สมมุติว่าอดีตแฟนสาวที่เคยรักสุดชีวิตมาอ้อนวอนขอคืนดี จะยอมใจอ่อนไหมครับ

แก้ไขล่าสุด  8 / 12 / 60    17.28

ถ้าอดีตคนรักที่ดีมากๆ มาขอคืนดีตอนที่เรามีธุรกิจที่อยู่ตัวซึ่งมีรายได้มากกว่าแต่ก่อนที่เคยเป็นแฟนกัน     ตลอดเวลาที่เลิกกันผมยังไม่มีใคร   ขอถามครับจะยอมใจอ่อนไหมครับ,ผู้หญิงก็มาตอบได้ครับ  

    เล่าเรื่องจากชีวิตจริงครับ  ชีวิตนี้ผมเคยคบแฟนคนหนึ่งที่คิดว่าใช่ยินดีแต่งด้วยแน่ๆ ยอมทุ่มเทเวลาให้ทุกอย่าง  จริงจังและไม่เคยบีบบังคับฝืนใจ  ตลอดตั้งแต่คบมาผมกับเเฟนเก่าไม่เคยนอกใจเลยไม่เคยทำร้ายร่างกายแม้แต่หยิกข่วน  ผมยังได้รับคำชมจากเพื่อนๆเสมอว่านายเป็นผู้ชายที่แสนซื่อประมาณว่าไม่มีเลศนัยอะไร  ล่วงล้ำไม่เคยมี  ผมดีกับเธอทุกอย่าง  ทะเลาะกันนับครั้งได้เลย  จู่ๆระยะหนึ่งเธอเริ่มเปลี่ยนไป   เธอตอบแชทช้าทั้งๆที่ขึ้นสถานะว่าอ่านแล้วแต่ไม่ตอบกลับทันทีและเป็นบ่อยมาก  บางครั้งเธอจะบอกว่ารีบกลับบ้านเพราะมีงานเยอะ  

     ผมไม่ได้เซ้าซี้หรือบีบคั้นอะไรนะครับ..แค่อยากรู้ความจริงว่าถ้าหมดรักผมผมยินดีจากไป  ผมเองมีดีคือไม่หึง  ไม่ก้าวก่ายหรือเผือก   ถ้าจบกันวันนี้ก็จะได้ทำใจ  คิดซะว่ายอมเจ็บวันนี้ดีกว่าเจ็บวันหน้า  สุดท้ายเธอยอมพูดจากใจครับเธอบอกผมว่า''อยากเปลี่ยนสถานะจากคนรักมาเป็นพี่น้องกัน  เวลาเราไม่ค่อยมี เรารักอั้มนะ(ชื่อเล่นผม) ''  วันนั้นเหมือนใจสลายเลยครับ หน้ามืดไปหมด  พูดอะไรไม่ออก  พยายามลืมๆๆสุดท้ายตัดใจไม่ลงครับ   ผมเองพยายามดีกับเธอยอมถามเพื่อความแน่ใจว่าจะเปลี่ยนจริงๆใช่ไหม  '' รักอั้มนะคะ  แต่หนูไม่มีเวลาให้  ถ้าพร้อมค่อยคุยกันใหม่นะ   ''   ผมเลยได้แต่ยิ้มเศร้าๆไม่ถามอะไรอีกแล้วขึ้นแท็กซี่กลับไปที่พักทันที  ... ร้องไห้ทั้งคืน  ร้องมาห้าวันเต็มๆ

   ความรู้สึกนะครับยอมรับว่าทำใจไม่ได้เป็นเวลาครึ่งปี  ผ่านมาหลายปีผมยังไม่คิดจะรักใครจริงๆจังๆ เพราะกลัวเจ็บซ้ำ   รอยแผลเก่ายังไม่หายสนิทดี  มีผู้หญิงเข้ามาคุยบ้างตามประสาชายโสดล่ะนะแต่ผมให้ได้แค่เพื่อน  พี่น้องจริงๆ  

    อาทิตย์ที่แล้วมีสายโทรเข้าเครื่องผมเป็นเบอร์แปลกๆ 09-abcdefg คิดว่าน่าจะเป็นพวกงวดค่ารถเพราะผมค้างมา 1 งวด   ผมก็รับสายตามปกติแต่ไม่ได้เมมเบอร์ไว้ว่าเป็นเบอร์ใคร  แปลกใจมากๆคนที่โทรมาคือแฟนเก่าที่เคยคบกันโทรมาหา  วันนั้นที่คุยกัน2คนนานมาก 2 ชม.ได้  สรุปความว่าเธออยากกลับมาคบกันอีกเหมือนเมื่อปี 52 คบมา4ปี ขอเปลี่ยนสถานภาพ  ในวันนั้นแฟนเก่าผมอธิบายให้เหตุผลว่าที่เปลี่ยนสถานภาพเพราะไม่มีเวลาให้   ตอนที่คบกันผมมีรายได้จากการไปสอนพิเศษ + ขายของทางเน็ต รายได้รวมๆ หมื่นหกซึ่งไม่ได้มากอะไร  ส่วนแฟนเก่าขายครีมทางเน็ต  กำไรเดือนนึงน่าจะประมาณ 3-4 หมื่น เธอเก็บเดือนละ20000 เกือบทุกเดือน ขอชมครับว่าดีมากๆ  

       วันว่างจะพาไปเที่ยวห้างอาทิตย์ละครั้ง  ต่อๆครับวันที่แฟนเก่าโทรมาเธอบอกว่ายังเก็บความรู้สึกที่ดีเอาไว้ตลอดที่คบกัน  ตั้งแต่ห่างกันเธอมีคนมาจีบเยอะแต่เธอคิดแค่เพื่อน  ความเชื่อใจเหลือแค่50 %  แฟนผมเป็นผู้หญิงที่น่ารักนิสัยเรียบร้อย  สะอาด  ขยันทำงาน ไม่เที่ยว ยิ้มแย้มแจ่มใส  รักเพื่อนรักครอบครัว  ไม่เที่ยวกลางคืน  ไม่แปลกเลยที่ต้องมีหนุ่มๆตามแจกขนมอยู่แล้ว ผมรู้มาตลอดนะครับว่าหลังจากเลิกผมไปเธอไปคบคับหนุ่มต่างชาติ โปรไฟล์ดีกว่าผม  จบโท มีกิจการที่ไทย  ต่อมาเกิดอะไรขึ้นมิทราบแฟนเก่าของผมสารภาพมาเเล้วว่า ( เธอร้องไห้ครับ ) '' เราเหมือนเดิมนะ  ที่ไม่เหมือนเดิมคือ โนจิ้น ... พี่อั้มไม่โกรธนะคะ ''  ผมบอกไปให้สบายใจว่าไม่ได้แคร์ตรงนั้น

    คิดนะคิดทำไมตอนผมล้ม  ร้านเน็ตจ้างผมออกจนผมป่วยไม่สบาย  มาหาผมแค่ 2-3 ครั้งแล้วก็ติดต่อไม่ได้เลย    ผมจะทำยังไงดีจะยอมใจอ่อนกลับไปรักเธอเหมือนเดิมหรือเปล่า   แล้วถ้าเป็นเพื่อนๆจะใจอ่อนไหมครับ

ปล. อดีตแฟนทราบด้วยว่าผมมีกิจการเป็นของตัวเองอยู่ 2 อย่าง ( เคยมี 4 ปิดไป 2 ) แม้จะไม่ใหญ่โตอะไรมากนักแต่ให้ผลตอบแทนที่แน่นอนและทำให้ผมพอเลี้ยงตัวเองคนเดียวได้ไม่ติดขัดอะไร   มีเงินเก็บฝากธนาคารทุกเดือน  ทุกวันนี้แฟนเก่ายังตามง้อผมอยู่ครับ

   ขอบคุณมากครับที่อ่านครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
มีอีกทางคือ คบแต่ไม่เหมือนเดิม คบแบบพร้อมจะไปได้ทุกเมื่อ เมื่อคุณเจอคนที่ดีกว่า ถ้ายังไม่เจอก็คบต่อไปเรื่อยๆ เมื่อเจอคนๆนั้นแล้วต้องจบ จขกท คิดดูสิ ถ้าเขาไปกันรอดเขาจะกลับมาหาจขกทหรือเปล่า จะมีวันนี้มั้ย วันที่แทบจะกราบ teen จขกทขอคืนดี  เอาแค่นี้พอ ถ้าเธอร้องขอ จขกทก็ควรต้องมอบสิ่งที่พอดีกับคุณค่าที่เธอมี พูดเท่านี้น่าจะเข้าใจ กลับได้แต่คงไม่เหมือนเดิม เงื่อนใขที่เป็นส่วนเหตุที่เธอทำไว้มันไม่เหมือนเดิม ผลจะเหมือนเดิมได้ใง ค้ากำไรเกินควรหรือเปล่า รับกลับได้แต่สิ่งที่เธอเคยทำกับเราไว้ เราไม่ลืม แต่ไม่ต้องบอกเธอแบบนี้นะ เราเก็บไว้ในใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่