Trip ลาวใต้ (ปากเซ - ปากซ่อง) Trip นี้เป็น Trip 3 ของผมที่ได้มีโอาสไปปั่นในต่างเเดน ซึ้งก่อนหน้านี้ผมกับพี่ๆ ก็ไปปั่นที่เขมรปั่นไปที่ Angkor wat จากชายเเดนไทยปั่นไปที่เสียมเรียบ ของกัมพูชา เดียวจะมา Review ให้ดูอีกทีนะครับก่อนอื่นผมก็ต้องขอบคุณพี่ๆ เเก๊งอุ๊ดๆ 220 ขุขันธ์ นำทีมโดย พี่ยะ พี่โอ๋ พี่ต้อย พี่เทศ ถ้าไม่มีพี่ๆเเก๊งนี้ผมคงไม่มีโอกาสไปปั่นที่ลาวใต้ (ขอบพระคุณครับ 555555)วันที่ 1 ผมนัดกับพี่ๆ ที่ช่องเม็ก จ.อุบลฯ เนื่องจากผมทำงานอยู่ที่กรุงเทพ ผมก็ต้องเดินทางล่วงหน้า 1 วันเพื่อที่จะไปเจอกับพี่ๆ ที่ช่องเม็กในวันถัดไป ผมก็คิดอยู่ 2 ทางคือ1. เอาจักรยานใส่รถ เเล้วขับไป2. เอาจักรยานขึ้นรถไฟ ไปลงที่อุบลผมไม่ลังเลที่จะเลือกแบบที่ 2 เเน่นนอนได้บรรยายกาศ และอีกอย่างไม่เหนื่อยขับรถ เพราะก่อนหน้า Trip นี้เขมร ขับรถไป - กลับ ตัองบอกว่าเหนื่อย

ผมได้เที่ยวรถไฟออกจาก หัวลำโพง เวลา 6.40 น. ผมก็เตรียมเอาจักรยานคู่ใจ มาติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อจะเอาขึ้นรถไฟ และก็หาขบวนรถไฟ เพราะยังไม่เคยนั่งไกลขนาดนี้ (ตื่นเต้นๆๆ 5555)

ข้อดีของกานมาเช้าคือ คนยังไม่เยอะจะทำอะไรก็สะดวก เสพบรรยากาศของหัวลำโพงตอนเช้าๆ เนื่องเป็นสถานีรถไฟ ที่สร้างตอนสมัย ร.5 ต้องบอกว่าได้บรรยายกาศจริงๆ

จากนั้นผมก็ไปจัดการเรื่องจักรยานที่จะเอาขึ้นรถไฟ ผมเอาไป 2 คัน ตกคันละ 90 บาท

จากนั้นผมก็เอาจักยานไปใส่ที่โบกี้ขนของ ต้องบอกว่าใหญ่เลยทีเดียว ผมก็หาอะไร Lock จัดรยานผมด้วย (กลัวหาย เผื่อมีคนเอาลงก่อน 5555) เนื่องจากตู้ที่เรานั้งอยู่ท้ายสุด เเต่ไม่ต้องห่วงมีเจ้าหน้าที่คอยดูเเลอยู่

หลังจากที่ผมเอาจักรยานขึ้นรถไฟเรียบร้อยเเล้ว ก็ได้เวลาไปหาที่นั้งกัน พอดีผมจองชั้น พัดลมชั้น 2 เบาะที่นั้งใหญ่ ปรับเอนได้ นอนสบายๆ เหตุผลหนึ่งที่ผมเลือกรถธรรมดาคือ ผมอยากได้บรรยายกาศเเบบบ้าน 555 ของกินมีตลอดเวลา สามารถเดินไปใหนมาใหนได้ ไม่เหงา (ไก่จ้าไก่ 55656)ชอบๆ

ประมาณ 10 โมงเราก็มาถึงลำตะคลอง เป็นอีกมุมหนึ่งที่ไม่เคยเห็น จะเห็นเเต่มุมที่เราขับรถผ่านไปทางอีสาน (ซ้ายมือ) ส่วนภาพนี้เราต้องมองขวามือ บรรยายกาศไม่ต้องบรรยายครับ (สุดยอด)

เราก็ถึงสถานีอุบล เวลา 18.00 น.(นานๆมาทีก็ของ Check in ที่นี้หน่อย 55555

ด้วยความที่พี่ๆ แก๊งอุ๊ดๆ 220 เป็นหว่งพวกเราว่าเดินทางมาไกล พี่ๆเค้าน่ารักมากมารับพวกเราถึงที่สถานี 5555 ต้องบอกว่าอบอุ่นจริงๆ เป็นกันเองมากๆ โดยเฉพาะคนขวาสุด (ใส่เสื้อบุรีรัมย์5555)

ขาดเค้าไม่ได้ จากนั้นเราก็เดินทางต่อไปที่ช่องเม็กทันที ประมาณ 90 km และเขาพักที่ Resort ที่ช่องเม็ก

วันที่ 2เราก็ตื่นเเต่เช้าไปปั่นแถวๆภูพร้าว ต้องบอกว่าเป็นวัดที่สวยมากๆ วัดนี้เวลามาดูควรเป็นตอนกลางคืน เพราะจะสวยงามๆ จะมีหินสีสะท้อนออกมา เหมือนเราเดินในสวรรค์ เลยครับ พวกเราก็ปั่นประมาณ 25 km ถนนที่นั้นปั่นสนุกๆ ถนนดีเลยเรียบ มีเนินให้ออกเเรง 5555

จากนั้นตอน 8โมงเช้าพวกเราก็รวมตัวกันที่หลักกี่โล ที่ใหญ่ที่สุดในโลก 555 Check in 55566 ทุกคนตื่นเต้นๆ เเละสนุกกันใหญ่ๆ

จากนั้นก็ไปที่ด่านเพื่อยื่นเอกสาร ในการออกประเทศ ต้องขอบคุณพี่เทศ ที่อำนวยความสะดวกให้กับพวกเรา เเละเจ้าหน้าที่ด่านช่องเม็กที่อำนวยความสะดวกให้ ขอบคุณครับ

หลังจากยื่นเอกสารเรียบร้อยแลัว พวกเราก็มาถ่ายรูปกับป้าย "ยินดีต้อนรับสู่ประเทศไทย" ตัวผมเองก็งง ทำไมเราไม่ถ่ายตอนกลับมา (งง) และก็ได้คำตอบจากพี่ต้อย พี่ต้อยบอกว่าตอนขากลับ เราไม่มีเเรงถ่ายรูป มาถึงด่านก็ตัวใครตัวมัน 55555 และอีกอย่างอาจจะมาถึงที่นี้มืด ป้ายถ่ายออกมาไม่ชัด เเละไม่สวย

จากนั้นก็มายื่นเอกสารเข้าที่ลาว เเละเเลกเงินกีบ(1 บาท เท่ากับ 250 กีบ) เหลือเราจะใช้เงินไทยก็ได้ เเต่เเนะนำเป็นเเบงค์ย่อย เช่น 20 50 100 เเล้วเค้าจะทอนเงินเป็นเงินกีบให้เรา สถานที่เเลกไม่ต้องไปใหนไกล จะมีคนลาวเค้าค่อยให้บริการอยู่ ยืนอยู่เเถวนั้น

จากนั้นก็เริ่มเดินทาง ออกจากด่านของฝั่งลาว ต้องบอกว่าถนนดีกว่าที่คิดไว้เยอะ 4 เลน เรียบปั่นสนุก พวกเราค่อยๆ ไปกัน เหนื่อยก็พัก หรือถ้ารถใครมีปัญหาก็จะต้องดูเเลซึ้งกันเเละกัน ไม่ทิ้งกัน ต้องบอกว่าจุดหมายของวันนี้คือ "ปากเซ" ระยะทาง 42 km จากชายเเดน โอ้ สบายๆๆๆ

จากนั้นพวกผมก็เดินทางมาถึงปากเซ ประมาณเที่ยง เเละก็มาเจอ สพานข้ามเเม่น้ำโขง "สะพานลาว-ญี่ปุ่น"ก็เลยจอดถ่ายรูปเป็นกันหน่อย แม่น้ำโขงกว้างมาก เเละสวยมาก


หลังจากนั้นคณะของเราก็ปั่นมาถึงโรงเเรม ในตัวเมืองปากเซ ค่าโรงเเรมก็ไม่เเพง 330 บาท ต่อคืน 2เตียงด้วย ต้องบอกว่าเเถวที่เราไปพักมีเเต่นักท่องเที่ยวต่างชาติ มาเข้าพัก 2 สาวฝรั่งคนนี้ก็เลยขอถ่ายรูปกับพวกเรา เพราะทั้งสองคนก็ชอบการปั่นจักรยานเหมือนกัน ทั้ง 2 คนนี้เอาจักรยานมาจาก เยอรมันนี เพื่อมาปั่นที่ปากเซ (สุดยอด)

พอเราเข้า Check in ที่โรงเเรมเเล้ว พวกเราก็นัดกันจะปั่นจักรยานไปที่ภูเสลา ซึ้งเป็นจุดชมวิวของเมืองปากเซ พวกเราต้องปั่นขึ้นภูเขา 3 km ต้องบอกว่าสุดๆ555 พอมาถึงจุดชมวิว พวกเร่ก็หายเหนื่อยเพราะว่ามันสวยมาก แล้วถ่ายคู่กับจักรยานคู่ใจ ของเราด้วย ต้องบอกว่าเราไม่เห็นคนลาวปั่นจักยานขึ้นมาเลย เพราะส่วนมากเขาจะวิ่งขึ้นกัน ก็จะมีเเต่นักท่องเที่ยว ผม Clip มาให็ดูบรรยากาศด้วยครับ
https://www.youtube.com/watch?v=_iO0Uwh4Zg8

วันที่ 3หลังจากพวกเราพักผ่อนกันเต็มที่ ก็ได้เสบาเดินทางสู่เมือง "ปากซ่อง" ห่างจากตัวเมืองปากเซ ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 50 km (โอ้ย ชิวๆๆๆ) ก่อนไปพวกเราก็ต้องหาอะไรกินกันก่อน ก็เป็นอาหารง่ายๆ ไก่ย่าง ข้าวจี้ 5555 ซึ้งมีขายอยู่ข้างทางทั่วไป นี้ล่ะของชอบๆๆๆ


จากนั้นพวกเราก็ออกเดินทางต่อ ผู้นำทางคือ คุณหมอกบ (ผู้เชี่ยวชาญ การปั่นจักรยานแบบท่องเที่ยว) สมาชิกของ Trip เรามีทั้งหมด 13 คน ต้องบอกว่าจากปากเซ ไปปากซ่อง ทางมันเป็นเขา (เป็นเนินสูง) เนินขึ้นเริ่อยๆ ก็ต้องค่อยๆ ปั่นกันขึ้นไป เหนื่อยก็พัก แต่พวกเราก็ไม่หวั่น

ผมก็จอดรอพี่ๆตามบ้านคนบ้าง ตามร่มไม่บ้าง เเวะทักทายเด็กๆ เด็กๆลาวน่ารัก วิ่งเอาน้ำมาให้ผมด้วย น่ารักจริงๆ

ระหว่างทางก็จะมีเเหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆของลาว ที่เห็นอยู่นี้คือน้ำตกตาดเฮือน เป็นน้ำตกที่น้ำใหลตลอดปี เป็นน้ำตกที่นักท่องเทียวต้องไปเที่ยว เพราะเราเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาตอมาเที่ยวกันเยอะ สวยจริงๆ มี Clip มาให้ดูด้วยครับ
https://www.youtube.com/watch?v=NfLZgxiHmzs และหลังจากนั้นพวกเราก็เข้าพักที่เมืองปากซ่อง เราถึงเมืองปากซ่องเวลา 18.00 เพราะทางที่ปั่นเป็นเนินทั้งเส้น ต้องค่อยๆไป เเละพวกเราเเวะเที่ยวตามน้ำตกต่างๆด้วย พวกเราก็เข้าที่พัก เราถามว่าไม่มีห้องเเอร์เหรอ พนักงานยอกว่าไม่มี เพราะเมื่องนี้มันอากาศเย็น พัดลมก็พอ 5555 ตอนเเรกผมก็ไม่เชื่อ พออาบน้ำเท่านั้นล่ะ หนาวๆๆๆๆๆๆๆ ดีนะที่เอาเสื้อเเขนยาวทาด้วย (อุณหภูมิ 18 องศา)
https://www.youtube.com/watch?v=bN4CSKkh24A แต่ละห้องก็จะมีรองเท้าให้ใส่ แต่ดูที่รองเท้าสิ 5555555 พนักงานบอกว่ากลัวหาย ก็เลยตัดซะ 55555 (พี่ไม่คิดตอนผมใส่เหรอ ใส่ยาก 5555)ค่าโรงเเรมก็ไท่เเพงอย่างที่คิด 330 บาท ต่อคืน เตียงใหญ่นอนได้ 2 คน จากนี้รพวกเราก็พักผ่อน
https://www.youtube.com/watch?v=0EhLZWuDcKoวันที่ 4พวกเราก็ตื่นเเต่เช้า เพือไป Check in ที่ภูเทวดา (โรงเเรมภูเทวดา) ห่างจากที่เราพัก 2 km เพราะโรงเเรมจะเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว เช่น Bikeker,จักรยาน เพราะถ้าใครมาปากซ่อง ต้องมาพักที่นี้ และเป็นจุดที่สุดที่สุดของเมืองปากซ่องอีกด้วย และพวกเราก็ปั่นกลับไทย ระยะทางจากปากซ่องถึงไทย 92 km คืนก่อนกลับมีพี่ๆบอกผมว่า ขากลับแป๊บเดียว ชั่วโมงครึ่ง จากนี้ถึงปากเซ เพราะว่าปั่นลงอย่างเดียว หรือเเทบไม่ได้ปั่นด้วยซ้ำ
https://www.youtube.com/watch?v=n-17IuTKDTcสุดท้ายไม่ได้ปั่นจริงๆ ปล่อยไหลลง มีปั่นนิดหน่อย แล้วก็อากาศเย็นๆ บรรยายกาศสุดยอดเลยครับ ผมยังเเซวพี่ๆว่า โถ่กล้ามเนื้อผมไม่ทำงานเลย 5555

ขาลงพวกเราก็เเวะ ทานกาเเฟ กันหน่อยที่ร้านกาแฟ ดูซะก่อน ร้านเเบบบ้านๆ ได้บรรยายกาศ เพราะเเถวนี้ชาวบ้ายปลูกกาแฟกันเยอะ เเทบทุกบ้านเลย

ระหว่างทางขากลับเราก็เเวะเที่ยว "น้ำตกตาดฟาน" ห่างจากถนนใหญ่ 1 km ซึ้งน้ำตกนี้มี Activity ให่เล่นด้วยคือ มีสลิงให้ลอยข้ามฝั่ง อีกด้วย ถ้าใครชอบความเสียวๆ

ปั่นมาอีกก็เป็นน้ำตก "ผาส้วม" ห่างจากถนนใหญ่ 12 km ตอนปั่นไปไม่เป็นไรเพราะลงเขา เเต่ตอนกลับ 55666 ไม่ต้องพูด แต่ก็คุ้ม ได้ข่าวว่าน้ำตกนี้คนไทยมาบุกเบิก ในการทำเมื่อ 50 ปีที่เเล้ว ใช้ช้างมาลากหิน เพื่อทำน้ำตก ต้องไปๆครับ และพวกเราก็ปั่นเข้าเมืองปากเซ

จากเมืองปากเซ ถึงด่านช่องเม็ก 42 km พวกเราก็มาถึงเวลา 18.30 น. อย่างอ่อนล้า 5555 และเราก็ไม่ได้ถ่ายรูปกับป้าย ยินดีต้อนรับสู่ประเทศไทย จริงๆ 55555 แล้วพวกเราก็เข้าพักที่ Resort ที่ช่องเม็กอีกคืน

วันที่ 5 วันสุดท้ายของ Trip ผมก้ตื่นเเต่เช้าเพื่อมาขึ้นรถที่ บขส.ช่องเม็ก เอาจักรยานขึ้นรถ กลับกรุงเทพกัน ไม่ต้องบอกว่าถึงเมื่อไหร่ ยาวๆๆๆ แน่นนอน 55555Trip นี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีพี่ อุ๊ด อุ๊ด 220 ขุขันธ์ ที่ชวนให้ผมไปปั่นร่วม Trip ด้วย (พี่โอ๋ พี่ต้อย พี่ยะ พี่เทศ พี่หนิง พี่เต๋า และหลายๆคนที่ไม่ได้กล่าวถึง ต้องขอบคุณพี่ๆ ด้วยนะครับ และขอบคุณ Decathlon nawamin ที่ให้เราได้ใช้จักรยาน เเละอุปกรณ์จักรยาน ที่มีคุณภาพ ในการเดินทาง Trip นี้ด้วยครั้งหน้าจะมา Review Angkor wat trip ให้ได้อ่านกันนะครับ#อุ๊ดอุ๊ด2
ปั่นจักรยานเที่ยวลาวใต้ (ปากเซ - ปากซ่อง)