่อวัตถุประสงค์บางประการ (ต้องการยอด ต้องการระบายสต๊อคก่อนออกโปรดักส์ใหม่
ต้องการเอาโปรดักส์ใหม่เข้าตลาด) มันก็จะได้ยอดพุ่งพรวดๆ แป๊บนึง หรือกำลังจะต้องแข่งเพื่อประกาศเบอร์ 1
(ต้องการยอดแบบเร่งด่วน) การเลือกกลุ่มที่แฟนคลับเหนียวแน่นมากก็จะตอบโจทย์ตรงนั้นมากกว่า
กับอีกงานที่ต้องการกลุ่มที่แฟนคลับทัพหน้าหนาแน่น ก็คือพวกงานอีเวนท์ที่ต้องการการมีส่วนร่วม (ซึ่งมันมีเทรดออฟอยู่นะ แน่น -> กลุ่มเดิม -> กลุ่มเดียว -> หน้าใหม่เข้าไม่ได้ ... แต่ก็จะได้ PR ผ่าน social ไปในวงกว้างแทน)
ดังนั้นในเคสค่ายมือถือมันเลยลำบากนิดนึง (คิดภาพสิ นุช 1 คน ซื้อมือถือได้กี่เครื่อง เปิดเบอร์ได้กี่เบอร์ พกซิมได้กี่อัน) แล้วถ้ามีแต่นุช มันจะได้มือถือเพิ่มไหม ได้เบอร์เพิ่มป่าว ได้ซิมเพิ่มป่าว แล้วที่ได้มา จะเกิดรายได้เดือนที่สองไหม .. หรือเป็นลูกค้ารายเดือนรายใหม่หรือเปล่า อะไรพวกนี้
แต่ถ้าออกโปรดักส์ใหม่มาเลย (เช่น boost ยอดขายมือถือบางรุ่นบางตัวที่เพิ่งเข้ามา) ก็จะคิดอีกแบบ
หรือแม้ในกระทั่ง consumable ทั้งหลายทั้งปวงเช่นเครื่องดื่ม ... ถ้ามันไม่ได้ mass คุณก็จะ boost ยอดในขณะนั้น ... แต่จะดื่มได้นานขนาดไหนกับเยอะขนาดไหน แล้วถ้าโปรดักส์ใหม่มา โปรดักส์เก่ายังไงดี อะไรทำนองนั้น
-------- ในทางกลับกัน ถ้าเป็นงานโหวต
งานโหวต (อาธิเช่น 9en/คชล) มันเป็นงานที่ผู้จัดมีเป้าหมายในการ หารายได้จาก จำนวนซื้อซ้ำของคนจำนวนไม่มากอยู่แล้วนะครับ ดังนั้นงานโหวตก็จะเน้นทาร์เก็ตไปที่คนที่มีแฟนคลับพร้อมเปย์เยอะ ก็จะเวิร์คกว่า ... แปลว่า คนที่มีฐานแฟนคลับพร้อมเปย์เยอะ ชื่อจะไม่เคยหายไปจากรายการโหวตรายการไหนเลย (เพราะคะแนนโหวตคือสินค้าที่เค้าขาย) ... ส่วนงานใหม่ที่จะเข้ามาหลังจากได้ top vote แล้วในสายตาของการตลาด มันอาจจะไม่ได้มีผลมากไปกว่า matrix อื่นๆที่กล่าวมาข้างบนเลยนะครับ
---------------------
สรุป....... ที่สุดแล้วที่สำคัญมากๆคือ real engagement ต่อโปรดักส์นั่นล่ะครับ
(ไลค์ คอมเมนท์ พูดถึงโปรดักส์>ศิลปิน) สังเกตไหมว่า สิ่งนึงที่แฟนคลับแสดงออกต่อโปรดักส์
ต่างกับ Real engagement แบบชัดเจนมากๆคือ ฟค.ไม่ได้พูดถึงสินค้า .. แต่ฟค.พูดถึงศิลปิน
และโดยมากมักไม่ยาวด้วย (ศลป. มีงานใหม่ใน Product ใกล้เคียงกัน หรือโปรดักส์ค่ายเดียวกันแต่ตัวใหม่
ก็จะกระทบตัวเก่าทันทีอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะกำลังจ่ายมาจากที่เดียวกันและที่เดิม)
ทำยังไงให้คนอยากเข้าด้อม หรือเห็นผลงานแล้วชื่นชม เห็นโปรดักส์แล้วชอบ กลายมาเป็นแอคใหม่ที่ซัพพอร์ตศิลปิน นั่นล่ะครับสิ่งที่ควรทำที่สุด (แต่มันยากมากจริงๆ และจะยากเป็นพิเศษถ้าโฟกัสเราเห็นจากกลุ่มฟค.ด้วยกัน ... คือมันต้องถอยออกมาดูกว้างๆ หลายด้านมากถึงจะเห็น)
และช่องทางที่ดีที่สุดในฝั่งออนไลน์ตอนนี้คือ FB สำหรับสินค้าทั่วไป ... และ YT สำหรับ media ทั้งหลายทั้งปวง (TW สำหรับ event-based)
ที่พิมพ์ไม่ได้แปลว่าให้โฟกัสที่อันใดอันนึงนะครับ แต่จะสื่อว่า อยากได้ตลาดไหนสินค้าแบบไหน ตัวศิลปินและแฟนคลับ ในโหมดที่เค้าจะใช้มันก็ต้องพร้อมตามไปกันด้วย ... ในเคสของผลิตนั้น ... เลยมักได้งานสายอีเวนท์/โปรดักส์อีเวนท์ไงครับ เพราะฐาน FB/YT ยังแข็งแกร่งไม่เท่า mass คนอื่นๆเดิมอยู่เลย เจ้าถิ่นเค้าดุกันทั้งนั้น
ความคิดเห็นที่ 46
มาต่อนะคะ
ว่าด้วยการสร้างเฟสหลุมเพื่อหวีดพี่โชค และการดึงนิวนุช/นิวนุชา เข้าด้อม
โดยธรรมชาติของคนส่วนใหญ่ จะไม่ชอบการยัดเยียด เมื่อใดก็ตามที่รุ้สึกว่าถูกยัดเยียดรู้สึกว่ามันมากเกินไปก็จะเกิดการถอยหนี ดังนั้นอันดับแรกคือห้ามคุณแสดงตัวว่าเป็นนุช เริ่มจากรูปโพรไฟล์ ใช้รูปอื่นค่ะอย่าใช้รูปพี่โชค อันนี้มีประโยชน์เวลาไปเม้นในเพจอื่นๆ ด้วย เคยเห็นไหม มีเว็บข่าวลงข่าวผลิต พอเลื่อนมาดูคอมเม้น นุชทั้งน้านนนนน ในสายตาคนนอกมันน่าเบื่อค่ะ ลองทำตัวเป็นคนอื่นเป็นชาวบ้านทั่วไปเข้าไปเม้นดู ภาพมันจะดูหลากหลาย ดูว่าพี่โชคไม่ได้มีแต่นุชนะ คนนอกก็ชอบเขาเหมือนกัน
คำถามต่อมาคือแล้วเราจะหาเพื่อนจากไหน เราหาจากเพจที่เราสนใจและไปกดไลค์ไว้ค่ะ เช่นเพจหุ้น เพจทำอาหาร เพจงานเกษตร เพจจ่า เพจเจี๊ยบ เพจของจังหวัดต่างๆ ฯลฯ อาจจะเป็นคนที่เราเข้าไปคอมเม้นแล้วเค้ามากดไลค์เราแบบนี้ก็ได้ คือรับเพื่อนไปเรื่อย รับทุกวัน
แล้วเราจะโพสต์อะไรลงไปบ้าง???? โพสต์เรื่องทั่วไปที่คนชอบและไม่เกี่ยวกับพี่โชค เช่นคลิปน่ารักน่าสนใจ คำคม ธรรมมะ แชร์เรื่องที่เพื่อนซึ่งเราดึงมาจากเพจต่างๆ น่าจะสนใจ เช่นเรื่อง ต้นไม้ อาหาร หุ้น ฯลฯ หรือเรามีเพื่อนที่เป็นน้องๆ นักเรียนเยอะ ก็จะแชร์เรื่องอาชีพ การเรียนต่อ ซึ่งน้องๆ ก็จะสนใจกัน เรื่องความงาม แฟชั่น ฯลฯ
แล้วแชร์เรื่องพี่โชคตอนไหนอ่ะ??? เราจะแชร์เรื่องพี่โชควันละ 1-2 ครั้งค่ะ ไม่เกินนั้น บางวันก็ไม่ได้โพสต์ บางวันก็มีดารานักร้องคนอื่นๆ เราว่าเพื่อนในเฟสรู้แหละว่าเราเป็นแฟนคลับพี่โชค แต่ไม่ใช่ประเภทบ้าคลั่งน่ารำคาญไง
อะไรเกี่ยวกับพี่โชคที่เราควรเอามาโพสต์??? เบสิกเลยคือรูปหล่อๆ ค่ะ ก็สูบมาจากทวิตแหละ อย่าลืมเครดิตด้วย นอกจากนี้ก็มีลิ้งไลฟ์สดจากเพจที่ตามถ่ายเฮีย ไลฟ์จากเพจเฮียเองทั้งเก่าและใหม่ คลิปต่างๆ จากยูทูป ที่ขาดไม่ได้คือ opv น่ารักๆในยูทูปซึ่งมีเยอะมาก
ฟีดแบคเป็นอย่างไรบ้าง???? ดีเกินคาดค่ะ อย่างที่บอกว่าพี่โชคของเรานั้นง่ายต่อการหลงรัก มีบางคนในเฟสบอกเราว่า พี่มารับผิดชอบหนูด้วย เมื่อคืนหนูนอนตีสี่เลย สรุปคือนางดูยูทูปจนตีสี่ เริ่มจากอันที่เราแชร์ จากนั้นยูทูปมันก็จะแนะนำให้เองไงคะ ส่วนฟีดแบคที่ไม่ดีถามว่ามีหรือเปล่า ก็จะเป็นประเภทมาเม้นว่าพี่โชคเป็นตุ๊ด กรณีนี้ห้ามโกรธเด็ดขาดนะคะ แต่ให้ปาคลิปล่อแหลมให้ดูเลย พวกแหวกๆ อกอ่ะค่ะ เท่าที่ทำมาได้ผลชะงัดอยู่นะ มันดีกว่าคำพูด มันดีกว่าการแก้ข่าว ดีกว่าอะไรทั้งหมด ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมพี่โชคถึงแสดงออกมาในทิศทางนี้ เค้าแค่ต้องการจะบอกทุกคนว่าผมเป็นผู้ชายครับ ผลไม่ได้เป็นเกย์...เท่านั้นเอง
เราได้อะไรจากแคมเปญนี้??? ตรงๆ เลยก็คือได้นุชเพิ่มขึ้น คนที่ไม่เป็นนุชก็รู้จักผลิตดีขึ้นและให้ความสนใจ ตัวเราเองได้ความสุขความเพลิดเพลิน ได้ความภาคภูมิใจว่าเป็นลมใต้ปีกของคนที่เรารัก
ที่สำคัญที่สุด
ตอนนี้นุชมี "กำลังพลส่วนตัว" สองร้อยกว่าคน ที่พร้อมจะคลิกเข้าไปดูทันทีที่นุชวางลิ้งค์เพลงใหม่ของพี่โชค
ว่าด้วยการสร้างเฟสหลุมเพื่อหวีดพี่โชค และการดึงนิวนุช/นิวนุชา เข้าด้อม
โดยธรรมชาติของคนส่วนใหญ่ จะไม่ชอบการยัดเยียด เมื่อใดก็ตามที่รุ้สึกว่าถูกยัดเยียดรู้สึกว่ามันมากเกินไปก็จะเกิดการถอยหนี ดังนั้นอันดับแรกคือห้ามคุณแสดงตัวว่าเป็นนุช เริ่มจากรูปโพรไฟล์ ใช้รูปอื่นค่ะอย่าใช้รูปพี่โชค อันนี้มีประโยชน์เวลาไปเม้นในเพจอื่นๆ ด้วย เคยเห็นไหม มีเว็บข่าวลงข่าวผลิต พอเลื่อนมาดูคอมเม้น นุชทั้งน้านนนนน ในสายตาคนนอกมันน่าเบื่อค่ะ ลองทำตัวเป็นคนอื่นเป็นชาวบ้านทั่วไปเข้าไปเม้นดู ภาพมันจะดูหลากหลาย ดูว่าพี่โชคไม่ได้มีแต่นุชนะ คนนอกก็ชอบเขาเหมือนกัน
คำถามต่อมาคือแล้วเราจะหาเพื่อนจากไหน เราหาจากเพจที่เราสนใจและไปกดไลค์ไว้ค่ะ เช่นเพจหุ้น เพจทำอาหาร เพจงานเกษตร เพจจ่า เพจเจี๊ยบ เพจของจังหวัดต่างๆ ฯลฯ อาจจะเป็นคนที่เราเข้าไปคอมเม้นแล้วเค้ามากดไลค์เราแบบนี้ก็ได้ คือรับเพื่อนไปเรื่อย รับทุกวัน
แล้วเราจะโพสต์อะไรลงไปบ้าง???? โพสต์เรื่องทั่วไปที่คนชอบและไม่เกี่ยวกับพี่โชค เช่นคลิปน่ารักน่าสนใจ คำคม ธรรมมะ แชร์เรื่องที่เพื่อนซึ่งเราดึงมาจากเพจต่างๆ น่าจะสนใจ เช่นเรื่อง ต้นไม้ อาหาร หุ้น ฯลฯ หรือเรามีเพื่อนที่เป็นน้องๆ นักเรียนเยอะ ก็จะแชร์เรื่องอาชีพ การเรียนต่อ ซึ่งน้องๆ ก็จะสนใจกัน เรื่องความงาม แฟชั่น ฯลฯ
แล้วแชร์เรื่องพี่โชคตอนไหนอ่ะ??? เราจะแชร์เรื่องพี่โชควันละ 1-2 ครั้งค่ะ ไม่เกินนั้น บางวันก็ไม่ได้โพสต์ บางวันก็มีดารานักร้องคนอื่นๆ เราว่าเพื่อนในเฟสรู้แหละว่าเราเป็นแฟนคลับพี่โชค แต่ไม่ใช่ประเภทบ้าคลั่งน่ารำคาญไง
อะไรเกี่ยวกับพี่โชคที่เราควรเอามาโพสต์??? เบสิกเลยคือรูปหล่อๆ ค่ะ ก็สูบมาจากทวิตแหละ อย่าลืมเครดิตด้วย นอกจากนี้ก็มีลิ้งไลฟ์สดจากเพจที่ตามถ่ายเฮีย ไลฟ์จากเพจเฮียเองทั้งเก่าและใหม่ คลิปต่างๆ จากยูทูป ที่ขาดไม่ได้คือ opv น่ารักๆในยูทูปซึ่งมีเยอะมาก
ฟีดแบคเป็นอย่างไรบ้าง???? ดีเกินคาดค่ะ อย่างที่บอกว่าพี่โชคของเรานั้นง่ายต่อการหลงรัก มีบางคนในเฟสบอกเราว่า พี่มารับผิดชอบหนูด้วย เมื่อคืนหนูนอนตีสี่เลย สรุปคือนางดูยูทูปจนตีสี่ เริ่มจากอันที่เราแชร์ จากนั้นยูทูปมันก็จะแนะนำให้เองไงคะ ส่วนฟีดแบคที่ไม่ดีถามว่ามีหรือเปล่า ก็จะเป็นประเภทมาเม้นว่าพี่โชคเป็นตุ๊ด กรณีนี้ห้ามโกรธเด็ดขาดนะคะ แต่ให้ปาคลิปล่อแหลมให้ดูเลย พวกแหวกๆ อกอ่ะค่ะ เท่าที่ทำมาได้ผลชะงัดอยู่นะ มันดีกว่าคำพูด มันดีกว่าการแก้ข่าว ดีกว่าอะไรทั้งหมด ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมพี่โชคถึงแสดงออกมาในทิศทางนี้ เค้าแค่ต้องการจะบอกทุกคนว่าผมเป็นผู้ชายครับ ผลไม่ได้เป็นเกย์...เท่านั้นเอง
เราได้อะไรจากแคมเปญนี้??? ตรงๆ เลยก็คือได้นุชเพิ่มขึ้น คนที่ไม่เป็นนุชก็รู้จักผลิตดีขึ้นและให้ความสนใจ ตัวเราเองได้ความสุขความเพลิดเพลิน ได้ความภาคภูมิใจว่าเป็นลมใต้ปีกของคนที่เรารัก
ที่สำคัญที่สุด
ตอนนี้นุชมี "กำลังพลส่วนตัว" สองร้อยกว่าคน ที่พร้อมจะคลิกเข้าไปดูทันทีที่นุชวางลิ้งค์เพลงใหม่ของพี่โชค
แสดงความคิดเห็น
นุชสายงานโฆษณา มีเรื่องมาบอกเล่าค่ะ
เราเป็นนุชในสายงานโฆษณา ปกติก็สิงทวิต มีแอคหลุมไว้หวีดพี่โชคเหมือนทุกคนนั่นแหละ อะหิ อะหิ
แต่วันนี้ลงทุนสมัครพันทิพย์เพราะคิดว่าที่นี่มันพิมพ์ได้ยาวสุด ถ้าใครเห็นด้วยกับสิ่งที่นุชจะเขียนต่อไปนี้
ก็ค่อยเอาไปแชร์ลงทวิต เมืองหลวงของพวกเรานะคะ
อยากจะเล่าให้ทุกคนฟังว่า ในสายงานโฆษณานั้น มีนุชอยู่เยอะมากกกก บางคนก็เปิดเผย บางคนก็ไม่
แต่มันจะ "โป๊ะแตก" เวลาที่เชียร์ให้พี่โชคได้งาน บางคนเป็นระดับซีเนียร์แล้ว ลักษณะก็จะเริ่ดๆ เชิ่ดๆ
ดูภายนอกไม่ออกเลยว่าเป็นติ่งนักร้อง แต่เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม ความนุชก็มาเต็ม ผลักดันพี่โชคกัน
แบบลืมตายเลยทีเดียว
แต่...
นุชอยากบอกทุกคนว่าผลิต "วืด" ไปหลายงานมากเลยค่ะ บางงานนี่นุชอยากจะลงไปดิ้นที่พื้นแล้วร้องกรี๊ดๆ
คือมันเสียดายมากถึงมากที่สุด วืดแบบเส้นยาแดงผ่าแปด และสาเหตุที่ซ้ำรอยเดิมอยู่เสมอคือคำว่า เขายัง
ไม่แมสพอ คำว่าแมสคือเป็นที่รู้จักในวงกว้าง พี่ป้าน้าอา ลูกเด็กเล็กแดง คนในกรุงในต่างจังหวัดรู้จักหมด
ตอนนี้ทั้งลูกค้าและเอเจนซี่เอง ยังมองว่าผลิตดังเฉพาะกลุ่ม
จุดแข็งของผลิตในตอนนี้คือ มีแฟนคลับกลุ่มมหึมา มากที่สุดในบรรดาดารานักร้องไทย และแฟนคลับมีพลัง
ความรักรุนแรง พร้อมจะผลักดันในทุกทาง อีกทั้งมีกำลังทรัพย์สูงด้วย แต่สินค้าส่วนใหญ่ต้องการความกว้าง
ความแมส ดังนั้นความวืดจึงบังเกิดอยู่บ่อยๆ
ทีนี้คำถามคือความ "แมส" สำรวจจากอะไร ถ้าเป็นสมัยก่อน ก็จะมีการจ้างทำวิจัย คือมีคนไปแจกแบบสอบถาม
ทั้งใน กทม.และ ตจว. หรืออาจจะดูจากเรตติ้งละคร กระแสละคร ความดังของเพลง กระแสของดารานักร้อง
คนนั้นๆในสื่อ ในปัจจุบันอินดิเคเตอร์เหล่านี้ก็ถูกนำมาใช้อยู่ แต่มีสิ่งที่เพิ่มเข้ามาและถูกนำมาพิจารณาเป็น
พิเศษคือ ความนิยมในโลกออนไลน์
สถิตเกี่ยวกับโลกออนไลน์ของไทยในตอนนี้นะ
มีคนไทยเข้าถึงเฟซบุค 47 ล้านคน(กว่าครึ่งของประชากร) อินสตาแกรม 11 ล้านคน ทวิตเตอร์ 9 ล้านคน
ยูทูป ไม่สามารถบอกจำนวนที่แน่นอนได้เพราะสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องสมัครสมาชิก แต่อนุมานว่าคนไทย
เข้าถึงยูทูปได้พอๆ กับที่เข้าถึงเฟซบุค เห็นได้จากยอดวิวอลังการของเพลงไทย และคลิปต่างๆของไทย
ทีนี้เรามาดูสถิติของพี่โชคบ้าง เอาของวันนี้เลยนะ
ยอดเฟสบุค 822807 / ig 1 ล้าน / ทวิตเตอร์ 909000 /ยูทูป ...อย่างที่ทราบกัน
นุชและนุชาลองดูสถิติที่เรายกมานะคะ ทั้งของไทยและของพี่โชค พอจะมองเห็นไหมว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน..
เอาล่ะ เราจะพักตรงนี้ไว้ก่อน มาฟังเรื่องนี้กันก่อน อยากเล่าให้ฟังว่าตอนนี้คนโฆษณากำลังตั้งรับและปรับตัวกับ
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สื่อที่เราคุ้นเคยกันมาแต่เด็กอย่างนิตยสารกำลังจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ นุชขอบอก
เลยว่านิตยสารที่เป็นกระดาษสวยๆ มันจะกลายเป็นอดีตทั้งหมดนะคะ พี่โชคคือไอดอลคนสุดท้ายของประเทศไทย
ที่ได้ขึ้นปกแบบรัวๆ ก่อนที่นิตยสารจะทยอยปิดตัวกันไป และจะไปอยู่ในโลกออนไลน์
รายการทีวีต่างๆ โดยเฉพาะละคร เรตติ้งน้อยลงทุกวัน เพราะคนไปอยู่ในโลกออนไลน์ คนยังคงดูละครกันอยู่นะ
แต่ไม่ได้ดูทางทีวีไง หลายบ้านทีวีฝุ่นจับแล้ว ส่วนวิทยุไม่ต้องพูดถึง กลายเป็นวัตถุโบราณไปเรียบร้อย เพราะพวก
เราฟังวิทยุผ่านเนต
กล่าวโดยสรุปนะคะ สื่อต่างๆมันจะลงไปอยู่ในโลกออนไลน์ทั้งหมดในอีกไม่นานต่อจากนี้ คนดูจะเป็นผู้เลือกว่าเขา
ต้องการดูอะไรในเวลาที่เขาสะดวก สามารถดูย้อนหลังได้ ข้ามสิ่งที่เขาไม่อยากดูได้ และแน่นอน โฆษณาต้องปรับตัว
ลงไปอยู่ในโลกออนไลน์เช่นกัน อันที่จริงนำไปก่อนแล้ว ยกตัวอย่างที่ใกล้ตัวพวกเราที่สุดก็คือโฆษณากิฟฟารีน ทุกคนคง
เห็นแล้วว่าออกทีวีแค่จึ๋งเดียว แต่เนื้อหาของโฆษณาอีก 90 เปอร์เซ็นไปอยู่ในเฟสบุค และยูทูป
ใช่แล้วค่ะ เฟสบุคและยูทูป คือปัญหาใหญ่ของพี่โชค เป็นเหตุให้พี่เขาวืด และเป็นเหตุให้นุชสายโฆษณามาตั้งกระทู้
ในพันทิพย์
ทำไมเฟซบุคและยูทูปจึงสำคัญมาก ประการแรก จากสถิติที่ยกมาให้ดู จะเห็นได้ว่ามันเป็นสื่อที่คนไทยเข้าถึงได้มากที่สุด
นุชเคยไปตามต่างจังหวัด สังเกตว่าตั้งแต่เด็กเล็กๆ จนถึงคนสูงอายุ ทุกคนมีเฟสบุคหมด ทุกคนเปิดดูยูทูปมากกว่าดูทีวี
ประการที่สองคือเฟสบุคและยูทูปมันคือแพลตฟอร์มที่เหมาะกับการเอาโฆษณาไปลง ในขณะที่ ig และ ทวิตเตอร์เราทำได้
แค่แปะลิ้งค์โฆษณานั้นเพื่อให้คนตามไปดูในเพจหรือในยูทูป
เอาล่ะ หลังจากชักแม่น้ำทั้งห้ามามากพอสมควร นุชขอยิงหมัดตรงเลยนะ คืออยากจะบอกว่าให้ทุกคนหันมาสนใจเพจพี่โชค
ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ นุชทราบว่าทุกคนเอ็นจอยกับโลกทวิตเตอร์ รู้สึกสนุกใกล้ชิด และถูกจริตมากกว่า นุชหลายๆ คนรวมทั้ง
ตัวเราเองทนโลกเฟซบุคไม่ได้ แต่มันสำคัญจริงๆค่ะ มันมีผลต่อการได้งาน เรามักต้องอธิบายซ้ำๆ กับทั้งเอเจนซี่ที่เราสังกัด
และกับลูกค้าเจ้าของโพรดัค ว่าอาณาจักรของผลิตโชคนั้นอยู่ในทวิตเตอร์
แต่คำอธิบายของพวกเรามันไม่ค่อยเป็นผล อย่างที่อธิบายมาข้างต้นว่าเฟซบุคและยูทูปมันคือสื่อหลักจริงๆ เรามีปัญหามากๆ กับ
ยอดไลค์เพจพี่โชคที่มันไม่ทะลุล้านสักที ยอดไลค์โพสต์และคอมเมนต์ที่น้อยลงกว่าแต่ก่อนมาก พวกเราคนในด้อมรู้ดีว่า
มันเป็นเพราะคนในเพจตามไปหวีดพี่โชคในทวิตกันหมดแล้ว แต่คนนอกเขาไม่รู้ไง เขามองจากตัวเลขสถิติแล้วก็ตีความว่า
นอกจากยอดไลค์ไม่ถึงล้านแล้วความแอคทีฟของแฟนๆ ยังลดลงอีก
สิ่งที่นุชอยากจะวอนขอทุกคนในเบื้องต้น คือเวลาพี่โชคโพสต์ลงเพจ นุชรีบมาไลค์และใส่คอมเมนต์ทุกครั้ง พิมพ์ขิงข่าอะไรก็ได้
ทำให้ตัวเลขมันสวย ให้ดูว่าแฟนๆ ยังแอคทีฟอยู่ (ซึ่งจริงๆก็แอคทีฟแหละ แต่มันไปเกินขึ้นในทวิต)
ส่วนยูทูป ถามจริงนุชมีแอคเคาท์กันหรือเปล่า การปั่นวิวนั้นไม่ต้องมีแอคก็ปั่นได้ แต่มันกดไลค์ไม่ได้ไง คือเพลงเงาะอ่ะ
เพลงมันคูล มันเฉพาะกลุ่ม ได้ยอดวิวห้าล้านมันไม่น่าเกลียดนะ แต่ยอดไลค์ได้แค่นั้นมันน่าเกลียด นุชต้อง
กดไลค์ด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้ถูกนำไปพิจารณาหมดว่าศิลปินคนนี้ แท้จริงแล้วมีคนชอบมากแค่ไหน
นุชพิมพ์ยาวมาก ไม่รู้ว่ามีคนอ่านหรือเปล่า เบื่อกันหรือยัง แต่เรามาถึงประเด็นสุดท้ายแล้วนะคะ
ประเด็นสุดท้ายคือ แล้วการได้เป็นพรีเซนเตอร์โฆษณา มันสำคัญกับผลิตขนาดไหน ตอบว่าสำคัญ และเป็น
สิ่งที่ควรจะได้มาค่ะ ในชีวิตการเป็นศิลปินดารานักร้องนั้น นอกจากการมีแฟนๆ ที่รัก การมีผลงานที่ปังแล้ว สิ่งที่
น่าปรารถนาอีกอย่างหนึ่งก็คือการได้เป็นพรีเซนเตอร์สินค้านี่แหละ
นอกจากเรื่องเงินก้อนใหญ่ที่ได้มาโดยไม่ต้องเหนื่อยยากตรากตรำมากแล้ว งานพรีเซนเตอร์ยังจะช่วย
ส่งเสริมให้ศิลปินคนนั้นมีชื่อเสียงมากขึ้นไปอีก คือนอกจากโฆษณาสินค้าแล้ว มันยังเป็นการโฆษณาตัวเอง
ไปด้วยในตัว งงไหม นึกถึงบิลบอร์ดยักษ์สิ นึกถึงการที่คนเห็นหน้าเขาในจอทุกๆ ชั่วโมงสิ
แล้วมันแปลกอย่างนึงนะคะ ถ้าศิลปินคนไหนมีโฆษณาเข้า มันก็จะเข้ามารัวๆ แต่ถ้าใครไม่มีก็จะไม่มีไปเลย
มันจึงเป็นเหมือนกระแสที่ต้องจุดให้ติดก่อน พอติดแล้วก็ยาวไป รวยกันพุงปลิ้นไปเลยล่ะจ้า ของพี่โชคมันเหมือน
ลูกผีลูกคนไงนุช คือเหมือนจุดกระแสขึ้นมาแล้วล่ะ แต่ไฟมันยังติดๆดับๆ เหมือนอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
ที่เราต้องร่วมแรงร่วมใจกันทำให้สำเร็จ
คนโฆษณาอย่างนุชนี้ ต้องดีลกับคนในวงการเพลงอยู่เสมอ คือเราต้องจ้างเขาทำดนตรีและแต่งเพลงน่ะ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานุชจึงได้รู้ความเป็นไปของวงการเพลงว่า เพลงไม่ใช่สินค้าที่จะทำให้ตัวนักร้อง
และทีมงานยังชีพอยู่ได้ ต่อให้นุชช่วยกันซื้อแผ่นแท้ และโหลดเพลงถูกลิขสิทธิ์ของพี่โชคกันสักเท่าใด
พี่เขาก็ไม่มีรายได้พอที่จะเลี้ยงวง พอแบ่งค่ายไม่ให้ค่ายเกิดตัวแดง ดังนั้นสิ่งที่นักร้องดังๆ บ้านเราต้องทำ
ก็คือรับงานจนบักโกรก เรียกว่าไปให้สุดแล้วหยุดที่เส้นเสียงอักเสบ หรือไม่ก็เจ็บป่วยจนต้องพักยาว
แล้วพี่โชคเราก็แสนบอบบาง มีโรคประจำตัว ดังนั้นเจ้าพ่อพรีเซนเตอร์คือคำตอบข่ะ เชื่อนุช ให้เขาทำเงิน
จากทางอื่นๆ แล้วก็ทำงานเพลงแบบชิวๆ มีซิงเกิ้ลดีๆ ออกมาตลอดๆ
เรามีทีมผลักดันเรื่องโหวตรายการต่างๆแล้ว มีทีมดันเพลงตามคลื่นวิทยุที่เก่งและเสียสละจนน่ากราบแล้ว
แต่เรายังไม่เคยพูดถึงการดันเพจให้มันทะลุล้านและมีความแอคทีฟสูงเลย
นุชอยากจะนำเสนอวิธีการ ที่ค้นพบโดยบังเอิญ อยากให้ลองทำกันดู มันสนุกมากๆด้วย ทุกคนมี "เฟสหลุม"
กันหรือเปล่า เราเชื่อว่าเธอมี มันคือเฟสบุคอีกบัญชีหนึ่งที่เราสร้างไว้หวีดพี่โชคโดยเฉพาะ เอาไว้กดเลิฟรัวๆ
เวลาพี่โชคไลฟ์ เลาเชื่อว่าเธอว์มี...
มีอยู่ช่วงหนึ่งเฟสมันบังคับให้เรารับเพื่อน ไม่งั้นมันก็จะจำกัดการมองเห็นของเรา เฟสหลุมของนุชที่ไม่มีเพื่อน
แม้แต่คนเดียวก็เลยต้องกดรับเพื่อนเข้ามา ซึ่งคนที่นุชรับเข้ามาก็เป็นพวกขายของที่มาขอแอดเฟรนด์เราไว้
ก็รับมา 5 คนค่ะ เนื่องจากเค้าไม่รู้จักเรา และเราไม่รู้จักเค้า ดังนั้นนุชจึงยังคงหวีดพี่โชคต่อไปโดยไม่ต้องเหนียมอาย
แชร์ไลฟ์แชร์รูปรัวๆ โดยไม่ตั้งไพรเวท กะว่าให้พวกขายของรำคาญแล้วอันเฟรนด์เราไปเอง แต่สิ่งที่เกิดขึ้น
กลับตรงข้าม สามในห้านางตามไปดูไลฟ์ จากนั้นก็มากกดไลค์รูปพี่โชคในเฟสเรา มีมาถามช่องทางการติดตาม
สรุปคือเราหานุชให้พี่โชคเพิ่มโดยไม่ได้ตั้งใจ
มันก็เลยเกิดไอเดียว่าทำไมเราไม่หานิวนุชเพิ่มล่ะ พี่โชคจะได้แมส พวกนุชอย่างเราก็มีคนมาแบ่งเบาภาระ ไม่ว่าจะ
เป็นการช่วยโหวต ช่วยเพิ่มวิวเพลง และด้วยสายงานทำให้เราทราบดีว่าการมีแฟนคลับมาก มันหมายถึง
ความมั่นคงในอาชีพการงานของศิลปินก็ยิ่งมากขึ้นไปด้วย
หลังจากวันนั้นเลยหาเพื่อนเพิ่มในเฟสหลุมรัวๆ ค่ะ ล้วนแต่เป็นคนที่ไม่รู้จัก เลือกคนที่ไม่เป็นนุช เลือกหลากหลายวัย
แต่ให้ส่วนมากเป็นผู้หญิงอายุตั้งแต่ ม.ต้น จนถึงวัยสามสิบปลายๆ เรื่องที่นุชแชร์ลงเฟสก็เป็นเรื่องสรรพเพเหระ เช่น
คลิปน่ารักๆ / คำคม / ธรรมมะ /ข่าว และแน่นอนเรื่องราวของผลิตโชค ทั้งภาพหล่อๆหลุดๆจากทวิต ไลฟ์แสดงสดดีงาม
จากเพจต่างๆ ไลฟ์เก่าๆสมัย ขนอม สมุย สุรินทร์ ฯลฯ ทุกสิ่งที่น่าสนใจของผลิตโชคจากยูทูป
นุชทำแบบนี้มาตั้งแต่เดือนตุลาฯ ค่ะ มีเพื่อนในเฟสหลุมสองร้อยกว่าคน และคนที่กลายมาเป็นนุช แบบว่า นุ๊ชช..นุช
รวมทั้งสิ้น 23 คน คนที่เหลือแม้ไม่เป็นนุชแต่เค้าก็ได้รู้จักผลิตว่าเป็นใครยังไง นุชว่าเค้าชอบพี่โชคกันนะ
มันสนุกมาก และง่ายกว่าที่คิด เพราะผลิตโชคนั้น "ง่ายต่อการหลงรัก" เพียงแต่ผู้คนตามหาเค้าไม่เจอ คนจำนวนมากสนใจ
เค้า แต่ตามหาเค้าไม่เจอ เหมือนที่พวกเราเคยเป็นกันมาก่อนนั่นแหละค่ะ
สุดท้ายจริงๆ แล้วค่ะ อยากฝากไว้ว่าอย่าซื้อยอดไลค์นะคะ ปรามไว้ก่อนเพราะรู้ว่านุชชอบแก้ปัญหาด้วยเงิน มันไม่ยั่งยืน
และตรวจจับได้ค่ะ เป็นผลร้ายมากกว่าผลดี