รู้หรือไม่ บัตรเครดิตต้องคืนเงินถ้าไม่ได้รับสินค้าหรือบริการ (แต่ไทยพาณิชย์ไม่สนใจ ปัดความรับผิดชอบ)

สวัสดีครับ มาเขียนกระทู้นี้ หลัก ๆ เลยคืออยากจะบ่น รองมาคือจะร้องเรียนว่าธนาคารไม่เคารพกฎกฏิกาที่ตั้งขึ้นมาเอง และคาดหวังว่าจะเป็นความรู้ให้คนอื่น ๆ ทั่วไปด้วย ภาษาอาจจะแปร่ง ๆ นิดหน่อย ไม่ค่อยได้พิมพ์เป็นความเรียงแบบนี้มานานแล้ว

ขอเกริ่นล่วงหน้าก่อนครับ

ทราบหรือไม่ว่าถ้าเราซื้อของหรือบริการด้วยบัตรเครดิต แล้วร้านค้าเกิดเบี้ยวไม่ยอมให้ของเรา หรือปิดร้านหนีไป เรามีสิทธิ์ตามข้อตกลงของบัตรเครดิตที่จะได้เงินคืนจากทางธนาคาร ความคุ้มครองนี้คิดว่าบัตรส่วนใหญ่มี อาจจะมีบางใบไม่มี แต่ในกระทู้นี้จะพูดถึงแค่บัตรของไทยพาณิชย์

ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขซึ่งธนาคารส่งให้ลูกค้าบัตรเครดิตทุกคน http://www.scb.co.th/creditcard/common/pdf/CreditCardManaulService.pdf หน้า 22 ข้อ 7.3



กรณีผูุ้ถือบัตรพิสูจน์ให้ธนาคารเห็นได้อย่างชัดแจ้งว่าไม่ได้รับสินค้า และ/หรือ บริการ หรือได้รับแต่ไม่ตรงตามกำหนดเวลา หรือได้รับไม่ครบถ้วน หรือชำรุดบกพร่องหรือไม่ถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์ที่ผู้ถือบัตรได้แจ้งหรือตกลงไว้กับผู้ขายสินค้า และ/หรือ ผู้ให้บริการ ไม่ถือว่าเป็นการตัดสิทธิ์ผู้ถือบัตรที่จะขอยกเลิกการซื้อสินค้า และ/หรือ รับบริการ ภายในระยะเวลา 45 วัน นับตั้งแต่วันที่สั่งซื้อสินค้าหรือขอรับบริการ หรือภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันถึงก่อนกำหนดวันส่งมอบสินค้าหรือให้บริการในกรณีที่มีการกำหนดระยะเวลาส่งมอบสินค้าหรือให้บริการเป็นลายลักษณ์อักษร ถ้าผู้ถือบัตรพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้รับสินค้าหรือไม่ได้รับบริการ หรือได้รับแต่ไม่ตรงตามกำหนดเวลา หรือได้รับแล้วแต่ไม่ครบถ้วน หรือชำรุดบกพร่อง หรือไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ โดยในกรณีดังกล่าว ธนาคารจะระงับการเรียกเก็บเงินจากผู้ถือบัตร หรือหากธนาคารเรียกเก็บเงินไปแล้ว ถ้าเป็นการสั่งซื้อสินค้า และ/หรือ รับบริการภายในประเทศ ธนาคารจะคืนเงินให้แก่ผู้ถือบัตร ภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ผู้ถือบัตรแจ้ง และถือเป็นการสั่งซื้อสินค้า และ/หรือ รับบริการจากต่างประเทศ ธนาคารจะคืนเงินให้แก่ผู้ถือบัตรภายในระยะเวลา 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ผู้ถือบัตรแจ้ง ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้ถือบัตรทักท้วง และ/หรือ พิสูจน์ดังกล่าว หากผู้ถือบัตรแสดงข้อความ หรือพยานหลักฐานใด ๆ อันเป็นเท็จ หรือกระทำโดยทุจริตไม่ว่าอย่างหนึ่งอย่างใด ผู้ถือบัตรจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับธนาคาร และ/หรือ บุคคลอื่นใดทุกประการ



โดยสรุปคือ ถ้าซื้อของแล้วไม่ได้ของ แล้วแจ้งภายใน 30 วัน เมื่อชัดแจ้งแล้วว่าไม่ได้จริง ธนาคารจะต้องคืนเงินให้ภายใน 30 วัน
(อาจจะพิมพ์ตกหล่นบ้าง ขออภัย ไทยพาณิชย์โพสข้อกำหนดนี้เป็น image ใน PDF -.- ไม่ทราบว่าทำไมจึงไม่โพสต์เป็น text)

สิ่งที่เกิดขึ้น คือแม่ของผมได้ไปสมัครใช้บริการทรูสปา สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเดือนตุลาคม 2559 ในส่วนของค่าบริการได้ใช้ บัตร SCB FIRST จ่ายไป 20000 บาท ต่อมาทรูฟิตเนสสาขาเซ็นทรัลเวิลด์รวมถึงทรูสปาได้ปิดตัวลง ในเดือนพฤศจิกายน 2559 จึงไม่สามารถไปรับบริการตามที่ตกลงไว้ได้

ด้วยตัวผมเคยใช้ความคุ้มครองของบัตรเครดิตแบบข้างต้นมาก่อน แต่เป็นบัตรของธนาคารที่อเมริกา ซึ่งโดยปรกติเมื่อชัดเจนแล้วว่าเราไม่ได้รับสินค้าหรือบริการจริง ทางธนาคารที่เคยติดต่อด้วยก็ยินดีคืนเงินไม่เคยมีปัญหา ผมจึงแนะนำให้คุณแม่ทำเรื่องร้องเรียนไปที่ไทยพาณิชย์เพื่อขอเงินคืน

ส่วนตัวเข้าใจว่าต้องใช้เอกสารจากทรูฟิตเนสแน่นอน จึงได้ไปติดต่อที่ทรูฟิตเนส ก่อนจะปิดตัวลงเพื่อขอเอกสารให้ชัดเจน และทำเรื่องคำร้องว่าเราต้องการจะยกเลิกแล้ว ทางทรูฟิตเนสไม่ได้คืนเงินมาแต่อย่างใดและได้ออกเอกสารคำร้องให้ ผมกับแม่จึงได้นำส่งเอกสารตัวนี้ให้ธนาคารภายใน 45 วันตามข้อตกลง
พนักงานรับเรื่องไว้และสัญญาว่าจะทำเรื่องให้ ตั้งแต่ก่อนสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2559 ด้วยตัวเอกสารนี้ ผมคิดว่าถือได้ว่าชัดแจ้งแล้วว่าไม่ได้รับบริการ ข่าวทรูฟิตเนสเองก้ไม่ใช่ว่าเงียบ ๆ ธนาคารจะอ้างว่าไม่ชัดแจ้งก็กระไรอยู่ แต่ตัวธนาคารเองก็ยังไม่ยอมรับหรือคืนเงินแต่อยางใด ธนาคารบอกแม่ผมว่าจะพักหนี้ไว้ให้ก่อนระหว่างตรวจสอบ ตรวจสอบมานานมาก จนตอนนี้พนักงานคนแรกที่รับเรื่องไว้ก็ย้ายแผนกไปแล้ว ธนาคารอ้างอย่างเดียวว่า ตัวเองเป็น "ตัวกลาง" นี่ถือเป็นเรื่องระหว่างลูกค้ากับทรูฟิตเนส ไม่ได้เถียงครับว่าเป็นตัวกลางหรือไม่ แต่คุณจะเป็นหรือไม่เป็น ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้เลย คุณเขียนความคุ้มครองนี้ลงไปในกฎและส่งให้ลูกค้าทุกคนแล้ว คุณต้องเคารพกฎของตัวเอง

ผ่านมาหลายเดือน ธนาคารยกเลิกพักหนี้และบล๊อคบัตรเครดิตคุณแม่ ต้องวุ่นวายโทรไปให้ปลดบล๊อคและพักหนี้ใหม่ ธนาคารก็ยังอ้างอย่างเดิมว่ายังตรวจสอบเอกสารอยู่ แค่นี้ก็ผิดแล้วครับ ตามกฎคุณต้องระงับหนี้ตัวนี้แล้วภายใน 30 วันตามที่ตกลงกัน ถ้าต้องการเอกสารอะไรเพิ่มควรจะบอกให้ชัดเจน ผ่านมาประมาณจะครบปีแล้ว อยู่ดี ๆ วันหนึ่งก็บอกให้คุณแม่ต้องไปแจ้งสคบ. และยังบอกว่าถึงแจ้งสคบ. แล้วก็จะยังไม่ปลดหนี้ ตรงนี้ขอบอกเลยครับว่าเริ่มออกทะเล เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชัดแจ้งแล้วว่าไม่ได้สินค้าแน่นอน คุณพยายามจะบ่ายเบี่ยงให้หน่วยงานอื่นมารับผิดชอบได้อย่างไร ตอนนี้ครบปีแล้ว คุณผู้จัดการ ว. ที่รับสายก็ยังกล่าวว่าตัวเองเป็นตัวกลาง เหมือนอัดเทปสคริปต์ไว้ ไม่รู้ได้แจ้งเรื่องขึ้นไปที่แผนกที่รับเรื่องนี้จริง ๆ หรือไม่

ถึงตรงนี้ขอบอกเลยครับว่าผิดหวังมาก ผมอยู่อเมริกามานาน อาจจะชินชาไปว่าเรื่องพวกนี้ธนาคารจัดการให้เป็นระบบ รวดเร็ว เกิดอะไรขึ้นธนาคารออกเงินมาให้ก่อนตลอด ระหว่างรอตรวจสอบ มีความคุ้มครองอื่น ๆ อีกมากมาย ความคุ้มครองตัวนี้พื้นฐานมาก ไม่น่าเชื่อว่าไทยพาณิชย์จะไม่สามารถเคารพกฎของตัวเองตรงนี้ได้ ถึงตอนนี้ผมก็กำลังคิดกับคุณแม่อยู่ว่าควรจะทำอย่างไร เงินไม่ได้จำนวนใหญ่มาก แต่ถ้าไปจ่ายตอนนี้ ไม่รู้ธนาคารจะมาหาเรื่องว่าเรายอมรับอีกไหม ว่าธนาคารไม่ต้องจ่ายแล้วจะมาเก็บดอกเบี้ยหรือเปล่า เซ็งครับ บอกตรง ๆ

ฝากไว้เป็นอุทธาหรณ์แล้วกันครับ เวลาเกิดปัญหาอะไร ธนาคารก็ชอบเอาตัวอักษรในสัญญามาเล่นกับเรา แต่พอเรามีตัวอักษรบ้าง ซึ่งคุณเป็นคนเขียนขึ้นมาเอง กลับไม่เคารพ บัตรเครดิตที่เหมือนจะดูดี มีการคุ้มครอง ถึงเวลาเกิดเรื่องจริง ๆ แล้ว ไม่รู้ว่าการคุ้มครองนี้จะหาจากที่ไหน เศร้า

กระทู้แรกในพันทิปครับ หากทำอะไรผิดพลาดขออภัยด้วยครับ มีคำถามหรือต้องการรายละเอียดอะไร ถามได้ครับ

แก้ไข: เปลี่ยนหัวข้อกระทู้ และเปลี่ยนคำให้ชัดเจนขึ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่