สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่าน วันนี้ผมจะขอมารีวิว เกี่ยวกับแผลเป็นนูน หรือ คีลอยด์ นั่นเองครับ ขอเล่าก่อนนะครับว่าก่อนหน้านี้ผมไม่เคย
รู้เลยว่า ผมเป็นแผลเป็นง่าย เริ่มจากการเป็นสิวตามตัว เพราะผมเป็นคนเหงื่อออกค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่ได้ไปสนใจหรือดูแลรักษาอะไร พอเริ่มจะเป็นเยอะขึ้นก็รู้สึกคัน ความที่ไม่ได้คิดอะไร ก็แกะ ๆ เกาๆ จนแผลเริ่มมีบริเวณกว้างขึ้นและใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้นจนเป็นแผลแบบนี้ ตามภาพเลยครับแผลมันเริ่มใหญ่และนูนจนน่ากลัว เลยหาวิธีรักษา ต่างๆ ทั้งทายา กินยาสารพัด แต่ก็ยังไม่ได้เห็นผลที่ชัดเจนเท่าไร
ส่วนภาพล่างเป็นคีลอยด์ที่เกิดจากการปลูกฝีตั้งแต่เด็กเลยครับ มันใหญ่ขึ้นๆๆๆๆจนเป็นแบบภาพที่เห็นเนี่ยแหละครับ
จนกระทั่งผมเรียนจบและได้ไปทำงานเป็น Personal Trainer ที่สถานออกกำลังกายแห่งหนึ่งก็มีลูกค้าของผมคนนึงซึ่งพี่เค้าเป็นพยาบาลแนะนำผมว่าสามารถฉีดยาเข้าไปที่คีลอยด์โดยตรงเพื่อทำให้คีลอยด์เล็กและสีดูจางลงได้ ทำให้ผมได้พยายามหาข้อมูลต่างๆว่าจะไปรักษาที่ไหนดี
จนเจอที่ Sevenplusclinicเพราะเห็นว่าใกล้บ้านและรักษาด้านผิวหนังโดยตรงเลย ก็เลยตัดสินใจเข้าไปปรึกษาคุณหมอครับ เพราะกลัวแพง แหะ แหะ ตอนผมโทรไปนัดพี่เจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าคุณหมอใจดีไม่คิดค่าใช้จ่ายในการปรึกษา....5555 (งั้นตรูไปแน่นอน เผื่อแพงเกินจะได้ยังไม่ทำ) ภาพแรกเป็นภาพที่ผมถอดเสื้อขึ้นเตียงตรวจนะครับ(แอบอายเล็กน้อย5555) คุณหมอบอกทำไมปล่อยไว้จนเยอะขนาดนี้ ไม่รีบมารักษาแต่เนิ่นๆ คุณหมอตรวจเสร็จก็ประเมินราคาต่อจุดและบอกว่า ปกติตำแหน่งละ 500-800บาท/ครั้ง ผมเป็นรวมแล้ว 10 จุด จากภาพด้านหน้า 7 จุด ยังมีด้านหลังอีก 3 จุดใหญ่ๆอีก คุณหมอบอกปกติฉีดคีลอยด์ใหญ่ขนาดนี้คิดราคาครั้งละ 800 บาทต่อจุด ผมก็คำนวณในใจ 8,000 บาทต่อครั้ง(เอื้อกกกกกก) ผมรีบบอกหมอว่าคุณหมอคร้าบบบบผมเพิ่งเรียนจบตังค์ก็ยังไม่ค่อยมี ช่วยลดให้ผมหน่อยนะครับ คุณหมอจะถ่ายรูปไปใส่แฟ้มโฆษณาในคลินิกหรือใน Facebook,Instragramอะไรก็ได้ตามใจชอบเลยครับผมยินดี คุณหมอก็ใจดีจริงๆครับบอก เอางี้ให้ครั้งละ 3,500 บาท เพราะมันเยอะมากแถมมีจุดที่ใหญ่ๆบริเวณต้นแขนอีกน่าจะต้องฉีดมากกว่า 4 ครั้งขึ้นไปนะ ผมก็รีบตกลงทันทีครับ หลังจากนั้นคุณหมอก็ทำการฉีดไล่ไปทีละจุดทีละจุดอย่างละเอียดมากๆครับเพราะผมเป็นหลายตำแหน่งและก็กลัวเจ็บมาก พอรักษาแล้วก็เห็นได้ชัดอยู่นะครับว่ามันยุปลง ใช้เวลาเพียง 3 สัปดาห์เท่านั่นเองครับ คุณหมอแนะนำให้ฉีด เดือนละครั้ง จนครบกำหนดฉีดครั้งที่ 2 ภาพที่ 3 ก็เห็นได้เลยว่ามันเริ่มยุปลงเยอะกว่าครั้งแรกเยอะเลยครับ
สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา อยากแนะนำว่ามันใช้เวลาในการฉีดไม่นานเลยครับ ส่วนเรื่องราคาก็เหมาะสม ไม่แพงจนเกินไป รักษาแล้วเห็นผลจริงๆ ผมก็เลยอยากมารีวิวให้คนที่เป็นคีลอยด์ดูว่าอย่าปล่อยไว้จนมันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ผมมารักษาเพราะแต่ก่อนมันเล็กกว่านี้ครับ พอนานวันก็เพิ่งจะเห็นว่ามันโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
จากรูปผมฉีดไปสามครั้งแล้วครับ คีลอยด์ค่อยๆยุบลงอย่างเห็นได้ชัด คุณหมอตอบอย่างมีจรรยาบรรณมากว่า มันไม่หายหรอกนะคุณ ทำให้ยุบและเล็กลงและดูจางลงได้เท่านั้น ส่วนความดำก็แล้วแต่ผลตอบรับของผิวหนังของคนไข้แต่ละคน
ผมตั้งใจว่าจะฉีดไปเรื่อยๆทุกเดือนจนกว่ามันจะยุบแบนลงมากที่สุด แล้วจะถ่ายรูปมารีวิวให้ดูอีกทีนะครับว่าสุดๆได้แค่ไหน
สุดท้ายนี้ผมต้องขอขอบคุณคุณหมอเกด พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ (คุณหมอเป็นน้องสาวของดาราสาวใจบุญพี่กิ๊ก มยุริญ ครับ)และคุณหมอแปม พญ.วิกานดา พันธ์มณี ที่รักษาคีลอยด์ให้ผมเป็นอย่างดีแถมใจดีลดราคาให้สุดๆเลยครับ ใครสนใจก็ Search หาชื่อคลินิกใน Facebook ,IG กันได้เองเลยนะครับ ไว้มารอดูรูปรีวิวครั้งต่อไปกันนะคร๊าบบว่ามันจะจางลงได้ขนาดไหน มาช่วยผมลุ้นหน่อยนะครับ
[CR] รีวิว รักษาแผลคีลอยด์ กับ SevenPlusclinic
ส่วนภาพล่างเป็นคีลอยด์ที่เกิดจากการปลูกฝีตั้งแต่เด็กเลยครับ มันใหญ่ขึ้นๆๆๆๆจนเป็นแบบภาพที่เห็นเนี่ยแหละครับ
จนกระทั่งผมเรียนจบและได้ไปทำงานเป็น Personal Trainer ที่สถานออกกำลังกายแห่งหนึ่งก็มีลูกค้าของผมคนนึงซึ่งพี่เค้าเป็นพยาบาลแนะนำผมว่าสามารถฉีดยาเข้าไปที่คีลอยด์โดยตรงเพื่อทำให้คีลอยด์เล็กและสีดูจางลงได้ ทำให้ผมได้พยายามหาข้อมูลต่างๆว่าจะไปรักษาที่ไหนดี
จนเจอที่ Sevenplusclinicเพราะเห็นว่าใกล้บ้านและรักษาด้านผิวหนังโดยตรงเลย ก็เลยตัดสินใจเข้าไปปรึกษาคุณหมอครับ เพราะกลัวแพง แหะ แหะ ตอนผมโทรไปนัดพี่เจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าคุณหมอใจดีไม่คิดค่าใช้จ่ายในการปรึกษา....5555 (งั้นตรูไปแน่นอน เผื่อแพงเกินจะได้ยังไม่ทำ) ภาพแรกเป็นภาพที่ผมถอดเสื้อขึ้นเตียงตรวจนะครับ(แอบอายเล็กน้อย5555) คุณหมอบอกทำไมปล่อยไว้จนเยอะขนาดนี้ ไม่รีบมารักษาแต่เนิ่นๆ คุณหมอตรวจเสร็จก็ประเมินราคาต่อจุดและบอกว่า ปกติตำแหน่งละ 500-800บาท/ครั้ง ผมเป็นรวมแล้ว 10 จุด จากภาพด้านหน้า 7 จุด ยังมีด้านหลังอีก 3 จุดใหญ่ๆอีก คุณหมอบอกปกติฉีดคีลอยด์ใหญ่ขนาดนี้คิดราคาครั้งละ 800 บาทต่อจุด ผมก็คำนวณในใจ 8,000 บาทต่อครั้ง(เอื้อกกกกกก) ผมรีบบอกหมอว่าคุณหมอคร้าบบบบผมเพิ่งเรียนจบตังค์ก็ยังไม่ค่อยมี ช่วยลดให้ผมหน่อยนะครับ คุณหมอจะถ่ายรูปไปใส่แฟ้มโฆษณาในคลินิกหรือใน Facebook,Instragramอะไรก็ได้ตามใจชอบเลยครับผมยินดี คุณหมอก็ใจดีจริงๆครับบอก เอางี้ให้ครั้งละ 3,500 บาท เพราะมันเยอะมากแถมมีจุดที่ใหญ่ๆบริเวณต้นแขนอีกน่าจะต้องฉีดมากกว่า 4 ครั้งขึ้นไปนะ ผมก็รีบตกลงทันทีครับ หลังจากนั้นคุณหมอก็ทำการฉีดไล่ไปทีละจุดทีละจุดอย่างละเอียดมากๆครับเพราะผมเป็นหลายตำแหน่งและก็กลัวเจ็บมาก พอรักษาแล้วก็เห็นได้ชัดอยู่นะครับว่ามันยุปลง ใช้เวลาเพียง 3 สัปดาห์เท่านั่นเองครับ คุณหมอแนะนำให้ฉีด เดือนละครั้ง จนครบกำหนดฉีดครั้งที่ 2 ภาพที่ 3 ก็เห็นได้เลยว่ามันเริ่มยุปลงเยอะกว่าครั้งแรกเยอะเลยครับ
สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา อยากแนะนำว่ามันใช้เวลาในการฉีดไม่นานเลยครับ ส่วนเรื่องราคาก็เหมาะสม ไม่แพงจนเกินไป รักษาแล้วเห็นผลจริงๆ ผมก็เลยอยากมารีวิวให้คนที่เป็นคีลอยด์ดูว่าอย่าปล่อยไว้จนมันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ผมมารักษาเพราะแต่ก่อนมันเล็กกว่านี้ครับ พอนานวันก็เพิ่งจะเห็นว่ามันโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
จากรูปผมฉีดไปสามครั้งแล้วครับ คีลอยด์ค่อยๆยุบลงอย่างเห็นได้ชัด คุณหมอตอบอย่างมีจรรยาบรรณมากว่า มันไม่หายหรอกนะคุณ ทำให้ยุบและเล็กลงและดูจางลงได้เท่านั้น ส่วนความดำก็แล้วแต่ผลตอบรับของผิวหนังของคนไข้แต่ละคน
ผมตั้งใจว่าจะฉีดไปเรื่อยๆทุกเดือนจนกว่ามันจะยุบแบนลงมากที่สุด แล้วจะถ่ายรูปมารีวิวให้ดูอีกทีนะครับว่าสุดๆได้แค่ไหน
สุดท้ายนี้ผมต้องขอขอบคุณคุณหมอเกด พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ (คุณหมอเป็นน้องสาวของดาราสาวใจบุญพี่กิ๊ก มยุริญ ครับ)และคุณหมอแปม พญ.วิกานดา พันธ์มณี ที่รักษาคีลอยด์ให้ผมเป็นอย่างดีแถมใจดีลดราคาให้สุดๆเลยครับ ใครสนใจก็ Search หาชื่อคลินิกใน Facebook ,IG กันได้เองเลยนะครับ ไว้มารอดูรูปรีวิวครั้งต่อไปกันนะคร๊าบบว่ามันจะจางลงได้ขนาดไหน มาช่วยผมลุ้นหน่อยนะครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น