หลังจากที่โดนกระแสวิพากษณ์ วิจารณ์ ในที่สุดโครงการนี้ก็ผ่าน EIA (รายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม) ผ่านเรียบร้อยโรงเรียนไทย-จีน ตามแผนการพัฒนาในระยแรก โดยโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแล้วเมื่อ 30 พ.ย. 2560 และรอคณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาเดินหน้าโครงการ
โดยจะเริ่มก่อสร้างช่วงแรกในวันที่ 21 ธันวาคม 2560 นี้แน่นอน จากสถานีกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร เป็นระยะเวลาเกือบ 3 ปี ที่โครงการรถไฟความเร็วสูง ความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศที่ถูกเลื่อนมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ได้ข้อตกลงร่วมกัน
หลังจากที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะทำมาตรการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม เช่น ช่วงเทปูนต้องมีแผ่นกั้นป้องกันฝุ่นกระจาย ระหว่างออกแบบก่อสร้างให้ระมัดระวังสัตว์ตามแนวเส้นทาง เป็นต้น
กำหนดการก่อสร้างจะแบ่งงานออกเป็นเฟสหลักๆ 4 เฟส ด้วยกัน คือ
• ช่วงเฟสแรก กลางดง-ปางอโศก (3.5 กม.)
• ช่วงที่ 2 ปากช่อง-คลองขนานจิตร (11 กม.)
• ช่วงที่ 3 แก่งคอย-นครราชสีมา (119.5 กม.)
• ช่วงที่ 4 กรุงเทพ-แก่งคอย (119.5 กม.)
โดยทางประเทศจีนจะทยอยส่งแบบรายละเอียด เพื่อให้ ร.ฟ.ท.ทยอยเปิดประมูลแบบอีบิดดิ้ง เปิดให้ผู้รับเหมาไทยที่สนใจเข้าร่วมประมูลได้ทุกสัญญา ทั้งงานถนน อุโมงค์ และรถไฟฟ้า คาดว่าจะได้ผู้รับเหมาครบปลายปี 2561 ใช้เวลาสร้าง 4 ปี เปิดบริการปี 2564
แต่อย่างไรก็ตาม การเวนคืนที่ดิน และรื้อย้ายสาธารณูปโภคตามแนวเส้นทาง เช่น การรื้อท้อก๊าซของปตท. ช่วงรังสิต-ภาชี ระยะทาง 40 กม. และช่วงคลอง 1-คลองพุทรา ใกล้แนวเส้นทางโครงการ อาจไม่ปลอดภัย ต้องปรับแบบสร้างห่างจากแนวเดิม 13 เมตร ซึ่ง ปตท.จะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม กล่าวว่า การรื้อท่อก๊าซ ปตท.แนวรถไฟไทย-จีน ไม่เป็นปัญหา สามารถดำเนินการได้ แต่ทางเทคนิคและการออกแบบระบบท่อก๊าซสามารถวางไว้ด้านข้างระบบรางหรือถนนได้ เพราะการวางระบบท่อก๊าซไปยังภูมิภาคต่าง ๆ เท่ากับนำความเจริญไปสู่ประชาชนในพื้นที่ ปัจจุบัน ปตท.มีในภาคกลาง ตะวันตกและตะวันออก ยังขาดภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ
ที่มา : อีไอเอรถไฟไทย-จีนผ่านฉลุย ดีเดย์ตอกเข็ม3.5กม.-เคลียร์เวนคืน
ข่าวฝาก สำหรับคนไทยผู้ที่อาศัยอยู่ในภาคอื่นๆ ก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จัดให้อย่างเท่าเทียมกัน
เดินหน้ารุกหนักอย่างต่อเนื่อง ระหว่าง 2 มหาอำนาจแห่งเอเชีย “จีน-ญี่ปุ่น กับการผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูงโปรเจ็กต์ความร่วมมือรัฐบาลไทย-จีน และไทย-ญี่ปุ่น ให้เป็นจริงในเร็ววัน

เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ จะใช้ระบบรถไฟชินคันเซ็น มีระยะทาง 672 กม. ใช้เงินลงทุนกว่า 5 แสนล้านบาท จะประเดิมเฟสแรกกรุงเทพฯ-พิษณุโลก 380 กม. ค่าก่อสร้าง 276,225 ล้านบาท แต่ด้วยระยะทางที่ยาว และเงินลงทุนมากประกอบกับต้องใช้เวลาออกแบบรายละเอียดนาน 2 ปี ล่าสุดรัฐบาล
ไทย ขอให้
ญี่ปุ่น ทยอยออกแบบ และสร้างเป็นเฟสๆ เหมือนรถไฟไทย-จีน
เพื่อให้โครงการนี้เกิดเป็นรูปธรรมเร็วที่สุด มีข้อเสนอแบ่งตอนออกแบบและก่อสร้างช่วงกรุงเทพฯ-พิษณุโลก เป็น 3 ตอน ดังนี้
• เฟสแรก กรุงเทพฯ-อยุธยา ระยะทาง 70 กม. (คาดว่าจะเริ่มสร้างปี 2562)
• เฟสที่ 2 อยุธยา-ลพบุรี
• เฟสที่3 ลพบุรี-พิษณุโลก
มาจับตาดูกันว่า รัฐบาลชุดนี้จะสามารถผลักดันให้โครงการระดับอภิมหาโปรเจคยักษ์ ที่จะวางโครงสร้างพื้นฐานประเทศไทยในระยะยาว จะสามารถเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ หรือว่าจะถูกกลุ่มเห็นต่างที่จะคัดค้าน จนโครงการต่างๆ ที่มีแผนวางไว้จะต้องหยุดชะงักไปในที่สุดเหมือนที่ผ่านๆ มากันไหม ????
คำถามเหล่านี้แม้แต่คนเขียนเอง ก็ไม่สามารถคาดคะเนถึงความเป็นไปได้ในอนาคต ก็ได้แต่ตั้งตารอว่า
... วันใดประเทศไทยจะมีรถไฟความเร็วสูง เหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว ....
ก้าวแรกรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน (กรุงเทพ - หนองคาย)
โดยจะเริ่มก่อสร้างช่วงแรกในวันที่ 21 ธันวาคม 2560 นี้แน่นอน จากสถานีกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร เป็นระยะเวลาเกือบ 3 ปี ที่โครงการรถไฟความเร็วสูง ความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศที่ถูกเลื่อนมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ได้ข้อตกลงร่วมกัน
หลังจากที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะทำมาตรการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม เช่น ช่วงเทปูนต้องมีแผ่นกั้นป้องกันฝุ่นกระจาย ระหว่างออกแบบก่อสร้างให้ระมัดระวังสัตว์ตามแนวเส้นทาง เป็นต้น
กำหนดการก่อสร้างจะแบ่งงานออกเป็นเฟสหลักๆ 4 เฟส ด้วยกัน คือ
• ช่วงเฟสแรก กลางดง-ปางอโศก (3.5 กม.)
• ช่วงที่ 2 ปากช่อง-คลองขนานจิตร (11 กม.)
• ช่วงที่ 3 แก่งคอย-นครราชสีมา (119.5 กม.)
• ช่วงที่ 4 กรุงเทพ-แก่งคอย (119.5 กม.)
โดยทางประเทศจีนจะทยอยส่งแบบรายละเอียด เพื่อให้ ร.ฟ.ท.ทยอยเปิดประมูลแบบอีบิดดิ้ง เปิดให้ผู้รับเหมาไทยที่สนใจเข้าร่วมประมูลได้ทุกสัญญา ทั้งงานถนน อุโมงค์ และรถไฟฟ้า คาดว่าจะได้ผู้รับเหมาครบปลายปี 2561 ใช้เวลาสร้าง 4 ปี เปิดบริการปี 2564
แต่อย่างไรก็ตาม การเวนคืนที่ดิน และรื้อย้ายสาธารณูปโภคตามแนวเส้นทาง เช่น การรื้อท้อก๊าซของปตท. ช่วงรังสิต-ภาชี ระยะทาง 40 กม. และช่วงคลอง 1-คลองพุทรา ใกล้แนวเส้นทางโครงการ อาจไม่ปลอดภัย ต้องปรับแบบสร้างห่างจากแนวเดิม 13 เมตร ซึ่ง ปตท.จะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่มา : อีไอเอรถไฟไทย-จีนผ่านฉลุย ดีเดย์ตอกเข็ม3.5กม.-เคลียร์เวนคืน
ข่าวฝาก สำหรับคนไทยผู้ที่อาศัยอยู่ในภาคอื่นๆ ก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จัดให้อย่างเท่าเทียมกัน
เดินหน้ารุกหนักอย่างต่อเนื่อง ระหว่าง 2 มหาอำนาจแห่งเอเชีย “จีน-ญี่ปุ่น กับการผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูงโปรเจ็กต์ความร่วมมือรัฐบาลไทย-จีน และไทย-ญี่ปุ่น ให้เป็นจริงในเร็ววัน
เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ จะใช้ระบบรถไฟชินคันเซ็น มีระยะทาง 672 กม. ใช้เงินลงทุนกว่า 5 แสนล้านบาท จะประเดิมเฟสแรกกรุงเทพฯ-พิษณุโลก 380 กม. ค่าก่อสร้าง 276,225 ล้านบาท แต่ด้วยระยะทางที่ยาว และเงินลงทุนมากประกอบกับต้องใช้เวลาออกแบบรายละเอียดนาน 2 ปี ล่าสุดรัฐบาลไทย ขอให้ ญี่ปุ่น ทยอยออกแบบ และสร้างเป็นเฟสๆ เหมือนรถไฟไทย-จีน
เพื่อให้โครงการนี้เกิดเป็นรูปธรรมเร็วที่สุด มีข้อเสนอแบ่งตอนออกแบบและก่อสร้างช่วงกรุงเทพฯ-พิษณุโลก เป็น 3 ตอน ดังนี้
• เฟสแรก กรุงเทพฯ-อยุธยา ระยะทาง 70 กม. (คาดว่าจะเริ่มสร้างปี 2562)
• เฟสที่ 2 อยุธยา-ลพบุรี
• เฟสที่3 ลพบุรี-พิษณุโลก
มาจับตาดูกันว่า รัฐบาลชุดนี้จะสามารถผลักดันให้โครงการระดับอภิมหาโปรเจคยักษ์ ที่จะวางโครงสร้างพื้นฐานประเทศไทยในระยะยาว จะสามารถเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ หรือว่าจะถูกกลุ่มเห็นต่างที่จะคัดค้าน จนโครงการต่างๆ ที่มีแผนวางไว้จะต้องหยุดชะงักไปในที่สุดเหมือนที่ผ่านๆ มากันไหม ????
... วันใดประเทศไทยจะมีรถไฟความเร็วสูง เหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว ....