WiSE ฉบับ 4 ธ.ค. 2017
มี่เรียนธุรกิจในไทย ครั้งที่ 9: วิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย ค.ศ.1997
Haseba: จำผลกระทบของข้อตกลงพลาซ่า แอคคอร์ด ต่อประเทศไทยได้ไหมครับ
มี่: ผลกระทบของการแลกเปลี่ยนเงินตราใช่ไหมคะ
Haseba: ใช่ครับ เมื่อมีข้อตกลงพลาซ่า แอคคอร์ดก็มีผลดีต่อประเทศไทยเกิดขึ้น แต่คราวนี้กลับจะเล่าเรื่องวิกฤตการณ์การเงินในเอเชียซึ่งมีการกระทบทางลบอย่างมากครับ วิกฤตการณ์การเงินในเอเชียนั้นเกิดเมื่อปี 1997 ครับ คงไม่รู้จักสินะเพราะยังไม่เกิด
มี่: เอ๊ะ? วิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย?
Haseba: ได้อธิบายว่าอัตราแลกเปลี่ยนเงิน เช่น ดอลลาร์ เยน บาท มันจะขึ้นอยู่กับตลาด (market) ใช่ไหมครับ
มี่: ใช่ค่ะ แล้วตั้งแต่วันนั้น ฉันเช็คทุกวันนะคะ ฝึกฝนไหวพริบทางเศรษฐกิจอยู่ค่ะ
อ้าว เงินบาทร่วงลงแล้วล่ะ
Haseba: ขยันเสมอเลยนะครับ แต่ก่อน มิ.ย. ปี 1997 มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสมดุลระหว่างอุปสงค์ของคนที่อยากซื้อกับอุปทานของคนที่อยากขาย (market) ครับ สมัยนั้นรัฐบาลไทยกำหนดว่า 1 ดอลลาร์เท่ากับประมาณ 24.5 บาทครับ คือถ้าเอา 1 ดอลลาร์ไปก็ได้แลกกับ 24.5 บาททุกครั้ง มันเรียกว่าระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่ครับ
มี่: เมื่อไหร่ก็อัตราแลกเปลี่ยนเงินเดิมนี่ดีจังนะคะ ไม่ต้องห่วงว่าจะขาดทุนด้วย แล้วก็ไม่ต้องตื่นเต้นว่าต่อไปนี้จะขึ้นหรือลงด้วยค่ะ
Haseba: นั่นสินะครับ มันสบายใจนะครับ ญี่ปุ่นก็ใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่จนถึงปี 1973 ครับ อย่างไรก็ดี วีธีการตั้งอัตราแลกเปลี่ยนเงินในตลาดอย่างปัจจุบันเรียกว่าระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวครับ
ว่าแต่ เมื่อช่วงปี 1997 ที่ไทยอัตราดอกเบี้ยของธนาคารดี คือถ้าฝากเงินไว้ที่ธนาคาร 1 ปี จะได้ดอกเบี้ยประมาณ 10 % ครับ
มี่: ว้าย เหมือนในฝันจังนะคะ
Haseba: ค่าครองชีพก็ขึ้นเช่นกันเพราะฉะนั้นจริงๆ ว่ามูลค่าที่เป็นเงินตรามันเท่ากันครับ
ว่าแต่ ถ้าอย่างนั้น สมมุติ เอาเงิน 1 ล้านดอลลาร์มาจากต่างประเทศแล้วแลกเงินเป็น 24 ล้าน 5 แสนบาทแล้วฝากไว้ที่ธนาคาร 1 ปี แล้วจะได้ดอกเบี้ย 2 ล้าน 4 แสน 5 หมื่นบาทแล้วจะเพิ่มเป็น 26 ล้าน 9 แสน 5 หมื่นบาท รัฐบาลกำหนดว่า 1 ดอลลาร์เท่ากับ 24.5 บาท เพราะฉะนั้นเอาจำนวนเงินบาทนี้แลกเปลี่ยนเป็นดอลลาร์ก็จะได้เอา 1 ล้าน 1 แสนดอลลาร์กลับประเทศ
มี่: โอ้ว แค่ฝากไว้ที่ธนาคารก็จะเพิ่มขึ้นขนาดนั้นเหรอคะ ไม่ขาดทุนและเพิ่มขึ้นแน่ สุดยอดเลยค่ะ
Haseba: ฝ่ายที่ฝากเงินจะไม่ขาดทุนแต่เพื่อรักษากลไกนี้รัฐบาลไทยจำเป็นต้องสำรองเงินดอลลาร์ไว้จำนวนมากครับ เพราะถ้ามีคนเอา 24.5 บาทมาก็ต้องให้ 1 ดอลลาร์เช่นกันครับ
มี่: อืม... ก็จริงนะคะ
Haseba: แค่ 24.5 บาทไม่เป็นไร แต่ถ้ามีคนเอาเงินหลายล้านล้านบาทมาบอกว่า “แลกเป็นดอลลาร์หน่อย” จะเกิดอะไรขึ้นครับ
.
.
.
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สนใจก็ไปตามอ่านกันต่อนะ..
มี่เรียนธุรกิจในไทย ครั้งที่ 9
มี่เรียนธุรกิจในไทย ครั้งที่ 9: วิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย ค.ศ.1997
Haseba: จำผลกระทบของข้อตกลงพลาซ่า แอคคอร์ด ต่อประเทศไทยได้ไหมครับ
มี่: ผลกระทบของการแลกเปลี่ยนเงินตราใช่ไหมคะ
Haseba: ใช่ครับ เมื่อมีข้อตกลงพลาซ่า แอคคอร์ดก็มีผลดีต่อประเทศไทยเกิดขึ้น แต่คราวนี้กลับจะเล่าเรื่องวิกฤตการณ์การเงินในเอเชียซึ่งมีการกระทบทางลบอย่างมากครับ วิกฤตการณ์การเงินในเอเชียนั้นเกิดเมื่อปี 1997 ครับ คงไม่รู้จักสินะเพราะยังไม่เกิด
มี่: เอ๊ะ? วิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย?
Haseba: ได้อธิบายว่าอัตราแลกเปลี่ยนเงิน เช่น ดอลลาร์ เยน บาท มันจะขึ้นอยู่กับตลาด (market) ใช่ไหมครับ
มี่: ใช่ค่ะ แล้วตั้งแต่วันนั้น ฉันเช็คทุกวันนะคะ ฝึกฝนไหวพริบทางเศรษฐกิจอยู่ค่ะ
อ้าว เงินบาทร่วงลงแล้วล่ะ
Haseba: ขยันเสมอเลยนะครับ แต่ก่อน มิ.ย. ปี 1997 มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสมดุลระหว่างอุปสงค์ของคนที่อยากซื้อกับอุปทานของคนที่อยากขาย (market) ครับ สมัยนั้นรัฐบาลไทยกำหนดว่า 1 ดอลลาร์เท่ากับประมาณ 24.5 บาทครับ คือถ้าเอา 1 ดอลลาร์ไปก็ได้แลกกับ 24.5 บาททุกครั้ง มันเรียกว่าระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่ครับ
มี่: เมื่อไหร่ก็อัตราแลกเปลี่ยนเงินเดิมนี่ดีจังนะคะ ไม่ต้องห่วงว่าจะขาดทุนด้วย แล้วก็ไม่ต้องตื่นเต้นว่าต่อไปนี้จะขึ้นหรือลงด้วยค่ะ
Haseba: นั่นสินะครับ มันสบายใจนะครับ ญี่ปุ่นก็ใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่จนถึงปี 1973 ครับ อย่างไรก็ดี วีธีการตั้งอัตราแลกเปลี่ยนเงินในตลาดอย่างปัจจุบันเรียกว่าระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวครับ
ว่าแต่ เมื่อช่วงปี 1997 ที่ไทยอัตราดอกเบี้ยของธนาคารดี คือถ้าฝากเงินไว้ที่ธนาคาร 1 ปี จะได้ดอกเบี้ยประมาณ 10 % ครับ
มี่: ว้าย เหมือนในฝันจังนะคะ
Haseba: ค่าครองชีพก็ขึ้นเช่นกันเพราะฉะนั้นจริงๆ ว่ามูลค่าที่เป็นเงินตรามันเท่ากันครับ
ว่าแต่ ถ้าอย่างนั้น สมมุติ เอาเงิน 1 ล้านดอลลาร์มาจากต่างประเทศแล้วแลกเงินเป็น 24 ล้าน 5 แสนบาทแล้วฝากไว้ที่ธนาคาร 1 ปี แล้วจะได้ดอกเบี้ย 2 ล้าน 4 แสน 5 หมื่นบาทแล้วจะเพิ่มเป็น 26 ล้าน 9 แสน 5 หมื่นบาท รัฐบาลกำหนดว่า 1 ดอลลาร์เท่ากับ 24.5 บาท เพราะฉะนั้นเอาจำนวนเงินบาทนี้แลกเปลี่ยนเป็นดอลลาร์ก็จะได้เอา 1 ล้าน 1 แสนดอลลาร์กลับประเทศ
มี่: โอ้ว แค่ฝากไว้ที่ธนาคารก็จะเพิ่มขึ้นขนาดนั้นเหรอคะ ไม่ขาดทุนและเพิ่มขึ้นแน่ สุดยอดเลยค่ะ
Haseba: ฝ่ายที่ฝากเงินจะไม่ขาดทุนแต่เพื่อรักษากลไกนี้รัฐบาลไทยจำเป็นต้องสำรองเงินดอลลาร์ไว้จำนวนมากครับ เพราะถ้ามีคนเอา 24.5 บาทมาก็ต้องให้ 1 ดอลลาร์เช่นกันครับ
มี่: อืม... ก็จริงนะคะ
Haseba: แค่ 24.5 บาทไม่เป็นไร แต่ถ้ามีคนเอาเงินหลายล้านล้านบาทมาบอกว่า “แลกเป็นดอลลาร์หน่อย” จะเกิดอะไรขึ้นครับ
.
.
.
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สนใจก็ไปตามอ่านกันต่อนะ..