ใครขึ้นเครื่องนกแอร์กรุงเทพ-หาดใหญ่ วันที่10ธันวา 2017 เที่ยวบินที่ DD7104 บ้าง

อยากรู้ความรู้สึกของเพื่อนๆผู้โดยสารเที่ยวบินเดียวกันนี้ ว่ารู้สึกและคิดยังไงกับการบริหารจัดการของนกแอร์
เครื่องบินลำนี้ Borading time ตอน 9.00 โมง 10.00 เครื่องยังไม่ขั้น กัปตันให้เหตุผลว่าขัดข้องบางประการ โดยไม่ได้บอกว่าประการไหน แล้วต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ปล่อยให้พวกเรานั่งบนเครื่อง 1ชั่วโมงโดยที่ไม่ได้รับข้อมูลใดๆที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อกับชีวิต
เหตุสุดวิสัยเป็นเรื่องหนึ่ง ที่เข้าใจได้ และเราก็พยายามทำใจเย็นๆ เข้าใจเจ้าหน้าที่และไม่หงุดหงิดเจ้าหน้าที่
แต่ เค้าไม่รู้ว่า เบื้องหลังการบินของแต่ละคน จุดหมายปลายทางมันต่างกัน ที่เราเลือกบินเพื่อประหยัดเวลา
เราบินเช้าไปเย็นกลับ เราต้องถึงและเริ่มทำงานกับคนอีกกว่า 50ชีวิตที่รอเราและเพื่อนร่วมงานเราอยู่ที่หาดใหญ่
เวลาทุกนาทีมีค่ามาก ทีมเราเผื่อเวลาแล้ว แต่สุดท้าย เราถึงหาดใหญ่ตอน สามโมงเย็น
คนที่รอเราต้องถ่วงเวลา เปลี่ยนแผน เวลาที่เด็กๆจะได้รับความรู้ลดลง แค่เพราะว่า การจัดการปัญหาที่ล้มเหลวของนกแอร์
เราและเพื่อนร่วมงานช่วยกันเช็คว่ามีเครื่องบินอะไรที่เร็วที่สุดต่อจากนั้น ทุกสายการบินที่อยู่ดอนเมือง
เราเจอว่ามีแอร์เอเชียรอบเที่ยงที่เราจะซื้อตั๋วทัน เพราะตอนนั้น 10 โมง
เราถามแอร์ว่ายังไงต่อ จะเสร็จเมื่อไหร่ เค้าก็บอกว่าไม่ทราบค่ะ กัปตันกำลังคุยกับช่างอยู่

มีผู้โดยสารคนหนึ่งบอกว่า เค้าจะไม่ยอมไปกับลำนี้ ขอลง
สิ่งที่ต้องทำคือ ทุกคนต้องลงจากเครื่อง เพราะว่าต้องเช็คกระเป๋าทุกใบอีกครั้ง
ทุกคนลงจากเครื่อง เราเดินออกจากเครื่องตามคุณลุงที่บอกว่าเค้าจะขอลงและไม่ไปกับลำนี้เพราะว่ากัปตันไม่ให้ข้อมูลว่าเครื่องบินเป็นอะไรกันแน่
แต่คุณลุงโดนมองด้วยสายตาว่า เรื่องมาก และไม่เข้าใจว่านี้เป็นเหตุสุดวิสัย และจะมีขั้นตอนที่ทำให้เสียเวลาไปอีก
ทุกคนลงจากเครื่องไปรอหน้าเกทเหมือนเดิม เราไปถามที่เคาเตอร์อีกครั้งว่าจะซ่อมเสร็จเมื่อไหร่ เราจะได้รู้ว่าจะขอเปลี่ยนเที่ยวบิน หรือไปซื้อตั๋วใหม่
ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า อีก 5 นาทีจะรู้ โดยที่ถ้าใครอยากเปลี่ยนไปเที่ยวบินถัดไปซึ่งคือรอบ บ่ายโมง ก็ไปต่ออีกแถวได้เลย เราไปต่อ แต่ก็ถามว่าถ้าเครื่องซ่อมเสร็จจะได้ออกก่อนบ่ายโมงไหม ซึ่งเราคำนวณเวลาแล้วว่าถ้าออกก่อนบ่ายโมงก็คือยังทันทำงานอยู่
อีกแป็ปเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ขึ้นเครื่องได้แล้ว ซึ่งก็ยังเป็นเครื่องลำเดิม ซึ่งผู้โดยสารคนหนึ่งก็พูดว่า จะมั่นใจได้ยังไงว่าขึ้นไปแล้วจะปลอดภัย สรุปเครื่องเป็นอะไรกันแน่ เค้าก็ตอบแค่ว่า เจ้าหน้าที่ซ่อมแล้ว ใช้ได้แล้ว
ตอนนี้ ผู้โดยสารแบ่งเป็นส่วนหนึ่งขึ้นเครื่องเดิม อีกส่วนยอมเปลี่ยนไฟล์ท
เราเลือกขึ้นเครื่องเดิม เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่า ออกก่อนบ่ายโมง ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลา 11 โมง
เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าเครื่องซ่อมเสร็จแล้ว เราก็เลยออกจากแถวที่ขอเปลี่ยนเครื่องกลับมา เพราะคิดว่าเครื่องจะได้บินตอนเที่ยง
แต่ปรากฎว่า กว่าเราจะได้ขึ้นเครื่องก็ปาเข้าไป เกือบเที่ยง
อย่างที่เราคนที่บินนกแอร์บ่อยจะรู้ว่า นกแอร์เลิกแจกขนมแล้ว เลิกให้น้ำหนักกระเป๋ากับสมาชิกแล้ว
ตามกฎแล้ว ผ่านมาสามชั่วโมง เค้าต้องรับผิดชอบอะไรบางอย่าง ที่ไม่ใช่แค่การซ่อมเครื่อง
การแสดงความรับผิดชอบ ไหวพริบในการตัดสินใจ เราพบว่าไม่มีเลย
เราต้องเดินไปถามแอร์ว่า จะให้รออีกนานไหม เราขอซื้อมาม่าเลยได้ไหม คือ เดี๋ยวเราต้องทำงานต่อยาวจน 6โมง ไปถึงไม่มีเวลากินข้าวเที่ยงแล้ว เพราะเวลาที่เราเผื่อไว้ต้องเอามานั่งอยู่บนเครื่อง เค้าก็บอกว่าเราว่าหิวเหรอคะ
ซักพัก แอร์ถึงเดินมาแจกน้ำให้ทุกคน น้ำที่ขวดสวย ไซซ์โง่ๆขนาดหนึ่งอึก ที่พยายามทำให้ร่มๆ ใจเย็นๆ ก็ยังไม่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น
เพราะรู้สึกว่า เค้าไม่ได้ใส่ใจที่จะแก้ปัญหาหรือห่วงความรู้สึก ห่วงเวลาของผู้โดยสารเลย
กัปตันเอาเครื่องขึ้นอีกครั้ง และก็ยังคงเจอปัญหาเดิมคือ เทคออฟไม่ได้ เสียงเครื่องยนต์แผ่วมาก ขึ้นไปได้ก็ไม่น่าจะรอดชีวิตแน่ๆ
ครั้งนี้กัปตันบอกว่า เครื่องมีปัญหาที่ระบบคอมพิวเตอร์และช่างซ่อมแล้ว เช็คแล้วว่าปกติ แต่ผลคือ ขึ้นไม่ได้
ซักพัก กัปตันก็ประกาศว่า เครื่องเอาขึ้นไม่ได้ จะเปลี่ยนเครื่องใหม่ ซึ่งตั้งแต่ได้ยินเสียงเครื่องขึ้นครั้งแรก ก็ถามแอร์เลยว่า เปลี่ยนเครื่องไหม
ซ่อมไม่ได้ง่ายๆแน่ๆ แต่เค้าเลือกซ่อมเครื่องเดิม
เราได้ขึ้นเครื่องใหม่อีกครั้งโดยการเปลี่ยนลำ น่าจะเป็นการเอาลำเที่ยวถัดไปให้พวกเรา และเลื่อนอีกลำไปที่เกทหนึ่งแทน ตอนเวลา 13.00
ถ้าเรารู้เร็วกว่านี้ เราตัดสินใจเปลี่ยนตั๋วไปบินสายการบินอื่นรอบเที่ยงแล้ว และเราก็ไม่ต้องโทรหารถตู้ที่รอเราที่สนามบินหาดใหญ่หลายรอบ
เราโทรหาเค้าหลายรอบมาก ขอโทษที่ต้องให้วนรถรออยู่ 6 ชั่วโมง
คนที่ทีมเราไปทำงาน ต้องพยายามถ่วงเวลา สลับตารางเท่าที่จะทำได้ ทั้งๆที่ถ้านกแอร์จัดการ และตัดสินใจประเมินสถานการณ์ดีกว่านี้
เราก็จะตัดสินใจแก้ปัญหาได้ดีกว่านี้

ขณะพิมพ์ เราไม่ได้อยากจะโทษใคร เข้าใจคนทำงานบริการ แต่ขณะเดียวกัน เราก็ขอความจริงใจที่จะบอกข้อมูลกัน บอกวิธีว่าเจอปัญหาแบบนี้ การจัดการมันไม่ได้มีแค่ทางเดียว การแก้ปัญหามีหลายทางที่ผู้โดยสารจะเลือกได้ แต่แอร์ตอบแค่ว่าไม่รู้เหมือนกัน ไม่ได้ทำส่วนนี้
ก่อนลงเครื่องเพื่อไปขึ้นอีกลำ เราตั้งใจว่าจะยิ้มให้แอร์ เจ้าหน้าที่ และบอกว่าสู้ๆนะ เพราะว่ามีคนเดือดหลายคนและไปวีนใส่พวกเค้า
แต่พอเราเดินไปถึงประตู แอร์ทุกคนทำเป็นยุ่งๆ จัดการนู้นนี้ ซึ่งถ้าเราเป็นแอร์ เราจะไปยื่นรอผู้โดยสารทุกคนและขอโทษเป็นรายคน
แม้มันจะไม่ช่วยอะไร ไม่ได้ช่วยให้บินได้เร็วขึ้น แต่มันก็รักษาฐานจิตใจของลูกค้า
ซึ่งเราคิดว่าเราชอบ ซื่อสัตย์ และก็แฟร์พอสมควรที่จะไม่เรียกร้องอะไรจากนกแอร์ แม้ว่าจะดีเลย์ไป 6ชั่วโมงซึ่งตามสิทธิ อย่างน้อยที่สุด ผู้โดยสารควรได้อาหาร ได้น้ำ แต่นี้ได้นำ ขวดเท่าแมวดม และยังให้ลุกค้าซื้อมาม่าถ้วยละ 60บาทกินเองอีก

เราไม่โอเคกับการจัดการของนกแอร์
เราเป็นสมาชิก ที่เคยชอบความสร้างสรรค์ของน้ำขวดเล็ก และ ชอบที่ให้น้ำหนักกระเป๋า ไม่หมกเม็ดคิดเงินเพิ่มเหมือนสายการบินอื่น
แต่เค้าดันตัดสิ่งที่เราแฮปปี้ต่อสายการบินนี้ออกหมด
เราไม่รู้ว่าเราจะเป็นสมาชิกไปอีกทำไม
ความไม่เรื่องมากของเราไม่ได้ช่วยทำให้สายการบินเรียนรู้ที่จะจัดการ
ไม่ได้ช่วยให้พนักงานปรับปรุงการบริการ

มีคนพูดว่าจะลาขาดนกแอร์

เราเป็นอีกหนึ่งคนในนั้น

ถ้าสายการบินจะเจ๊ง
ก็มีปัจจัยหลายอย่าง
และเราว่า เค้าน่าจะใกล้เจ๊ง

ลาขาด
#นกแอร์ #ไม่ใช่ใครก็บินได้ #คนอดทนมากๆเท่านั้นถึงจะอยู่รอด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่