เหตุเกิดจาก อยากไปเที่ยวภาคใต้ตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีเวลาไปสักที
เลยใช้วิธี จองตั๋วเครื่องบินข้ามปีไป "กระบี่" ซะเลย
จองตั๋วปลายปี 59 บินปลาย พ.ย. 60 อันนั้นคือตามแผน
แต่ที่ไม่อยู่ในแผนคือ... คือออ อออ
แท๊ แด๊นนน เจ้าตัวเล็กโผล่มาตอนมิถุนา 60 จ้าาา
ปลาย พ.ย. ก็อยู่ในท้องได้ 6 เดือนพอดี แผนลุยต้องพับเก็บไป
จากที่จะไปดำน้ำ ลุยเกาะ เดินขึ้นจุดชมวิวนั่นนี่ต้องเปลี่ยนใหม่ แต่ไฮไลต์ของกระบี่มันก็คือ เกาะ
ใกล้ๆวันเดินทาง ก็โทรไปถามกับทัวร์หลายๆเจ้า เรื่องการเที่ยวเกาะสำหรับคนท้อง ก็มีทั้งรับบ้าง ไม่รับบ้าง เหตุผลคือความปลอดภัย
ก็คิดว่าเดี๋ยวไปดูเอาหน้างานละกัน
เช้าวันที่ 1 เดินทาง
จริงๆเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบความวุ่นวายมากๆ กับฮอลิเดย์ จึงเลือกเดินทางวันธรรมดา (พฤหัส-ศุกร์-เสาร์)
broadign time 07.20 น. ที่ดอนเมือง ก็เลยต้องเผื่อเวลาออกหน่อย แถมเป็นเช้าวันทำงานอีก
เพราะต้องไปทำเรื่องที่เคาท์เตอร์เกี่ยวกับหนังสือยินยอมขึ้นเครื่องสำหรับการตั้งครรภ์
ออกจากบ้าน ตี 5 ติดอยู่หน้าดอนเมืองเกือบครึ่งชั่วโมง
แล้วก็ถือเวลาขึ้นเครื่อง ตอนออกจากกรุงเทพฯ ฟ้าก็จะครึ้มๆหน่อย ภาวนาว่าให้ที่กระบี่แจ่มใส
ใช้เวลาบินชั่วโมงนิดๆ ก็เข้าน่านฟ้ากระบี่ ....โอเค อากาศดีๆ
มาถึงสนามบินนานาชาติกระบี่ เกือบๆเก้าโมง ตอนแรกคิดว่าจะนั่ง Shuttle Bus จากสนามบิน ไปอ่าวนาง
เพราะจองที่พักไว้ที่เวอร์รันด้า อ่าวนางไว้ทั้งสองคืน แต่เปลี่ยนใจ เพราะเดี๋ยวจะไปไหนมาไหนไม่สะดวก
เดี๋ยวเอาความอุ้ยอ้ายของคนท้องไปรบกวนนักท่องเที่ยวคนอื่น
ตัดสินใจ เช่ารถเลยละกัน ทั้ง 3 วันเลย โทรหารถเช้าประมาณ 2-3 เจ้า อยากได้รถเล็ก ก็ได้เจ้านึงเสนอ Yaris Ativ มา ในราคาไม่ถึงพันต่อวัน
แหม ตัวใหม่ซะด้วย ถือว่า Test Drive ไปในตัวเลยละกัน
โฉมหน้าของพระเอกในทริปนี้
อ่ะ หิวละสิ เค้าบอกว่า ถ้ามากระบี่ต้องมากินร้านขนมจีนชื่อดัง “โกจ้อย”
วนไปสามรอบ หาร้านไม่เจอ 555 ก็พึ่งเคยมากระบี่ครั้งแรก
10.00 น.
ถึงร้านโกจ้อยปุ๊บ คุณนายก็สั่งขนมจีนชุดใหญ่มากกกปั๊บ น่าจะสำหรับ 4 คนได้
ติดใจน้ำยาปูใหญ่เลยย
หลังจากอิ่มท้องแล้ว มุ่งหน้าที่แรกที่อยากไปมานาน “สระมรกต”
ถามคนพื้นที่แล้วบอก คนท้องเดินได้ อ่ะได้ก็ได้ ไปกันนน
11.30 น.
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง กินลมชมวิว -_-“ ป่าวหรอก ไม่ชินกับรถเครื่องเล็ก เลยว่ามันอืด 555
ทางเดิน คนท้องเดินได้สบายครับ แต่ก็จะช้าๆหน่อย ระยะทางถึงสระมรกตจากทางเข้า ประมาณ 400 เมตร
วิวข้างทาง สวยตั้งแต่เริ่มเดินเลยครับ
อันนี้สระแก้ว ต่อไปก็จะถึงบุรีรัมย์ เห้ย!! ไม่ใช่
ถึงแล้วเป้าหมาย สวย น้ำใสมว๊ากกกกกกก
คนพอประมาณ วันธรรมดา ไม่เยอะมาก คนไทยครึ่ง ต่างชาติครึ่ง
นั่งแช่เท้านี่โดนตอดเท้าด้วยนะ สะดุ้งอยู่เหมือนกัน
แช่น้ำได้ประมาณชั่วโมง มือเริ่มเปื่อย เลยมุดลงไปถ่ายรูปกะลูกชายหน่อยยยยย
จริงๆปลายทางของที่นี้คือสระน้ำผุด เค้าว่ากันว่าสวยมากกก
แต่ต้องเดินไปจากสระมรกตอีกประมาณ โลกว่าๆ สำรวจสภาพตัวเองละ กลับเถอะ 555 ไว้ตัวเล็กโตก่อนละกัน ละจะมาใหม่
14.00 น.
กลับออกมาจากสระมรกตประมาณ 15 นาที เราก็จะเจอกับน้ำตกร้อน เข้าไปไม่ไกล
ไหนๆมาแล้ว ก็แวะเข้าไปซะหน่อย
เดินเข้าไปได้ ประมาณ 500 เมตร แต่… ไม่เอาจ้าา เสียตังอีก 40 บาทเป็นรถรับส่งถึงน้ำตก หมดแรงจากสระมรกต
จริงๆตรงนี้ไม่ค่อยมีพื้นที่เยอะเท่าไร ขนาดวันนี้คนน้อยๆ ยังแน่นเลย
ถ้าเป็นวันหยุดจะขนาดไหนนน
อ่ะๆ เอาแช่น้ำหน่อย เห้ยย น้ำมันอุ่นได้ที่เลยนะ สบายตัวอีกหน่อยเลยยย
แช่ได้ประมาณครึ่งชั่วโมงก็มุ่งหน้าสู่อ่าวนางกัน ระยะทางประมาณ 80 กม.เห็นจะได้
รถพอประมาณไม่ค่อยติดเท่าไร ใช้เวลาชั่วโมงนิดๆ ประมาณสี่โมงกว่าๆก็ถึงที่พัก
ของเยอะ ไม่ได้ถ่ายรุปอะไรเลย ได้ห้องปุ๊บ ขึ้นนอนปั๊บด้วยความเพลีย
18.30 น.
ตอนเย็นขับรถออกไปเล่นแถวหาด แล้วคุณนายก็บอกว่า “เค้าต้องซื้อคอนแท็กเลนส์ จะได้ถ่ายรูปสวยๆ”
โน่นเลย เข้าตัวเมืองกระบี่เลยจ้าาา 20 กว่ากิโล
พอได้ของแล้วก็เดินๆหาทัวร์ไปเกาะหน่อย สำหรับวันพรุ่งนี้ จะได้ไปเที่ยวทะเลกันนนนน
เกาะที่เที่ยวหลักๆก็จะมี 2 แบบ
1. ทัวร์ 4 เกาะ (มีทะเลแหวกด้วย) อันนี้ไม่ไกลเท่าไร
2. ทัวร์เกาะห้อง (อยากไปอันนี้) ไกลหน่อย
ในเมืองกระบี่ จะมีพวกหน้าร้านที่เป็นเอเจนซี่เยอะมาก เลยเข้าไปคุยด้วยร้านนึง แถวๆลานปูดำ
ปรากฏว่า!!! ไม่มีเรือเจ้าไหนรับคนท้องเลยจ้า ทั้งเรืองหางยาว 10-25 คน แม้กระทั่งเรืองใหญ่ 25-40 คน
เหตุผลคือเรื่องความปลอดภัย เกิดอะไรขึ้นเค้าไม่รับผิดชอบ
แต่ใจก็อยากไปเน๊อะ มากระบี่แล้ว ไม่ได้ไปเกาะก็เหมือนไม่ได้มากระบี่
เลยโทรกลับไปหาเจ้าที่คุยตั้งแต่ที่กรุงเทพฯ ตอนแรกว่าได้ สักพักโทรกัลบมาบอก “เสียใจด้วยครับ คุณไม่ได้ไปต่อ เชิญครับ"
แทบจะนั่งร้องไห้กลางเมืองกระบี่
ผมเลยเอามือลูบหัวคุณภรรยา ไม่เป็นไร เดี๋ยวพาเที่ยวบนบกเองง (ในใจ จะไปไหนได้วะเนี่ยยยย คิดมาแต่เกาะ) เลยกินข้าวในเมืองกระบี่เลย
กลับที่พักประมาณ 4 ทุ่มได้ พอนอน เสิร์จหาที่เที่ยวใหญ่เลยยยย ได้คร่าวๆมาประมาณนึง
ท่าปอม คลองสองน้ำ, สุสานหอย, หาดคลองม่วง, อ่าวท่าเลน, อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี บลาๆๆๆ
[CR] เที่ยวกระบี่แบบง่ายๆ สไตล์คนท้อง
เลยใช้วิธี จองตั๋วเครื่องบินข้ามปีไป "กระบี่" ซะเลย
จองตั๋วปลายปี 59 บินปลาย พ.ย. 60 อันนั้นคือตามแผน
แต่ที่ไม่อยู่ในแผนคือ... คือออ อออ
แท๊ แด๊นนน เจ้าตัวเล็กโผล่มาตอนมิถุนา 60 จ้าาา
ปลาย พ.ย. ก็อยู่ในท้องได้ 6 เดือนพอดี แผนลุยต้องพับเก็บไป
จากที่จะไปดำน้ำ ลุยเกาะ เดินขึ้นจุดชมวิวนั่นนี่ต้องเปลี่ยนใหม่ แต่ไฮไลต์ของกระบี่มันก็คือ เกาะ
ใกล้ๆวันเดินทาง ก็โทรไปถามกับทัวร์หลายๆเจ้า เรื่องการเที่ยวเกาะสำหรับคนท้อง ก็มีทั้งรับบ้าง ไม่รับบ้าง เหตุผลคือความปลอดภัย
ก็คิดว่าเดี๋ยวไปดูเอาหน้างานละกัน
เช้าวันที่ 1 เดินทาง
จริงๆเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบความวุ่นวายมากๆ กับฮอลิเดย์ จึงเลือกเดินทางวันธรรมดา (พฤหัส-ศุกร์-เสาร์)
broadign time 07.20 น. ที่ดอนเมือง ก็เลยต้องเผื่อเวลาออกหน่อย แถมเป็นเช้าวันทำงานอีก
เพราะต้องไปทำเรื่องที่เคาท์เตอร์เกี่ยวกับหนังสือยินยอมขึ้นเครื่องสำหรับการตั้งครรภ์
ออกจากบ้าน ตี 5 ติดอยู่หน้าดอนเมืองเกือบครึ่งชั่วโมง
แล้วก็ถือเวลาขึ้นเครื่อง ตอนออกจากกรุงเทพฯ ฟ้าก็จะครึ้มๆหน่อย ภาวนาว่าให้ที่กระบี่แจ่มใส
ใช้เวลาบินชั่วโมงนิดๆ ก็เข้าน่านฟ้ากระบี่ ....โอเค อากาศดีๆ
มาถึงสนามบินนานาชาติกระบี่ เกือบๆเก้าโมง ตอนแรกคิดว่าจะนั่ง Shuttle Bus จากสนามบิน ไปอ่าวนาง
เพราะจองที่พักไว้ที่เวอร์รันด้า อ่าวนางไว้ทั้งสองคืน แต่เปลี่ยนใจ เพราะเดี๋ยวจะไปไหนมาไหนไม่สะดวก
เดี๋ยวเอาความอุ้ยอ้ายของคนท้องไปรบกวนนักท่องเที่ยวคนอื่น
ตัดสินใจ เช่ารถเลยละกัน ทั้ง 3 วันเลย โทรหารถเช้าประมาณ 2-3 เจ้า อยากได้รถเล็ก ก็ได้เจ้านึงเสนอ Yaris Ativ มา ในราคาไม่ถึงพันต่อวัน
แหม ตัวใหม่ซะด้วย ถือว่า Test Drive ไปในตัวเลยละกัน
โฉมหน้าของพระเอกในทริปนี้
อ่ะ หิวละสิ เค้าบอกว่า ถ้ามากระบี่ต้องมากินร้านขนมจีนชื่อดัง “โกจ้อย”
วนไปสามรอบ หาร้านไม่เจอ 555 ก็พึ่งเคยมากระบี่ครั้งแรก
10.00 น.
ถึงร้านโกจ้อยปุ๊บ คุณนายก็สั่งขนมจีนชุดใหญ่มากกกปั๊บ น่าจะสำหรับ 4 คนได้
ติดใจน้ำยาปูใหญ่เลยย
หลังจากอิ่มท้องแล้ว มุ่งหน้าที่แรกที่อยากไปมานาน “สระมรกต”
ถามคนพื้นที่แล้วบอก คนท้องเดินได้ อ่ะได้ก็ได้ ไปกันนน
11.30 น.
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง กินลมชมวิว -_-“ ป่าวหรอก ไม่ชินกับรถเครื่องเล็ก เลยว่ามันอืด 555
ทางเดิน คนท้องเดินได้สบายครับ แต่ก็จะช้าๆหน่อย ระยะทางถึงสระมรกตจากทางเข้า ประมาณ 400 เมตร
วิวข้างทาง สวยตั้งแต่เริ่มเดินเลยครับ
อันนี้สระแก้ว ต่อไปก็จะถึงบุรีรัมย์ เห้ย!! ไม่ใช่
ถึงแล้วเป้าหมาย สวย น้ำใสมว๊ากกกกกกก
คนพอประมาณ วันธรรมดา ไม่เยอะมาก คนไทยครึ่ง ต่างชาติครึ่ง
นั่งแช่เท้านี่โดนตอดเท้าด้วยนะ สะดุ้งอยู่เหมือนกัน
แช่น้ำได้ประมาณชั่วโมง มือเริ่มเปื่อย เลยมุดลงไปถ่ายรูปกะลูกชายหน่อยยยยย
จริงๆปลายทางของที่นี้คือสระน้ำผุด เค้าว่ากันว่าสวยมากกก
แต่ต้องเดินไปจากสระมรกตอีกประมาณ โลกว่าๆ สำรวจสภาพตัวเองละ กลับเถอะ 555 ไว้ตัวเล็กโตก่อนละกัน ละจะมาใหม่
14.00 น.
กลับออกมาจากสระมรกตประมาณ 15 นาที เราก็จะเจอกับน้ำตกร้อน เข้าไปไม่ไกล
ไหนๆมาแล้ว ก็แวะเข้าไปซะหน่อย
เดินเข้าไปได้ ประมาณ 500 เมตร แต่… ไม่เอาจ้าา เสียตังอีก 40 บาทเป็นรถรับส่งถึงน้ำตก หมดแรงจากสระมรกต
จริงๆตรงนี้ไม่ค่อยมีพื้นที่เยอะเท่าไร ขนาดวันนี้คนน้อยๆ ยังแน่นเลย
ถ้าเป็นวันหยุดจะขนาดไหนนน
อ่ะๆ เอาแช่น้ำหน่อย เห้ยย น้ำมันอุ่นได้ที่เลยนะ สบายตัวอีกหน่อยเลยยย
แช่ได้ประมาณครึ่งชั่วโมงก็มุ่งหน้าสู่อ่าวนางกัน ระยะทางประมาณ 80 กม.เห็นจะได้
รถพอประมาณไม่ค่อยติดเท่าไร ใช้เวลาชั่วโมงนิดๆ ประมาณสี่โมงกว่าๆก็ถึงที่พัก
ของเยอะ ไม่ได้ถ่ายรุปอะไรเลย ได้ห้องปุ๊บ ขึ้นนอนปั๊บด้วยความเพลีย
18.30 น.
ตอนเย็นขับรถออกไปเล่นแถวหาด แล้วคุณนายก็บอกว่า “เค้าต้องซื้อคอนแท็กเลนส์ จะได้ถ่ายรูปสวยๆ”
โน่นเลย เข้าตัวเมืองกระบี่เลยจ้าาา 20 กว่ากิโล
พอได้ของแล้วก็เดินๆหาทัวร์ไปเกาะหน่อย สำหรับวันพรุ่งนี้ จะได้ไปเที่ยวทะเลกันนนนน
เกาะที่เที่ยวหลักๆก็จะมี 2 แบบ
1. ทัวร์ 4 เกาะ (มีทะเลแหวกด้วย) อันนี้ไม่ไกลเท่าไร
2. ทัวร์เกาะห้อง (อยากไปอันนี้) ไกลหน่อย
ในเมืองกระบี่ จะมีพวกหน้าร้านที่เป็นเอเจนซี่เยอะมาก เลยเข้าไปคุยด้วยร้านนึง แถวๆลานปูดำ
ปรากฏว่า!!! ไม่มีเรือเจ้าไหนรับคนท้องเลยจ้า ทั้งเรืองหางยาว 10-25 คน แม้กระทั่งเรืองใหญ่ 25-40 คน
เหตุผลคือเรื่องความปลอดภัย เกิดอะไรขึ้นเค้าไม่รับผิดชอบ
แต่ใจก็อยากไปเน๊อะ มากระบี่แล้ว ไม่ได้ไปเกาะก็เหมือนไม่ได้มากระบี่
เลยโทรกลับไปหาเจ้าที่คุยตั้งแต่ที่กรุงเทพฯ ตอนแรกว่าได้ สักพักโทรกัลบมาบอก “เสียใจด้วยครับ คุณไม่ได้ไปต่อ เชิญครับ"
แทบจะนั่งร้องไห้กลางเมืองกระบี่
ผมเลยเอามือลูบหัวคุณภรรยา ไม่เป็นไร เดี๋ยวพาเที่ยวบนบกเองง (ในใจ จะไปไหนได้วะเนี่ยยยย คิดมาแต่เกาะ) เลยกินข้าวในเมืองกระบี่เลย
กลับที่พักประมาณ 4 ทุ่มได้ พอนอน เสิร์จหาที่เที่ยวใหญ่เลยยยย ได้คร่าวๆมาประมาณนึง
ท่าปอม คลองสองน้ำ, สุสานหอย, หาดคลองม่วง, อ่าวท่าเลน, อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี บลาๆๆๆ