สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
การจะรวยได้คุณต้องมี 3 ส่วนคือ
1.หารายได้ให้มากพอ
2.ออมเงินในสัดส่วนที่เหมาะสม
3.ลงทุนให้เป็น
เท่าที่อ่านดู เหมือนคุณโฟกัสอยู่ที่ข้อ2 คือการออมเงินมากเกินไป จนละเลยข้อ 1 กับ 3 การเก็บเงินที่เข้มงวดจนเกินไปไม่ใช่เรื่องดี มันจะทำให้อึดอัด ไม่มีความสุข เหมือนต้องทนทุกข์อดทนมายาวนานแต่สุดท้ายพอถึงเป้าหมาย1ล้าน กลับพบว่ามันไม่ได้มากพออย่างที่คุณกำลังเจอนั่นแหละ
สิ่งที่ต้องทำคือพยายามหารายได้เพิ่มขึ้น และลดความเข้มงวดในการเก็บเงินลง อย่างน้ำหวานที่บอกมา อยากกินก็กินไปเถอะ มันไม่ได้แพงอะไรมากมายหรอก
ตอนคุณมีเงินเก็บ 1แสน ถ้าประหยัดมากขึ้นวันละ 50บาท จะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นปีละ 365 x 50 = 18250บาท ทำให้มีเงินเก็บเพิ่มขึ้น 18% ก็ดูเหมือนจะเยอะ แต่พอคุณมีเงิน 1ล้าน การประหยัดแบบนี้จะทำให้คุณมีเงินเพิ่มแค่ 1.8% ซึ่งไม่ได้มากมายอะไร เทียบกับความสุขที่หายไปจากการประหยัดจนเกินพอดี
สุดท้ายคือการลงทุน ซึ่งสำคัญมาก หลายคนที่หาเงินได้มาก เก็บเงินได้เยอะ สุดท้ายก็ไม่รวยเพราะขาดข้อนี้แหละ ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนจากฝากออมทรัพย์ที่ได้ดอกเบี้ย 0.5%ต่อปี เป็นลงทุนอะไรสักอย่างที่ได้ผลตอบแทน 6%ต่อปี คุณจะมีเงินเพิ่มขึ้น 6-0.5 = 5.5% ของ1ล้าน หรือ 55000บาท
ถ้ามองกลับไปเปรียบเทียบตัวเลขดู จะเห็นได้ชัดว่าการลงทุนนั้นทำให้เงินงอกเงยออกมาได้ง่ายและมากกว่าการประหยัดมากๆเพียงอย่างเดียว
1.หารายได้ให้มากพอ
2.ออมเงินในสัดส่วนที่เหมาะสม
3.ลงทุนให้เป็น
เท่าที่อ่านดู เหมือนคุณโฟกัสอยู่ที่ข้อ2 คือการออมเงินมากเกินไป จนละเลยข้อ 1 กับ 3 การเก็บเงินที่เข้มงวดจนเกินไปไม่ใช่เรื่องดี มันจะทำให้อึดอัด ไม่มีความสุข เหมือนต้องทนทุกข์อดทนมายาวนานแต่สุดท้ายพอถึงเป้าหมาย1ล้าน กลับพบว่ามันไม่ได้มากพออย่างที่คุณกำลังเจอนั่นแหละ
สิ่งที่ต้องทำคือพยายามหารายได้เพิ่มขึ้น และลดความเข้มงวดในการเก็บเงินลง อย่างน้ำหวานที่บอกมา อยากกินก็กินไปเถอะ มันไม่ได้แพงอะไรมากมายหรอก
ตอนคุณมีเงินเก็บ 1แสน ถ้าประหยัดมากขึ้นวันละ 50บาท จะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นปีละ 365 x 50 = 18250บาท ทำให้มีเงินเก็บเพิ่มขึ้น 18% ก็ดูเหมือนจะเยอะ แต่พอคุณมีเงิน 1ล้าน การประหยัดแบบนี้จะทำให้คุณมีเงินเพิ่มแค่ 1.8% ซึ่งไม่ได้มากมายอะไร เทียบกับความสุขที่หายไปจากการประหยัดจนเกินพอดี
สุดท้ายคือการลงทุน ซึ่งสำคัญมาก หลายคนที่หาเงินได้มาก เก็บเงินได้เยอะ สุดท้ายก็ไม่รวยเพราะขาดข้อนี้แหละ ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนจากฝากออมทรัพย์ที่ได้ดอกเบี้ย 0.5%ต่อปี เป็นลงทุนอะไรสักอย่างที่ได้ผลตอบแทน 6%ต่อปี คุณจะมีเงินเพิ่มขึ้น 6-0.5 = 5.5% ของ1ล้าน หรือ 55000บาท
ถ้ามองกลับไปเปรียบเทียบตัวเลขดู จะเห็นได้ชัดว่าการลงทุนนั้นทำให้เงินงอกเงยออกมาได้ง่ายและมากกว่าการประหยัดมากๆเพียงอย่างเดียว
แสดงความคิดเห็น
ทำงานหนัก ประหยัดสุดชีวิต จนได้เงินล้าน ... แล้วเงินล้านนึงทำอะไรได้บ้างครับ??
ก่อนอื่นขอออกตัวนะครับ นี่ไม่ใช่กระทู้อวดรวยอะไรนะครับ(คนพันทิพตัวจริงต้องหลักร้อยล้าน) แต่อยากได้ความคิดเห็นเป็นความรู้จริงๆ เห็นบางทีคนในพันทิพกัดจขกท.จนกลัวเองเหมือกันครับ55
ผมอายุ 27 ทำธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ
ผมก็มีความฝันเหมือนคนทั่วๆไป อยากมีเงินเก็บ มีความมั่นคงในชีวิต มีชีวิตครอบครัวที่มีความสุข
ฐานะทางบ้าน ก็คนชั้นกลางทั่วๆไป อยู่บ้านหลังเดิม(คุณพ่อคุณแม่เลิกกันย้ายออกแล้วตั้งแต่เด็กๆ) กับรถคันนึงที่ใช้มา 5 ปี ผ่อนหมดได้ไม่นาน ให้เงินพ่อแม่เดือนละหมื่น
ผมทำธุรกิจเล็กๆตั้งแต่อายุ 19 อยู่ปีสอง ด้วยเงินทุน 5หมื่น หุ้นกับเพื่อน จนปัจจุบัน ธุรกิจก็ไม่ได้ขยายอะไรมากนักครับ ทุกอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไป ให้พอเลี้ยงตัวเองเลี้ยงลูกน้องได้ เหมือนจ้างตัวเองทำงานแหละครับ
ตั้งเป้าไว้ว่า อยากเก็บเงินให้ได้ซักล้านนึง ก่อนอายุ 30 แล้วจะขอแฟนแต่งงาน เธอทำงานประจำนี่แหละครับ ฐานะกลางๆเหมือนกัน
7ปีที่ผ่านมา ทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์ ไม่เที่ยว ไม่กิน ไม่ช็อป ไม่ซื้ออะไรตามใจ ให้งบตัวเองวันละ 300(น้ำมันเบิกบริษัทเพราะใช้เพื่อทำงาน) เวลาทำงาน ขนาดวันร้อนๆเดินเข้าเซเว่น ยืนจ้องน้ำหวานตั้งนาน อยากกิน สุดท้ายก็ซื้อน้ำเปล่าเหมือนเดิม ยิ่งไอร้านหลอดเขียวๆอย่าหวังว่าจะได้อะไรจากผม เพื่อนยังแซวเลยว่าถ้ามีคนแบบผมเยอะๆ gdpประเทศคงไม่โต เหล้าเข้าปากล่าสุด คือตอนปี 1 บุหรี่ไม่สูบ แบรนด์เนมไม่แตะ ทำอาหารกินเอง มือถือใช้note3ตัวเดิม(รุ้สึกตอนนี้จะไปโน๊ต8แล้ว) สังสรรค์กับเพื่อนบ้างเดือนละครั้ง แต่ถ้าเพื่อนนัดร้านแพงๆก็จะกินร้านข้าวแกงให้อิ่มก่อนไปเจอพวกมัน
ระหว่างนี้ก็มีลงทุนในหุ้นบ้าง แต่ไม่เยอะ เพราะไม่ค่อยมีเวลาศึกษา เพราะทำงานทุกวัน ถ้าวันไหนหยุดก็จะอ่านหนังสืออยู่บ้าน
ป้าย sale 50% 80%ทำอะไรผมไม่ได้ ผมเซฟ 100%เพราะผมไม่ซื้อ
ดีใจที่ได้แฟนดี เข้าใจเรา คบกันมาตั้งแต่เริ่มทำงาน โชคดีได้เจอกันตลอด เพราะที่ทำงานไม่ไกลกัน นั่งกินเตี๋ยว กินข้าวแกงกัน ขับรถไปส่งที่คอนโด แค่นี้ก็มีความสุขเเล้ว คบมา 7ปี ไม่เคยทะเลาะกันแม้แต่ครั้งเดียว ผมโชคดีจริงๆ
ช่วงแย่ๆก็เคยเจอ การค้าไม่ดี เครียดมากๆเงินสะสมร่อยหรอ คิดว่าตอนนั้นหัวจะล้านก่อนเก็บเงินล้านได้แน่ๆ แต่ก็ผ่านมาได้
ผมมีบุ๊คแบงก์เล่มนึง มีเงินเท่าไร ใส่ไปในนั้นหมด ตั้งใจจะไม่อัพ จนกว่าคิดว่า "น่าจะถึงละวะ!!" วันก่อนนอนคิดเล่นๆ เออน่าจะถึงละ เปิดลิ้นชัก พออัพ ก็พบว่าเกินล้านไปหน่อยๆ momentนั้นดีใจมาก โทรไปบอกแฟน ตื่นเต้นกันใหญ่
แต่พอมานั่งคิดดู เงินล้านนึงทำอะไรได้บ้าง ซื้อรถได้คันนึง ซื้อปุ้ปราคาลดปั้ป ซึ่งคันเก่าก็ใช้ดีอยู่(หุ้นส่วนเป็นช่าง ซ่อมเองได้) ซื้อคอนโดสมัยนี้ก็ไม่ได้ ซื้อบ้านก็ไม่ได้ จะลงทุนหุ้น ก็ยังมีความรู้น้อย
จะลงธุรกิจเพิ่มก็ไม่กล้าเพราะเคยพลาดมาเเล้ว เพื่อนฐานะใกล้ๆกันแต่งงาน บอกใช้ไป 4 5แสน พ่อแม่ออกให้ ฟังเเล้วจะเป็นลม เราไม่affordแบบนั้นๆแน่ๆ พ่อแม่ให้เค้าเก็บเงินไว้ใช้หลังเกษียณเถอะ คุยกับแฟนไว้ว่า จะแต่งกันเงียบๆ เสียดายเงินที่หามาด้วยหยาดเหงื่อเพื่อหน้าตาแค่วันเดียว แฟนเข้าใจ แต่ก็กลัวพ่อแม่ทั้งเค้าและเราจะไม่เข้าใจ...
เอาจริงๆ ล้านนึงแทบจะทำอะไรไม่ได้เลยในชีวิตจริง
เข้าใจแล้วว่าทำไมคนเราถึงเก็บเงินยาก เพราะ"ใช้เงิน"มันง่ายกว่า"หาเงิน"มาก
เราใช้เวลา 7 ปีหาเงินล้านนึง แต่เราสามารถใช้เงินล้านนึงให้หมดในไม่กี่ชั่วโมงได้
ยิ่งดูค่าใช้จ่ายในการมีครอบครัวสมัยนี้ ยิ่งพอมีลูก ค่าคลอดลูกเท่าไร ค่าเทอมลูกเท่าไร ป้าดดดด กระพริบตาสองทีเงินก็หมดแล้ว
แล้วเราจะเอายังไงต่อดีกับเงินล้านก้อนนี้...ยังคิดไม่ออกครับ แต่รู้แน่ๆ ว่าต้องหาทางทำให้มันงอกเงย
ไม่ได้อยากรวยครับ แค่อยากแต่งงานแล้วภรรยาไม่ลำบากกินอิ่มนอนหลับ ส่งลูกเรียนที่ดีๆได้ มีคุณภาพชีวิตที่โอเค ไม่อยากให้ต้องมาเป็นแบบเราตอนเด็ก เราทำงานหนักได้ ยินดี ผีไม่กลัว กลัวจน เข้าใจคำว่า "ให้เงินทำงาน" แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
ผมเชื่อว่า ในสังคมพันทิพมีคนที่ผ่านปสก.นี้มาไม่น้อย บริหารจัดการจัดสรรกันอย่างไรครับ มาแชร์กันเพื่อให้เป็นวิทยาธานแก่รุ่นน้องๆด้วยครับ
กราบขอบพระคุณทุกความคิดเห็นล่วงหน้าครับ