ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าละครดีมั๊ย แต่ "ศรีอโยธยา" เคลมว่าเป็นภาพยนตร์ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์เชียวนะ
..
วันนี้มีโอกาส หรืออาจจะเรียกว่าบังเอิญก็ได้ที่เปิดไปดูซีรีส์เรื่องศรีอโยธยาที่หม่อมน้อยกำกับ เพราะเคยเปิดเจอTrailerกับภาพช็อตหลายๆภาพจากเรื่องนี้ ยอมรับว่าแค่เห็นช็อตก็ตะลึงแล้วเพราะนี่คือซีรีส์ที่ออนแอร์ทางทีวี แต่ช็อต แสง สี อย่างก๊ะหนังฉายโรงเลยเหวยยย พอเห็นแบบนี้ก็เลยอยากลองติดตามหน่อยแหละ คิดว่าถ้าวันออนแอร์ไม่ลืมดู ..ก็จะดู
และสุดท้ายก็ไม่ลืม 5555 เอาวะ! ปกติไม่ใช่สายละครทีวีซะด้วยดิ อย่างมากก็นั่งฟังแม่ดูละคร(และฟังแม่เล่า5555) พอสองทุ่มครึ่งปึ๊บ ก็เปิดทีวีดูเลย ชวนแม่ดูเลยค่ะในจุดนี้ ..พอเปิดดูแล้วแบบ เห้ย! มันเกินคาดว่ะ เอาจริงมั๊ย มันเกินคาดตั้งแต่ไตเติ้ลก่อนเริ่มเรื่องแล้ว
สำหรับเนื้อเรื่องหรือการดำเนินเรื่อง ส่วนตัวเราไม่ค่อยรู้เรื่องประวัติศาสตร์ที่แน่ชัด หรือไม่ได้รู้เรื่องเชิงลึกเท่าไหร่นักเลยไม่รู้ว่ามันจะบิดเบือนมั๊ย ตรงนี้เลยขอไม่พูดถึงโนะ จริงๆก็แอบทำให้เราอยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์มากขึ้นเมือนกัน (ไม่ใช่เพราะอาจารย์อนันดา เอเวอริ่งแฮมนะคะ ..แต่หล่อจริงยอมรับ
) เพราะเรื่องมันอิงประวัติศาสตร์ไง คงอรรถรสกว่านี้ถ้าเราอินกับตัวบริบทบ้างอะไรบ้าง แต่พอดูไปเรื่อยๆเราว่าการรู้ประวัติศาสตร์น้อยของเราก็ไม่ได้เป็นปัญหาเพราะเรื่องมันค่อยๆเล่าให้เราได้ทำความรู้จักกับตัวละครทีละนิดๆ
มันคือการSet up ของเรื่องที่ทำให้เราตื่นตากับอยุธยาในตอนนั้น อีกอย่างชื่อตัวละครก็เป็นชื่อที่เราคุ้นชินในตำราเรียนประวัติศาสตร์มาบ้างไม่มากก็น้อย เริ่มรู้สึกว่าเรื่องมันจะเชื่อมโยงกับที่เราเรียนมาแน่ๆ ก็มีอ๋อตามอยู่น่ะ555 การเดินเรื่องมีเอื่อยๆไปบ้าง กว่าคุณสินจะถึงพระราชวังก็ชักช้าลีลาอยู่ประมาณหนึ่ง5555 แต่พอรู้ Conflictหรือสิ่งที่ตัวละครทุกตัวต้องเจอก็เริ่มมีอะไรให้ลุ้น ตัวละครเริ่มเป็นเดือดเป็นร้อนกับปัญหาที่กำลังตามมา แอบใส่ความคอมมาดี้ แถมยังมีพาร์ทปัจจุบันสลับเข้ามาเป็นครั้งคราว ตัวละครเหมือนจะมีการระลึกชาติ(?)มีความแฟนตาซีที่แอบหลอนอยู่หน่อยๆ ถือว่าประสบความสำเร็จในการชวนติดตามอยู่นะ
สำหรับภาพ นี่คือส่วนที่เราชอบมากกกกกกกกกก ตรงนี้คือจุดที่เราตั้งความหวังไว้กับเรื่องนี้ และไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ทุกอย่างดูเอื้อเฟื้อกับการทำให้เกิดภาพสวยตั้งแต่สีสถานที่ สีเสื้อผ้าที่อยู่ในเรื่อง ที่สวยมากคือเฟรมภาพที่สวยเหมือนหนัง เหมาะแก่การแคปเก็บไว้เชยชม และคิดว่าจุดนี้นี่แหละที่เราคิดว่ามันเรียกว่าภาพยนตร์ซีรีส์ได้เลยจริงๆ บางช็อตยังเสียดายที่อยู่ได้แค่บนจอทีวี เพราะมีความเป็นหนังมากกกก ถ้าฉายในโรงคงจะอิ่มและอรรถรสมากกว่านี้อีก
สำหรับตัวละคร เรื่องการแสดงไม่ห่วงอยู่แล้ว เพราะมีแต่รุ่นใหญ่ทั้งนั้น ถ้าจะห่วงคงเป็นเรื่องบทมากกว่าเพราะเหมือนว่าจะมีตัวละครอีกเยอะ สำหรับบท ถ้าไม่ดีจริงก็พังนะ แต่EP.แรกเริ่มมาดี EP.ต่อไปก็ไม่ห่วงล่ะ เอาใจช่วยว่าจะดีต่อไปเรื่อยๆ ค่อนข้างตั้งความหวังกับบทไว้มากกเหมือนกัน อย่าพังในตอนท้ายนะคะ5555 เรื่องทีเซอร์ไพรส์คือเรื่องQuote เพราะเหมือนเรื่องนี้จะมีQuoteเยอะ กลัวที่สุดคือการยัดQuoteให้ตัวละครพูดให้ดูสวยงาม แต่พอEP.แรกก็รู้สึกซ่อนปรัชญาไว้เนียนๆ (มั๊ย555) สำหรับเราก็ว่าเนียนนะ
ป.ล. ชอบฉากที่ตัวละครช่วยกันหาสาเหตุของสงครามนะ เราว่าเอาจริงอาจจะไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริงของมันเลยก็ได้ ..แม้กระทั่งในตำราเรียน หุหุ
[CR] นี่หรือคือละครไทยสมัยนี้...
..
วันนี้มีโอกาส หรืออาจจะเรียกว่าบังเอิญก็ได้ที่เปิดไปดูซีรีส์เรื่องศรีอโยธยาที่หม่อมน้อยกำกับ เพราะเคยเปิดเจอTrailerกับภาพช็อตหลายๆภาพจากเรื่องนี้ ยอมรับว่าแค่เห็นช็อตก็ตะลึงแล้วเพราะนี่คือซีรีส์ที่ออนแอร์ทางทีวี แต่ช็อต แสง สี อย่างก๊ะหนังฉายโรงเลยเหวยยย พอเห็นแบบนี้ก็เลยอยากลองติดตามหน่อยแหละ คิดว่าถ้าวันออนแอร์ไม่ลืมดู ..ก็จะดู
และสุดท้ายก็ไม่ลืม 5555 เอาวะ! ปกติไม่ใช่สายละครทีวีซะด้วยดิ อย่างมากก็นั่งฟังแม่ดูละคร(และฟังแม่เล่า5555) พอสองทุ่มครึ่งปึ๊บ ก็เปิดทีวีดูเลย ชวนแม่ดูเลยค่ะในจุดนี้ ..พอเปิดดูแล้วแบบ เห้ย! มันเกินคาดว่ะ เอาจริงมั๊ย มันเกินคาดตั้งแต่ไตเติ้ลก่อนเริ่มเรื่องแล้ว
สำหรับเนื้อเรื่องหรือการดำเนินเรื่อง ส่วนตัวเราไม่ค่อยรู้เรื่องประวัติศาสตร์ที่แน่ชัด หรือไม่ได้รู้เรื่องเชิงลึกเท่าไหร่นักเลยไม่รู้ว่ามันจะบิดเบือนมั๊ย ตรงนี้เลยขอไม่พูดถึงโนะ จริงๆก็แอบทำให้เราอยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์มากขึ้นเมือนกัน (ไม่ใช่เพราะอาจารย์อนันดา เอเวอริ่งแฮมนะคะ ..แต่หล่อจริงยอมรับ
มันคือการSet up ของเรื่องที่ทำให้เราตื่นตากับอยุธยาในตอนนั้น อีกอย่างชื่อตัวละครก็เป็นชื่อที่เราคุ้นชินในตำราเรียนประวัติศาสตร์มาบ้างไม่มากก็น้อย เริ่มรู้สึกว่าเรื่องมันจะเชื่อมโยงกับที่เราเรียนมาแน่ๆ ก็มีอ๋อตามอยู่น่ะ555 การเดินเรื่องมีเอื่อยๆไปบ้าง กว่าคุณสินจะถึงพระราชวังก็ชักช้าลีลาอยู่ประมาณหนึ่ง5555 แต่พอรู้ Conflictหรือสิ่งที่ตัวละครทุกตัวต้องเจอก็เริ่มมีอะไรให้ลุ้น ตัวละครเริ่มเป็นเดือดเป็นร้อนกับปัญหาที่กำลังตามมา แอบใส่ความคอมมาดี้ แถมยังมีพาร์ทปัจจุบันสลับเข้ามาเป็นครั้งคราว ตัวละครเหมือนจะมีการระลึกชาติ(?)มีความแฟนตาซีที่แอบหลอนอยู่หน่อยๆ ถือว่าประสบความสำเร็จในการชวนติดตามอยู่นะ
สำหรับภาพ นี่คือส่วนที่เราชอบมากกกกกกกกกก ตรงนี้คือจุดที่เราตั้งความหวังไว้กับเรื่องนี้ และไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ทุกอย่างดูเอื้อเฟื้อกับการทำให้เกิดภาพสวยตั้งแต่สีสถานที่ สีเสื้อผ้าที่อยู่ในเรื่อง ที่สวยมากคือเฟรมภาพที่สวยเหมือนหนัง เหมาะแก่การแคปเก็บไว้เชยชม และคิดว่าจุดนี้นี่แหละที่เราคิดว่ามันเรียกว่าภาพยนตร์ซีรีส์ได้เลยจริงๆ บางช็อตยังเสียดายที่อยู่ได้แค่บนจอทีวี เพราะมีความเป็นหนังมากกกก ถ้าฉายในโรงคงจะอิ่มและอรรถรสมากกว่านี้อีก
สำหรับตัวละคร เรื่องการแสดงไม่ห่วงอยู่แล้ว เพราะมีแต่รุ่นใหญ่ทั้งนั้น ถ้าจะห่วงคงเป็นเรื่องบทมากกว่าเพราะเหมือนว่าจะมีตัวละครอีกเยอะ สำหรับบท ถ้าไม่ดีจริงก็พังนะ แต่EP.แรกเริ่มมาดี EP.ต่อไปก็ไม่ห่วงล่ะ เอาใจช่วยว่าจะดีต่อไปเรื่อยๆ ค่อนข้างตั้งความหวังกับบทไว้มากกเหมือนกัน อย่าพังในตอนท้ายนะคะ5555 เรื่องทีเซอร์ไพรส์คือเรื่องQuote เพราะเหมือนเรื่องนี้จะมีQuoteเยอะ กลัวที่สุดคือการยัดQuoteให้ตัวละครพูดให้ดูสวยงาม แต่พอEP.แรกก็รู้สึกซ่อนปรัชญาไว้เนียนๆ (มั๊ย555) สำหรับเราก็ว่าเนียนนะ
ป.ล. ชอบฉากที่ตัวละครช่วยกันหาสาเหตุของสงครามนะ เราว่าเอาจริงอาจจะไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริงของมันเลยก็ได้ ..แม้กระทั่งในตำราเรียน หุหุ