แชร์ประสบการณ์ เช่ารถขับที่ญี่ปุ่นแล้วเกิดอุบัติเหตุ (นิดเดียว) แต่ต้องนั่งรถตำรวจเพราะไม่รู้

อยากแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนที่จะไปขับรถเที่ยวเองที่ญี่ปุ่น จะได้ไม่เกิดเหตุแบบผม

- เริ่มต้นจากรับรถเช่า (ผมเช่ารถโตโยต้า อัลพาร์ด) ก็ตรวจสภาพรถว่ามีรอยตรงไหนอยู่ก่อนแล้วบ้างไหม สอนเรื่องการใช้ระบบนำทาง และบอกขั้นตอนหากเกิดอุบัติเหตุ สิ่งที่จับใจความได้คือ ถ้าเกิดอุบัติเหตุให้โทรหาตำรวจก่อน แล้วค่อยโทรหาบริษัทประกันตามเบอร์นี้ๆ ซึ่งผมเองก็คิดว่าไม่น่าจะเกิดอะไรขึ้นหรอก

- "วันเกิดเหตุ" คือวันที่ 2 ที่เช่ารถ ตอนช่วงเย็นซึ่งที่ญี่ปุ่นมืดแล้ว ผมกำลังหาร้านทานข้าวตาม GPS แต่ปรากฎว่าเข้าซอยผิด ซอยแคบและมืด เลยกะว่าจะถอยออก จังหวะถอยออกมีรถเลี้ยวเข้ามาอย่างเร็ว ผมเลยเสียจังหวะไปนิดนึง พอเขาจอดรถเสร็จผมก็ถอยต่อ จนได้ยินเสียงเหมือนล้อทับฝาท่อเหล็ก ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนรถออกมานนอกถนนมองเข้าไป เหมือนมีกระถางสีดำๆตั้งอยู่ ได้แต่ภาวนาว่าเสียงเมื่อกี้คงไม่ได้ชนกระถางนะ เพราะเสียงไม่ใช่

- มาถึงร้านอาหาร สิ่งแรกที่ทำคือลงไปดูรอย พบว่ามีรอยขูดประมาณ 1 คืบ ที่ด้านล่างของประตูสไลด์ รอยไม่ลึกเหมือนรอยถากๆธรรมดา แต่ตอนรับรถมาตรงนี้ไม่มีรอย ผมจำได้เคยอ่านเจอสักที่บอกว่า "หากเกิดอุบัติเหตุที่ญี่ปุ่นไม่ว่าเล็กน้อยแค่ไหนก็ตามต้องแจ้งตำรวจ ไม่เช่นนั้นประกันจะไม่เคลมให้"

- นั่งกินข้าวไม่อร่อยเลยมื้อนั้น เพราะมัวแต่หาข้อมูลว่าจริงๆต้องแจ้งตำรวจหรือไม่ สุดท้ายผมหาข้อมูลนั้นไม่เจอ คุยกับที่บ้านเพื่อความสบายใจ หลังกินเสร็จไปสถานีตำรวจแจ้งความไว้ดีกว่า

- ไปถึงป้อมตำรวจแรกเป็นป้อมเล็กๆ มีป้ายเขียนว่าออกไปข้างนอก เลยต้องไปที่สถานีใหญ่แทน

- "ที่สถานีตำรวจ" เดินเข้าไป ตำรวจทุกคนมองเข้ามาที่ผม (สัก 10 กว่าคน) ผมเริ่มสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ ตำรวจคนนึงบอกให้หยุดพูด และไปเรียกอีกคนมา เขาให้ผมค่อยๆเขียนลงกระดาษแทนการพูด โชคดีที่มีตำรวจพูดภาษาอังกฤษพอได้อยู่คนนึง

- ตอนแรกผมกะจะบอกว่าจำไม่ได้ว่าเกิดเหตุที่ไหน เมื่อไหร่ มาเห็นก็มีรอยแล้ว แต่จนมุมด้วยคำถามที่ว่า "เมื่อไหร่และทำไมคุณถึงเอะใจว่ารถเป็นรอย" เลยต้องบอกไปว่า น่าจะเกิดจากตรงนั้น แต่ไม่แน่ใจเพราะเสียงเหมือนทับฝาท่อ (ถึงตรงนี้เหมือนคุยกันรู้เรื่อง แต่เรื่องจริงคือสื่อสารกันยากพอควรครับ)

- หัวหน้าตำรวจเริ่มสื่อสารหน้าตากันแปลกๆ (ผมพอรู้ภาษาญี่ปุ่นบ้าง + เดาจากท่าทาง) เขาน่าจะคุยกันว่า แจ้งไม่ได้ เพราะเกิดเหตุไปแล้ว มาแจ้งทีหลังไม่ได้

- สื่อสารกันอยู่อีกพักใหญ่ หัวหน้าเสนอให้ผมไปชี้จุดเกิดเหตุกับเขา โดยผมต้องนั่งรถไปกับเขา ไม่ได้ขับรถผมไป ซึ่งผมก็โอเค แต่ก่อนไป เขาก็ไปวัดรอยที่รถว่าอยู่ตรงไหน ยังไง แต่ตอนตรวจวัด เขาไม่ให้ผมเข้าใกล้รถเลย ตรวจแบบส่องไฟเข้าไปในรถเหมือนค้นรถ ซึ่งตอนนั้นพ่อแม่ผมนั่งอยู่บนรถด้วย ผมก็บอกว่าไม่มีอะไร เขามาดูรอย

- "บนรถตำรวจ" บอกตามตรงว่า รถตำรวจไทยยังไม่เคยนั่ง รถตำรวจญี่ปุ่นยิ่งห่างไกลจากความคิดผม แต่วันนี้ตอนนี้ผมนั่งอยู่บนรถตำรวจญี่ปุ่นที่เบาะหลัง พร้อมตำรวจ 3 คนบนรถ ขับรถออกไปอย่างเร็วพร้อมเปิดไฟไซเรนพร้อมเสียงไซเรนเหมือนจับจะไปคดีใหญ่...

- "บทสนทนาบนรถ" หัวหน้าถามว่าที่เมืองไทยเวลาเกิดอุบัติเหตุไม่ต้องแจ้งตำรวจเหรอ ผมก็ตอบว่าถ้าชนหนักๆ มีคนเจ็บต้องแจ้ง แต่ถ้าเล็กน้อยแบบนี้ไม่ต้อง แค่แจ้งประกันก็พอ ดูเขาตกใจกันทั้งรถเลย

- "ณ จุดเกิดเหตุ" เขาไม่ให้ผมลงจากรถ เปิดประตูจากข้างในไม่ได้ เขาดูกัน 3 คนเสร็จก็เปิดประตูให้ผมลงไป สิ่งที่ผมไปโดนคือ เหล็กคานรูปตัว H ทาสีดำวางไว้บนฟุตบาท เข้าใจว่าวางไว้เพื่อกันคนมาจอดรถ ตำรวจอธิบายเป็นขั้นตอนเลยว่า เหล็กสูง 30 ซม. ฟุตบาทสูง 4 ซม. รวม 34 ซม. ตรงกับระยะความสูงรอยบนรถพอดี พอผมเข้าใจเขาก็ให้ผมขึ้นรถไปอีกที

- "เรียกผู้เสียหาย" ตำรวจกดกริ่งเรียกเจ้าของบ้านหลังนั้นมาดูว่ารอยเกิดขึ้นแบบนี้ จะเรียกค่าเสียหายอะไรจากผมหรือไม่ เจ้าของทำท่าคิดและคุยกับตำรวจอยู่นาน สุดท้ายไม่เรียกอะไร แต่ดูจากท่าทางก่อนกลับ ตำรวจเหมือนจะบอกว่าให้เขาเขยิบเหล็กเข้าไปหน่อย เพราะที่เขาวางอยู่นั้นมันเป็นแนวเดียวกับขอบฟุตบาทเลย หมายความว่าถ้ามีใครขับเบียดๆฟุตบาทอีก ก็จะเป็นเหมือนผม

- ระหว่างนั่งรอบนรถตำรวจที่เปิดไซเรน ฉากในหนังก็แว้บเข้ามาในหัว คนเดินไปมามองว่าไอ้คนนี้มันทำอะไรผิด เวลานั้นเศร้าใจตัวเองจริงๆ..

- กลับมาที่สถานีตำรวจ ก็ติดต่อประกันกว่าจะโทรติด รอรับสายนานมาก จนหัวหน้าส่ง google translate มาให้ผมแปลได้ว่า "สงสัยจะมีเคสอุบัติเหตุเยอะ ยุ่งมากจนไม่มีเวลารับสายเลย" ผมนี่ฮาเลยครับ ... พอประกันรับสายก็คุยกันอยู่อีกนานเพราะอุปสรรคการสื่อสารภาษาอังกฤษที่จำกัด ลำพังต่อหน้ายากแล้วทางโทรศัพท์ยิ่งยาก แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้

- เบ็ดเสร็จเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงแต่มันช่างเหมือนนานเหลือเกิน ดึกมากและเพลียมาก (ผมเพิ่งจะวิ่งมาราธอนจบวันนั้นพอดี) ก่อนกลับหัวหน้าทิ้งท้ายไว้ให้ผมว่า "ขับระวังๆนะ" ผมยิ้มอ่อนแล้วก็จากไป...

- "วันคืนรถ" ผมไม่ได้บอกว่ารถเป็นรอยเพิ่ม ประกอบกับมืดและมีฝุ่นเกาะบ้าง ซึ่งเข้าใจว่าที่ผมโทรแจ้งเข้ามาน่าจะบันทึกในระบบเรียบร้อยแล้ว บริษัทรถเช่าพยายามหารอยกันอยู่นาน แต่เหมือนไม่เห็นเพราะรอยมันเล็กมาก สุดท้ายผมเสียค่าเช็คสภาพเพิ่มเติม 540 เยน ไม่ต้องเสียค่า NOC (non operating charge) หรือค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ
- จริงๆถ้าเสียค่า NOC ผมก็กลับมาเคลมเมืองไทยได้ เพราะผมทำประกันเดินทางคุ้มครองเรื่องรถเช่าไว้ด้วยแล้ว ครั้งนี้ผมเห็นความสำคัญของการทำประกันเลย

สรุปจากครั้งนี้หากเกิดอุบัติเหตุที่ญี่ปุ่นไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ มีคู่กรณีหรือไม่ หรือแค่ขูดฟุตบาทก็ตาม
1. หยุดรถทันที
2. ถ้ามีคนเจ็บช่วยคนเจ็บก่อน
3. โทรหาตำรวจ ณ ที่เกิดเหตุทันที ไม่เช่นนั้นอาจจะแจ้งความไม่ได้ หรือ ต้องยุ่งยากแบบผม
4. โทรหาบริษัทประกัน (บางที่อาจจะบริษัทรถเช่า)

หวังว่าประสบการณ์ผมคงช่วยเพื่อนๆได้บ้างนะครับ ขอบคุณที่อ่านนะครับ

*เพิ่มเติมอีกนิดครับ บางคนอ่านกระทู้ผมแล้วกังวลการไปขับรถที่โน่น
ไม่ต้องกังวลมากครับ ขับรถในบ้านเขาง่ายกว่าของเรา เพราะเขารักษากฎกันเคร่งครัดมาก
ถ้าเราทำตามกฎ ไม่ประมาท ไม่มีอะไรต้องกังวล หากเกิดเหตุจริง ก็ตั้งสติ รับรองผ่านมาได้แน่นอนครับ ขอให้ไม่ประมาท
แล้วการเที่ยวโดยการขับรถจะเปิดโลกใหม่ๆที่การเดินทางโดยรถไฟให้ไม่ได้ครับ...

*เพิ่มเติมสำหรับการเปิด International Roaming เรื่องการโทรก็สำคัญนะครับ อย่างในทริปผมไป 6 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ผมก็แนะนำให้เขาปิดการโทรไปเลย เพราะกลัวใครโทรหาแล้วเผลอรับ จะเสียเงินแพงมาก แต่ส่วนตัวผมคนเดียวที่เปิดโทรศัพท์ไว้เผื่อโทรกรณีฉุกเฉินได้ครับ เห็นเดี๋ยวนี้มี Net Sim คือเล่นเน็ทอย่างเดียวต้องเติมเงินเพื่อโทร ยังไงถ้าเที่ยวขับรถแบบนี้ เผื่อเรื่องการโทรไว้ด้วยก็ดีครับ ดีกว่าจะโทรแล้วโทรไม่ได้ครับ

* เพิ่มเติมข้อความที่อยู่ในคู่มือรถเช่า แต่เนื่องจากผมไม่อ่านให้ละเอียด + ตัวหนังสือบางตัวเล็กเลยไม่สนใจ + บรืษัทรถเช่าไม่ได้เน้นอธิบายข้อความสำคัญนี้ครับ
"All accidents must be reported to the police, regardless of the severity of damage or the involvement of a third party or parties, please stop driving immediately, and take the following procedures."
*without taking the necessary procedures at the police, our insurance / protection / CDW may not apply.
เขียนไว้ชัดเจนมากเลยครับว่าไม่ว่าอุบัติเหตุเล็กน้อย มีหรือไม่มีคู่กรณีต้องแจ้งตำรวจทั้งหมดครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่